ขอเท้าความก่อนนะ  ย่าเรามีลูกทั้งหมด 4 คน  จะมี พ่อเราเป็นลูกคนโต ตอนนี้ก็เกษียณ แล้ว ส่วนคนที่สองเป็นอาผู้หญิง ไม่มีงานทำ อยู่บ้านเฉยๆ ส่วนน้าผู้ชายคนที่ 3 ขายพวงมลัย ไปวันๆ ไม่มีภรรยา น้าผู้ชายคนเล็ก รับราชการ ซึ่งพ่อและ คนเล็กก็แยกย้ายมีครอบครัวไปแล้ว บรรดาญาติเราทั้งหมด น้าคนเล็กจะมีหน้าที่การงานที่มั่นคงกว่าทั้งหมด ส่วนเราเป็นหลานคนแรกของบ้าน แต่ก็ไม่เหมือนหลานนะเพราะว่าย่าเป็นคนเลี้ยงเรามา พ่อก็มีหน้าที่หาเงิน ส่วนแม่เราเลิกกับพ่อเราไปตอนที่เราเกิด เราถึงมีความผูกพันกับย่ามาก จนเราเรียกย่าว่าแม่ตลอด  

อาเรา เป็นหญิงโสด ไม่มีสามี เราพักอยู่กับอามาจะเกือบ20 กว่าปีแล้ว สาเหตุที่อยู่กับอาเป็นเพราะว่าได้รับปากย่าไว้ก่อนย่าจะเสียชีวิต ว่าจะอยู่ดูแลอาคนนี้ เพราะย่าเป็นห่วงมากไม่มีสามีไม่มีคนดูแล บวกกับว่าชอบเล่น ย่าคิดว่าชีวิตลูกสาวคนเดียวชองย่า น่าจะลำบาก จึงฝากให้เราช่วยดูแล อยู่เป็นเพื่อนกัน  ส่วนน้าคนที่3 ย่าไม่คิดจะฝาก เพราะย่ามองว่า ฝากไม่ได้ เพราะตัวน้าคนที่ 3 ใช้ชิวิตไม่มีจุดมุ่งหมาย ใช้ชีวิตไปวันๆ ขายของได้ก็เอาไปลงเหล้ากับผู้หญิง  
อา(ผู้หญิง)เราเป็นคนที่ชอบเล่นการพนันมาก เล่นจริงๆจังๆ หวยใต้ดิน บอล จาก ที่ที่เป็นคนมีเงินเก็บ (ไม่รู้นะเมีท่าไหร่ ) มีที่ ,มีห้องเช่า 3สิ่งที่กล่าวถึง ตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว นอกจาก เงินที่น้องชายคนเล็ก แบ่งให้ใช้เดือนละ 5000 บาท ต่อเดือน หรืออาจจะมากกว่านั้น  สิ่งนึง ที่แย่กว่าไม่เหลืออะไร นิสัยแย่ๆมีมาได้ตลอด

อาจจะออกแนวดราม่าไปหน่อยนะ หลังจากนี้แต่เป็นเรื่องที่น่าเบื่อซ้ำซาก มาก
ระหว่างที่เราพักอยู่กับอา จะมีเรื่องมาตลอดเป็นเรื่องที่ไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไร แต่ก็มีบ้างเรื่องเล็กๆกลายเป็นเรื่องใหญ่  ถึงขั้นเข้าโรงพักก็มี  ด้วยที่เค้าเป็นคนที่จุกจิ๊ก ช่วงหลังๆมาเราเริ่มที่จะไปพักบ้านแฟน กลับมาอาทิตย์ละครั้งเพราะต้องไปซักผ้าที่บ้าน ที่ไม่ซักบ้านแฟนเพราะว่าอยู่กันหลายคน บวกกับเรามองว่าเครื่องซักผ้าที่บ้านแฟนซักไม่ค่อยสอาด เลยกลับไปซักที่บ้านอาแทน แต่เครื่องซักผ้าเป็นของเรานะ ไม่ใช่ของอา อาเค้าก็มีของเค้า

ช่วงปลายปี 2013 เราเข้าบ้าน ไปซักผ้าปกติ อาเราก็เดินมาบอกเราว่า ไม่ต้องมาจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ให้หรอก เพราะแกเองไม่ค่อยอยู่บ้าน จะมาจ่ายทำไม เห็นว่าเรานะมีภาระเยอะ เราก็เลยบอกไปว่า ไม่เป็นไร เราจ่ายให้ได้ แค่ค่าน้ำกับไฟ  ไม่เท่าไหร่หรอก เลยถามกลับไปว่า ทำไม จะไม่ให้เค้าอยู่ที่นี่แล้วหรา ถึงได้พูดแบบนี้ อาเราก็บอกว่าเปล่า เราเลยถามต่อไปว่า จะให้น้าคนที่ 4 มาอยู่หรา ถ้าจะให้มาอยู่ เค้าจะได้ย้ายของออกไป แต่ถ้าออกไปแล้ว เค้าจะไม่รับผิดชอบอะไรนะ เพราะถือว่าออกไปแล้ว เราก็พูดให้เค้าคิดดีๆ เพราะถ้าอาเราให้น้าคนที่ 4 เข้ามาอยู่ ปัญหาที่ว่ามีกับเรา มันไม่ได้สร้างปัญหาอะไรมากมาย แถมช่วยจ่ายน้ำไฟให้ แต่ถ้าเอาน้าคนที่ 4 มาปัญหาเกิดแน่นอน เพราะน้าคนที่ 4 อย่างที่เคยบอก เค้าเป็นคนที่ใช้ชีวิตไปวันๆ กินเหล้าเที่ยว ทำตัวสกปรก (ที่บอกอย่างนั้นเพราะอาไม่ชอบพฤติกรรม ของน้องชายมากๆ)และที่สำคัญ รับผิดชอบเรื่องค่าน้ำไฟไม่ได้แน่นอน คือมีเงินปุ๊บลงเหล้ากับหญิง  มองๆดุก็ไม่น่าจะเกิดอะไรนะ จริงๆมีมากกว่านั้น แต่นี่เราเห็นว่า ข้อมูลที่ให้ไปเรื่องก็ยาวอยู่และ เลยไม่ได้บอกข้อเสียทั้งหมด แต่บอกได้เลยว่าปัญหาเกิดแน่ๆ

เรื่องนี้ก็เงียบไปประมาณ 4-5 เดือน แต่เราก็เข้าทุกอาทิตย์ นะเหมือนเดิม มีอยู่วันนึง เราเข้าบ้านไม่ได้เพราะเค้าเอาลูกกุญแจอันใหม่มาคล้องซึ่งเราไม่มีกุญแจเราก็โทรไป ว่าคล้องลูกใหม่ทำไห้เข้าบ้านไม่ได้ เค้าก็รีบกลับมาไขกุณแจให้ เราก็เลยถามเค้าทำแบบนี้ทำไม ก้รู้อยู่แล้วว่าเราต้องเข้าบ้านมาซักผ้าทุกวันพฤหัส ที่นี่แหละกลายเป็นเรื่องใหญ่มีปากเสียงกัน เราก็เลยมองว่าเริ่มจะงี่เง่ามากขึ้นและ เลยตัดสินใจเอาเรื่องนี้ไปคุยกับพ่อ ให้พ่อเข้าไปถามว่าจะเอายังไงทำไมถึงทำแบบนี้ จนพ่อเข้าไปคุย เราไม่ได้เข้าไปนะ สรุป พ่อ กับอาเรา ทะเลาะกัน เหตุผลที่พ่อเราของขึ้นกับคำพูดก้คือ กูหมั่นไส้มัน มันหยิ่ง ไม่เคารพเด็กผู้ใหญ่ มันไม่มาคุยกับกู (ที่เราไม่คุยกับอาเพราะเราเลี่ยงที่จะมีปากเสียง เพราะคุยกันทีไร ทะเลาะกันทุกครั้ง)พ่อเลยถามต่อไปว่า ทำแบบนี้เท่ากับไล่ใช่ไหม อาเราตอบ ใช่ กูไม่ชอบเด็ก ยโสโอหัง ไม่เคารพเด็กหรือผู้ใหญ่  หลังจากที่พ่อเข้าไปคุย พ่อบอกว่าจะไม่เข้าไปที่บ้านหลังนั้นแล้ว และบอกให้เราใจเย็นๆทำตัวตามปกติ เหมือนเดิม ซึ่งเราก็ทำตามที่พ่อบอก หลังจากนั้นเราก็ทำตัวตามปกติ เค้าก็ไม่ได้คล้องลูกกุญแจอันใหม่ที่เราไม่มีลูก แต่ก็เป็นแบบนี้ได้ไม่นาน หรอก เค้าก็ทำอีก  เราก็โทรไปทำตัวปกติเหมือนเดิม  พยายามไม่พูด เพราะไม่อยากทะเลาะกัน แต่ไอ้ล่าสุดนี่เกินจะทน เข้ามาบ้านด่าเราว่าเค้าเพิ่งทำความสะอาด แล้วมาทำให้บ้านสกปรก ซึ่งจริงๆแล้วการเอาเสื้อผ้าเข้าเครื่องซักผ้า ไม่ได้สกปรกอะไรเลย เครื่องก็ทำงานปรกติ ของมัน
(เราโมโหมาก คือเก็บมาตลอดไม่เคยบ่น) เอาว๊ะ ถามเลยดีกว่า แล้วจะเอายังไง   อาเรา=สร้างภาระให้กู   เรา?  ถามไปว่ายังไง?  อา=กูเหนื่อยรู้ไหมที่กูต้องทำงานบ้านกุปวดไขข้อ ปวดหลัง มีใครเห็นใจกูไหม  เราถามต่อไปว่า แล้วจะให้ทำไง? ไปซักบ้านผัวเมิงสิมาซักที่นี่ทำไม? เราเลยตัดสินใจบอกไปเลยว่า OK ได้ งั้นเค้าย้ายออกไปเลยแล้วกัน 1 อาทิตย์ เจอกันครั้งเดียว ยังมีปัญหา จะได้หมดๆปัญหาไป แล้วเราก็เริ่มทยอยเก็บของที่เป็นของเรา และก็โทรไปบอกพ่อ บอก แฟนว่าสิ้นเดือนนี้จะย้ายของออก

เรารู้ว่าปัญหาคืออะไร
1. ต้องการให้คนมาดูแลเหมือนมีเด็กรับใช้ ในบ้าน (ความจริงเราไม่ได้รวยมากพอที่จะจ้างใครมาดูแล)
2. ต้องการให้เราอยู่ในโอวาส คือ ยอมรับ เค้า เชื่อฟัง ทุกๆอย่าง
3. อยากได้เงินเดือนจากเรา(เค้าต้องการควบคุมเงินเดือนที่เราทำงานอยู่ทุกวันนี้อยู่แล้ว เพราะเค้าเคยบังคับให้เราเอาเงินเดือนมาให้เค้าเก็บ แต่เราไม่ทำตามข้อเงื่อนไข เพราะทุกวันนี้ที่น้าคนเล็กให้ไม่พอใช้เอาไว้เล่น หวย บอล รวมถึง หนี้สิน)

เราไม่มีความคิดที่จะประจาน แต่ใครจะคิดว่าเราประจานก็ได้นะ เพราะที่เราเจอมา 20 กว่าปี นี้ถือว่าเราใช้ความอดทนมากๆ มีหลายๆเรื่องที่เราไม่ได้หยิบยกมาเล่า เพราะมันเยอะมากๆจริงๆ นี่แค่ส่วนหนึ่งที่เราเอามาเล่า ก็ถือว่าเยอะและ ที่ผ่านมาที่อดทนเพราะสมองคิดแต่ว่า เรารับปากย่าไว้ เราก็ต้องทำหน้าที่ แต่มาวันนี้เค้าเอ่ยปากไล่เราแล้ว เราก็จะถือว่า เราได้ทำหน้าที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว เพราะตัวเค้าเองก็ได้ยินย่าสั่งเสียก่อนที่แกจะสียชีวิต ว่าให้เราดูแลอาคนนี้  อย่าทิ้งกันไปไหน วันนี้ เราสบายใจขึ้นตรงที่เค้าไล่ ความรู้สึกผิดที่เราไม่ดูแล มันไม่มี เพราถ้าเค้าไม่ไล่ เราก็คงดูแลเค้าอยู่จนตายแหละ และก็คงอึดอัด ที่ต้องทนกับอารมณ์ของนาง ไม่รู้ว่าใครจะเป็นเหมือนครอบครัวเราไหม หรือ เป็นที่ครอบครัวเรา คนเดียว