เพิ่งลาออกวันศุกร์ที่ผ่านมาค่ะ พอวันจันทร์ก็เริ่มออกไปสัมภาษณ์ทันทีเลย
Walk in ไปสัมภาษณ์บริษัทนึงเป็นบริษัทเล็กๆ แบบโฮมออฟฟิซ สัมภาษณ์เสร็จปั๊บรับทันที เซ็นสัญญาเลย
ให้เงินเดือนตามที่เราขอ คือ 32000 บาท แต่ไม่มีสวัสดิการอะไรเลยค่ะ มีแต่ประกันสังคมกับลาพักร้อน 8 วัน
ออฟฟิซอยู่ไกลบ้านเราพอสมควรต้องนั่งรถตู้ต่อรถใต้ดิน เจ้านายดูใจดีสบายๆชิวๆ แต่ก็เป๊ะ
งานเป็นงานที่เราถนัด และดูไม่วุ่นวายกลับบ้านตรงเวลา ดูชิวๆ

มาวันนี้ไปสัมภาษณ์อีกที่เป็นบริษัทด้านการเงินยักษ์ใหญ่ ท่าทางคนที่สัมภาษณ์จะพอใจเราอยู่ค่ะ
แต่ว่าตามระเบียบบริษัทต้องสัมภาษณ์กับเจ้านายระดับสูงอีก 2 ครั้ง
บริษัทนี้สวัสดิการดีมาก ลาพักร้อนได้ 16 วันต่อปี โบนัส 5-6 เดือน มีค่ารักษาพยาบาลให้ มีประกันชีวิต
แถมใกล้บ้านเดินทางไม่ถึง 1 ชม
เงินเดือนได้ไม่ถึง 32000 แต่ถ้ารวมทุกอย่างแล้ว จะตก 45000 บาทต่อเดือน
แต่งานไม่โอเคเลยค่ะ งานจุกจิกวุ่นวาย เจ้านายดุ คน demanding สูง ประมาณว่าปวดหัวแน่นอน เพราะคนในทีมมีอยู่ 70 คนได้
ต้องเป็นคนไม่ขี้หงุดหงิด ขี้รำคาญ ซึ่งเราขี้หงุดหงิดและขี้รำคาญมากกกกกกกก

เราอายุ 33 แล้วค่ะ ถ้าไปอยู่บริษัทเล็กๆที่ไม่มีสวัสดิการเลย แบบนี้ มันจะดูไม่ดีต่อประวัติการทำงานของเรามั๊ยคะ
แต่ใจนึงก็เสียดายเพราะงานดูโอเคมาก เจ้านายก็ดูโอเค คิดไม่ตกเลยค่ะ

บริษัทเล็ก เรากังวลเรื่องรักษาพยาบาล กับที่ทำงานไกลบ้าน ปกติที่ที่เราทำมาจะมีสวัสดิการเรื่องรักษาพยาบาลตลอดเลยค่ะ เราเลยรักษาแต่รพ. เอกชนมาตลอด ซึ่งค่ารักษาค่อนข้างสูงอยู่
แต่ถ้าเราทำบริษัทนี้ เราต้องออกค่ารักษาเอง ยิ่งถ้าเป็นผู้ป่วยในต้องdmit ค่าใช้จ่ายเป็นแสนเลยอ่ะคะ

แต่ตัวเรามีปมกับเรื่องงานเพราะที่ที่เราเพิ่งลาออกมา ก็เป็นบริษัทที่ดีมาก ระดับโลก สวัสดิการดี รายได้ดี แต่งานไม่โอเค คนไม่โอเค
เราก็ทำงานแบบไม่มีความสุข จนต้องลาออก เลยลังเลมากเลยค่ะ ไม่อยากว่างงานนานมาก ตอนนี้ที่บ้านมีปัญหาอยู่นิดหน่อยด้วยค่ะ