ข่าวสะเทือนขวัญคนไทยล่าสุด เรื่องการฆ่าข่มขื่นเด็กผู้หญิงบนรถไฟสร้างความโกรธแค้น
ให้กับหลายๆคน รวมถึงดิฉันด้วย จนเกิดกระแสเรียกร้องให้เพิ่มโทษข่มขืนให้ประหารชีวิตซะ
(แต่ในกรณีข่าวล่าสุดคือคดี "ฆาตกรรม" ซึ่งโทษสูงสุดก็คือประหารชีวิตอยู่แล้ว)

แต่ก่อนเราจะพูดเรื่องโทษทัณฑ์ ดิฉันว่าเรามีสิ่งสำคัญกว่าที่คนในสังคม
ควรให้ความสนใจและพูดคุยคือ การป้องกันและแก้ไขปัญหาค่ะ
ในกรณีล่าสุด เกิดคำถามขึ้นกับดิฉันมากมายว่า
มาตรฐานความปลอดภัยของ รฟท อยู่ที่ไหนคะ?
และนี่ไม่ใช่เหตุการณ์แรกด้วยเมื่อสิบปีก่อนก็เคยมี

และนี่เป็นความเห็นที่ดิฉันชื่นชอบและเห็นด้วยอย่างมาก
ที่สังคมควรจะตั้งคำถามเป็นสิ่งแรกค่ะ





และถ้าเรามองออกไปนอกเหนือจากเหตุการณ์นี้
บ้านเมืองเรามีมาตราการรักษาความปลอดภัยแก่ประชาชนอย่างไรบ้างคะ?
ไม่ว่าจะบนท้องถนน บนที่สาธารณะ บนขนส่งมวลชน หรืออะไรก็ตาม
ประชาชนอย่างเราอยากก้าวเท้าออกจากบ้านและกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยค่ะ
ดิฉันรู้ว่าคงปลอดอันตรายแบบ 100% ไม่ได้
แต่ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้เราแก้ไขและทำให้มันน้อยที่สุดได้ค่ะ

ดิฉันว่าตอนนี้สิ่งสำคัญที่ควรทำคือผลักดันและเรียกร้องให้เกิดการแก้ไข ปรับปรุง
และป้องกันเหตุร้ายนี้จะเกิดขึ้นอีกค่ะ ไม่ว่าจะทางกฏหมาย กระบวนการยุติธรรม
ตำรวจที่ต้องเอาจริงจัง องค์กรต่างๆที่ต้องรับผิดชอบ รวมถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่
ต้องถูกนำมาใช้อย่าง รอบด้าน เพื่อป้องกันเหตุการณ์แต่แรกค่ะ ไม่งั้นเราจะมีข่าวเศร้าสลดนี้เกิดขึ้นอีก

ทุกคนคะ ที่ผ่านมาเสียงของประชาชนนั้นอ่อนแอมากๆค่ะ ที่ผ่านมาเราเป็นประชาธิปไตย
แต่เรากลับไม่เคยส่งเสียงให้นักการเมืองเข้ามาแก้ปัญหาเหล่านี้ได้เลย นั่นเพราะพวกเรา
เองที่เพิกเฉยที่จะกดดัน ผลักดันให้นักการเมืองแก้ไขปัญหา ทั้งที่ความจริงแล้ว
นั่นคือประโยชน์ของประชาธิปไตยค่ะ และประโยชน์ของพวกเราค่ะ (ตอนนี้ คสช มีอำนาจแล้ว
แต่อยากให้ประชาชนช่วยกันผลักดันให้เกิดการแก้ไขอย่างรอบด้านค่ะ)

---

ทีนี้มีอีกเรื่องค่ะ ดิฉันเห็นคนมีชื่อเสียงหลายคนใช้สื่อโซเชี่ยลในการแสดงความเห็นว่า
โทษข่มขืนต้องประหาร (แต่ในกรณีล่าสุดเป็น ฆาตกรรมด้วยค่ะ)
นั้นดิฉันมีความเห็นว่ามันจะไม่เกิดประโยชน์ใดใดค่ะ ดิฉันยอมรับนะคะว่าเป็นฝ่าย
ต้องการให้ยกเลิกโทษประหารค่ะ แต่ทีนี้ขอชี้แจงเป็นข้อๆค่ะ

1. การยกเลิกโทษประหารต้องทำพร้อมกับการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ
รวมถึงองค์กรตำรวจที่ต้องจริงจังและโปร่งใสขึ้นในการพิทักษ์กฏหมาย
2. ขั้นตอนการอภัยโทษต้องชัดเจนเข้มงวดและมีขึ้นสำหรับคนที่เหมาะสมจริงๆเท่านั้น
3. การใช้โทษประหารไม่ได้ช่วยให้การก่ออาชกรรมลดน้อยลง หนำซ้ำยัง "เพิ่ม" อัตรา
การทำผิดแล้วฆ่าทิ้งมากขึ้นอีกด้วย
4. การประหารชีวิตนักโทษโดยที่ไม่ได้เกิดผลที่ดีขึ้น(นอกจากความสะใจ)เป็นการสิ้น
เปลืองทรัพยากรที่เรียกว่ามนุษย์อย่างไม่คุ้มค่าค่ะ กลับกันนักโทษในคุกสามารถทำงาน
ให้กับรัฐได้ด้วย
5. การประหารชีวิตจะทำให้ไม่สามารถเรียกคืนชีวิตได้หากเมื่อภายหลังพบว่าเป็นความผิด
พลาดของกระบวนการยุติธรรม
6. การขังคุกตลอดชีวิตสำหรับดิฉันดูน่ากลัวกว่าการประหารชีวิตค่ะ
7. เป็นเรื่องของหลักการในสิทธิมนุษยชนค่ะ และรัฐไม่ควรอย่างยิ่งที่จะพรากชีวิตประชาชน
ตนเองภายใต้ความถูกต้องของกฏหมายค่ะ
8. การแก้ปัญหาอย่างรอบด้านต่างหากที่จะช่วยลดเหตุร้ายลงได้

ที่จริงมันมีงานวิจัยที่ตอบโต้กันไปมาระหว่างกลุ่มสนับสนุนโทษประหาร
กลับกลุ่มต้องการยกเลิกโทษประหารนะคะ แต่ส่วนตัวไม่สามารถหามาอ้างอิงได้
เพราะนานแล้วเหมือนกันที่เคยอ่านค่ะ แต่โดยรวมคือการมีโทษประหาร
ไม่สามารถลดปัญหาการฆาตกรรมได้ค่ะ

ในกระทู้นี้ดิฉันมีเพียง 2 ประเด็นใหญ่ๆนี้เท่านั้นค่ะที่จะนำเสนอ คือ
1. สังคมต้องช่วยกันผลักดันให้มีการแก้ไขและป้องกันปัญหานี้ให้ลดน้อยลง
2. โทษประหารอาจไม่ช่วยให้อาชกรรมรุนแรงลดลง