สวัสดีชาวพันทิพทุกๆคนนะครับ :' )
กระทู้นี้จะเป็นกระทู้รีวิวครั้งแรกของผมเลย ถ้าหากมีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
ความคิดในการเดินทางไปเที่ยวแบบ Backpacker : ต้องการหาประสบการณ์ให้กับชีวิต ไม่ต้องสบาย ไม่ต้องรู้ว่าจะเจออะไรบ้าง
และเป็นครั้งแรกหรือเปล่า : ใช่ครับ! ครั้งแรกในการเดินทางแบบ Backpacker
จุดประสงค์ในการเที่ยวในครั้งนี้ : อยากไปถ่ายรูปครับ เพราะเป็นคนชอบถ่ายรูปอยู่แล้วด้วย
เริ่มต้นการรีวิวเลยนะกันเนาะ ไม่รู้จะพิมพ์อะไรแล้วเหมือนกัน แห่ะๆ
**จะพยายามใส่ข้อมูลให้ได้มากที่สุดนะครับ**
จุดเริ่มต้นของทริปนี้คือ "หาข้อมูลแค่รถไฟ ออกกี่โมง ขึ้นสถานีไหน" เพียงแค่นี้จริงๆครับ
........................................................................
เริ่มต้นด้วยการเก็บของจำเป็นเท่านั้น!
พอมาถึงสถานีก็ไม่รอช้าแต่อย่างใด ..เริ่มไปรับตั๋วโดยสารฟรี!
โดยรถไฟฟรีจะมีให้บริการทุกวันนะครับ โดยรอบที่ผมไปคือเวลา 7.50 น. ปลายทางสถานีน้ำตกเวลา 12.35 น.
ค่าบริการ : ฟรี!
ระหว่างที่รอรถไฟมา ..ก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ และถ่ายรูปตารางรถไฟเก็บไว้
เผื่อโอกาสหน้าจะได้มาใช้บริการใหม่
ส่วนนี่ก็คือเพื่อนร่วมทางของผมครับ..
มีทั้งคนไทย และชาวต่างชาติ บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ทั้งมาด้วยกัน มากันเป็นครอบครัว และมาคนเดียว (ซึ่งก็คือผมนั่นเอง)
ขณะที่รถไฟกำลังแล่นอยุ๋บนรางอยู่นั้น..
ก็มีเด็กผู้หญิงคนเสื้อส้ม ได้เอาขนมตังเมมาแบ่งให้กับฝรั่งคนนี้
บอกตรงๆนะครับ เด็กไทยสมัยนี้กล้าที่จะพูดมากขึ้น! และได้ทำหน้าที่คนไทยได้อย่างน่ารักมากๆครับ
..จนทำให้ผมต้องเก็บภาพประทับใจครั้งนี้ไว้ด้วย
ระหว่างการเดินทางก็ไม่มีอะไรมากครับ มีคนขึ้นลงตลอดทุกๆสถานที
คนจะลงเยอะก็สถานีนครปฐม แต่ก็ขึ้นมาเยอะเหมือนกันครับ
และอุปสรรคของทริปนี้ก็คือ "ฝนตก" ครับ
ซึ่งมันทำให้ผมเริ่มรู้สึกกร่อยๆขึ้นมาแล้วหล่ะสิ!
ขณะเดินทางก็หลับบ้าง ตื่นบ้าง..
และสุดท้ายก็คือสถานที่แรกที่คิดว่าเป็นไฮไลท์ของทริปนี้ ก็คือ..สะพานข้ามแม่น้ำแคว
แต่ด้วยบรรกาศครึมๆ จึงทำให้นักท่องเที่ยวไม่ค่อยเยอะมากเท่าไหร่ครับ
แต่ก็เริ่มทำให้ผมตื่นเต้น และสนุกขึ้นมาแล้ว
และก็มาถึงจุดไฮไลท์ที่ที่ 2 สำหรับผม
พอมาถึงต่างคนต่างก็ถ่ายรูปกันทั้งนั้น ..รวมทั้งผมด้วย!
บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ตื่นเต้นทั้งคนไทย และชาวต่างชาติครับ
..........
เมื่อหมดกิจกรรมการถ่ายรูป เราก็นอนยาววว..ถึงสถานีน้ำตก
..........
ผมมาถึงสถานีน้ำตกเวลา 14.35 น.
ซึ่งเลทไป 2 ชม.
อุปสรรคต่อมาก็มาถึง ..เมื่อวินรถ 2 แถวบอกว่า "รถที่จะไปสังขละบุรีหมด"
แต่ผมไม่เชื่อ!! เลยถามคนขับรถ 2 แถวหลายๆคน
สุดท้ายก็ได้ข้อมูลว่า ..ต้องนั่งรถ 2 แถว ไปนั่งรถที่ท่ารถหน้าน้ำตก ผมก็เลยนั่งไป
ค่ารถ : 20 บาท
บรรยากาศตอนขึ้นรถบัสสีแดง
แต่ฝนก็ยังตกอยู่เรื่อยๆ สลับทั้งหนัก ทั้งเบา
ระยะทางจากน้ำตกไทรโยคไปสังขละบุรี พอๆกับกรุงเทพมากาญจนบุรีเลยครับ
ค่ารถ : 130 บาท
นั่งรถไปสังขละบุรีต้องพกยาดมไปด้วยนะครับ เพราะทางขึ้นเขา และลงเขาน่ากลัวมากๆ
และฝนตกด้วย เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารจึงทำให้รถบัสขับช้ามากๆ
เวลา 17.40 น. ผมก็มาถึงสังขละบุรี โดยไม่มีการจองที่พักล่วงหน้ามาก่อน!
ผมเดินหาที่พักอยู่นาน ..ที่ไหนก็เต็มๆไปหมด จนเดินมาถึงสะพานมอญ! และได้พบกับพี่ผู้หญิงคนนึงที่คอยให้ความช่วยเหลือผม
โดยให้ผมอาศัยนอนที่บ้านญาติของเค้าครับ
และนี่ก็คือที่นอนของผมครับ
ไม่มีมุ้ง ไม่มียากันยุง ไม่มีห้องนอน เพราะอาศัยเค้านอนครับ
แต่ดีนะครับที่ยุงไม่เยอะมาก แต่ขณะนอนอยู่นั้นก็เจอเจ้าปีเตอร์มาเดินไต่ขา จั๊กกะจี๋ดีครับ แห่ะๆ >,<
พี่ที่ผมมาอาศัยอยู่ด้วยชื่อพี่น้อยนะครับ อาศัยอยู่กับภรรยา และลูกสาว 1 คนชื่อน้องณี อายุขวบกว่าละครับ
บรรยากาศยามค่ำคืนครับ เงียบ สงบ และอากาศดีมากๆครับ
พอตื่นเช้ามาก็เจอบรรยากาศที่นักท่องเที่ยวเริ่มไปเที่ยวกันแล้วว บางคนก็ข้ามไปฝั่งมอญ บางคนก็นั่งเรือไปวัดใต้น้ำครับ
พี่น้อยเลยอาสาจะพาผมไปวัดใต้น้ำ แต่ด้วยความที่เกรงใจ เพราะมาอาศัยอยู่บ้านเค้าแล้ว เลยไม่กล้ารบกวนพี่น้อยครับ
และพี่น้อยก็จะให้ยืมรถมอไซต์ขี่เข้าไปที่หมู่บ้านมอญ แต่ด้วยความที่ผมกลัวจะตกรถไฟ เลยอดไปอีกตามเคย!
ต้องขอขอบคุณพี่ผู้หญิงคนที่ใส่ดอกชบาด้วยนะครับ ที่ให้ผมไปนอนพักกับญาติของพี่ ขอบคุณจริงๆครับ
ไม่งั้นคืนนั้นผมคงไม่มีที่นอนครับ
สำหรับทริปนี้ก็ไม่ได้ไปไหนเลยครับ! มาถึงสะพานมอญก็เกือบจะ 6 โมงเย็นแล้ว และที่พักก็ไม่มีด้วย เลยทำให้อดไปทั้งวัดใต้น้ำ และหมู่บ้านมอญครับ แต่ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ดีๆครั้งหนึ่งในชีวิต
ส่วนขากลับตอนแรกตั้งใจว่าจะนั่งรถไฟกลับ แต่ด้วยความที่รถบัสออกไปตั้งแต่เช้า จะมีอีกรอบก็ตอนบ่ายโมง จึงทำให้ผมตัดสินใจนั่งรถตู้ไปลงที่เมืองกาญจนบุรี
ค่ารถ : 175 บาท (ออกทุกๆ 20 นาที)
ค่ารถตู้จากกาญจนบุรี - อนุเสาวรีย์ : 120 บาทครับ
สรุปทริปนี้เสียเงินค่าเดินทางไปกลับ : 445 บาท
และให้ค่าที่นอนกับพี่น้อย : 200 บาท (จริงๆอยากให้มากกว่านั้น แต่เพราะมีแบงค์ย่อยแค่นั้นจริงๆครับ)
และจะเสียค่าน้ำ ค่าขนมนิหน่อย : ประมาณ 100 บาท
สรุปทริปนี้หมดเงินไปทั้งหมด 745 บาทครับ!!
**หมายเหตุ**
ขออนุญาต Tag ห้องมาบุญครอง / Oppo ด้วยนะครับ เพราะทริปนี้ทั้งทริปถ่ายรูปด้วย Oppo Find7a ทั้งหมดครับ
[Review] หนีเมืองกรุง ..ไปสูดอากาศที่สังขละบุรีด้วยเงินเพียง 700 กว่าบาท
กระทู้นี้จะเป็นกระทู้รีวิวครั้งแรกของผมเลย ถ้าหากมีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
และเป็นครั้งแรกหรือเปล่า : ใช่ครับ! ครั้งแรกในการเดินทางแบบ Backpacker
จุดประสงค์ในการเที่ยวในครั้งนี้ : อยากไปถ่ายรูปครับ เพราะเป็นคนชอบถ่ายรูปอยู่แล้วด้วย
โดยรถไฟฟรีจะมีให้บริการทุกวันนะครับ โดยรอบที่ผมไปคือเวลา 7.50 น. ปลายทางสถานีน้ำตกเวลา 12.35 น.
เผื่อโอกาสหน้าจะได้มาใช้บริการใหม่
มีทั้งคนไทย และชาวต่างชาติ บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ทั้งมาด้วยกัน มากันเป็นครอบครัว และมาคนเดียว (ซึ่งก็คือผมนั่นเอง)
ก็มีเด็กผู้หญิงคนเสื้อส้ม ได้เอาขนมตังเมมาแบ่งให้กับฝรั่งคนนี้
บอกตรงๆนะครับ เด็กไทยสมัยนี้กล้าที่จะพูดมากขึ้น! และได้ทำหน้าที่คนไทยได้อย่างน่ารักมากๆครับ
..จนทำให้ผมต้องเก็บภาพประทับใจครั้งนี้ไว้ด้วย
คนจะลงเยอะก็สถานีนครปฐม แต่ก็ขึ้นมาเยอะเหมือนกันครับ
และอุปสรรคของทริปนี้ก็คือ "ฝนตก" ครับ
ซึ่งมันทำให้ผมเริ่มรู้สึกกร่อยๆขึ้นมาแล้วหล่ะสิ!
และสุดท้ายก็คือสถานที่แรกที่คิดว่าเป็นไฮไลท์ของทริปนี้ ก็คือ..สะพานข้ามแม่น้ำแคว
แต่ด้วยบรรกาศครึมๆ จึงทำให้นักท่องเที่ยวไม่ค่อยเยอะมากเท่าไหร่ครับ
พอมาถึงต่างคนต่างก็ถ่ายรูปกันทั้งนั้น ..รวมทั้งผมด้วย!
บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ตื่นเต้นทั้งคนไทย และชาวต่างชาติครับ
ซึ่งเลทไป 2 ชม.
อุปสรรคต่อมาก็มาถึง ..เมื่อวินรถ 2 แถวบอกว่า "รถที่จะไปสังขละบุรีหมด"
แต่ผมไม่เชื่อ!! เลยถามคนขับรถ 2 แถวหลายๆคน
สุดท้ายก็ได้ข้อมูลว่า ..ต้องนั่งรถ 2 แถว ไปนั่งรถที่ท่ารถหน้าน้ำตก ผมก็เลยนั่งไป
ค่ารถ : 20 บาท
แต่ฝนก็ยังตกอยู่เรื่อยๆ สลับทั้งหนัก ทั้งเบา
ระยะทางจากน้ำตกไทรโยคไปสังขละบุรี พอๆกับกรุงเทพมากาญจนบุรีเลยครับ
ค่ารถ : 130 บาท
และฝนตกด้วย เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารจึงทำให้รถบัสขับช้ามากๆ
ผมเดินหาที่พักอยู่นาน ..ที่ไหนก็เต็มๆไปหมด จนเดินมาถึงสะพานมอญ! และได้พบกับพี่ผู้หญิงคนนึงที่คอยให้ความช่วยเหลือผม
โดยให้ผมอาศัยนอนที่บ้านญาติของเค้าครับ
ไม่มีมุ้ง ไม่มียากันยุง ไม่มีห้องนอน เพราะอาศัยเค้านอนครับ
แต่ดีนะครับที่ยุงไม่เยอะมาก แต่ขณะนอนอยู่นั้นก็เจอเจ้าปีเตอร์มาเดินไต่ขา จั๊กกะจี๋ดีครับ แห่ะๆ >,<
พี่ที่ผมมาอาศัยอยู่ด้วยชื่อพี่น้อยนะครับ อาศัยอยู่กับภรรยา และลูกสาว 1 คนชื่อน้องณี อายุขวบกว่าละครับ
พี่น้อยเลยอาสาจะพาผมไปวัดใต้น้ำ แต่ด้วยความที่เกรงใจ เพราะมาอาศัยอยู่บ้านเค้าแล้ว เลยไม่กล้ารบกวนพี่น้อยครับ
และพี่น้อยก็จะให้ยืมรถมอไซต์ขี่เข้าไปที่หมู่บ้านมอญ แต่ด้วยความที่ผมกลัวจะตกรถไฟ เลยอดไปอีกตามเคย!
ไม่งั้นคืนนั้นผมคงไม่มีที่นอนครับ
ค่ารถ : 175 บาท (ออกทุกๆ 20 นาที)
ค่ารถตู้จากกาญจนบุรี - อนุเสาวรีย์ : 120 บาทครับ
สรุปทริปนี้เสียเงินค่าเดินทางไปกลับ : 445 บาท
และให้ค่าที่นอนกับพี่น้อย : 200 บาท (จริงๆอยากให้มากกว่านั้น แต่เพราะมีแบงค์ย่อยแค่นั้นจริงๆครับ)
และจะเสียค่าน้ำ ค่าขนมนิหน่อย : ประมาณ 100 บาท
สรุปทริปนี้หมดเงินไปทั้งหมด 745 บาทครับ!!
**หมายเหตุ**
ขออนุญาต Tag ห้องมาบุญครอง / Oppo ด้วยนะครับ เพราะทริปนี้ทั้งทริปถ่ายรูปด้วย Oppo Find7a ทั้งหมดครับ