ก่อนเกม: ดาวิด ลุยซ์ ศูนย์รวมกำลังใจของทีมชาติบราซิล

เราแปลข่าวมาหลายเรื่อง เพิ่งมาเริ่มเล่นก็จะวนๆอยู่กับข่าวเนมาร์ เพราะเป็นประเด็นอยู่
แต่ที่สุดแล้วที่ทำให้เราเหนียวแน่นกับบราซิลทีมนี้มากๆคือ สามหนึบ ลุยซ์ ออสการ์ รามิเรส
ที่เราตามมาจากเชลซี เราเริ่มชอบเดวิด ลุยซ์ เพราะความเกรียนล้วนๆ อมยิ้ม07
พอตามไปเรื่อยก็เห็นว่าเพื่อนๆรักพี่ลุยซ์มากพอๆกัยที่ีพี่รักเพื่อน พี่ใจดีขี้แง รักครอบครัวมาก
อ่านบทสัมภาษณ์ก็ติดดิน เห็นแล้วอยากให้ประสบความสำเร็จตามที่ฝัน คนเรามันก็ต้องมี
นักเตะที่ชอบ ทีมที่ชอบเป็นพิเศษแหละเนอะ เช่นเดียวกับทุกๆคน ตั้งแต่เราเริ่มเชียร์ลุยซ์มา
มันก็มีผิดหวังบ้าง ดีใจบ้าง ปะปนกันไป แต่ก็ดีใจที่ได้เชียร์ นั่นคือสิ่งที่แฟนๆคนนึงจะทำให้ได้

มาถึงวินาทีนี้ พี่กลายเป็นจุดสนใจขึ้นมาเพราะนัดที่แล้วมีผีดร๊อกบ้ามาประทับ หวดฟรีคิกสวยๆ
เข้าไปในประตู บวกกับสถาณการณ์บังคับให้พี่ต้องมาเป็นกัปตันทีม เข้าใจว่ามันเครียดและกดดัน
เยอรมันเป็นอีกหนึ่งทีมที่เรารักและผูกพันมาก เราบอกเลยว่าวันนี้ใครชนะเราไม่เสียใจ ทุกคนต่างคู่ควร
หวังว่าวันนี้พี่จะผีเข้า โชว์ฟอร์มเทพๆอีก อย่ามัวแต่เหม่อหรือใจลอยนะ อย่าร้องไห้ด้วย จะเป็นกำลังใจให้

มาอ่านบทความจากฟีฟ่ากันดีกว่าค่ะ

****************************************

"ดูเขาสิ เขาคือแม่ชีเทเรซาในหมู่พวกเรา ถ้าเขาลงสมัคร สส.พรุ่งนี้ เขาต้องได้ตำแหน่งแบบไม่ต้องสงสัย"

ดาวิด ลุยซ์จะทำอะไรก็ถือว่าถูกไปหมดแล้วในวินาทีนี้ ตามที่คำพูดข้างต้นซึ่งกล่าวไว้โดยสหายร่วมทีมชาติ
ช่วยยืนยัน ไม่นานก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งสู้ฟัดในเกมเจอกันโคลอมเบียที่สนามอรีน่า คาสเตเลา เมื่อศุกร์ที่แล้ว
ที่ซึ่งเขาวิ่งมากกว่าแปดกิโลเมตร ไม่นานก่อนที่เขาจะแสดงความมีน้ำใจนักกีฬาออกมาโดยการเรียกให้คน
ทั้งสนามลุกขึ้นปรบมือให้กับดาวยิงชาติโคลอมเบีย ฮาเมส โรดริเกซ

หลังจากที่เขามีส่วนร่วมให้แน่ใจว่าบอลที่ใช้เล่นกันในสนามจะเข้าไปถึงห้องแต่งตัวของทีม เพื่อที่ทุกคน
จะได้ลงชื่อกันครบทั้งทีม เขาก็เริ่มเดินสายต่อตามหน้าที่ เข้าไปในพื้นที่ส่วนรวมซึ่งเขาให้สัมภาษณ์กับนักข่าว
ไม่น้อยกว่าแปดสำนัก สองอันในนั้นเป็นภาษาอังกฤษ เอาใจใส่และพยายามตอบคำถามทุกคนด้วยท่าทีที่สุภาพ
น่าเกรงขาม



ในระหว่างนั้น ขณะที่ยังคงอยู่ในเครื่องแบบโทรมเหงื่อ เขาฉีกยิ้มกว้างและตบหลังแสดงความยินดีกับบรรดา
อาสาสมัคร สตาฟฟ์ รปภ. และทุกๆคนที่บังเอิญเข้าไปอยู่ในพื้นที่นั้นพอดี และไม่ต้องสงสัย หนึ่งในดาวเด่น
ของทีมชาติบราซิลก็สละเวลาของตัวเองมาคุยกับฟีฟ่าด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งก็เป็นอีกครั้งที่เขาได้แสดงให้เห็น
ถึงน้ำใจเล็กๆน้อยๆและความไม่เห็นแก่ตัวที่อยู่ในธรรมชาติของความเป็นตัวเขา

"ถ้าจะมีสิ่งใดที่ผมฝันถึงอยู่ตลอดเวลาและพยายามจะแสดงให้ทุกคนเห็น สิ่งนั้นคือการที่พวกเราทุกคนเท่าเทียมกัน
ในชีวิตนี้ การที่ทุกคนมีค่าคู่ควรกับความเคารพ และความจริงที่ว่าพวกเราทุกคนเท่าเทียมกัน" เขากล่าวเริ่ม
เผยให้เห็นแนวคิดที่คงไม่แปลกแยกสำหรับสุนทราพจน์ขึ้นรับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ



เห็นได้ชัดจากท่าทีของเซนเตอร์ฮาล์ฟหนุ่มว่าเขาหมายความถึงสิ่งที่พูดจริงๆ ถ้ายังต้องการ เครื่องยืนยันถึงความ
เป็นตัวตนของเขา มาจากปากของเพื่อนร่วมทีมที่ต่างรักเขา "เขามันสุดยอด" ฮัลค์พูดในการสนทนากับ FIFA.com
"เขาทั้งใส่ใจและเป็นห่วงคนๆนั้นตลอด ไม่ว่าเขาจะอยู่กับใคร ไม่ใช่ทุกวันนะที่คุณจะได้เจอคนแบบหมอนี่"

"คนทั้งโลกรู้อยู่แล้วว่าเขามีความสามารถแค่ไหนในสนาม และสำหรับผมแล้ว เขากับติอาโก้ (ซิลวา) คือคู่หูแนวรับ
ที่ดีที่สุดในโลก แต่ในฐานะเพื่อนร่วมทีมแล้ว พวกเราต่างรู้ดีกว่าเขาเป็นคนที่ดีมากๆคนหนึ่งเช่นกัน"

เสียงโห่ร้องกึกก้อง

และนั่นคือจุดที่บราซิลคิดว่าตัวเองโชคดี ไม่เพียงแต่ดาวิด ลุยซ์จะเป็นคนที่น่าอยู่ด้วยเท่านั้น เขายังเป็นหนึ่งใน
เซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่ดีที่สุดของโลก และหนึ่งในคนที่โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมในฟุตบอลโลกครั้งนี้อีกด้วย

ความทุ่มเทของดาวิดในสนามก็ควรแก่การพูดถึงเช่นกัน เขามีส่วนช่วยทำประตูถึงสองในสามในรอบตัดเชือก
รวมถึงฟรีคิกสุดสวยที่ส่งโคลอมเบียกลับบ้านไปในรอบแปดทีม ซึ่งทำให้เขาได้รางวัล Man of the Match อีกด้วย



"มันเยี่ยมมากที่ได้เห็น" ฮัลค์ชื่นชมต่อ "เห็นได้ชัดว่าถึงเราฉลองการได้ประตูกันเป็นทีม และพวกเราทุกคนดีใจมากที่
ได้เห็นดาวิดทำประตูได้อีกครั้ง เขาปลดปล่อยความดีใจไปแบบสุดๆ ซึ่งปลุกระดมให้ทุกคนมีแรงฮึดสู้ขึ้นมาได้"

ดาวิด ลุยซ์ไม่เพียงแต่ปลุกระดมคนทั้งทีม แต่ยังรวมถึงคนทั้งชาติ และเขาจะทำสิ่งนั้นอีกครั้งอย่างเป็นทางการในเกม
วันอังคารนี้ที่จะเจอกับเยอรมนี ที่ซึ่งเขาจะสวมปลอกกัปตันทีมแทนติอาโก้ ซิลวาที่ติดโทษแบน ก็ไม่ใช่ว่าเขาจำเป็น
ต้องใส่ปลอกแขนหรืออะไรอีกในการที่จะเป็นผู้นำเพื่อนๆ

"ทีมนี้ดูแลง่ายมากๆเพราะถ่อมตัวกันทุกคน มันไม่ใช่งานที่ยากเลยล่ะ" ดาวิดให้สัมภาษณ์ แม้ว่าความจริงแล้วก็พูดได้
ว่าทั้งทีมและประเทศชาติต่างพร้อมใจกันเดินทางตามแบบอย่าง ที่คนแบบเขาได้สร้างแรงบันดาลใจไว้ให้



และคงไม่มีคำอธิบายอื่นใดให้กับอารมณ์หลากหลายที่ถูกปลดปล่อยออกมาโดยวิธีการฉลองชัยให้กับบอลลูกนั้นที่ถูก
ยิงเฉือนเอาชนะโคลอมเบียไป เขาฉลองด้วยเสียงคำรามดีใจกึกก้อง และวิ่งพุ่งตรงไปยังแฟนๆ และจบด้วยการกระโดด
เตะธงมุมสนาม

ภาพนั้นแสดงถึงความสามารถของดาวิดในการพลิกสถานการณ์ และเพิ่มสีสันให้กับคนรอบข้าง คุณสมบัติเหล่านี้ได้นำ
พาให้เขาขึ้นมาเป็นผู้นำของชาวบราซิลในช่วงเวลานี้อย่างไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ

****************************************

ถ้าเป็นพี่ลุยซ์เราไม่ห่วง เราห่วงพ่อหน้าเป้าสองหน่อมากกว่า  #สวดมนต์แปบ


แหล่งที่มา:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่