ธ.ก.ส.เผยผลประเมินโครงการบัตรสินเชื่อเกษตรกรพบเกษตรกรมีความพึงพอใจต่อการใช้บริการ สร้างรายได้เพิ่มขึ้นกว่า36.7% ลดภาระหนี้สิน 38.1% หนี้นอกระบบลด 32.2% เล็งขยายเพิ่มอีก 2 แสนบัตรภายในสิ้นปี
นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากการที่ธ.ก.ส.ได้ดำเนินโครงการบัตรสินเชื่อเกษตรกรตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2555 โดยมุ่งหวังให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการได้ใช้บัตรสินเชื่อแทนเงินสดในการจัดหาปัจจัยการผลิต เครื่องอุปโภคบริโภคในครัวเรือน และจากการประเมินผลโครงการบัตรสินเชื่อเกษตรกรของสถาบันที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในราชการ (สปร.) พบว่าการใช้บัตรสินเชื่อเกษตรกรได้ส่งผลในทางบวกต่อเศรษฐกิจระดับมหภาคเนื่องจากมีเงินหมุนเวียนในระบบเพิ่มขึ้น ทำให้เกษตรกรที่ใช้บัตรสินเชื่อเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นสูงถึง36.7% เนื่องจากการใช้บัตรสินเชื่อเกษตรกรเพื่อจัดหาปัจจัยการผลิตสำหรับใช้ในการลงทุน ทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นและเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ขณะเดียวกันเกษตรกรยังสามารถลดภาระหนี้สินที่คาดว่าจะเกิดขึ้นได้ถึง 38.1% และลดภาระหนี้นอกระบบลงได้อีก 32.2%
นอกจาก นี้ร้านค้าที่จำหน่ายปัจจัยการผลิตที่เข้าร่วมโครงการยังมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง86.21%
สำหรับผลการดำเนินงานโครงการบัตรสินเชื่อเกษตรกร ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2557 มียอดบัตรทั้งสิ้น 4 ล้านใบ มียอดการใช้จ่ายผ่านบัตร 43,566.27 ล้านบาท จำนวนร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 12,265 ร้านค้า และมีหนี้ที่ผิดนัดชำระ 0.36% โดยในปี2557 ตั้งเป้าขยายปริมาณบัตรเพิ่มอีก200,000 ใบ โดยเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าประเภทสหกรณ์
ทั้งนี้พบว่าเกษตรกรมีความพึงพอใจในการใช้บัตรและมีความคาดหวังสูงในการใช้บัตรเพื่อจัดหาปัจจัยการผลิตในฤดูการผลิตถัดไป เนื่องจากไม่มีความยุ่งยากในการใช้งานและมีความสะดวกเพราะมีร้านค้าที่รับบัตรเป็นจำนวนมาก เนื่องจากร้านค้าส่วนใหญ่เป็นร้านที่เกษตรกรมีความคุ้นเคย เนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่นั้นๆ และยังมีระบบการควบคุมมาตรฐาน Q-Shop ที่กรมวิชาการเกษตรเข้ามาดูแล ทำให้มั่นใจได้ว่าสินค้าที่ซื้อไปมีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน มีสินค้าที่จำเป็นต่อการผลิตให้เลือกหลากหลาย อีกทั้งยังสามารถซื้อปัจจัยการผลิตผ่านบัตรในราคาเท่ากับหรือถูกกว่าราคาตลาด โดยบางสินค้าให้ส่วนลดเพื่อชดเชยดอกเบี้ยเป็นระยะเวลาอีก 4 เดือน รวมกับที่ธ.ก.ส.ให้เครดิตอีก 1 เดือนรวมเป็น5 เดือน ทำให้ลดต้นทุนในเรื่องดอกเบี้ย
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1405221406
บัตรเครดิตชาวนา” หนึ่งในนโยบายหาเสียงระหว่างเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยเริ่มใช้ได้แล้ว โดยเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2555 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดโครงการทดสอบระบบ “บัตรสินเชื่อเกษตรกร” ที่อำเภออุทัย กับ อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ 1 ใน 5 จังหวัดนำร่อง (เชียงใหม่ อุดรธานี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี และสระบุรี)
โดยมีทั้งชาวนาผู้มีสิทธิ์ได้รับบัตร และร้านค้าเครือข่ายที่ได้รับคัดเลือกให้ติดตั้งเครื่องรูดบัตร (Electric Data Capture: EDC ) มารับฟังขั้นตอนการดำเนินการด้วยความสนใจ เพราะจะเป็นครั้งแรกที่ชาวนาไทยมีบัตรเครดิตใช้เพื่อ “รูดปรื๊ด” ซื้อปัจจัยการผลิต ได้แก่ เมล็ดพันธ์ข้าว ปุ๋ย และยาฆ่าแมลง
http://thaipublica.org/2012/04/credit-card-farmer/
ประเมินโครงการบัตรสินเชื่อ ธกส. พบเกษตรกรสร้างรายได้เพิ่ม 36.7% ลดหนี้เพียบ!!
นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากการที่ธ.ก.ส.ได้ดำเนินโครงการบัตรสินเชื่อเกษตรกรตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2555 โดยมุ่งหวังให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการได้ใช้บัตรสินเชื่อแทนเงินสดในการจัดหาปัจจัยการผลิต เครื่องอุปโภคบริโภคในครัวเรือน และจากการประเมินผลโครงการบัตรสินเชื่อเกษตรกรของสถาบันที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในราชการ (สปร.) พบว่าการใช้บัตรสินเชื่อเกษตรกรได้ส่งผลในทางบวกต่อเศรษฐกิจระดับมหภาคเนื่องจากมีเงินหมุนเวียนในระบบเพิ่มขึ้น ทำให้เกษตรกรที่ใช้บัตรสินเชื่อเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นสูงถึง36.7% เนื่องจากการใช้บัตรสินเชื่อเกษตรกรเพื่อจัดหาปัจจัยการผลิตสำหรับใช้ในการลงทุน ทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นและเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ขณะเดียวกันเกษตรกรยังสามารถลดภาระหนี้สินที่คาดว่าจะเกิดขึ้นได้ถึง 38.1% และลดภาระหนี้นอกระบบลงได้อีก 32.2%
นอกจาก นี้ร้านค้าที่จำหน่ายปัจจัยการผลิตที่เข้าร่วมโครงการยังมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง86.21%
สำหรับผลการดำเนินงานโครงการบัตรสินเชื่อเกษตรกร ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2557 มียอดบัตรทั้งสิ้น 4 ล้านใบ มียอดการใช้จ่ายผ่านบัตร 43,566.27 ล้านบาท จำนวนร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 12,265 ร้านค้า และมีหนี้ที่ผิดนัดชำระ 0.36% โดยในปี2557 ตั้งเป้าขยายปริมาณบัตรเพิ่มอีก200,000 ใบ โดยเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าประเภทสหกรณ์
ทั้งนี้พบว่าเกษตรกรมีความพึงพอใจในการใช้บัตรและมีความคาดหวังสูงในการใช้บัตรเพื่อจัดหาปัจจัยการผลิตในฤดูการผลิตถัดไป เนื่องจากไม่มีความยุ่งยากในการใช้งานและมีความสะดวกเพราะมีร้านค้าที่รับบัตรเป็นจำนวนมาก เนื่องจากร้านค้าส่วนใหญ่เป็นร้านที่เกษตรกรมีความคุ้นเคย เนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่นั้นๆ และยังมีระบบการควบคุมมาตรฐาน Q-Shop ที่กรมวิชาการเกษตรเข้ามาดูแล ทำให้มั่นใจได้ว่าสินค้าที่ซื้อไปมีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน มีสินค้าที่จำเป็นต่อการผลิตให้เลือกหลากหลาย อีกทั้งยังสามารถซื้อปัจจัยการผลิตผ่านบัตรในราคาเท่ากับหรือถูกกว่าราคาตลาด โดยบางสินค้าให้ส่วนลดเพื่อชดเชยดอกเบี้ยเป็นระยะเวลาอีก 4 เดือน รวมกับที่ธ.ก.ส.ให้เครดิตอีก 1 เดือนรวมเป็น5 เดือน ทำให้ลดต้นทุนในเรื่องดอกเบี้ย
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1405221406
บัตรเครดิตชาวนา” หนึ่งในนโยบายหาเสียงระหว่างเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยเริ่มใช้ได้แล้ว โดยเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2555 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดโครงการทดสอบระบบ “บัตรสินเชื่อเกษตรกร” ที่อำเภออุทัย กับ อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ 1 ใน 5 จังหวัดนำร่อง (เชียงใหม่ อุดรธานี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี และสระบุรี)
โดยมีทั้งชาวนาผู้มีสิทธิ์ได้รับบัตร และร้านค้าเครือข่ายที่ได้รับคัดเลือกให้ติดตั้งเครื่องรูดบัตร (Electric Data Capture: EDC ) มารับฟังขั้นตอนการดำเนินการด้วยความสนใจ เพราะจะเป็นครั้งแรกที่ชาวนาไทยมีบัตรเครดิตใช้เพื่อ “รูดปรื๊ด” ซื้อปัจจัยการผลิต ได้แก่ เมล็ดพันธ์ข้าว ปุ๋ย และยาฆ่าแมลง
http://thaipublica.org/2012/04/credit-card-farmer/