สวัสดีครับ
อาทิตย์นี้ ผมขอปล่อยรีวิว CR ที่ผมดองไว้นานมาก ตั้งแต่เดือนมีนาคมแน่ะ (อาทิตย์นี้ ผมปล่อยรีวิวติดๆกัน 2อัน หวังว่า ยังคงไม่เบื่อผมน๊า)
ตอนแรก กะจะไม่ทำรีวิวแล้ว เพราะว่าไม่ค่อยมีเวลาว่างเท่าไหร่ ช่วงนี้งานหนักเหลือเกิน
จนกระทั้ง เมื่อไม่กี่วันนี้ สายการบิน TAAX ออกโปรเปิดตัว บินตรง ดอนเมือง-ญี่ปุ่น
ผมเลยอยากจะเกาะกระแสกับเค้าบ้าง จึงทำรีวิวนี้ขึ้นมา เผื่อใครจองตั๋วไปโอซาก้าแล้วมีงบจำกัด ไม่รู้จะไปไหนดี ตามรอยผมได้นะ
หวังว่า รีวิวนี้ จะเป็นแรงบันดานใจ เป็นไอเดีย ไปเที่ยวแบบ backpacker เน้นประหยัดไว้ก่อน (แต่ก็ไม่ได้อดอยากนะครับ)
เกริ่นนำพอแล้ว ขอเริ่มเดินทางเลยละกันนะครับ
พาสปอร์ต
คนไทยไปญี่ปุ่น
สรุปง่ายๆ คือ พาสปอร์ตประเภททั่วไป ของคนไทย สามารถไปญี่ปุ่นได้ 15วัน ไม่ต้องใช้วีซ่า พาสปอร์ตต้องมีอายุถึงวันที่เดินทางเข้าญี่ปุ่น
และต้องมีตั๋วขากลับหรือตั๋วออกไปประเทศที่3
คนไทยไปมาเลเซีย
คนไทยไปมาเลเชียได้ สูงสุด 30วัน ไม่ต้องใช้วีซ่า แต่พาสปอร์ตต้องมีอายุ 6เดือน นับจากที่วันเดินทางเข้า
ที่มา
http://www.staralliance.com/en/services/visa-and-health/
งานเข้าครับ เพราะพาสปอร์ตผมมีอายุ4เดือนกว่า ( ณ ตอนนั้น) ถึงจะเข้าญี่ปุ่นได้ แต่ผมเข้ามาเลเชียไม่ได้ครับ
ผมไม่ได้จองตั๋วเป็น Fly-Thru ด้วย นั้นแปลว่า ผมต้องเดินทาง 2ช่วง คือ เช็คอินที่ดอนเมือง ไฟล์ท AK ออก ตม.ไทย เข้า ตม. มาเลเชีย
เช็คอินใหม่ ที่ LCCT ในไฟล์ทD7 ออก ตม. มาเลเชีย เข้า ตม. ญี่ปุ่น
ถึงจุดประสงค์ผมจะแค่ไป Transit แต่เงื่อนไขของเเอร์เอเชียคือ Point to Point ฉะนั้น เราต้องปฏิบัติให้ถูกต้องจะดีกว่า
ถ้าหากโดน ตม. มาเลเชียส่งกลับดอนเมือง ไม่ได้ไปญี่ปุ่น เสียทั้งเงิน เสียทั้งหน้า โดนที่ทำงานประจานแน่ครับ ไม่คุ้ม
กว่าจะมาเป็นทริปนี้ อุปสรรคผมเยอะมากครับ อันแรกคือ ต้องไปทำพาสปอร์ตใหม่ ราวๆ2สัปดาห์ก่อนออกเดินทาง
(ถ้าถามว่า ทำไม ถึงรอไปทำเวลาจวนตัวขนาดนั้น คือ ผมรออ่ะครับ เผื่อเหตุการณ์จะดีขึ้น จะได้ไปทำที่กงสุลที่แจ้งวัฒนะ)
ถ้าใครยังจำได้ ช่วงราวๆปลายกุมภาพันธ์ คนที่อยากจะทำพาสปอร์ต จะต้องไปทำที่เซ็นทรัลบางนา โลตัสปิ่นเกล้า และศูนย์สิริกิตย์
ผมเลือกที่จะไปทำที่ศูนย์สิริกิตย์ครับ จำได้ คืนนั้น เลิกงานกะดึก 5ทุ่ม เสร็จแล้วไปกินส้มตำแถวๆห้วยขวาง และก็ไปต่อคิวทำพาสปอร์ตตอนตี1
ทายสิ ผมได้คิวเท่าไหร่ ผมได้คิวที่ 3ครับ นั่งพื้น ตบยุงรอ ตรงทางเข้า ด้านหลังศูนย์ฯ ได้ทำจริง11โมงครับ นี้ขนาดคิวที่3มาแต่ตี1นะ
ตอนนั้น ทรหด และก็สงสารตัวเองมากครับ
[CR] (CR) Osaka/Kyoto/Kobe/Koya San ไปเที่ยวญี่ปุ่นแบบประหยัดกันเถอะครับ 12,000บาท ก็เอาอยู่ #1
อาทิตย์นี้ ผมขอปล่อยรีวิว CR ที่ผมดองไว้นานมาก ตั้งแต่เดือนมีนาคมแน่ะ (อาทิตย์นี้ ผมปล่อยรีวิวติดๆกัน 2อัน หวังว่า ยังคงไม่เบื่อผมน๊า)
ตอนแรก กะจะไม่ทำรีวิวแล้ว เพราะว่าไม่ค่อยมีเวลาว่างเท่าไหร่ ช่วงนี้งานหนักเหลือเกิน
จนกระทั้ง เมื่อไม่กี่วันนี้ สายการบิน TAAX ออกโปรเปิดตัว บินตรง ดอนเมือง-ญี่ปุ่น
ผมเลยอยากจะเกาะกระแสกับเค้าบ้าง จึงทำรีวิวนี้ขึ้นมา เผื่อใครจองตั๋วไปโอซาก้าแล้วมีงบจำกัด ไม่รู้จะไปไหนดี ตามรอยผมได้นะ
หวังว่า รีวิวนี้ จะเป็นแรงบันดานใจ เป็นไอเดีย ไปเที่ยวแบบ backpacker เน้นประหยัดไว้ก่อน (แต่ก็ไม่ได้อดอยากนะครับ)
เกริ่นนำพอแล้ว ขอเริ่มเดินทางเลยละกันนะครับ
พาสปอร์ต
คนไทยไปญี่ปุ่น
สรุปง่ายๆ คือ พาสปอร์ตประเภททั่วไป ของคนไทย สามารถไปญี่ปุ่นได้ 15วัน ไม่ต้องใช้วีซ่า พาสปอร์ตต้องมีอายุถึงวันที่เดินทางเข้าญี่ปุ่น
และต้องมีตั๋วขากลับหรือตั๋วออกไปประเทศที่3
คนไทยไปมาเลเซีย
คนไทยไปมาเลเชียได้ สูงสุด 30วัน ไม่ต้องใช้วีซ่า แต่พาสปอร์ตต้องมีอายุ 6เดือน นับจากที่วันเดินทางเข้า
ที่มา http://www.staralliance.com/en/services/visa-and-health/
งานเข้าครับ เพราะพาสปอร์ตผมมีอายุ4เดือนกว่า ( ณ ตอนนั้น) ถึงจะเข้าญี่ปุ่นได้ แต่ผมเข้ามาเลเชียไม่ได้ครับ
ผมไม่ได้จองตั๋วเป็น Fly-Thru ด้วย นั้นแปลว่า ผมต้องเดินทาง 2ช่วง คือ เช็คอินที่ดอนเมือง ไฟล์ท AK ออก ตม.ไทย เข้า ตม. มาเลเชีย
เช็คอินใหม่ ที่ LCCT ในไฟล์ทD7 ออก ตม. มาเลเชีย เข้า ตม. ญี่ปุ่น
ถึงจุดประสงค์ผมจะแค่ไป Transit แต่เงื่อนไขของเเอร์เอเชียคือ Point to Point ฉะนั้น เราต้องปฏิบัติให้ถูกต้องจะดีกว่า
ถ้าหากโดน ตม. มาเลเชียส่งกลับดอนเมือง ไม่ได้ไปญี่ปุ่น เสียทั้งเงิน เสียทั้งหน้า โดนที่ทำงานประจานแน่ครับ ไม่คุ้ม
กว่าจะมาเป็นทริปนี้ อุปสรรคผมเยอะมากครับ อันแรกคือ ต้องไปทำพาสปอร์ตใหม่ ราวๆ2สัปดาห์ก่อนออกเดินทาง
(ถ้าถามว่า ทำไม ถึงรอไปทำเวลาจวนตัวขนาดนั้น คือ ผมรออ่ะครับ เผื่อเหตุการณ์จะดีขึ้น จะได้ไปทำที่กงสุลที่แจ้งวัฒนะ)
ถ้าใครยังจำได้ ช่วงราวๆปลายกุมภาพันธ์ คนที่อยากจะทำพาสปอร์ต จะต้องไปทำที่เซ็นทรัลบางนา โลตัสปิ่นเกล้า และศูนย์สิริกิตย์
ผมเลือกที่จะไปทำที่ศูนย์สิริกิตย์ครับ จำได้ คืนนั้น เลิกงานกะดึก 5ทุ่ม เสร็จแล้วไปกินส้มตำแถวๆห้วยขวาง และก็ไปต่อคิวทำพาสปอร์ตตอนตี1
ทายสิ ผมได้คิวเท่าไหร่ ผมได้คิวที่ 3ครับ นั่งพื้น ตบยุงรอ ตรงทางเข้า ด้านหลังศูนย์ฯ ได้ทำจริง11โมงครับ นี้ขนาดคิวที่3มาแต่ตี1นะ
ตอนนั้น ทรหด และก็สงสารตัวเองมากครับ