เพื่อคุณผู้หญิง....เมื่อจะถูก 'ข่มขืน' ต้องทำยังไง ?

ข้อแนะนำจาก พ.ต.ท.โชติวิเชียร วิเชียรโชติ  ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยผู้หญิง
ยกมาจาก http://www.thairath.co.th/content/434898 (๘ ก.ค. ๕๗)
.......................................................................................................

เป็นข่าวครึกโครม สร้างความสะเทือนใจให้กับพี่น้องชาวไทยเป็นอย่างมาก
กรณีเด็กหญิงวัย 13 ถูกข่มขืนฆ่าบนรถไฟ แล้วถูกโยนออกทางหน้าต่าง
"ไทยรัฐออนไลน์" เคยนำเสนอวิธีการป้องกันภัย ไม่พลาดท่าในการข่มขืนไปแล้วครั้งนึง
เมื่อเกิดกรณีนี้ขึ้น วันนี้เราจะกลับมาย้อนกันอีกครั้งหนึ่ง
เพื่อเป็นการป้องกันภัย เมื่ออยู่ในสถานการณ์นั้น ผู้หญิงควรทำอย่างไร...

ปรัชญาแห่งความปลอดภัย คือ การป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ
การป้องกันภัยสำหรับผู้หญิง คือ อย่าพาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์เสี่ยง 3 สถานการณ์ ได้แก่
1. สถานที่เสี่ยง   2. เวลาเสี่ยง   3. บุคคลเสี่ยง

ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็ปลอดภัยไปแล้ว 95%
แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ แล้ว โอกาสปลอดภัยเหลือเพียง 5% ก็ต้องมีสติ,
เตรียมอุปกรณ์ป้องกันตัว และใช้วิชาการต่อสู้ป้องกันตัวเท่าที่เคยฝึกมา

ดังนั้น คำถามข้อแรกถือว่าตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงแล้ว
โอกาสรอดปลอดภัยเหลือเพียง 5% ก็ต้องทำดังนี้

1. ตั้งสติให้ดี สูดหายใจลึกๆ เพื่อให้มีเลือดไปเลี้ยงสมองให้ตื่นตัว

2. หากยังไม่ถูกจู่โจมประชิดตัว ให้หาทางหลบหนีให้เร็ว

3. ประเมินสถานที่ เป็นที่โล่ง เช่น ทุ่งนา ป่ากล้วย หรือห้องแคบๆ
ถ้าเป็นห้องแคบๆ โอกาสรอดน้อยมาก

4. ถ้าเป็นเวลากลางคืน ให้วิ่งไปทางที่ที่มีแสงสว่าง
หากระยะทางไกล ไม่ควรตะโกนร้องให้ใครช่วยเพราะจะเหนื่อยเปล่า
และคนร้ายจะติดตามเราได้จากทิศทางเสียงที่เราตะโกน

5. ถ้าประเมินแล้วว่าวิ่งหนีไม่ทันแน่
ให้มองหาที่หลบซ่อน ที่คนร้ายไม่สามารถดึงตัวเราออกมาได้
เช่น มุดใต้ท้องรถยนต์ กอไผ่
หรือมองหาสิ่งที่พอทำเป็นอาวุธได้ เช่น ท่อนไม้ยาวๆ
หรือปากกา ลูกกุญแจ ก้อนหิน กิ่งไม้เก็บซ่อนไว้กับตัว

6. ถ้าเป็นห้องแคบๆ ให้ร้องตะโกนให้คนช่วย เช่น ไฟไหม้ๆ

7. ถ้าหนีไม่ทันและถูกคนร้ายจับตัวได้แล้ว โอกาสรอดเหลือ 1 %
อย่ายอมให้คนร้ายทำให้เราหมดสติ
เพราะถ้าหมดสติไปแล้ว โอกาสรอดเหลือ 0% และอาจถูกฆ่าตายได้

8. การไม่ยอมให้คนร้ายทำให้เราหมดสติ คือ หากถูกล็อกคอหายใจไม่ออก แล้วเป็นนาทีชีวิต
คนร้ายจะพยายามทำให้เราหยุดดิ้น หรือหยุดร้อง
ซี่งเขาอาจบีบคอเราจนตาย หรือทำร้ายเราจนหมดสติ ต้องหยุดดิ้น
แล้วบอกว่ายอมแล้วๆ อย่าฆ่าฉัน ฉันมีลูกเล็ก มีแม่แก่ๆ ที่ต้องเลี้ยงดู
เผื่อคนร้ายจะปล่อยมือ

9. หากคนร้ายมีอาวุธร้ายแรง เช่น มีด หรือปืน
ไม่ควรต่อสู้ ควรบอกว่ายอมแล้ว เพื่อหน่วงเวลาไว้

10. หากคนร้ายปล่อยมือ ให้รีบสูดหายใจเอาแรงกลับมา
แล้วพยายามเจรจาต่อรอง เช่น ทำทีเป็นยอม บอกให้คนร้ายใจเย็นๆ

11. ต่อรองกับคนร้ายว่าอย่าข่มขืนเลย
ถ้ามีทรัพย์สิน เช่น สร้อย แหวน ให้ปลดออกมา
แล้วบอกว่าให้ไปเลย ปล่อยฉันไป จะไม่ไปแจ้งตำรวจ
เผื่อคนร้ายเปลี่ยนใจ

12. หากต่อรองไม่สำเร็จ ให้ทำทีเป็นยอม
แล้วบอกว่าสถานที่ไม่อำนวย ควรหาสถานที่ที่ดีกว่านี้ เพื่อหน่วงเวลา

13. ระหว่างเจรจา ควรบอกว่าเราเป็นกามโรค หรือมีประจำเดือน
แล้วบอกว่าจะให้ทรัพย์สินแทน โดยเอาบัตร ATM ให้ไป และบอกรหัสลวงไป
เผื่อคนร้ายจะไม่ข่มขืน

14. หากคนร้ายพยายามข่มขืนอีก ให้ทำทียอมจูบปาก
และรอจังหวะกัดลิ้นคนร้ายให้เร็วและแรงที่สุด  แล้วรีบดิ้นหลุดออกมา
มิฉะนั้น อาจถูกทำร้ายจนเสียชีวิต

15. หากคนร้ายให้ช่วยสำเร็จความใคร่
ให้ฉวยโอกาสขณะคนร้ายถอดกางเกง แล้วเตะผ่าหมากคนร้ายให้เร็วและแรง แล้วรีบวิ่งหนี

6. หากถูกคนร้ายกดทับตัวอยู่ หากเป็นบริเวณป่าหรือพื้นดิน
ให้เอากิ่งไม้ หรือปากกา ที่ซ่อนไว้ทิ่มตาคนร้าย แล้วรีบวิ่งหนี
หรือถ้าเป็นพื้นทราย ให้กำทรายขว้างใส่ดวงตาคนร้ายในระยะประชิด ให้เข้าตาคนร้าย แล้วรีบวิ่งหนี

17. หากทำทุกอย่างแล้วยังถูกข่มขืน ก็ขอให้รักษาชีวิตเอาไว้
เพื่อไปแจ้งความให้ตำรวจตามจับกุมคนร้ายมารับโทษภายหลัง

18. หากที่เกิดเหตุเป็นห้องพักเรา
เราควรซ่อนอาวุธไว้ในจุดใกล้ตัว มือเอื้อมถึง สามารถหยิบมาใช้ได้
และใช้การเจรจาต่อรองหน่วงเวลา เพื่อให้คนร้ายตายใจ เช่น
บอกว่าควรใส่ถุงยางอนามัยก่อน เดี๋ยวจะไปหยิบให้
แล้วหากมีโอกาสให้รีบวิ่งเข้าห้องน้ำ ล็อกประตูขังตัวเองไว้ แล้วตะโกนว่าไฟไหม้ๆ

19. อย่ารอให้เกิดเหตุการณ์เลยครับ
หากมีเวลาควรไปเข้าคอร์สเรียนการต่อสู้ป้องกันตัวเอาไว้บ้าง
เพื่อเอาตัวรอดยามคับขัน ผ่อนหนักให้เป็นเบาได้

ขอให้เพื่อนหญิงทุกท่านโชคดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่