ทำไมคนบ้านเราถึงถกเถียงกันด้วยเหตุและผลไม่ได้คะ พอความคิดเห็นไม่ตรงกัน กลายเป็นทะเลาะกันทุกที

กระทู้คำถาม
เรามีเพื่อนเป็นคนต่างชาติ เวลามีประเด็นอะไรให้ถกเถียงกัน นี่มันมาก เสนอแนะเหตุผล หาข้อมูลมาถกเถียงกัน

ทำงานกับเพื่อนร่วมงานต่างชาติ ในห้องประชุมเถียงกันเทียบตาย พอได้ข้อสรุป จบsessionก็ไปปาร์ตี้ต่อ

กับคนไทยนี่คุยกันแรกๆดี ผ่านไปห้านาที อารมณ์ล้วนๆ จบท้ายที่ทะเลาะกัน เกิดอคติยาวยันเรื่องส่วนตัว

เราอยากรู้ว่าสาเหตุอะไรที่ทำให้เป็นอย่างนั้นคะ วิถีหรือการปลูกฝังอะไรที่ทำให้เป็นแบบนี้
ทำอย่างไรถึงจะแก้ไขปัญหานี้ได้


ปล.งดคำตอบแบบเสียดสีประชดประชัดที่ไม่เกิดการแลกเปลี่ยนนะคะ จขกท.อยากรู้จริงๆว่าสาเหตุมันคืออะไร ลองมาแลกเปลี่ยนกันค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
เราว่าอาจจะเป็นที่วัฒนธรรมเราสอนให้ไม่โต้เถียงมั้งคะ เราถูกสอนให้เชื่อ ตอนเด็กๆมีอะไรก็สงสัย พอถามก็จะโดนว่า "ชอบย้อน" ถ้าการสนทนามีการโต้เถียง ทำให้ไม่สามารถรับมือได้ว่าควรจะโต้เถียงกันแบบไหน และส่วนมากคนที่โต้เถียงไม่เป็น เช่น ไม่ค่อยมีหลักฐานหรือจุดยืนหรือเหตุผลในหัวข้อนั้นๆ รู้แต่ว่า "ชั้นรู้สึกแบบนี้" เค้าจะเริ่มอารมณ์ขึ้น หงุดหงิด จนมุม โต้เถียงต่อไม่ได้ กลายมาเป็นการขึ้นเสียงหรือการใช้คำหยาบแทน การศึกษาและการเลี้ยงดูแบบให้คิดวิเคราะห์และการวางตัวและรับมือในการโต้เถียง น่าจะทำให้คนสังคมเรารู้จักการโต้เถียงได้

เราอยู่เมกาก็คุยกับเพื่อน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันตลอด เพื่อนที่สนิทที่สุด ก็เห็นเรื่องการเมืองไม่ตรงกับเราสักนิด แต่เราสองคนก็มีเหตุผลที่ต่างกัน ประสบการณ์ที่ต่างกัน จุดยืนที่ต่างกัน ก็ปล่อยไป ไม่ได้ด่ากัน

แต่คุยกับเพื่อนที่ไทย ต้องระวังค่ะ คุยไรไม่ได้ ถ้าเห็นไม่ตรงนี่มีโอกาสโดนด่าสูงมากกกไม่เอาไม่พูด
ความคิดเห็นที่ 5
จริงค่ะ  คนไทยถูกสอนมาตั้งแต่เล็กให้เชื่อฟังผู้ใหญ่ทุกประการ  ไม่ให้โต้แย้ง  เป็นการตัดความคิดสร้างสรรค์ ตัดความอยากรู้อยากเห็นของเด็ก  เลยไม่รู้จักใช้เหตุผลมาถกเถียงปัญหา

ในเมื่อถูกสอนมาอย่างนั้น พอโตขึ้นก็เลยกลายเป็นคนไม่มีเหตุผล ใช้แต่อารมณ์ ไม่ยอมรับฟังความเห็นของใคร  วุฒิปัญญาเลยคับแคบ  สังคมก็เลยเต็มไปด้วยคนที่มีวุฒิปัญญางอกง่อยตามๆ กันไป  หมุนเวียนอยู่อย่างนี้เรื่อยไปค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่