[CR] เมืองผ่าน...ณ บ้านหอมกลิ่นดิน...

ก่อนอื่นก็ต้องออกตัวก่อนว่าไม่ใช่นักชิม นักรีวิวอะไรนะครับ ปกติจะป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ ห้องจักรยาน
แต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเหตุให้ต้องเดินทางไปที่ อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย ก่อนไปก็หาข้อมูลว่ามีอะไรนี่สนใจบ้างมั้ยนะ เท่าที่รู้...
ทุ่งเสลี่ยม เป็นเมืองเกษตรกรรม ไม่มีแหล่งท่องเที่ยวโด่งดังหรือติดอันดับให้ต้องแวะกินแวะเที่ยว (ยกเว้นวงดนตรีลูกทุ่งของนักเรียนจาก ร.ร.ทุ่งเสลี่ยมฯ ที่เคยได้อันดับต้นๆ จากรายการชิงช้าสวรรค์เมื่อหลายปีก่อน) เป็นลักษณะของ “เมืองผ่าน” มากกว่า

เมืองเล็กๆ ที่แสนจะสงบเงียบนี้ พอตกค่ำมาก็เข้าบ้านใครบ้านมัน น้ำค้างยังไม่ทันชื้นต้นหญ้าแต่ละบ้านก็ปิดไฟนอนกันหมด คงเตรียมแรงเอาไว้ไปลงกับไร่นาที่ใกล้ฤดูเพาะปลูกเข้ามาทุกทีแล้ว

จากตัวเมืองทุ่งเสลี่ยมบนทางหมายเลข 1048 มุ่งหน้า อ.สวรรคโลก แค่ยังไม่ทันจะเที่ยงวันดี แอลกอฮอล์ในกระแสเลือดที่คงค้างอยู่พอสมควรทำให้อยากพัก อยากจิบกาแฟฝาดๆ ซักแก้ว แต่นั่นละ...จะไปหาที่ไหนได้จากบ้านเมืองนี้



ผ่อนเท้าจากคันเร่ง มองไปเห็นวิวท้องทุ่งที่อยู่ระหว่างการเตรียมเพื่อการปักดำ กลิ่นดินอ่อนๆ ที่กำลังถูกไถคราดหอมสดชื่น และพลันหางตาก็เห็นตัวหนังสือปักอยู่กลางทุ่ง …บ้านหอมกลิ่นดิน…

ผมเลี้ยวเข้ามาจอดโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าร้านเปิดหรือยัง มองจากบนถนนร้านดูเหงาๆ แต่สะดุดตาที่อาคารปูนต่อไม้ มีกังหันบนจั่วที่จะว่าไปก็ดูไม่เข้ากับท้องนาเท่าไหร่นัก แต่พอเข้ามานั่งในร้านกลับเย็นสบายด้วยหลังคาทรงสูง และรู้สึกผ่อนคลายจากกลิ่นหอมของหน้าดินที่ถูกผลิกขึ้นมาจากการไถแล้วโดนแดดเผา ผนังของร้านที่ออกแบบเป็นหน้าต่างทรงสูง เปิดรับลมได้ทั่วทิศ





หยิบดูเมนูกาแฟขึ้นดูก็เห็นเป็นรายการปกติทั่วไป ไม่มีชื่อเรียกอะไรที่พิสดารเพื่อเรียกความสนใจจากลูกค้าอย่างที่ร้านในเมืองหลวงชอบทำกัน แต่สะดุดใจในถุงเมล็ดกาแฟที่วางอยู่ที่หน้าเคาเตอร์มากกว่า เพราะที่นี่ใช้เมล็ดกาแฟที่มาจากระบบการปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ และแตกต่างจากร้านกาแฟสดทั่วไปตรงที่ใช้เมล็ดกาแฟโรบัสต้า จาก อ.กระบุรี จว.ระนอง แทนที่จะใช้อาราบิก้าจากทางภาคเหนือ กาแฟอุ่นๆ ในมือผมแก้วแรกจึงเป็นอเมริกาโน่รสชาติฝาดติดลิ้นเป็นที่ถูกใจผมจริงๆ







ยิ่งพอได้ชิมชาเขียวเลมอน เอสเพรสโซ่ อเมริกาโน่ คาปูชิโน ในรายการเครื่องดื่มเย็นอีกอย่างละอึกสองอึก ก็ยิ่งย้ำความแตกต่างว่าเป็นร้านกาแฟที่รสชาติเป็นเอกลักษณ์ดี



วันนี้มีลูกค้าไม่กี่คนครับ ทำให้พอมีเวลาได้คุยกับคุณจ๊ะจ๋า บาริสต้าเจ้าของร้าน คนทุ่งเสลี่ยมแท้ๆ ที่ต้องยอมรับว่าความเป็นกันเอง และดวงหน้าที่ยิ้มแย้มอยู่เสมอของเธอนั้นช่วยเพิ่มความหอมของกาแฟในแบบเคล้ากลิ่นดินในธรรมชาติ ยิ่งทำให้สดชื่นขึ้นไปอีก
และนอกจากการใส่ใจในการชงกาแฟแบบแก้วต่อแก้วแล้ว ของตกแต่งในร้านนี้ล้วนแล้วแต่ทำขึ้นเองทุกชิ้นตั้งแต่แก้วกาแฟจนถึงกล่องใส่กระดาษทิชชู





ผมนั่งอยู่ที่ร้านไม่นานนัก ทั้งที่อยากจะพักที่นี่ให้นานกว่านี้ ร่ำลาเจ้าของร้านที่เหมือนรู้จักกันมานาน พร้อมกับฝากคำวิจารณ์ว่าควรจะมีป้ายหรืออะไรซักอย่างที่ทำให้คนที่ผ่านไปมาได้รู้ว่าร้านนี้ขายอะไร เปิดปิดกี่โมง และเธอฝากบอกมาอีกว่าร้านปิดห้าทุ่ม ยามแดดร่มลมตกยังมีเครื่องดื่มทั้งมีและไม่มีแอลกอฮอล์ไว้บริการให้ทั้งจิบเบาๆ กับบรรยากาศท้องทุ่งที่น่าสนใจไปอีกแบบ



เธอบอกว่าติดตามข้อมูลได้จาก อินสตาแกรมของร้าน แต่ขอโทษครับ
...ผมคงไม่ได้ติดตามหรอกนะ เพราะผมเล่นอินสตาแกรมไม่เป็น…

ผมมาทุ่งเสลี่ยมครั้งแรกในชีวิตสามสิบกว่าปีของผม และก็ยังนึกไม่ออกเลยว่าเมื่อไหร่จะได้ “ผ่าน”มาทางนี้อีก แต่สเน่ห์ของบ้านหอมกลิ่นดิน ทำให้ผมอยากจะบอกว่าถ้าใครก็ตาม “ผ่าน” มาทางนี้ ว่าทุ่งเสลี่ยมมีอะไรที่น่าสนใจมากกว่าเมือง “ผ่าน” ทั่วไป



ธรรมชาติของเมืองเกษตรกรรมแท้ๆ คงหาสัมผัสได้ไม่อยากตามต่างจังหวัด แต่จะมีที่ไหนเล่าที่จะนั่งจิบกาแฟชมแปลงข้าวที่กำลังแตกกอตั้งท้อง หรือถ้าเป็นฤดูเก็บเกี่ยวคงได้จิบเบียร์เย็นๆ ชมทุ่งนาข้าวสีทองรับแสงอ่อนๆ ของดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า คงต้อง “ตั้งใจผ่าน” มาที่นี่แล้วละครับ ...บ้านหอมกลิ่นดิน...

ชื่อสินค้า:   ร้านกาแฟ ทุ่งเสลี่ยม
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่