....... ถ้าคสช. จะคืนความสุขให้ประชาชน คงต้องเรียก ปลัดกระทรวงสาธารณสุขมาดื่มกาแฟ ที่บก ทบ.สักหน่อยแล้ว.......

.

ขอร้องเถอะครับ..ที่ผ่านมา ทั่นปลัดกระทรวงฯนี้จะทำอะไร เข้าข้างใคร ประชาชนอย่างผมก็ไม่ว่าเพราะถือว่าเป็นสิทธิที่จะเคลื่อนไหวทางการเมือง

ไม่มีรุ่นพี่ รุ่นน้อง และไม่เคยเอาสถาบันฯเข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด

แต่คราวนี้เห็นทีจะไม่ไหวแล้วละครับ...

ท่านเสนออะไรออกมาได้อย่างไร ให้ประชาชนร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาล 30-50% มิฉะนั้นจะล้มละลาย โดยที่ไม่ยอมเรียกประชุมไม่หารือร่วมกับสปสช. ( สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ )เสียก่อน..แต่เล่นมุบมิบเสนอ คสช โดยตรง...

แล้วท่านทราบมั้ยว่า ไอ้ข้อเสนอที่ว่าน่ะมีผลกระทบต่อประชาชนอย่างไร ประชาชนที่ยากไร้เขาเบิกจ่ายยามะเร็ง-ยารักษาไวรัสตับอักเสบซีก็ไม่ได้..

มันจะเกินไปแล้วน่ะครับ..


เผยปลัด สธ.เสนอ คสช.บังคับประชาชนร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาล 30-50% ไม่ยอมเรียกประชุม สปสช. ทำให้ประชาชนเบิกจ่ายยามะเร็ง-ยารักษาไวรัสตับอักเสบซีไม่ได้

11 ก.ค. 2557 ตามที่ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ทำเรื่องเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ประชาชนต้องร่วมจ่ายในระบบหลักประกันสุขภาพ 30-50% โดยเมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้นำเสนอประเด็นนี้กับ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองหัวหน้า คสช. ด้านสังคมจิตวิทยา ในการเข้าตรวจเยี่ยมกระทรวงสาธารณสุข และระหว่างนี้ ปลัด สธ.ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไม่เรียกประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งไม่มีการประชุมมาแล้ว 2 เดือน
 
นายนิมิตร์ เทียนอุดม กรรมการระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เห็นว่า การที่ สธ.ได้นำเสนอ คสช.ให้ประชาชนต้องร่วมจ่าย (co-pay) ในอัตรา 30-50% โดยให้เหตุผลว่า ถ้าไม่ทำอย่างนี้จะทำให้ระบบล้มละลาย ซึ่งนี่เป็นการให้ข้อมูลที่ผิดมาก
 
“การที่สธ.บอกว่าระบบหลักประกันสุขภาพจะอยู่ไม่ได้ เพราะใช้เงินเยอะ ไม่จริง เพราะรัฐจ่ายเพื่อสุขภาพเพียง 7% เท่านั้น ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มมาก ทั้งช่วยลดความยากจนในครัวเรือนได้ ซึ่งระบบหลักประกันสุขภาพของไทยได้รับการยกย่องจากนานาชาติมาโดยตลอดว่า มีประสิทธิภาพในการใช้งบประมาณที่ไม่มากแต่สามารถช่วยประชาชนให้พ้นความยากจนได้จริง ถ้ารัฐจะผลักภาระตรงนี้ ทหารเกณฑ์ที่ใช้บัตรทองก็ต้องมาแบกรับด้วย”
 

สำหรับการที่ปลัด สธ.ไม่เรียกประชุมบอร์ด สปสช.เป็นเดือนที่ 2 แล้วนั้น กรรมการหลักประกันสุขภาพระบุว่าทำให้ไม่สามารถอนุมัติสิทธิประโยชน์ใหม่ๆ ได้ ทำให้ผู้ป่วยเสียโอกาส
 
“ตอนนี้ยารักษาไวรัสตับอักเสบซี ก็ยังไม่ได้อนุมัติ ทำให้ผู้ป่วยเสียโอกาส ถ้าไม่ได้ยาก็พัฒนากลายไปเป็นมะเร็งตับ ค่ารักษาก็แพงอีก นี่เป็นความทุกข์ แต่ยังไม่ประชุมบอร์ดกว่า 2 เดือนแล้ว บอร์ดจะประชุมได้ ประธานต้องเรียก ก็ไปดูแล้วกันว่าใครเป็นประธาน แล้วทำไมถึงไม่เรียกประชุมบอร์ดเสียที ตรงนี้อยากฝากไปถึง คสช.ที่พูดตลอดเวลาว่าเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะ และวางรากฐาน แต่ตอนนี้เรื่องปฏิรูประบบสาธารณสุขยังไม่เห็นทิศทางที่ชัดเจน และไม่เคยมีข้อเสนอที่มาจากการมีส่วนร่วมของประชาชน” นายนิมิตร์กล่าว
 

ทั้งนี้ รายการบัญชียา จ.2 ที่คณะกรรมการพัฒนาระบบยาได้อนุมัติแล้ว และอยู่ระหว่างรอบอร์ดสปสช.พิจารณาเข้าระบบให้ผู้ป่วยเบิกจ่ายได้นั้น ประกอบไปด้วย ยารักษามะเร็งเต้านมในระยะเริ่มแรก Tastuzumab, ยารักษาไวรัสตับอักเสบซี Peginterferon, ยารักษามะเร็งเม็ดเลือด Nilotinib, ยารักษามะเร็งเม็ดเลือด Dasatinib และยากำพร้า Dacarbazine ที่ใช้รักษา มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กิน (Hodgkin’s disease)
 
“ที่ผ่านมา เคยมีมติบอร์ดว่า เมื่อคณะกรรมการบัญชียาหลักอนุมัติไปแล้วระหว่าง รอประกาศ ให้สามารถเบิกจ่ายได้เลย ดังนั้น สำนักงาน สปสช.ควรมีความกล้าหาญทำตามมติบอร์ด อย่าไปใช้ข้ออ้างนี้ในการไม่ให้ประชาชนใช้สิทธิ อย่าไปยอมให้ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขจับประชนเป็นตัวประกัน”



แย่แย่แย่แย่แย่

ที่มา พร้อมภาพรายงานการประชุม

http://prachatai.com/journal/2014/07/54536


++++++++++ Sound of Silence  ++++++++++

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่