(บางส่วน)
[๑๒๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็ภิกษุเป็นผู้เพ่งพินิจโดยวิธี ๓ ประการ เป็นอย่างไร?
ภิกษุในธรรมวินัยนี้
ย่อมเพ่งพินิจ
โดยความเป็นธาตุประการหนึ่ง
โดยความเป็นอายตนะประการหนึ่ง
โดยความเป็นปฏิจจสมุปบาทประการหนึ่ง.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อย่างนี้แล ภิกษุย่อมเป็นผู้เพ่งพินิจโดยวิธี ๓ ประการ.
ภิกษุฉลาดในฐานะ ๗ ประการ ผู้เพ่งพินิจโดยวิธี ๓ ประการ เราเรียกว่า ยอดบุรุษ ผู้เสร็จกิจ อยู่จบพรหมจรรย์ในธรรมวินัยนี้.
-------------------
สัตตัฏฐานสูตร
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๗ บรรทัดที่ ๑๓๗๙ - ๑๔๔๘. หน้าที่ ๖๑ - ๖๓.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=17&A=1379&Z=1448&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=17&i=118
ผู้เพ่งพินิจโดยวิธี ๓ ประการ เราเรียกว่า ยอดบุรุษ ผู้เสร็จกิจ อยู่จบพรหมจรรย์ในธรรมวินัยนี้
[๑๒๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็ภิกษุเป็นผู้เพ่งพินิจโดยวิธี ๓ ประการ เป็นอย่างไร?
ภิกษุในธรรมวินัยนี้
ย่อมเพ่งพินิจ
โดยความเป็นธาตุประการหนึ่ง
โดยความเป็นอายตนะประการหนึ่ง
โดยความเป็นปฏิจจสมุปบาทประการหนึ่ง.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อย่างนี้แล ภิกษุย่อมเป็นผู้เพ่งพินิจโดยวิธี ๓ ประการ.
ภิกษุฉลาดในฐานะ ๗ ประการ ผู้เพ่งพินิจโดยวิธี ๓ ประการ เราเรียกว่า ยอดบุรุษ ผู้เสร็จกิจ อยู่จบพรหมจรรย์ในธรรมวินัยนี้.
-------------------
สัตตัฏฐานสูตร
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๗ บรรทัดที่ ๑๓๗๙ - ๑๔๔๘. หน้าที่ ๖๑ - ๖๓.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=17&A=1379&Z=1448&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=17&i=118