[CR] ขับรถเที่ยว...เชจู...เกาะมรดกโลก

สวัสดีครับ ผม nonny_nontakyy ครับ รีวิวนี้เป็นรีวิวที่ 2 ของผมนะครับ
อันนี้ฝาก รีวิวแรกครับ Wonderful moment in Turkey ครับ (มี 5 ภาคนะครับ)
http://ppantip.com/topic/31960528

^^ใครแวะผ่านเข้ามาชม กดไลค์ กดบวก ตอบกระทู้ ให้กำลังใจกันบ้างนะครับ ^^

ครั้งนี้ รีวิวที่ 2 เราจะไปเที่ยวใกล้กว่าครั้งก่อนครับ รอบนี้เราจะบินไปเที่ยวกันที่ ...
เกาะ "เชจู" ประเทศเกาหลีใต้ครับ ไปเริ่มกันเรยนะครับ ^^


เกริ่นนำกันซักนิดนะครับ
ทริปนี้เริ่มต้น เพราะ เพื่อนผม ว่างแค่ 4 วัน เราเรยมาคุยกันว่าจะไปไหนดี ซึ่งเราก็อยากไปกันไกลนิดนึง ครั้งแรกตกลงกันว่าจะไปเวียดนาม ไปดูตั๋ว(พวกเราตกลงกันครับว่าจะนั่ง ป้าม่วง เพราะจะสะสมไมล์) ปรากฏว่า ตั๋วเวียดนาม เวลาที่เราจะไป 11xxx เรยแอบคิดว่าไม่น่าคุ้ม เรยลองหาตั๋วประเทศอื่นดู ก็ไปเจอตั๋วไปเกาหลีครับ 19xxx โอ้ว ใกล้เคียงนะเนี่ย ... แต่ แต่ แต่ ครับ เนื่องด้วยว่าตัวผมเองไปเกาหลีมาแล้ว 2 ครั้ง เพื่อนอีกคนก็ไปมาแล้ว 1 ครั้ง ส่วนคนที่มาชวนเที่ยวเนี่ยยังไม่เคยไป ไอครั้นจะให้ผมไปเที่ยวที่เดิมๆก็ดูเสียเวลาไปนิด เลยมาตกลงกันว่าไป "เชจู" โอเคมั้ย ว่าแต่มันน่าสนใจตรงไหนว่ะ เพื่อนที่ไม่เคยไปถาม

เกาะ "เชจู" เป็นเกาะที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจาก องค์การ UNESCO โดย สถานที่ท่องเที่ยวในเกาะจะมีอยู่ 3 จุดที่เป็น UNESCO world heritage site นะครับ คือ
1. ยอดเขา ฮัลลาซาน
2. ยอดเขา ซงซานอิลชูบง และ
3. ถ้ำหินลาวา มานจางกุล ครับ
แค่เท่านี้ ก็ทำให้ ทริปนี้ดูน่าสนใจขึ้นเยอะแล้วครับ เราจึงตกลงปลงใจกันเรียบร้อย สรุป "เชจู" นะ ไม่เปลี่ยนแล้ว
(จริงๆ เพื่อนผม อยากไป ญี่ปุ่นมาก แต่ 4 วัน และ ตั๋วแพงกว่ารูทเกาหลี หลายพันบาทอยู่ครับ เรยผ่านไปก่อน --")

ขั้นเตรียมตัวก่อนเดินทางครับ
1. ตั๋วเครื่องบินครับ
    รอบนี้บินไปกับป้าม่วง สะดวกสบายตามสไตล์ป้าแก บ้านผมอยู่ใกล้ สนง ครับ เรยไปจองที่ สนง เรยครับ รูทบินของผม จะบินไปลง ปูซาน แล้วก็ต่อเครื่องไป เชจูเรยครับ ส่วนขากลับ บินจาก เชจูกลับมาโซล (ลงสนามบิน Gimpo ซึ่งเป็นสนามบินเก่าครับ ก่อนจะบินกลับ กทม จาก Incheon ครับ)

    ** ปล. แนะนำ สำหรับคนที่ไม่คิดจะเที่ยวโซลก่อน การบินไปลงปูซานจะสะดวกกว่าตรงที่ ไม่ต้องเปลี่ยนสนามบินครับ คือ สนามบินปูซาน ทั้ง International และ Domestic จะอยู่ที่เดียวกัน แค่เดินจากตึก International ไป Domestic ใกล้กันนิดเดียวครับ และคนไม่พลุกพล่าน ไม่วุ่นวายครับ เพราะ หากเราบินไปโซล มันจะลงที่ Incheon ซึ่งเครื่องที่บินไปเชจูออกจาก Incheon จะมีน้อยครับ ส่วนมากภายในประเทศจะบินจาก Gimpo แม้ว่าการเดินทางจาก Incheon ไป Gimpo จะสะดวกด้วยรถไฟฟ้านั่งเพียง 20 นาที แต่ก็ต้องแบกสัมภาระมากมายครับ ผมเรยไม่แนะนำ แต่ก็ตามสะดวกของแต่ละท่านนะครับ อิอิ ลองวางแผนดูได้ครับ ^^

2. การเดินทางภายในเกาะ
    ระบบขนส่งมวลชนภายในเกาะ จะมีเพียง รถเมล์ เท่านั้นครับ ซึ่งก็จะเข้าไม่ถึงแหล่งท่องเที่ยวบางที่ (คือไปถึง แต่ต้องเดินต่ออีกเป็นกิโลอะครับ ไม่สะดวกเท่าที่ควร) รวมทั้งเวลาของรถก็ไม่ค่อยแน่นอนครับ (เท่าที่รีวิวมา) และจากการอ่านรีวิวมาหลายกระทู้ แนะนำว่าควรเช่ารถขับเอง จะเป็นทางที่สะดวกสบายที่สุดครับ ซึ่งครั้งนี้เราก็เรยตกลงกันว่าจะเช่ารถขับกันเองครับ
    ที่นี้ก็มาดูครับว่าสามารถเช่าจาก บริษัทไหนได้บ้างครับ ถ้าเป็น international หน่อย ก็ Hertz กับ AVIS ครับ มาตรฐานแน่นอนครับ หรือจะไปลองเช่าของท้องถิ่นที่สนามบินก็ได้ครับ จะมี เคาเตอร์ให้เช่ารถอยู่หบลายบริษัทเรยครับ จะตั้งติดกันอยู่เป็นแถวเรยครับ (ลองดูจาก Web visitkorea ได้ครับ เขาก็จะมีแนะนำอยู่ ^^)
    ส่วนตัวผม ทริปนี้ เพื่อนผมจัดการเรื่องเช่ารถ ก็ติดต่อของ Hertz (เพราะ AVIS รถหมดครับ) โดยติดต่อกับศูนย์ที่ประเทศไทยเรยครับ โทรไปแล้วก็ติดต่อกันทาง Email แล้วก็ print Email ไปยืนยันวันที่จะรับรถครับ
    ตัวรถจะมี GPS ให้เรานะครับ แต่ทั้งหมดเป็นภาษา "เกาหลี" ครับ ไม่มีอังกฤษ นะครับ ... แล้วทีนี้ทำไง ... ผมแนะนำว่าต้องมี Internet ครับ การ search จุดหมายปลายททางเราสามารถให้ เบอร์โทรศัพท์ได้ครับ ซึ่งเวปที่ อ้างอิงเบอร์โทรศัพท์ได้ดี คือ visitkorea ครับ เวลาเลือกมาใส่เอาแค่เลข 7 ตัวหลังพอครับ แต่บางสถานที่ก็ไม่มีนะครับ หาจากเบอร์โทรไม่เจอ ผมก็อาศัย search จากเวป แล้วมาเทียบตัวอักษรเกาหลีแล้วนั่งพิมพ์เอาครับ ก็สนุกไปอีกแบบครับ 555
    อีกทาง คือ การเหมา Taxi เป็นวันครับ อันนี้ไม่แน่ใจราคา คงต้องลองตกลงกับ Taxi ดูครับ

3. จองโรงแรม
    ก่อนจะจอง รร ได้ เราคงต้องทราบก่อนครับ ว่าแต่ละที่ที่เราจะไปเที่ยวนั้นมันอยู่ตรงไหน ไปอย่างไร เราจะได้พอวางแผนได้ว่าควรจะพักที่ไหนครับ เพราะฉะนั้น เรามาทำความเข้าใจตามแผนที่ เชจู ดูนะครับ

    จากแผนที่ ที่เที่ยวที่ควรไปจะอยู่ใน 3 วง นะครับ
    1. วงสีแดงจะเป็นตรงตัวเมือง อันนี้คือใกล้สนามบิน ตัวเมือง แหล่งกินและชอปปิง ครับ สถานที่เที่ยวขึ้นชื่อ เช่น โขดหินหัวมังกร Jeju love land และเราจะขีบรถไปทางขวาเพื่อไปหายอดเขา ซงซานอิลชุบง โดยระหว่างทางจะผ่าน ถ้ำลาวามานจางกุล และ Maze park ครับ  
    2. วงสีดำ จะเป็น ยอดเขา ซงซานอิลชุบง และ ซอบจิโกจิ โดยมุมขวาล่างจะเป็น พิพิทธภัณฑ์พื้นบ้าน แล้วก็ขับวนไปทางซ้าย เพื่อเข้าหาวงกลมสุดท้าย คือ เมืองทางใต้ ที่เรียกว่า ซอกวิโป
    3. วงสีน้ำเงิน ตรงนี้เป็นเมืองทางใต้ครับ ชื่อ ซอกวิโป และ ถัดไปใกล้ๆ จะเป็น จุงมุนรีสอร์ท ที่มีทุกอย่างพร้อมสรรพและมีดรงแรมหรูหราหลายแห่งครับ ที่เที่ยวเยอะแยะมากมายจะอยู่บริเวณทางใต้นี้เยอะครับ เช่น น้ำตกจองบัง เสาหินลาวาแดโป พิพิทธภัณฑ์ teddy bear พิพิทธ์ชาเขียว พิพิทธภัณฑ์ชอคโกแลต พิพิทธภัณฑ์คิตตี้ และอีกมากมายครับ
    ส่วนอีกอันที่ผมไม่ได้ไป คือ ยอดเขา ฮัลลาซาน ที่ไม่ได้ไปเพราะเวลาไม่พอ คือ ถ้าจะไป ต้องใช้เวลา 1 วันครับ เพื่อเดินไปให้ถึงยอดตรงกลางที่จะมีแอ่งน้ำอยู่ (กะว่าจะมาเก็บวันหลัง) โดยการเดินไปกลับก็ร่วม 20 km และต้องใช้เวลาเช้าจรดเย็นเรยครับ --"
    พอทราบแผนที่แล้ว แผนเที่ยวของทริปนี้ ก็จะเหมือนการขับรถรอบเกาะครับ ผมจึงจอง รร แยกเป็น 3 ที่ 3 คืน จะได้ไม่ต้องขับรถวนไปวันมาครับ เที่ยวเป็นรูปวงกลม ครับ ไม่เปลืองน้ำมันและเวลาครับ โดยทั้งหมดผมจองผ่าน Booking.com นะครับ ไปจ่ายที่ รร.

4. Internet (ปัจจัยที่ 5 ของชีวิตปัจจุบัน)
    ผมให้เพื่อนอีกคนจัดการเรื่องการเช่า Internet ครับ โดยเราเช่าเป็น Pocket wifi ของบริษัท Olleh ในเกาหลีครับ ซึ่งสามารถดูรายละเอียดและจองผ่านเวปนี้ครับ www.easykoreawifi.com ซึ่งของผมรับที่สุวรรณภูมิไปเรย ราคาอยู่ที่ 4 วัน 1390 บาท แต่จะมีข้อเสียคือ ถ้ารับจากสุวรรณภูมิ จะไม่สามารถเช็คสัญญาณของเครื่องได้ เนื่องจาก เครื่องใช้ได้กับสัญญาณที่เกาหลีเท่านั้น (จริงๆจะเลือกไปรับที่เกาหลีก็ได้ครับ แต่เสียเงินเพิ่ม 300 โดยถ้ามีปัญหาเรื่อง สัญญาณ จะสามารถเปลี่ยนเครื่องได้ แต่รับจากไทย เปลี่ยนเครื่องไม่ได้ รอเอาเครื่องกลับมารับเงินคืนอย่างเดียว อีกอย่างใครไปลงปูซาน ไปรับเครื่องที่ปูซานไม่ได้ครับ ไม่มีบริการ มีที่ Incheon อย่างเดียว T_T)
    หรือใครจะไปเช่าที่ Jeju international airport ก็ได้ครับ ราคาพอๆกันผมจำไม่ได้แน่ชัดครับ แต่จะจำกัดการใช้ที่ 1 GB ต่อวัน แต่ของที่ผมเช่าไปนี้เป็นแบบไม่จำกัดนะครับ ซึ่งคุ้มกว่านะครับ เพราะใช้กัน 4 คน ใช้กันตลอดเวลา 555

5. ไฟฟ้า
    ที่เกาหลีใช้ไฟเท่าบ้านเราครับ แต่ปลั๊กจะเป็นปลั๊กกลม 2 รู ครับ อาจต้องเตรียม ตัวเปลี่ยนหัวไป เพราะ Iphone จะเสียบไม่ได้ครับ แต่ที่ชาจแบตกล้องทั้งหลายส่วนใหญ่ก็เสียบตรงได้เรยครับ

**ภาพนี้เอามาจากเวปครับ**

6. เงินทอง
    เกาหลีใช้เงิน "วอน" ครับ หรือ KRW อัตราแลกเปลี่ยน 1000 วอน ประมาณ 30-37 บาท แล้วแต่ช่วงนะครับ ช่วงที่ผมไป ถ้าแลกเงินบาทเป็นวอน จากธนาคาร 37 บาทได้ 1000 วอน แต่ถ้าแลกตามร้านรับแลกจะอยู่ที่ 32-33 บาทได้ 1000 วอนครับ ต้องลองตรวจสอบดีๆครับ
    การใช้บัตรเครดิต ที่นี้จะใช้ง่ายสะดวกมากครับ แต่ rate นั้นจะเป็นอย่างไร เขาจะอ้างอิงกับเงิน USD นะครับ เพราะวันที่ผมรูด ถ้าเทียบเงินไทยกะเงินวอน มัน 1000 วอน 37 บาท แต่ตอนนั้น 1 USD 32.5 แล้ว 1000 วอน = 0.99 USD หรือ คิดง่ายๆ 1000 วอน = 1 USD (แบบนี้ถ้าเราซื้อของเป็น USD ก็จะได้ของถูกกว่า ) ซึ่งเอาเข้าจริงพอกลับมาดูรายการบัตรเครดิต เขาคิด rate ให้ที่ราคา 1000 วอน 32.5 บาท ครับ แสดงว่าเขาจะเทียบเงินวอนไปที่ USD ก่อน แล้วก็จะเทียบกลับมาที่เงินบาทอีกครั้ง (แต่อันนี้ผมคิดเองนะครับ อยากจะชัดเจนต้องถามธนาคารอีกครั้งครับ ^^)

ครัลเมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้วเราก็ไปลุยกันเรยครับ ^^
ชื่อสินค้า:   Jeju เชจู
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่