เกี่ยวกับอู่รถยนต์ที่อยู่หน้าหมู้บ้านผม(ระยอง)

กระทู้สนทนา
ขอออกตัวเลยว่า ผมโพสเพื่อ ดิสเคดิต + ความรู้สำหรับมือใหม่ เพราะผมก็ครั้งแรก!!

วันนี้ได้สกิลเกี่ยวกับรถยนต์เพิ่ม

เหตุเกิดจากร้านยิ้มซ่อมแล้ว ไม่หาย ต้องไปลงมือทำเอง นี่สินะ พวกช่างกากๆ ต้องให้ช่างคอมกระโดดมาซ่อมรถเอง

ครั้งแรกที่ผมไปที่อู่นี้ ผมจะไปทำที่ปัดน้ำฝนกับตั้งประตูใหม่ เพราะเจ้าของคนเก่าเปิดประตูไว้แล้วถอยหลังทำให้ประตูไปกระแทกต้นไม้ ตอนรถสั่นแล้วฝนตกน้ำมันเข้าตามรอย

อันนี้ขอสั้นๆเลย หลังจากตั้งประตูเสด ผมต้องการให้เทสว่าตอนวิ่งเร็ว ถ้ามีช่องรั่ว จะได้ยินเสียงลมเข้ารถ ผมกำลังจะขึ้นฝั่งคนขับ แต่ช่างบอก น้องไปนั่งก็แล้วกัน

หลังจากขึ้นรถได้ แม่เจ้า รถอายุมากกว่า 20ปี มันเยียบซัด 5พันรอบ มีเท่าไหร่ใส่มิด
เหมือนว่าจะเหยียบให้พังไปข้างนึง เพราะไม่ใช่รถตัวเอง และแถมตอนวิ่งก็วิ่งแค่ 90 (ปัญหานี้หากจะต้องทดสอบเสียงลมจะต้องวิ่งถึง 120 ครับ ถ้าไม่ฟังเสียงลม ของเก่าขอบประตูมันสั่นเพราะมันไม่สนิท) ผมก็เออ ก็ได้ ถือว่าเสียงลมเข้าน้อยลง แต่ก็ยังมีอยู่

จากนนั้นก็ที่ปัดน้ำฝน มันบอกว่า มอเตอร์ที่ปัดน้ำฝนถ่านหมด?
หมดเหรอฟะ เพิ่งจะรู้นี่แหละ มอเตอร์ที่ใช้กับรถ มันใส่ถ่าน?
เอาเถอะ ผมเป็นแค่ช่างคอม ไม่อาจจะเถียงได้ แต่ก็ยิงคำถามฝากไว้ว่า "ผมก็ไม่รู้นะครับ แต่ผมคิดว่ามันควรจะใช้ไฟจากแบตของรถ เหมือนกับนาฬิกาที่อยู่บนวิยุของรถ ผมก็คิดว่ามันใช้ไฟจากแบท"

"ไม่หรอกน้อง พี่เปลี่ยนถ่านให้แล้วนะ" (ก่อนหน้านั้นผมพูดแล้วว่า ไม่ต้องซ่อม เปลี่ยนได้เลยเท่าไหร่ก็ว่ามา แล้วจะเปลี่ยนทำไม ไหง๋ไม่โทรมาบอกก่อนว่าจะทำอะไรบ้าง)

ช่างก็บอกมาอีกว่า "มันก็พอปัดได้นะน้อง ดูนี่นะ"

แล้วช่างก็เปิดสายยางฉีดใส่กระจก(น้ำฉีดแบบเหมือนน้ำท่วมแล้วเปิดปัดน้ำฝน) ทั้งเหยียบคันเร่งเครื่อง เปิดแอร์ต่างๆ เหมือนจะให้เครื่องทำงานหนักๆจนรถสั่นเพื่อช่วยให้แรงหนืดที่มีมันน้อยลง

และช่างก็ยังบอกอีกว่า "น้องต้องไปเปลี่ยนใบปัดด้วยนะมันเก่าแล้ว ทำให้มันหนืด"

ผมที่ถึงแม้จะไม่รู้งานช่างยนต์ แต่ด้วยความสามารถติดตัวที่เข้าใจอะไรง่ายๆจากสิ่งที่เห็นก็บอกได้ว่า แถชัดๆ

จากนั้นจ่ายตังค์แล้วก็จากไป

วันถัดไปผมรีบไปซื้อใบปัดน้ำฝนใหม่ หวังจะไปตอกหน้าช่าง และก็ได้อย่างที่คิดจริงๆ

เปลี่ยนใบปัดไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้น แถมตอนหยุดปัด ก้านปัดไม่ลงไปอยู่ล่างสุดด้วย ทำให้ผมรู้สึกเสียอารมณ์เป็นอย่างมาก ผมกลับไปอู่เดิมและพูดเลยว่า
"มันเป็นเหมือนเดิมน่ะครับ ผมไปเปลี่ยนที่ปัดมาใหม่แล้วนะครับ ตอนลงก็ลงไม่สุดด้วย ช่วยแก้ให้ทีครับ.."

ผมพูดจบช่างก็กำลังจะเดินขึ้นรถผมเพื่อทดสอบที่ปัดน้ำฝน ระหว่างที่เดินผ่านผมพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า
"หวังว่าคงจะไม่คิดตังค์นะครับ เพราะงานไม่จบ"

ช่างก็ถอดๆใส่ๆตรงนั้น แล้วก็เต็ปเดิม ฉีดน้ำท่าวมๆใส่ และเปิดทุกอย่าง ทำทุกอย่างเพื่อให้รถสั่น แล้วก็บอกว่า "ได้ละน้อง"

ผมถึงกับส่ายหัวให้เห็นแล้วก็บอกว่า เชิงดูถูกเลยว่า "แค่นี้ก็แค่นี้ครับ ถ้าทำได้แค่นี้"

แล้วก็ใช้แบบติดค้างๆจนกระทั่งวันนี้ ฝนตกหนัก ผมจะออกไปซ่อมคอมให้ลูกค้า ขากลับฝนก็ยังตก แล้วที่ปัดก็ค้าง รู้สึกแส๊ดสุดๆ วิ่งเข้าหน้าหมู่บ้าน แล้วก็เลยซอยเข้าไป ไปยังร้านเชียงกง เพื่อจะหาซื้อมอเตอร์ปัดน้ำฝนทั้งชุด

ผมไปถึงก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง บอกน้าที่อยู่ในร้านว่า "ขอซื้อที่ปัดน้ำฝนรุ่นนี้หน่อยครับ" (ยังไม่ทันได้เปิดให้ดูต้นฉบับ พี่ทั่นเดินไปหยิบทันทีเลย รู้เลยเหรอ เทพเลยนะเนี่ย)

หลังจากตกลงซื้อของทดสอบไฟฟ้าเรียบร้อย ก็รับของกลับบ้านมาทำ เพราะร้านเชียงกง เขาไม่รับใส่ให้ จะสาขาไหนเขาก็บอกว่าไม่มีช่าง

กลับมาบ้าน..

แงะอยู่พักใหญ่ๆ ในที่สุดก็แงะออกมาได้อย่างปลอดภัย ไร้รอยแตกหัก
สำหรับคนไม่เคย อ่านไว้เป็นประสบการณ์ การเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝน(เฉพาะ L200นะครับ)

เริ่มจาก

แกะฝาครอบที่ฐานของก้าปัดน้ำฝน หมุนน๊อตออกแล้วถึงก้านปัดขึ้นมาตรงๆ(ที่ผมรู้เพราะช่างกากๆมันเปิดให้เห็นตอนที่ไปครั้งที่ 2 นั่นแหละ)

งัดกระจังหน้า(เรียกแบบนี้ปะวะ?) 8 ตัวที่ยึดกรอบอะไรสักอย่างยาวๆ ที่อยู่ใต้ก้านปัดน้ำฝน แล้วยกขึ้นมาได้เลย ใต้กรอบนั่นจะมีกิ๊บยึดอยู่อีกทีค่อยๆดึงขึ้นมาทีละล็อก

มองไปใต้กรอบจะเห็นแท่งยาวๆ 2 อัน อันนึงจะมีเหล็กๆสั้นติดอยู่ ให้ดึงออกมาได้เลย ใช้แรงเยอะหน่อย มันเป็นหัวกลมๆแค่กดเข้าไปเท่านั้นเอง

เปิดฝากระโปรงรถ แล้วเปิดดูซ้ายมือจะมีเซ็ตปัดน้ำฝน ใกล้ๆกับที่ดึงเหล็กออก(ดูในรูปเอาก็แล้วกัน)

ดึงสายไฟออก ดูดีๆมันมีตัวล็อก กดตัวล็อกแล้วมันจะหลุดออกมาง่ายๆ อย่าไปฝืนดึงจนตัวล็อกแตก

หมุนน็อตออก 4 ตัว แล้วค่อยๆขยับมอเตอร์ออกมาทั้งแผง

แค่นั้นก็แกะได้แล้ว ส่วนการใส่ก็ทำย้อนกลับ

ข้อสังเกตุ เช็คให้ดีจะได้ไม่ต้องถอดๆใส่ๆหลายรอบจุดเริ่มต้นของตำแหน่งก้านปัด
ต่อสายไฟแล้วเปิดที่ปัดน้ำฝันก่อน 1 ครั้ง ใช้แบบ 1 ครั้งแล้วหยุด จากนั้นก็ปิด เพื่อให้มันตั้งตำแหน่งไปที่จุดเริ่มต้น
จุดเริ่มต้นที่ปัดน้ำฝนคือให้เหล็กที่ติดกับมอเตอร์ ชี้ออกไปทางฝั่งคนขับ หากเหล็กที่ใส่ไว้ไม่ตรง จะแกะทั้งหมดออกมาตั้งใหม่หรือจะหมุนแค่น็อตที่ยึดเหล็กแล้วตั้งต่ำแหน่งใหม่แล้วขันน๊อตทับไปก็ได้ แล้วก็เอาก้านเหล็กที่ใช้บังคับใบปัดไปกดล็อกให้ลง
ตอนใส่ใบปัดก็เลือกจุดที่เป็นจุดเริ่มต้น กดลงไปแล้วขันน็อตทับ

*สำหรับ L200 เหล็กที่ติดกับมอเตอร์ มันเป็นแบบ สี่เหลี่ยม และหัวล็อกกับที่บังคับใบปัดเล็กกว่าของใหม่ ส่วนของใหม่เป็นแบบกลมๆ แล้วใช้น็อตขันกดลงไปให้เกิดรอยเพื่อล็อกให้อยู่ ผมต้องกลับไปร้านเชียงกงอีกครั้งเพราะหัวล็อกไม่เหมือนกัน แต่เขายังใจดีที่ช่วยตะใบเหล็กเก่าที่รู้สีเหลี่ยมให้เป็นวงกลม แล้วกลับมาก็ใส่ใช้งานได้เลย

อย่าให้กรูต้องไปวุ่นวายกับรถด้วยตัวเองมาก เดียวช่างตามอู่ที่รู้ตัวว่าฝีมือกากๆ จะอยู่ยาก ตั้งแต่เอารถเข้าอู่เนี่ย ยังไม่เคยเจอที่ดีๆ ซวยจริงๆพวก กากๆ เปิดร้านเยอะไปรึเปล่าวะ

ชุดปัดน้ำฝนแพงสัส 1500 บาทเลย (ของที่ใช้กับมิตซู L200 จากเชียงกง)

แถมแผนที่ร้านที่ผมไปทำมา มันอยู่หน้าหมู้บ้านอัพพร2 ก็คือหมู่บ้านที่ผมอยู่นี่เอง หากเจ้าของร้านอ่านเจอ บอกเลยนะครับ คนที่ทำให้ผมคือ ลุงเตี้ยๆ ดำๆ นั่นแหละ ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าซะด้วย เพราะอายุเยอะสุดละมั้ง หลังจากนี้ผมก็จะไม่เข้า ไม่เรียกใช้อะไรอีกเป็นอันขาด เกิดปัญหาก็ไปเสี่ยงกับอู่ใหม่แทน

ผมรู้สึกโมโหจริงๆนะครับ ผมทำงานบริการการซ่อมคอม ดูแลระบบเกม ผมยังไม่เคยทำแบบนี้กับลูกค้าเลย นี่ไม่เอาใจใส่ แถมงานก็หยาบอีก แค่อาการที่ประเมิณยังไม่ถูกเลยด้วยซ้ำ

ปล. ผมลองแงะมอเตอร์เก่าดู ผมยังไม่รู้เลยว่าส่วนไหนคือถ่าน เห็นแค่เฟือง เกลียว ไส้มอเตอร์... มันมีจริงๆใช่ไหม ถ่านที่หมายถึงแบตเตอร์รี ไม่ใช่ถ่านดำๆ ไม่รู้ถ่านหรือแม่เหล็ก ยังไม่ได้ลอง(ตอนเปลี่ยนถ่านแค่ถ่านโดนไป 300บาท)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่