บอกกล่าว : เรื่องเหล่านี้ฟังมาจากคนที่มีโอกาสได้ไปอยู่ในประเทศเหล่านั้น ไม่มีงานวิชาการอ้างอิงนะครับ
---------------
ผมว่าหลายท่านคงรู้กันแล้ว แต่หลายท่านคงยังไม่รู้
- กรณีญี่ปุ่น
คนญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องบ้างานมากๆ ยิ่งช่วงหลังแพ้สงครามโลกใหม่ๆ คนญี่ปุ่นยุคนั้นยิ่งทำงานหนักเพื่อยกระดับทั้งชีวิตตัวเองและสร้างชาติขึ้นมาใหม่ เมื่อบวกกับค่านิยมที่ ผช ต้องทำงานคนเดียว ผญ เป็นแม่บ้านไม่ต้องทำงาน ขณะที่วัฒนธรรมองค์กรของเขา ถ้านายไม่กลับลูกน้องก็ห้ามกลับแม้จะหมดเวลางาน หรือถ้านายชวนไปสังสรรค์ ลูกน้องต้องยกโขยงตามไปด้วย
ทำงานก็หนัก เหนื่อย แถมมีสังสรรค์ กลับบ้านดึกดื่น แล้วจะมีเวลาที่ไหนทำลูก ( ญี่ปุ่นเริ่มประสบภาวะคนเกิดน้อย มาตั้งแต่ยุค 1970's ขณะที่ไทยในเวลานั้น คุณมีชัยเพิ่งเริ่มรณรงค์ให้คนไทยหัดคุมกำเนิดและวางแผนครอบครัว ) รัฐบาลญี่ปุ่นจึงอนุญาตให้มี AV ถูก กม. เพื่อหวังให้ลดความเครียด และหวังให้คู่แต่งงานดู จะได้เกิดอารมณ์ทำลูก
แต่ก็ไม่ได้ผลครับ คนญี่ปุ่นยังบ้างานเหมือนเดิม แต่ผลของ AV ญี่ปุ่น มาตกอยู่กับประเทศไทยของเรา เพราะ ผช ไทยชอบกันมาก ถึงขนาดมโนว่าอยากมี sex กับสาวญี่ปุ่น แถมเข้าใจว่าคนญี่ปุ่นต้องเก่งเรื่องนี้มากแน่ๆ ( ฟังจากคนที่ทำงานกับคนญี่ปุ่น เขาบอกว่าคนญี่ปุ่นใฝ่ในเรื่องพวกนี้น้อยกว่าคนไทยเรา )
---------------
- กรณียุโรป
อันนี้จะเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง สังคมเขามีคำว่า Free Sex ที่คนไทยมักมองในแง่ลบ แต่ Free Sex ของเขาตั้งอยู่บนหลัก "สิทธิเสรีภาพ" ด้านหนึ่ง เมื่อตนยังโสด ตนอาจมี sex กับใครก็ได้ บนหลักที่ต้องป้องกัน ( safe sex ) ดังนั้นการมี sex แบบ one night stand ไม่ใช่เรื่องแปลก ขอให้เป็นการยินยอม ( คำๆ นี้สำคัญมาก ฝรั่งจะสอนตั้งแต่เด็กๆ แม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ อย่าง "การถูกเนื้อต้องตัว" ที่จะทำไม่ได้เลยหากเจ้าตัวไม่ยินยอม )
แต่ ( ย้ำว่าแต่ ) ฝรั่งจะถือมากเรื่อง "คำมั่นสัญญา" ถ้าคุณมีแฟนเป็นตัวเป็นตน คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะไปกิ๊กๆ กั๊กๆ กับคนอื่นอีก ( แม้กระทั่งไปเที่ยวโสเภณีก็ไม่ได้ ) จะมาทำแบบชายไทย เป็นขุนแผนหลายเมีย สังคมเขาไม่ยอมรับแน่ๆ
--------------
อีกเรื่องที่น่าสนใจ มีผู้ตั้งทฤษฎีว่า อากาศหนาวเย็นไม่ได้กระตุ้นให้คนอยากมี sex ( จริงหรือเปล่า อันนี้คงต้องฝากนักวิทย์ฯ ตอบด้วย ) ตรงกันข้ามกลับทำให้คนไม่อยากมีอีกต่างหาก
ตรงกันข้ามกับประเทศโซนอบอุ่น - ร้อนไม่มาก ( เช่นโซนยุโรปใต้ หรือประเทศไทยและอาเซียน หรือโซนละตินอเมริกา ) อากาศกำลังดี ไม่หนาวเหน็บเกินไป ไม่อบอ้าวเกินไป มีเรื่องเล่ามากมาย บอกว่าหน้าหนาวของไทย คือสวรรค์ของฝรั่ง เพราะสำหรับพวกเขาแล้ว อากาศที่คนไทยบอกหนาว ฝรั่งจะบอกว่าเย็นสบายกำลังดี
แน่นอน ว่ากันว่าอากาศแบบเรานี่แหละ กระตุ้นอารมณ์อยากมี sex สุดๆ แถมสังคมไทย ก็ไม่ได้บ้างานแบบญี่ปุ่น คนไทยจึงมีเวลาเหลือเฟือที่จะหมกมุ่นกับกามารมณ์ ( ส่วนใครจะหมกมุ่นแล้วก่อปัญหาหรือไม่ ก็แล้วแต่สำนึกของแต่ละคน เช่น ผช ที่แม้จะเจ้าชู้ จีบสาวไปทั่ว แต่ก็ใส่ถุงยางทุกครั้ง และมิได้บังคับข่มขืนใคร แบบนี้ย่อมไม่ก่อปัญหาให้สังคม )
พึงมีข้อสังเกตอย่างหนึ่ง ในอาเซียน 10 ชาติของเรา มีเพียงไทยกับสิงคโปร์ ที่รัฐบาลเริ่มกังวลกับปัญหาคนเกิดน้อย ส่วนอีก 8 ชาติที่เหลือ การเกิดของประชากรยังถือว่ามาก ( ฟิลิปปินส์น่าห่วงสุด แม้ ปชก. จะน้อยกว่าอินโดนีเซีย แต่การพุ่งขึ้นทางจำนวนนั้นก้าวกระโดดกว่ามาก )
สิงคโปร์นั้นเพราะคนบ้างาน + ค่าครองชีพสูง ส่วนไทยเพราะคนคุ้นชินกับการคุมกำเนิด เพียงแต่เรามีปัญหามากกว่าเขา เพราะเรามีเวลาเหลือเฟือที่จะหมกมุ่นเรื่องใต้สะดือ และคนไทยยังมองว่าชายที่มีหญิงห้อมล้อมเยอะๆ นั่นเก่ง เจ๋ง
----------------
สรุป :
นี่อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งก็ได้ ที่ทำให้บ้านเราขึ้นชื่อเรื่องกามารมณ์
- คนไทยมีเวลาว่างเหลือเฟือที่จะหาความสำราญทางเพศ ( แม้จะเป็นแบบไม่เปิดเผย ลับๆ ล่อๆ ประเภทชู้ กิ๊ก ก็ตาม ) เพราะวัฒนธรรมการทำงานแบบไทยๆ ไม่ได้หนักหน่วงอย่างญี่ปุ่น เกาหลีใต้ หรือสิงคโปร์ คนไทยไม่ได้บ้างานขนาดนั้น
- ชายไทยถูกค่านิยมกำหนดให้ต้องผ่านประสบการณ์บนเตียงมากๆ จึงจะสมชายชาตรี ( ระยะหลังๆ จึงเกิดปรากฎการณ์ย้อนศร ที่หญิงไทยเริ่มกร้านเรื่องนี้มากขึ้น เข้าใจว่าเพราะชายหญิงไทยเท่าเทียมกันมากกว่าแต่ก่อน หญิงไทยเรียนสูง ทำงานดีๆ ไม่ต้องพึ่งพาผู้ชายเลี้ยงดู และการแพทย์ก็ก้าวหน้าพอที่จะหาวิธีป้องกันโรคและการตั้งครรภ์ในราคาถูก นั่นคือถุงยางอนามัย ดังนั้นถ้าชายล่าหญิงได้ หญิงก็ล่าชายที่เธอหมายปองได้เช่นกัน )
- สังคมไทยมีความลักลั่นแปลกๆ บางอย่าง แม้การมี sex ในไทยจะง่ายแสนง่าย แต่คนไทยจะไม่ยอมรับ ไม่เปิดเผยมันแบบตรงไปตรงมา เหมือน free sex ของฝรั่ง ทำให้คนไทยลึกๆ แล้วอึดอัด และมองเป็นเรื่องตื่นเต้น น่ารู้น่าลอง ขณะที่ฝรั่ง เขาคุ้นเคยกับมันแล้ว เพราะการมี sex ไม่ใช่เรื่องน่าอาย ขอเพียงเคารพสิทธิส่วนบุคคลของกันและกัน และไม่ละเมิดสัญญากับคู่ครอง ไปกินเล็กกินน้อยก็พอ หรือเรื่องของ AV ที่แม้จะไม่ถูก กม. แต่คนไทยก็หามาครอบครองได้ง่ายมาก ทั้งของยุโรปและญี่ปุ่น ( แต่ถึงหาง่ายจนใครๆ ก็รู้ว่าจะหาเที่ยวอย่างว่าได้ที่ไหน หรือหาหนัง AV ได้ที่ไหน คนไทยเราจะไม่ยอมรับว่ามันมีอยู่จริง )
- ภูมิอากาศที่อำนวย เมืองไทยไม่หนาวหรือร้อนจนเกินไป ทำให้คนไทยก็ดี ต่างชาติก็ดี เมื่อสัมผัสกับอากาศของเรา จึงรู้สึกกระชุ่มกระชวย อยากมี sex ในที่สุด
-------------
ย้ำว่าฟังคนที่เคยไป ตปท. เล่า + คิดเองนะครับ
ดังนั้นอยากถามทุกท่านว่า เพราะแบบนี้หรือเปล่า สังคมไทยจึงค่อนข้างหมกมุ่นกับเรื่องนี้ จนเกิดปัญหาขึ้นบ่อยครั้ง
ปล. "ชายใดไม่เจ้าชู้ ก็เหมือนงูที่ไร้พิษ" ผมยังยืนยันค่านิยมนี้ของชายไทยครับ
เพราะแบบนี้หรือเปล่า? สังคมไทยถึงมีปัญหาเรื่องเพศ ขณะที่บางประเทศหนัง av และโสเภณีถูก กม. แต่ปัญหาน้อยมาก?
---------------
ผมว่าหลายท่านคงรู้กันแล้ว แต่หลายท่านคงยังไม่รู้
- กรณีญี่ปุ่น
คนญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องบ้างานมากๆ ยิ่งช่วงหลังแพ้สงครามโลกใหม่ๆ คนญี่ปุ่นยุคนั้นยิ่งทำงานหนักเพื่อยกระดับทั้งชีวิตตัวเองและสร้างชาติขึ้นมาใหม่ เมื่อบวกกับค่านิยมที่ ผช ต้องทำงานคนเดียว ผญ เป็นแม่บ้านไม่ต้องทำงาน ขณะที่วัฒนธรรมองค์กรของเขา ถ้านายไม่กลับลูกน้องก็ห้ามกลับแม้จะหมดเวลางาน หรือถ้านายชวนไปสังสรรค์ ลูกน้องต้องยกโขยงตามไปด้วย
ทำงานก็หนัก เหนื่อย แถมมีสังสรรค์ กลับบ้านดึกดื่น แล้วจะมีเวลาที่ไหนทำลูก ( ญี่ปุ่นเริ่มประสบภาวะคนเกิดน้อย มาตั้งแต่ยุค 1970's ขณะที่ไทยในเวลานั้น คุณมีชัยเพิ่งเริ่มรณรงค์ให้คนไทยหัดคุมกำเนิดและวางแผนครอบครัว ) รัฐบาลญี่ปุ่นจึงอนุญาตให้มี AV ถูก กม. เพื่อหวังให้ลดความเครียด และหวังให้คู่แต่งงานดู จะได้เกิดอารมณ์ทำลูก
แต่ก็ไม่ได้ผลครับ คนญี่ปุ่นยังบ้างานเหมือนเดิม แต่ผลของ AV ญี่ปุ่น มาตกอยู่กับประเทศไทยของเรา เพราะ ผช ไทยชอบกันมาก ถึงขนาดมโนว่าอยากมี sex กับสาวญี่ปุ่น แถมเข้าใจว่าคนญี่ปุ่นต้องเก่งเรื่องนี้มากแน่ๆ ( ฟังจากคนที่ทำงานกับคนญี่ปุ่น เขาบอกว่าคนญี่ปุ่นใฝ่ในเรื่องพวกนี้น้อยกว่าคนไทยเรา )
---------------
- กรณียุโรป
อันนี้จะเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง สังคมเขามีคำว่า Free Sex ที่คนไทยมักมองในแง่ลบ แต่ Free Sex ของเขาตั้งอยู่บนหลัก "สิทธิเสรีภาพ" ด้านหนึ่ง เมื่อตนยังโสด ตนอาจมี sex กับใครก็ได้ บนหลักที่ต้องป้องกัน ( safe sex ) ดังนั้นการมี sex แบบ one night stand ไม่ใช่เรื่องแปลก ขอให้เป็นการยินยอม ( คำๆ นี้สำคัญมาก ฝรั่งจะสอนตั้งแต่เด็กๆ แม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ อย่าง "การถูกเนื้อต้องตัว" ที่จะทำไม่ได้เลยหากเจ้าตัวไม่ยินยอม )
แต่ ( ย้ำว่าแต่ ) ฝรั่งจะถือมากเรื่อง "คำมั่นสัญญา" ถ้าคุณมีแฟนเป็นตัวเป็นตน คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะไปกิ๊กๆ กั๊กๆ กับคนอื่นอีก ( แม้กระทั่งไปเที่ยวโสเภณีก็ไม่ได้ ) จะมาทำแบบชายไทย เป็นขุนแผนหลายเมีย สังคมเขาไม่ยอมรับแน่ๆ
--------------
อีกเรื่องที่น่าสนใจ มีผู้ตั้งทฤษฎีว่า อากาศหนาวเย็นไม่ได้กระตุ้นให้คนอยากมี sex ( จริงหรือเปล่า อันนี้คงต้องฝากนักวิทย์ฯ ตอบด้วย ) ตรงกันข้ามกลับทำให้คนไม่อยากมีอีกต่างหาก
ตรงกันข้ามกับประเทศโซนอบอุ่น - ร้อนไม่มาก ( เช่นโซนยุโรปใต้ หรือประเทศไทยและอาเซียน หรือโซนละตินอเมริกา ) อากาศกำลังดี ไม่หนาวเหน็บเกินไป ไม่อบอ้าวเกินไป มีเรื่องเล่ามากมาย บอกว่าหน้าหนาวของไทย คือสวรรค์ของฝรั่ง เพราะสำหรับพวกเขาแล้ว อากาศที่คนไทยบอกหนาว ฝรั่งจะบอกว่าเย็นสบายกำลังดี
แน่นอน ว่ากันว่าอากาศแบบเรานี่แหละ กระตุ้นอารมณ์อยากมี sex สุดๆ แถมสังคมไทย ก็ไม่ได้บ้างานแบบญี่ปุ่น คนไทยจึงมีเวลาเหลือเฟือที่จะหมกมุ่นกับกามารมณ์ ( ส่วนใครจะหมกมุ่นแล้วก่อปัญหาหรือไม่ ก็แล้วแต่สำนึกของแต่ละคน เช่น ผช ที่แม้จะเจ้าชู้ จีบสาวไปทั่ว แต่ก็ใส่ถุงยางทุกครั้ง และมิได้บังคับข่มขืนใคร แบบนี้ย่อมไม่ก่อปัญหาให้สังคม )
พึงมีข้อสังเกตอย่างหนึ่ง ในอาเซียน 10 ชาติของเรา มีเพียงไทยกับสิงคโปร์ ที่รัฐบาลเริ่มกังวลกับปัญหาคนเกิดน้อย ส่วนอีก 8 ชาติที่เหลือ การเกิดของประชากรยังถือว่ามาก ( ฟิลิปปินส์น่าห่วงสุด แม้ ปชก. จะน้อยกว่าอินโดนีเซีย แต่การพุ่งขึ้นทางจำนวนนั้นก้าวกระโดดกว่ามาก )
สิงคโปร์นั้นเพราะคนบ้างาน + ค่าครองชีพสูง ส่วนไทยเพราะคนคุ้นชินกับการคุมกำเนิด เพียงแต่เรามีปัญหามากกว่าเขา เพราะเรามีเวลาเหลือเฟือที่จะหมกมุ่นเรื่องใต้สะดือ และคนไทยยังมองว่าชายที่มีหญิงห้อมล้อมเยอะๆ นั่นเก่ง เจ๋ง
----------------
สรุป :
นี่อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งก็ได้ ที่ทำให้บ้านเราขึ้นชื่อเรื่องกามารมณ์
- คนไทยมีเวลาว่างเหลือเฟือที่จะหาความสำราญทางเพศ ( แม้จะเป็นแบบไม่เปิดเผย ลับๆ ล่อๆ ประเภทชู้ กิ๊ก ก็ตาม ) เพราะวัฒนธรรมการทำงานแบบไทยๆ ไม่ได้หนักหน่วงอย่างญี่ปุ่น เกาหลีใต้ หรือสิงคโปร์ คนไทยไม่ได้บ้างานขนาดนั้น
- ชายไทยถูกค่านิยมกำหนดให้ต้องผ่านประสบการณ์บนเตียงมากๆ จึงจะสมชายชาตรี ( ระยะหลังๆ จึงเกิดปรากฎการณ์ย้อนศร ที่หญิงไทยเริ่มกร้านเรื่องนี้มากขึ้น เข้าใจว่าเพราะชายหญิงไทยเท่าเทียมกันมากกว่าแต่ก่อน หญิงไทยเรียนสูง ทำงานดีๆ ไม่ต้องพึ่งพาผู้ชายเลี้ยงดู และการแพทย์ก็ก้าวหน้าพอที่จะหาวิธีป้องกันโรคและการตั้งครรภ์ในราคาถูก นั่นคือถุงยางอนามัย ดังนั้นถ้าชายล่าหญิงได้ หญิงก็ล่าชายที่เธอหมายปองได้เช่นกัน )
- สังคมไทยมีความลักลั่นแปลกๆ บางอย่าง แม้การมี sex ในไทยจะง่ายแสนง่าย แต่คนไทยจะไม่ยอมรับ ไม่เปิดเผยมันแบบตรงไปตรงมา เหมือน free sex ของฝรั่ง ทำให้คนไทยลึกๆ แล้วอึดอัด และมองเป็นเรื่องตื่นเต้น น่ารู้น่าลอง ขณะที่ฝรั่ง เขาคุ้นเคยกับมันแล้ว เพราะการมี sex ไม่ใช่เรื่องน่าอาย ขอเพียงเคารพสิทธิส่วนบุคคลของกันและกัน และไม่ละเมิดสัญญากับคู่ครอง ไปกินเล็กกินน้อยก็พอ หรือเรื่องของ AV ที่แม้จะไม่ถูก กม. แต่คนไทยก็หามาครอบครองได้ง่ายมาก ทั้งของยุโรปและญี่ปุ่น ( แต่ถึงหาง่ายจนใครๆ ก็รู้ว่าจะหาเที่ยวอย่างว่าได้ที่ไหน หรือหาหนัง AV ได้ที่ไหน คนไทยเราจะไม่ยอมรับว่ามันมีอยู่จริง )
- ภูมิอากาศที่อำนวย เมืองไทยไม่หนาวหรือร้อนจนเกินไป ทำให้คนไทยก็ดี ต่างชาติก็ดี เมื่อสัมผัสกับอากาศของเรา จึงรู้สึกกระชุ่มกระชวย อยากมี sex ในที่สุด
-------------
ย้ำว่าฟังคนที่เคยไป ตปท. เล่า + คิดเองนะครับ
ดังนั้นอยากถามทุกท่านว่า เพราะแบบนี้หรือเปล่า สังคมไทยจึงค่อนข้างหมกมุ่นกับเรื่องนี้ จนเกิดปัญหาขึ้นบ่อยครั้ง
ปล. "ชายใดไม่เจ้าชู้ ก็เหมือนงูที่ไร้พิษ" ผมยังยืนยันค่านิยมนี้ของชายไทยครับ