สวัสดีครับเพื่อนๆ พันทิป วันนี้ผมมาเปิดประเด็นเรื่องวิธีคิดและวิธีแก้ปัญหาในการเรียน การทำงาน การทำธุรกิจ และ........
หลายๆ ท่านในที่นี้คงได้ผ่านช่วงเวลาแห่งความลำบาก ความเหนื่อยยาก ความท้อแท้ หมดกำลังใจ ที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าหรือก้าวไปให้ถึงจุดหมายในชีวิต
สำหรับคนที่ผ่านช่วงเวลานั้นมาแล้ว และสามารถเอาชนะอุปสรรคได้ ผมคิดว่าทุกคนน่าจะมีวิธีคิดและวิธีแก้ปัญหาแตกต่างกันไป ผมเลยอยากให้เพื่อนๆ พี่ๆ หรือน้องๆ มาช่วยกันแชร์ประสบการณ์ เผื่อว่าสมาชิกในพันธิปท่านอื่นๆ ที่กำลังประสบปัญหาคล้ายๆ กัน จะได้นำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ครับ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สำหรับผมการแก้ปัญหาหรือเอาชนะปัญหามีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนามาเรื่อยๆ
1. ตอนเด็ก: เอาความยากจนและการดูถูกของเพื่อนบ้านเป็นตัวกระตุ้นให้พัฒนาตัวเองเพื่อยกระดับฐานะในสังคม
2. ตอนเป็นข้าราชการ: เอาปัญหาและอุปสรรคในการทำงานเป็นการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตัวเองให้มีความเชี่ยวชาญ
3. ตอนทำธุรกิจ (สถานการณ์ปัจจุบัน): มีปัญหารุมเร้ามากมาย ทั้งเหนื่อยทั้งท้อ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เกือบถอดใจจนจะเลิกทำธุรกิจ
- ช่วงแรกทำงานหนักมากจนเครียด เลยคิดว่าทำยังไงดีให้หายเครียด พอเครียดมากๆ เห็นท่าไม่ดีเลยเข้านอนแต่หัววัน ช่วยได้บ้าง เพราะทำงานเหนื่อยมาทั้งวันเลยหลับเร็ว ช่วงหลับไม่ได้คิดอะไรก็หายเครียด แต่ตื่นมาเครียดเหมือนเดิม ข้อดีคือได้พักผ่อนมากหน่อย ข้อเสียคือยังไม่หายเครียด
- ปัจจุบันใช้การเปลี่ยนวิธีคิดเอา คิดบวกให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
** ช่วงไหนงานเยอะทำไม่ทัน ก็คิดซะว่าฝึกการบริหารจัดการ จัดลำดับความสำคัญและความเร่งด่วนของงาน แล้วค่อยๆ เก็บไปทีละงาน เดี๋ยวงานก็ลดลงไปเอง ถ้าธุรกิจเราเติบโตขึ้น ต่อไปเราจะได้เป็นผู้บริหารที่เก่งและควบคุมลูกน้องได้ดี
** ช่วงไหนงานน้อยจนนั่งตบยุง ก็คิดซะว่าพลิกวิกฤตเป็นโอกาส มีเวลาเยอะก็มีเวลาออกไปหาลูกค้าใหม่ๆ หรือจัดการแก้ปัญหาที่ค้างคาในธุรกิจ หรือมีเวลาคิดหาสินค้าใหม่ๆ มาเพิ่มยอดขาย
สุดท้ายพอเปลี่ยนวิธีคิด สุขภาพจิตดีขึ้นเยอะครับ ปัญหาก็ยังมีเยอะเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน แต่เครียดน้อยลงหรือบางครั้งก็ไม่เครียดเลย
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แล้วเพื่อนๆ ละครับมีวิธียังไงกันบ้าง
เปลี่ยนวิธีคิด ชีวิตเปลี่ยน
หลายๆ ท่านในที่นี้คงได้ผ่านช่วงเวลาแห่งความลำบาก ความเหนื่อยยาก ความท้อแท้ หมดกำลังใจ ที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าหรือก้าวไปให้ถึงจุดหมายในชีวิต
สำหรับคนที่ผ่านช่วงเวลานั้นมาแล้ว และสามารถเอาชนะอุปสรรคได้ ผมคิดว่าทุกคนน่าจะมีวิธีคิดและวิธีแก้ปัญหาแตกต่างกันไป ผมเลยอยากให้เพื่อนๆ พี่ๆ หรือน้องๆ มาช่วยกันแชร์ประสบการณ์ เผื่อว่าสมาชิกในพันธิปท่านอื่นๆ ที่กำลังประสบปัญหาคล้ายๆ กัน จะได้นำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ครับ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สำหรับผมการแก้ปัญหาหรือเอาชนะปัญหามีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนามาเรื่อยๆ
1. ตอนเด็ก: เอาความยากจนและการดูถูกของเพื่อนบ้านเป็นตัวกระตุ้นให้พัฒนาตัวเองเพื่อยกระดับฐานะในสังคม
2. ตอนเป็นข้าราชการ: เอาปัญหาและอุปสรรคในการทำงานเป็นการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตัวเองให้มีความเชี่ยวชาญ
3. ตอนทำธุรกิจ (สถานการณ์ปัจจุบัน): มีปัญหารุมเร้ามากมาย ทั้งเหนื่อยทั้งท้อ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เกือบถอดใจจนจะเลิกทำธุรกิจ
- ช่วงแรกทำงานหนักมากจนเครียด เลยคิดว่าทำยังไงดีให้หายเครียด พอเครียดมากๆ เห็นท่าไม่ดีเลยเข้านอนแต่หัววัน ช่วยได้บ้าง เพราะทำงานเหนื่อยมาทั้งวันเลยหลับเร็ว ช่วงหลับไม่ได้คิดอะไรก็หายเครียด แต่ตื่นมาเครียดเหมือนเดิม ข้อดีคือได้พักผ่อนมากหน่อย ข้อเสียคือยังไม่หายเครียด
- ปัจจุบันใช้การเปลี่ยนวิธีคิดเอา คิดบวกให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
** ช่วงไหนงานเยอะทำไม่ทัน ก็คิดซะว่าฝึกการบริหารจัดการ จัดลำดับความสำคัญและความเร่งด่วนของงาน แล้วค่อยๆ เก็บไปทีละงาน เดี๋ยวงานก็ลดลงไปเอง ถ้าธุรกิจเราเติบโตขึ้น ต่อไปเราจะได้เป็นผู้บริหารที่เก่งและควบคุมลูกน้องได้ดี
** ช่วงไหนงานน้อยจนนั่งตบยุง ก็คิดซะว่าพลิกวิกฤตเป็นโอกาส มีเวลาเยอะก็มีเวลาออกไปหาลูกค้าใหม่ๆ หรือจัดการแก้ปัญหาที่ค้างคาในธุรกิจ หรือมีเวลาคิดหาสินค้าใหม่ๆ มาเพิ่มยอดขาย
สุดท้ายพอเปลี่ยนวิธีคิด สุขภาพจิตดีขึ้นเยอะครับ ปัญหาก็ยังมีเยอะเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน แต่เครียดน้อยลงหรือบางครั้งก็ไม่เครียดเลย
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แล้วเพื่อนๆ ละครับมีวิธียังไงกันบ้าง