สหรัฐฯ กับ รัสเซีย คุณชอบประเทศไหนมากกว่ากัน

สำหรับผมชอบรัสเซีย เพราะ จีน-รัสเซีย คือมิตรแท้ยามยาก

ในสมัยของล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 สยามตกอยู่ในวงล้อมของนักล่าอาณานิคมจากตะวันตก ฝรั่งเศสเป็นเจ้าอาณานิคมต่อเวียดนาม ลาว เขมร ทำให้สยามถูกคุกคามจากทิศตะวันออก ส่วนอังกฤษเป็นเจ้าอาณานิคมต่อพม่า มาเลเซีย สิงคโปร์ สยามจึงถูกคุกคามจากทิศตะวันตกและภาคใต้

                 สยามยามนั้นเหมือนลูกแกะอยู่ในวงล้อมของหมาป่าที่จ้องขม้ำอยู่ตลอดเวลา แต่ด้วยพระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์สยามในยุคนั้น ที่ไปมีความสัมพันธ์เกี่ยวดองกับราชวงศ์รัสเซีย ทำให้รัสเซียเข้ามาคานอำนาจเอาไว้ ช่วยให้สยามหลุดพ้นจากการตกเป็นเมืองขึ้นในอาณานิคมของตะวันตกมาได้

                เดือนพฤษภาคม 2557 ประเทศไทยตกอยู่ในภาวะวิกฤติทางการเมือง ทหารจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกและควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ การควบคุมอำนาจปกครองประเทศโดยคณะทหาร ทำให้สหรัฐอเมริกาไม่พอใจ ประท้วงอย่างรุนแรง ขู่ตัดการช่วยเหลือกทางทหาร ยกเลิกการซ้อมรบ  สหรัฐเรียกร้องให้คณะทหารคืนประชาธิปไตยให้กับคนไทยโดยการจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปโดยเร็ว

                รัสเซีย ซึ่งเคยช่วยเหลือประเทศไทยครั้งฝรั่งล่าอาณานิคม  ไม่เห็นด้วยกับท่าทีวางก้ามของอเมริกา ประธานาธิบดีวาลาดิเมีย ปูติน จึงแถลงว่า “มิตรประเทศต้องเคารพการตัดสินใจของ ผู้บัญชาการทหารบกที่ประกาศกฎอัยการศึก เพื่อรักษาความสงบมั่นคงภายในและจัดระเบียบบริหารประเทศ ข้าพเจ้ามั่นใจว่า  สถานการณ์ในประเทศไทยจะกลับสู่ปรกติในเร็ววัน”

                ปี 2522  ภัยจากคอมมิวนิสต์เวียดนาม คุกคามประเทศไทย เพราะเวียดนาม ส่งกำลังทหารเข้ามาในกัมพูชากว่า 250,000 นาย  สาธารณรัฐประชาชนจีนก็ช่วยเหลือไทย โดยการเปิดสงครามสั่งสอนเวียดนามที่ชายแดนติดต่อกับจีน ทำให้เวียดนามพะวักพะวงกับสงครามสองด้าน

                ปี 2557 เมื่อสหรัฐแสดงอำนาจบาตรใหญ่แทรกแซงกิจการภายในของไทย  ประธานาธิบดีจีน-นายสี จิ้นผิงก็ออกมาปรามด้วยการแถลงข่าว เรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในไทย ใช้ความอดทนอดกลั้นและ เจรจากันให้มากขึ้น เพื่อนำประเทศเข้าสู่ภาวะปกติให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ พร้อมกับสำทับว่า

                “ต่างชาติไม่ควรแทรกแซงเรื่องรัฐประหารในไทย  เชื่อคนไทยสามารถจัดการกันเองได้ และ ขอให้กำลังใจประเทศไทยให้ผ่านวิกฤติการณ์นี้ไปได้ด้วยดี”

                เป็นที่น่าสังเกตว่าเมื่อจีนกับรัสเซียแท็กทีมปราม อเมริกา ทรราชบ้านนอกอย่างนายฮุน เซน แห่งกัมพูชา ผู้มีความสัมพันธ์เกี่ยวดองทางเครือญาติและ ธุรกิจกับทักษิณ ชินวัตร เปลี่ยนท่าทีถีบหัวส่งทักษิณ  เดินทางตามรอยจีนกับรัสเซีย ประกาศ”กัมพูชาไม่ยอมให้ “คนต่างชาติ” ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น หรือสร้างกองทัพโจมตีเพื่อบ้าน” นายฮุน เซนพูดเรื่องนี้ หลังจาก นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความส่วนตัวของทักษิณ แถลงข่าวในต่างประเทศว่า รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ เตรียมตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นในประเทศเพื่อนบ้าน

                นายฮุน เซนซึ่งไม่เคยยึดมั่นข้อมติของประเทศสมาชิกสมาคมเอเชียตะวันออก (อาเชียน) ว่าด้วยการไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศสมาชิก เห็นได้จากการแถลงข่าวด่านายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ ว่าปล้นอำนาจไปจากพรรคเพื่อไทยเมื่อครั้งที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพประชุมอาเชียน ซัมมิต ที่ชะอำ-หัวหิน ในปี 2552

                มาวันนี้นายฮุน เซน อ้างว่า “ประเทศสมาชิกอาเซียนและ รัฐธรรมนูญของกัมพูชา ห้ามไม่ให้แทรกแซงกิจการภายในประเทศเพื่อนบ้าน ข้าพเจ้าขอย้ำว่า กัมพูชาไม่ใช่สถานที่ที่ประเทศใดหรือกลุ่มใด แม้แต่กลุ่มของคุณทักษิณ จะมาจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น”

                “กัมพูชาถือว่าสถานการณ์ในไทยเป็นกิจการภายในของไทย และ กัมพูชาจะไม่แทรกแซงกิจการภายในของไทย เนื่องจากรัฐประหารครั้งนี้ได้รับการโปรดเกล้าฯแล้ว กัมพูชาต้องรักษาความสัมพันธ์และความร่วมมือกับทหารไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ข้าพเจ้าหวังว่า อดีตนายกทักษิณ ชินวัตร และ นางสาวยิ่งลักษณ์ รวมถึงพรรคเพื่อไทยจะเข้าใจจุดยืนของกัมพูชา”

                เขมรกล้าหาญสลัดทิ้งทักษิณ  แสดงว่า ฮุน เซนต้องได้รับสัญญาณ บางอย่างจากจีน  ถ้าจำกันได้นาย ฮุน เซนเคยรับงานฉีกหน้าสหรัฐมาแล้ว เมื่อคราวที่กัมพูชาเป็นเจ้าภาพจัดประชุมอาเซียนซัมมิต ในปี 2555 ในการประชุมครั้งนั้น จีนกับสหรัฐขัดแย้งกันรุนแรงเรื่องปัญหาทะเลจีนใต้

                ประธานาธิบดีบารัก โอบามา กับ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เดินทางเข้ากัมพูชาในวันเดียวกัน ฮุน เซนสั่งทำป้ายต้อนรับประธานาธิบดีจีนขนาดใหญ่ ติดตั้งไว้ตลอดทางตั้งแต่สนามบิน จนไปถึงทำเนียบ แต่ไม่มีป้ายต้อนรับโอบามาแม้แต่แผ่นเดียว

                จีนประกาศปัญหาทะเลจีนใต้เป็นเรื่องภายใน  ไม่ต้องการให้คนนอกเข้ามาแทรกแซง ดังนั้นจึงไม่ต้องการให้มีแถลงการณ์“เรื่องทะเลจีนใต้” เป็นไปตามที่จีนต้องการ เมื่อถึงเวลาเปิดแถลงข่าวสรุปการประชุมและอ่านแถลงการณ์ต่างๆที่เตรียมไว้ นายฮุน เซนบีบน้ำตากล่าวว่า

                “ข้าพเจ้าซาบซึ้งจนกลั่นน้ำตาไม่อยู่ ที่ประเทศเล็กๆอย่างกัมพูชา สามารถจัดประชุมระดับสากลได้สำเร็จด้วยดี ข้าพเจ้าขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยให้ประชุมครั้งนี้สำเร็จด้วยดี ตลอดเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา ข้าพเจ้าตรากตรำงานหนักเหนื่อยมากจนไม่มีเรี่ยวแรงจะแถลงต่อไปได้ ขอจบแถลงข่าวเพียงเท่านี้”

                การตัดบทไม่ยอมอ่านแถลงการณ์ทะเลจีนใต้ ทำให้โอบามา โกรธมาก รีบเดินทางออกจากัมพูชาในทันที เพราะเขาถูกสื่อตะวันตกวิจารณ์ว่า ล้มเหลว ไม่สามารถผลักดันแถลงการณ์ทะเลจีนใต้ได้

                เล่าเรื่องนี้เพราะต้องการให้รู้ว่าอิทธิพลของอเมริกา กำลังเสื่อมถอยทั่วโลก ไม่ว่าจะไปวางก้ามที่ไหน จีนกับรัสเซียจะเข้ามาขวางทางดักคอที่นั่น ตัวอย่างเช่นในประเทศซีเรีย อเมริกากระเหี้ยนกระหือรือ จะถล่มซีเรียให้เป็นจุลให้ได้ แต่พอจีนกับรัสเซียเข้ามาขวาง อเมริกาก็ถอยไม่เป็นท่า

                เพราะฉะนั้นประเทศไทยไม่มีอะไรต้องหวั่นไหว วิตกจริตที่อเมริกาไม่เห็นด้วยกับการแก้ปัญหาวิกฤติประเทศตามแนวทางของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา  เพราะเรายังมีมิตรแท้ที่เคยช่วยเหลือประเทศไทยยามยาก อย่างประเทศจีนและรัสเซีย เข้าใจและให้กำลังใจเราเสมอ

                ประเทศไทยควรจะดีใจและภูมิใจที่อเมริกา ขัดขวางไม่สนับสนุนแนวทางของเรา  เพราะประวัติศาสตร์ยุคใหม่สอนให้เรารู้ว่า ประเทศไหนที่อเมริกาเข้าไปแทรกแซง ให้สนับสนุนประเทศนั้นจะวิบัติยิ้ม ตัวอย่างที่เห็นอยู่วันนี้ไม่ว่า จะเป็นประเทศยูเครน อียิปต์  อีรัก  อัฟกานิสถาน  ตูนีเซีย

                แม้แต่ในเวียดนามที่เกิดจลาจลต่อต้านคนจีน ทำให้คนจีนเสียชีวิต 2  บาดเจ็บหลายร้อยคน จนรัฐบาลจีนต้องรีบส่งเรือและเครื่องบินมาอพยพคนจีน4,000 กว่าคนจากเวียดนาม มีคนสงสัยว่าอเมริกันมีส่วนปลุกปั่นให้เกิดจลาจลต่อต้านจีน เพราะเหตุร้ายเกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่อเมริกาออกแถลงการณ์ว่า จีนยั่วยุ ที่ย้ายฐานขุดเจาะน้ำมันไปอยู่ ในน่านน้ำที่อ้างเป็นเขตเศรษฐกิจจำเพาะของเวียดนาม

                ในทางตรงกันข้ามประเทศไหน กลุ่มไหนที่อเมริกาเกลียดชัง ขัดขวาง  ต่อต้าน ประเทศนั้น กลุ่มนั้นจะได้ความนิยมและสนับสนุนจากคนในชาติ ตัวอย่างเช่น มวลมหาประชาชน  กปปส. นำโดยกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ และคณะที่ทหารที่กล้าอาสาเข้ามาแก้วิกฤติชาติ  ได้รับการสนับสนุน เชื่อมั่น ศรัทธาจากชาวไทยทั่วประเทศ  แต่เป็นที่ชิงชังของสหรัฐ

                ในประเทศอินเดีย พรรคคองเกรสของตระกูลคานธีชนะเลือกตั้งเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ ตลอด 64 ปีที่ผ่านมา แต่ทันทีที่สหรัฐประกาศห้ามนายนเรนทรา โมดีจากพรรคบีเจพี ซึ่งเป็นคู่แข่งของพรรคคองเกรส เข้าประเทศ ชาวอินเดียลงคะแนนให้พรรคบีเจพีล้นหลาม ชนะพรรคคองเกรส 272 ต่อ 49 เสียง นายโมดี ก้าวขึ้นมาเป็นนายคนใหม่ของอินเดีย ท่ามกลางความเกลียดชังของอเมริกา

จึงสรุปได้ว่าอเมริกันคือตัวซวยของชาวโลก อเมริกันแทรกแซงประเทศไหนวิบัติเสียหาย เกิดขึ้นกับประเทศนั้น อเมริกันต่อต้านกลุ่มไหน ความเจริญรุ่งเรืองเกิดขึ้นกับคนนั้น ประเทศไทยจึงโชคดีที่อเมริกาเกลียด

เครดิต
http://www.naewna.com/politic/columnist/12796
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
เรื่องที่รัชกาลที่ 5 ทรงสานสัมพันธ์กับพระเจ้าซาร์เพื่อปกป้องสยามจากสงครามกับฝรั่งเศสเป็นเรื่องจริงครับ

และพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 นี้เองที่ทรงแทรกแซงความขัดแย้งระหว่างไทยและฝรั่งเศส

โดยให้การรับรองรัชกาลที่ 5 และสยาม ในฐานะมิตรประเทศของรัสเซีย

ทำให้การเจรจราประณีประณอมสงครามระหว่างไทยและฝรั่งเศสยุติลงด้วยดี

ภาพจาก หนังสือพิมพ์ L’ILLUSTRATION ฉบับวันที่ 11 กันยายน คศ 1897

image

ชาวเน็ทที่ไม่เห็นด้วยกับประเด็นนี้ก็แย้งว่าถึงสมัยพระเจ้าซาร์ รัสเซียจะช่วยเหลือเมืองไทยก็จริง

แต่มันผ่านมาเป็นร้อยปีแล้ว รัสเซียเขาเปลี่ยนแปลงการปกครองไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง

ใช่ว่าประเทศที่เคยมีสัมพันธ์อันดีกันเมื่อร้อยกว่าปีก่อน จะมีความสัมพันธ์ที่ดีมาจนถึงทุกวันนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่