[CR] ลองทิ้งความวุ่นวายในเมือง มา Slow life ที่สังขละบุรี แล้วจะหลงรัก ❤❤❤ [เน้นรูป]


สวัสดีคับ กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ 2 สำหรับการรีวิวการท่องเที่ยว
คราวนี้จะเป็นการท่องเที่ยวในแบบ Backpacker แบบลุยๆ ไม่มีแผนอะไรมากมาย ค่อยไปเสี่ยงเอาข้างหน้า
วันนี้เราจะพาไปจังหวัด กาญจนบุรีกัน แต่ปลายทางของเราอยู่ที่ สังขละบุรี  มาติดตามกันเลยคับ


ทริปนี้ไปกัน  4 คน เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยประถม พอขึ้นมหาลัยก็แยกย้ายกันไป นานๆครั้งถึงจะรวมตัวกันได้ซักที จึงถือโอกาสออกไปหาประสบการณ์อะไรแปลกๆซักหน่อย  เอาดิว่ะ 4 มหาลัยแต่ไลฟ์สไตล์เดียวกันนี่หว่า วางแผนกัน 2 คืนเดียว  อาศัยอ่านมั่วๆเอาในพันทิป


แพลนคร่าวๆที่คิดเอาไว้ไว้คือ
- รถไฟสายมรณะ เช้าวันเสาร์
- สังขละบุรี  บ่ายวันเสาร์
- สะพานมอญ เช้าวันอาทิตย์
เดี๋ยวตอนท้ายจะสรุปค่าใช้จ่ายให้นะคับ กระทู้นี้ผสมรูปวิวบ้าง ของกินบ้าง ถ่ายกันเองบ้างนะคับ พวกเราค่อนข้างบ้ากล้องนิดนึง เพราะไม่ค่อยได้ทำอะไรสนุกๆแบบนี้ และอาจมีภาพแอลฯ บ้างนะคับ แค่อยากแชร์ประสบการณ์  ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยนะคับ



เริ่มเดินทางบ่ายวันศุกร์ ไม่ทันไรก็ซวยซะแล้ว เพราะไปขึ้นรถไฟไม่ทัน กะเวลาพลาดไป TT”
( ไปกัน 3 คนก่อน อีกคนตามไปที่สังขละบุรีทีเดียว )

- รถไฟจากกรุงเทพไปกาญจนบุรี มี 2 เที่ยวต่อวัน
รอบแรก 7 โมงเช้า (เสียตังค์) / รอบที่สอง 13:55 (ฟรี) วิ่งจากสถานีธนบุรี ถึง สถานีกาญจนบุรี


ขึ้นรถไฟไม่ทัน ทำไงหล่ะ? ต้องวกกลับไปขึ้นรถตู้ที่อนุสาวรีย์  ราคารถตู้จากอนุสาวรีย์ – บขส.กาญจนบุรี ราคา 120 บาท วิ่งประมาณ 3-4 ชม. ขึ้นอยู่กับว่ารถติดหรือไม่ติด พวกเราออกจากกรุงเทพประมาณ 14:30 ไปถึง บขส.กาญจนบุรีประมาณ เกือบๆ 6 โมงเย็น  
พวกเราก็แวะถามข้อมูลเอาจากพี่ๆ ตำรวจและพี่วินมอเตอร์ไซต์ที่ บขส. ก็ได้ข้อมูลมาว่า รถไฟสายมรณะ คือนั่งจากสถานีกาญจนบุรี ไปสถานีน้ำตก มี 2 รอบคือ 7 โมงเช้า และ 10:35 เดินทางตลอดสายประมาณ 2 ชั่วโมง




ได้เรื่องก็นั่งวินมอเตอร์ไซค์ไปแถวๆ สถานีรถไฟกาญจนบุรี เพื่อหาที่พักแถวสถานีรถไฟ เพื่อที่จะได้สะดวกในการเดินทางตอนเช้า


แล้วก็เดินเข้าไปเรื่อยๆในซอยตรงข้ามกับสถานีรถไฟเพื่อหาที่พัก




สุดท้ายก็ได้ที่พักที่ชื่อว่า VN GUEST HOUSE  เป็นแพลอยน้ำในแม่น้ำแควซะด้วย ราคาแค่ 475 บาทต่อคืน (มีแอร์/เครื่องทำน้ำอุ่น/WIFI/ไม่มีทีวี) ถือว่าราคาถูกและบรรยากาศดีมาก แต่แอบเสียดายที่ได้ห้องที่หันเข้าหาฝั่ง แต่ก็ถือว่าโอเคให้ 9/10 คะแนนสำหรับที่พักนี้



เก็บกระเป๋า ล้างหน้าล้างตาก็ท้องร้องขึ้นมาทันที 5555 เลยเดินออกมาที่ตลาดนัดข้างสถานีรถไฟกาญจนบุรี
(ถ้าเดาไม่ผิด น่าจะมีตลาดวัน ศุกร์ – เสาร์ – อาทิตย์ วันอื่นๆไม่แน่ใจ)  ของกินเยอะมาก ถูกด้วย และอร่อยด้วย เลือกไม่ถูกเลยทีเดียว

อันนี้เป็นปูทอด 30 บาท

นี่เป็นพวกหมูทอด ไส้หมูทอด ขายเป็นขีด ขีดละ30/40บาท ว่ากันไป




เมื่ออิ่มท้องแล้ว ตามสไตล์เด็กผู้ชายไม่ได้เจอกันนาน ก็ต้องมีปาร์ตี้นั่งคุยกันหน่อยพอหอมปากหอมคอ ที่ระเบียงหลังห้องพัก ฟินไปอีก
(ไม่ได้โฆษณานะคับ  / น้องๆที่ต่ำกว่า 20 ปีอย่าทำตามนะคับมันไม่ดี )


นี่เป็นวิวหลังห้องในตอนเช้าคับ แหม่สบายตาไปอีก

ตื่นเช้าก็รีบเช็คเอาท์ตอนประมาณ 8 โมงกว่าออกไปหาอะไรทานและกะว่าจะไปถ่ายรูปเล่นแถวๆ
สุสานสงครามโลก(ตรงข้ามสถานีรถไฟกาญจนบุรี)และสถานีรถไฟ ก่อน รถไฟจะมา


เดินไปเรื่อยๆ แล้วก็แวะเข้าไปชมสุสานโลกครั้งที่2 ซะหน่อย (เข้าฟรี)



ถึงแล้วคับ สุสานสงครามโลกครั้งที่ 2




หลังจากทานข้าวเสร็จก็ไปต่อที่สถานีรถไฟกันเลยคับ แค่ข้ามถนนไป มุ่งไปที่ขายตั๋วก่อนเลยคับ
แต่แอบยิ้มนิดนึง เพราะเราเป็นคนไทย จากนโยบายรัฐบาย คนไทยนั่งฟรีแค่โชว์บัตรประชาชนหรือใบขับขี่ ประหยัดไปอีก 555555.


การเดินทางด้วยรถไฟสายมรณะ จะเป็นการเดินทางจากสถานีกาญจนบุรีไปสิ้นสุดปลายทายที่สถานีน้ำตกคับ

หลังจากได้ตั๋วก็ได้เวลาเก็บภาพตามประสาพวกเรา อัดอั้นมานานแล้ว55555

รูปทีมรูปแรก 555 รบกวนพี่คนนึงให้เค้าช่วยถ่าย ขอบคุณมากคับพี่






รถไฟมาแล้วคับ ตรงเวลาเป๊ะ 10:35



พอรถไฟมาพวกเราก็รีบขึ้นไปหาที่นั่งกันเลย เดินทะลุอยู่หลายตู้ ก็หาที่นั่งไม่ได้ สุดท้ายก็เลยตัดสินใจยืน
(ตู้ที่ยืนมีเก้าอี้น้อย เหมือนทำไว้สำหรับนั่งและยืน)  ยืนข้างๆหน้าต่างไม่ผิดหวังเลยจริงๆคับ
ทั้งสองฝั่งซ้ายและขวา บรรยากาศดีมาก มองเห็นไร่สวนต่างๆ และบ้านคนเป็นระยะๆ


ช่วงนี้รูปเยอะหน่อยนะคับ







ส่วนคนนี้ไม่รู้จักครับ น่าจะเป็นคนจีน ชุดนี่เหมือนอังศุมาลินเลยคับ น่ารักดี 555

ยืนเหนื่อยๆก็นั่งพักบ้าง

อย่าลืมลองซื้อของกินบนรถไฟนะคับ มันได้ฟิลลิ่งไปอีกแปป ยิ่งถั่วต้มนี่กินกันมันส์เลยทีเดียว

ตั๋วอย่าเพิ่งทิ้งนะคับ จะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจตั๋วระหว่างการเดินทาง

เมื่อสถานี ถ้ำกระแซ (เริ่มเข้าสู่สายมรณะ) ทุกคนในตู้โดยสารก็ต่างหาที่หาทางกันเพื่อจะดูวิวด้านนอกหน้าต่าง เราไปดูกันเลยคับ

วิวจากริมหน้าต่าง (ให้อยู่ฝั่งซ้ายนะคับ ฝั่งขวาเป็นภูเขา)




ถามว่าเสียวไหม? ก็ไม่เท่าไหร่นะคับ แต่วิวที่เห็นจะเน้นความสวยซะมากกว่าความเสียว


ต่อไปฝั่งขวาคับ






ใครที่จะออกมานั่งแบบนี้ ให้ระวังด้วยนะคับ อาจจะตกได้ (อันนี้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีเลย)


รถไฟก็วิ่งไปเรื่อยๆคับ จนถึงปลายทางนั่นคือ สถานีน้ำตก ที่สถานีน้ำตกนี้จะมีร้านอาหารไว้บริการมากมายเลยคับ
อาหารไม่แพงนะคับ อร่อยด้วย เลือกร้านได้ตามใจชอบ  ส่วนใครจะนั่งรถไปต่อที่อื่นหรือไปน้ำตกไทรโยคน้อย
ก็ต่อสองแถวจากสถานีน้ำตกไปได้เลยคับ ประมาณ 20 บาทต่อคน

พวกเรามาถึงน้ำตกไทรโยคน้อยเพื่อมารอรถบัสแดง เพื่อไปสังขละบุรี (รถจะวิ่งชั่วโมงละคันนะคับ)
เมื่อรถมาถึงต่างคนก็หาที่นั่ง อากาศกำลังดีคับเริ่มหนาวนิดๆ แต่ไม่หนาวมาก
ราคาตั๋วโดยสารไปสังขละบุรีอยู่ที่ 130 บาทคับ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
รถจะไปใช้เวลานานช่วง 30-40กิโลสุดท้าย เพราะเป็นกิโลแม้ว โค้งไปโค้งมาค่อนข้างอันตราย
ขับเร็วไม่ได้คับ ซึ่งรถขับช้าก็ไม่ได้น่าเบื่อนะคับ เพราะข้างทางมีวิวสวยๆให้ดูตลอดข้างทาง ไปดูกันดีกว่า




ถึงแล้วววววววว!!!! สังขละบุรี ❤❤❤

เมื่อมาถึงท่ารถที่สังขละบุรี พวกเราก็มุ่งไปที่พักก่อนเลยคับ โรงแรมซองกาเรียอินท์
(อันนี้ได้คอนแทคมาพักฟรีจึงประหยัดไปได้อีกหนึ่งอย่าง) โรงแรมอยู่ตรงหลังท่ารถเลยคับ
ส่วนใครไม่อยากเดินไกลไปตักบาตรที่สะพานมอญก็สามารถไปพักฝั่งมอญได้คับ
มีโรงแรมอีกเยอะแยะ สามารถนั่งวินมอเตอร์ไซค์ไปได้เลยคับ
ชื่อสินค้า:   สังขละบุรี, กาญจนบุรี
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่