อารัมภบท
เพราะคำขอร้องของท่านพ่อทำให้ ลายา ลูกสาวหัวหน้าเผ่าเกซา แห่งหุบเขา ฟาดุลเล ต้องมีภารกิจสำคัญในการเดินทางห่างไกลจากอ้อมกอดของขุนเขาที่เธอรัก ข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังประเทศ สีหาอมร ที่ห่างไกล เพื่อตามหาคัมภีร์ อธิกรัตน์ คำภีร์โบราณของเผ่าที่ใช้ในการทำพิธีบูชาเทพแห่งฤดูกาล และเป็นคัมภีร์สำหรับการบวงสรวงในพิธีแต่งงานของครอบครัวชนชั้นกุสิม ซึ่งเป็นชนชั้นสูงที่สุดในเผ่าเกซา ในประเทศลานี
หัตถฤทธิ์ (โรเจอร์) กฤษณพิศ เป็นนักธุรกิจแนวหน้าของประเทศสีหาอมร เขาทำธุรกิจค้าขายอัญมณี และโบราณวัตถุทั่วโลก และเป็นนักสะสมเครื่องรางของขลังรวมถึงคัมภีร์โบราณ
เพราะจุดมุ่งหมายที่แน่วแน่ ทำให้หญิงสาวผู้มีนัยน์ตาสีน้ำเงิน ผมสีน้ำตาลแดง และรูปร่างบอบบาง ได้พบกับความรักครั้งแรก จากชายหนุ่มที่ไม่เคยคิดจะรักหญิงสาวใดๆที่มาจากป่าอันไกลโพ้นจากทวีปที่ใครๆต่างก็เรียกขานว่า ทวีปมนต์ดำ หากแต่นางในฝันของเขานั้นเป็นหญิงที่ต้องมาจากประเทศสีหาอมร หรือประเทศปุรมาลี ที่มีแต่ความเจริญก้าวหน้าในทุกๆด้านนั่นเอง.
นิยาย แก้วกลางไพร (ตอนที่ ๑)
รถยนต์หรูคันใหญ่ได้แล่นเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์สีขาวมุกอันสวยสง่า
ชายหนู่มรูปร่างดีเปิดประตูรถก้าวออกมาจากเบาะคนขับอย่างรวดเร็วพร้อมกล่าวกับบ่าวที่มายืนรอว่า .. “นายไม้ๆ มาช่วยยกของที วันนี้ฉันได้สิ่งที่น่าสนใจมา นายอย่ายกให้แตกนะ วางเบาๆแล้วบอกน้ากานดายกของว่างและเครื่องดื่มมาให้ฉันด้วย”
ชายหนุ่มวัยประมาณสามสิบปีที่มีหน้าตาดี และท่าทางที่กระฉับกระเฉงกล่าวอย่างอารมณ์ดี...
"ครับคุณโรเจอร์" ผู้เป็นบ่าว ตอบแล้วก้มหน้ารีบเดินไปยกของที่ท้ายรถคันงาม
หัตถฤทธิ์ กฤษณพิศ หรือโรเจอร์ หลังจากมอบหมายงานให้บ่าวในคฤหาสน์เรียบร้อยแล้ว เขาก็เดินขึ้นบันไดที่นำไปสู่ประตูบานใหญ่ลวดลายงดงามซึ่งเป็นทางเข้าออกด้านหน้าของคฤหาสน์แห่งนี้ คฤหาสน์นี้ครอบครัวกฤษณพิศ
ซึ่งมีสมาชิกด้วยกันสี่คนอันได้แก่ บิดา มารดา ตัวเขาเอง และน้องสาวที่อายุห่างจากเขาสี่ปี ได้อยู่เป็นเจ้าของ
ส่วนผู้รับใช้นั้นมีห้าคน ได้แก่ นายไม้ ทำหน้าที่เป็นยามและคนงานในบ้าน,น้ากานดา แม่บ้านและแม่ครัว,ยุพิน คนทำความสะอาดบ้าน,นายน้อย คนขับรถและดูแลสวน และคนสุดท้าย ส้ม คนใช้ประจำตัวคุณพรฤดี ซึ่งเป็นคุณแม่ของเขา
ชายหนุ่มเดินขึ้นบันไดไปจนถึงชั้นสามซึ่งเป็นชั้นของห้องนอนของเขา หลังจากเข้าไปในห้องนอนเรียบร้อยแล้วเขาก็อาบน้ำแต่งกายใหม่
ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำที่ต้องทำหลังจากออกไปทำงานหรือไปทำธุระอย่างอื่นนอกบ้านมา
หญิงวัยกลางคนเดินยกถาดที่มีโถน้ำผลไม้หนึ่งโถ และสลัดหนึ่งจาน พร้อมอุปกรณ์การรับประทานครบชุดมาวางไว้ที่โต๊ะเพื่อบริการให้เจ้านายซึ่งเป็นประมุขของบ้านรับประทานหลังจากอาบน้ำเรียบร้อย อันเป็นงานประจำของเธอที่ต้องปรนนิบัติรับใช้เจ้านายทุกเวลาที่เขากลับมาจากทำงาน และต้องยืนรอจนกว่าผู้เป็นนายจะออกมาเพื่อสั่งงานต่อไป
โรเจอร์ แต่งกายด้วยชุดลำลองสบายๆ หลังจากอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว กลิ่นน้ำหอมกลิ่นเดิมลอยมาเตะจมูกน้ากานดาแม่บ้านในคฤหาสน์หลังนี้เหมือนเคยมา
กานดาดูแลปรนนิบัติรับใช้ โรเจอร์มาตั้งแต่เขาอายุสิบปี นับตั้งแต่พี่สาวของเธอซึ่งเป็นแม่นมของโรเจอร์ ได้ลาออกจากงานเพื่อไปช่วยงาน และดูแลสามีที่ลงทุนทำสวนสับปะรดป้อนส่งโรงงานในเมืองซาวา ซึ่งอยู่ห่างไปสองร้อยไมล์ ปีนี้เธอก็อยู่ดูแลเจ้านายมาครบยี่สิบปีแล้ว และผูกพันกับที่นี่มาก
โรเจอร์ ทำหน้าที่เป็นประมุขของบ้าน และมีอัธยาศัยอันดีต่อคนในบ้านแต่ก็เฉียบขาดในบางเรื่อง
ทุกคนที่ทำงานในคฤหาสน์หลังนี้หากใครไม่เคารพกฎของที่นี่ โรเจอร์จะสั่งให้ออกโดยให้เงินเดือนชดเชยล่วงหน้าไปสองเดือนด้วย
มีบางคนที่เคยอยู่ที่นี่แต่ไม่ทำตามกฎก็ต้องออกไปอย่างเสียใจ เพราะไม่มีใครที่อยากจากไป ทุกคนรักและผูกพันกับครอบครัว
ดร.สืบฟ้า ซึ่งเป็นคุณพ่อของโรเจอร์
ซึ่งตอนนี้ดร.สืบฟ้า ป่วยต้องนอนพักรักษาตัวด้วยโรคมะเร็งที่โรงพยาบาลในกรุงอมร ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศสีหาอมร ดร.สืบฟ้ามอบหมายให้โรเจอร์ลูกชายคนโตได้ทำหน้าที่ประมุขของบ้านหลังจากที่ ดร.ป่วย และต้องเข้าๆออกๆโรงพยาบาลเป็นประจำ
ส่วนคุณแม่ของโรเจอร์ ผู้มีนามว่า
คุณพรฤดี ก็เป็นผู้ที่มีนิสัยอ่อนโยน และเป็นคนสุภาพ ลูกสองคนของของดร.สืบฟ้าและคุณพรฤดีมีนิสัยที่ดีเหมือนบิดามารดา ไม่เคยใช้ความรุนแรงกับบ่าวในบ้าน
ครอบครัว ดร.สืบฟ้าจึงเป็นครอบครัวที่บ่าวทุกคนรักและจงรักภักดี และเป็นครอบครัวที่ไม่เคยมีประวัติไม่ดีไม่งามในการทำร้าย หรือเอาเปรียบคนทำงานในบ้านแต่อย่างใด
โรเจอร์ เข้ามานั่งบนเก้าอี้สีน้ำตาลที่ทำด้วยไม้อย่างดีที่มีเบาะหนาและนุ่มสีขาวพร้อมลวดลายดอกไม้ใบไม้ในโต๊ะรับประทานอาหารที่มีเก้าอี้อยู่สามตัว เแล้วรินน้ำจากโถน้ำผลไม้ลงในแก้วเพื่อดื่ม
ชายหนุ่มดื่มน้ำผลไม้แล้วถามกานดาว่าวันนี้มีใครโทรศัพท์มาหาเขาหรือไม่ ด้วยเขานัดกับอติพงศ์ เพื่อนรัก เพื่อจะออกไปยังสนามเทนนิสเพื่อตีเทนนิสในช่วงบ่ายของวันนี้
“คุณอติพงศ์โทรมาบอกว่าจะไปรอที่สนามก่อนค่ะ คุณแจ๊กกี้ จะเข้ามาคุยเรื่องของที่ประมูลได้จากสมาคมริเวอร์เพื่ออนุรักษ์วัตถุโบราณตอนหนึ่งทุ่มค่ะ” หญิงวัยห้าสิบเศษๆตอบ
สมาคมริเวอร์เพื่ออนุรักษ์วัตถุโบราณ คือสมาคมที่ทำการสืบหาวัตถุโบราณตามร้านรับซื้อของโบราณ แล้วน้ำมาปรับปรุงแก้ไขตำหนิให้ดีขึ้นเพื่อนำออกมาขาย และยังมีการประมูลขายทุกเดือน
ณ ถ้ำมหันคา ถ้ำที่มีขนาดใหญ่ของของ
เผ่าเกซา ที่อยู่ในเทือกเขาฟาดุลเล คนในเผ่ากำลังวุ่นวายกับการคัดลอก
คัมภีร์อธิกรัตน์ จากถ้อยคำผู้เฒ่าชาย- หญิง ผู้นำการทำพิธีบวงสรวง
เทพแห่งฤดูกาลทั้งสอง ซึ่งกำลังท่องจำบทสวดในคัมภีร์ให้ผู้ที่ทำการบันทึกได้บันทึกเก็บไว้
เนื่องจากคัมภีร์ดังกล่าวได้ถูกขโมยไปจากหอคัมภีร์เมื่อห้าเดือนที่ผ่านมา แต่การสวดก็เป็นไปอย่างกระท่อนกระแท่นเนื่องจากต้องคอยให้ผู้บันทึกได้เขียนบันทึกและหยุดเพื่อฟังท่อนใหม่และแก้ไขคำบางคำที่ผิดในเป็นระยะๆ
ผู้เฒ่าทั้งสองพยายามช่วยกันสวดให้เหมือนที่ตนเคยสวดมาหลายปี แต่บางครั้งก็ไม่สามารถจดจำได้ดีพอ จึงต้องทบทวนอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และคัมภีร์ก็มีความยาวมาก ถึงแม้เกิดความยากลำบากเพียงใดผู้เฒ่าทั้งสองก็ไม่ละความพยายามในการจดจำบทสวดให้ได้สมบูรณ์ที่สุดขอแต่เพียงให้ได้บันทึกไว้จนจบ
เพื่อใช้ในการอ่านสวดในพิธีกรรมการบวงสรวง แทนคัมภีร์เล่มเดิมซึ่งเป็นคัมภีร์อันเก่าแก่ที่หายไปเป็นครั้งที่สอง บทสวดที่ถูกต้องจะทำให้พิธีบูชาเทพแห่งฤดูกาลนั้นสมบูรณ์ดี ขณะนี้เวลาในพิธีบวงสรวงก็งวดเข้ามาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งเผ่าเกซาต้องจัดพิธีใหญ่ในการบวงสรวงขอพรเทพแห่งฤดูกาลเพื่อการลงการกสิกรรมทุกปีในพื้นดินที่เป็นเนื้อที่ของเผ่า
ภายนอกถ้ำก็เช่นกันเกิดความโกลาหลอย่างมากมายอันเนื่องจากต้องตามหาคัมภีร์อธิกรัตน์ อันศักดิ์สิทธิ์ให้ทัน เพื่อสำหรับให้ผู้เฒ่าที่นำสวดในพิธีบวงสรวงได้ใช้อ่านบวงสรวง ซึ่งภาษาในคัมภีร์เป็นภาษาของเผ่าเกซา โดยบรรพบุรุษได้ร่วมใจกันคิดค้นบทสวดที่มีเนื้อหาดี และไพเราะให้ทุกคนในเผ่าได้สวด
ความหมายในคัมภีร์นั้นสอนให้ทุกคนกระทำความดีและไม่ทำสิ่งที่เลวร้าย พึ่งพาช่วยเหลือกัน และไม่ทำร้าย ทำลายสิ่งต่างๆทั้งมีชีวิตและไม่มีชีวิต ตลอดจนการดูแลธรรมชาติให้คงอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ รวมถึงการกล่าวบูชาเทพทั้งหลายโดยเฉาะเทพแห่งฤดูกาล
หากเสาะหาไม่พบแล้วในวันบวงสรวงเกิดการสวดคำใด หรือท่อนใดผิดพลาดก็จะเป็นเหตุให้เกิดอาเพศ ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมากจากพายุและน้ำท่วมใหญ่ เหมือนในครั้งอดีตที่เคยเป็นมาเมื่อสองปีหลังจากเกิดการหายไปของคัมภีร์
คนในเผ่าจึงต้องหาวิธีแก้ไขเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่คัมภีร์หายไปเป็นหนที่สอง โดยให้ผู้เฒ่าผู้นำสวดชาย- หญิงสวดเนื้อหาในคัมภีร์เท่าที่จำได้ แล้วมาอ่านปรับปรุงจนถูกต้องสมบูรณ์ที่สุด
สองปีก่อนเมื่อคัมภีร์ได้หายไป ก็ไม่มีคัมภีร์มาอ่านประกอบการบวงสรวง ทำให้เกิดความผิดพลาดในการสวด จึงเกิดเหตุอาเพศถัดจากวันทำพิธีหนึ่งวัน
ผู้คนไม่ว่าเด็ก หรือคนชรา รวมทั้งสัตว์เลี้ยง สัตว์ป่าน้อยใหญ่ต้องล้มตายไปส่วนหนึ่ง ครานั้นเป็นโศกนาฏกรรมที่สร้างความสะเทือนขวัญให้คนในเผ่าอย่างรุนแรง แต่ก็บังเอิญอย่างที่สุดเมื่อมาค้นหาคัมภีร์อธิกรัตน์เจอในบ้านของแม่เฒ่าเพตาในสองสามวันหลังจากเกิดอาเพศนั้น ซึ่งนั่นก็เป็นการหาคัมภีร์เจอเมื่อสายไปแล้วหลังผู้คนล้มตายเกือบหนึ่งพันคน การทำพิธีบูชาเทพเจ้าแห่งฤดูกาลครั้งต่อไปเหลือเวลาอีกเพียงห้าเดือนที่จะต้องตามหาคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์นี้ให้พบ
แม่เฒ่าเพตานั้นอดีตเคยเป็นผู้นำทางพิธีฝ่ายหญิง ผู้ซึ่งพลาดโอกาสจากการเป็นผู้นำฝ่ายหญิงในพิธีบวงสรวงเทพแห่งฤดูกาลมาหลายปี การทำพิธีบวงสรวงในระยะปีหลังๆมานี้ตำแหน่งอันทรงเกียรติของฝ่ายหญิงได้เป็นของแม่เฒ่าอโนรีแทนสาเหตุเพราะในหลายปีที่ผ่านมาแม่เฒ่าเพตามักขาดความระมัดระวังในการควบคุมการพูดจากับบุคคลต่างๆ และกิริยามารยาทก็เริ่มที่ไม่เหมะสมที่จะเป็นตัวแทนอันทรงเกียรตินี้ เพราะผู้นำการบวงสรวงทั้งชายหญิงนอกจากสามารถอ่านบทสวดได้ถูกต้องและไพเราะแล้ว คุณสมบัติที่ต้องมีอีกประการหนึ่งคือ เป็นผู้มีมารยาทอันงดงาม มีนิสัยอ่อนโยน ควบคุมตนเองได้ดีไม่ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมา ซึ่งจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้คนในเผ่าได้เห็น และภูมิใจในเชื้อสายเผ่าพันธุ์ตนเอง อีกทั้งเผ่าเกซาก็ถือมั่นในความสงบมาช้านาน ไม่ต้องการให้ผู้ใดปฏิบัติตนให้คนในเผ่าปั่นป่วนโดยเฉพาะผู้นำด้านต่างๆต้องระมะระวังการพูดจา และกิริยามารยาทเป็นพิเศษแม่เฒ่าอโนรีผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมกว่าจึงได้รับคัดเลือกจากคณะผู้บริหารเผ่าเกซาให้เป็นผู้นำพิธีสวดบูชาเทพแห่งฤดูกาลอันศักดิ์สิทธิ์แทน
เผ่าเกซามีชนเผ่าอยู่สองแสนคน มากกว่าเผ่าใดใน
ประเทศลานี ประเทศที่มีเทือกเขาฟาดุลเลอันกว้างใหญ่ขวางทางออกทะเลไว้ หากแต่มีเพียงอุโมงค์อาทิตรัตน์เพียงอุโมงค์เดียวเท่านั้นที่ให้รถไฟ และรถยนต์ผ่านไปได้โดยออกไปสู่สะพานข้ามไปยังดินแดนของอีกประเทศหนึ่งใน
ทวีปมายา ซึ่งเป็นสะพานเหล็กที่ไม่ยาวมากนักเนื่องจากทะเลที่ขวางกั้นสองประเทศนั้นเป็นแค่ช่องแคบ
และเผ่าเกซาก็อยู่อาศัยในแถบภูเขานี้มาหลายชั่วอายุคนมีลูกหลานได้ออกไปทำงานอยู่ทั่วโลก รวมถึงท่าน
ลาฟีอะผู้เป็นบุตรชายคนโตของหัวหน้าเผ่าเกซา พี่ชายของ
ลายา หรือลายาณีที่ได้ทำงานและมีครอบครัวอยู่ทีประเทศปุรมาลี ในทวีปที่ห่างไกล
ภาพขนาดใหญ่นั้น เป็นภาพของ
แม่ชี(ท่านแม่) และท่านพ่อที่ถ่ายจากล้องถ่ายภาพในอดีต ขณะที่ท่านทั้งสองเข้าพิธี สาเดวันยา หรือ พิธีแต่งงาน เมื่อสามสิบปีก่อน
ท่านแม่เคยเล่าให้ลายาฟังว่าหลังจากแต่งงาน ท่านแม่ของลายา ก็ให้กำเนิดพี่ชายของลายา คือท่านพี่ ลาฟีอะในปีถัดมา และสิบปีต่อมาก็ให้กำเนิด ลายา
ในอดีตนั้นท่านแม่ได้รู้จักกับท่านพ่อจากการที่ท่านแม่ได้มาปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของเจ้านายในหน่วยงานระดับสากลหน่วยงานหนึ่ง ทำให้ท่านแม่ที่มีหน้าที่ช่วยเหลือดูแลงานด้านเวชภัณฑ์ที่เผ่าเกซา ท่านแม่ในตอนนั้นมีรูปร่างค่อนข้างเจ้าเนื้อ มีนัตย์ตาสีน้ำเงิน ผิวสีขาวจัดเหมือนดังเช่นชาวซีกโลกเหนือโดยทั่วไป ท่านได้ทำงานอยู่ที่เผ่าเกซาสามปีเต็มจนกระทั่งสนิทสนมกับท่านพ่อซึ่งขณะนั้นเป็นบุตรชายคนโตของหัวหน้าเผ่า ท่านพ่อมีรูปร่างสูงโปร่งเหมือนหนุ่มๆชาวเผ่าเกซาโดยทั่วไป หากแต่มีลักษณะท่าทางเหมือนผู้ที่มีการศึกษาดีคนหนึ่งจึงทำให้ท่านแม่ในขณะนั้นก็เกิดความรู้สึกดีๆเป็นพิเศษต่อท่านพ่อขึ้นมา
ท่านพ่อและบ่าวไพร่มักจะช่วยกันทำอาหารประจำเผ่าให้หน่วยงานสากลที่ท่านแม่ทำงานด้วยได้รับประทานเป็นประจำ และบางครั้งก็สวมชุดประจำเผ่ามาที่พักของคณะทำงานของท่านแม่ ท่านแม่รู้สึกดีต่อท่านพ่อจนเกิดความประทับใจ และชมชอบในเอกลักษณ์ของเผ่าเกซา ตลอดจนนิสัยโอบอ้อมอารีของคนในเผ่า ไม่นานท่านแม่ก็แจ้งท่านตาท่านยายว่ามีเพื่อนชายคนสนิท ต่อมาก็กลายมาเป็นคนรักและแต่งงานกันตามพิธีของเผ่าเกซา
นิยาย แก้วกลางไพร (ฝากแสดงความคิดเห็นด้วยนะคะ เพิ่งหัดแต่งค่ะ)
เพราะคำขอร้องของท่านพ่อทำให้ ลายา ลูกสาวหัวหน้าเผ่าเกซา แห่งหุบเขา ฟาดุลเล ต้องมีภารกิจสำคัญในการเดินทางห่างไกลจากอ้อมกอดของขุนเขาที่เธอรัก ข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังประเทศ สีหาอมร ที่ห่างไกล เพื่อตามหาคัมภีร์ อธิกรัตน์ คำภีร์โบราณของเผ่าที่ใช้ในการทำพิธีบูชาเทพแห่งฤดูกาล และเป็นคัมภีร์สำหรับการบวงสรวงในพิธีแต่งงานของครอบครัวชนชั้นกุสิม ซึ่งเป็นชนชั้นสูงที่สุดในเผ่าเกซา ในประเทศลานี
หัตถฤทธิ์ (โรเจอร์) กฤษณพิศ เป็นนักธุรกิจแนวหน้าของประเทศสีหาอมร เขาทำธุรกิจค้าขายอัญมณี และโบราณวัตถุทั่วโลก และเป็นนักสะสมเครื่องรางของขลังรวมถึงคัมภีร์โบราณ
เพราะจุดมุ่งหมายที่แน่วแน่ ทำให้หญิงสาวผู้มีนัยน์ตาสีน้ำเงิน ผมสีน้ำตาลแดง และรูปร่างบอบบาง ได้พบกับความรักครั้งแรก จากชายหนุ่มที่ไม่เคยคิดจะรักหญิงสาวใดๆที่มาจากป่าอันไกลโพ้นจากทวีปที่ใครๆต่างก็เรียกขานว่า ทวีปมนต์ดำ หากแต่นางในฝันของเขานั้นเป็นหญิงที่ต้องมาจากประเทศสีหาอมร หรือประเทศปุรมาลี ที่มีแต่ความเจริญก้าวหน้าในทุกๆด้านนั่นเอง.
รถยนต์หรูคันใหญ่ได้แล่นเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์สีขาวมุกอันสวยสง่า
ชายหนู่มรูปร่างดีเปิดประตูรถก้าวออกมาจากเบาะคนขับอย่างรวดเร็วพร้อมกล่าวกับบ่าวที่มายืนรอว่า .. “นายไม้ๆ มาช่วยยกของที วันนี้ฉันได้สิ่งที่น่าสนใจมา นายอย่ายกให้แตกนะ วางเบาๆแล้วบอกน้ากานดายกของว่างและเครื่องดื่มมาให้ฉันด้วย”
ชายหนุ่มวัยประมาณสามสิบปีที่มีหน้าตาดี และท่าทางที่กระฉับกระเฉงกล่าวอย่างอารมณ์ดี...
"ครับคุณโรเจอร์" ผู้เป็นบ่าว ตอบแล้วก้มหน้ารีบเดินไปยกของที่ท้ายรถคันงาม
หัตถฤทธิ์ กฤษณพิศ หรือโรเจอร์ หลังจากมอบหมายงานให้บ่าวในคฤหาสน์เรียบร้อยแล้ว เขาก็เดินขึ้นบันไดที่นำไปสู่ประตูบานใหญ่ลวดลายงดงามซึ่งเป็นทางเข้าออกด้านหน้าของคฤหาสน์แห่งนี้ คฤหาสน์นี้ครอบครัวกฤษณพิศ
ซึ่งมีสมาชิกด้วยกันสี่คนอันได้แก่ บิดา มารดา ตัวเขาเอง และน้องสาวที่อายุห่างจากเขาสี่ปี ได้อยู่เป็นเจ้าของ
ส่วนผู้รับใช้นั้นมีห้าคน ได้แก่ นายไม้ ทำหน้าที่เป็นยามและคนงานในบ้าน,น้ากานดา แม่บ้านและแม่ครัว,ยุพิน คนทำความสะอาดบ้าน,นายน้อย คนขับรถและดูแลสวน และคนสุดท้าย ส้ม คนใช้ประจำตัวคุณพรฤดี ซึ่งเป็นคุณแม่ของเขา
ชายหนุ่มเดินขึ้นบันไดไปจนถึงชั้นสามซึ่งเป็นชั้นของห้องนอนของเขา หลังจากเข้าไปในห้องนอนเรียบร้อยแล้วเขาก็อาบน้ำแต่งกายใหม่
ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำที่ต้องทำหลังจากออกไปทำงานหรือไปทำธุระอย่างอื่นนอกบ้านมา
หญิงวัยกลางคนเดินยกถาดที่มีโถน้ำผลไม้หนึ่งโถ และสลัดหนึ่งจาน พร้อมอุปกรณ์การรับประทานครบชุดมาวางไว้ที่โต๊ะเพื่อบริการให้เจ้านายซึ่งเป็นประมุขของบ้านรับประทานหลังจากอาบน้ำเรียบร้อย อันเป็นงานประจำของเธอที่ต้องปรนนิบัติรับใช้เจ้านายทุกเวลาที่เขากลับมาจากทำงาน และต้องยืนรอจนกว่าผู้เป็นนายจะออกมาเพื่อสั่งงานต่อไป
โรเจอร์ แต่งกายด้วยชุดลำลองสบายๆ หลังจากอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว กลิ่นน้ำหอมกลิ่นเดิมลอยมาเตะจมูกน้ากานดาแม่บ้านในคฤหาสน์หลังนี้เหมือนเคยมา
กานดาดูแลปรนนิบัติรับใช้ โรเจอร์มาตั้งแต่เขาอายุสิบปี นับตั้งแต่พี่สาวของเธอซึ่งเป็นแม่นมของโรเจอร์ ได้ลาออกจากงานเพื่อไปช่วยงาน และดูแลสามีที่ลงทุนทำสวนสับปะรดป้อนส่งโรงงานในเมืองซาวา ซึ่งอยู่ห่างไปสองร้อยไมล์ ปีนี้เธอก็อยู่ดูแลเจ้านายมาครบยี่สิบปีแล้ว และผูกพันกับที่นี่มาก
โรเจอร์ ทำหน้าที่เป็นประมุขของบ้าน และมีอัธยาศัยอันดีต่อคนในบ้านแต่ก็เฉียบขาดในบางเรื่อง
ทุกคนที่ทำงานในคฤหาสน์หลังนี้หากใครไม่เคารพกฎของที่นี่ โรเจอร์จะสั่งให้ออกโดยให้เงินเดือนชดเชยล่วงหน้าไปสองเดือนด้วย
มีบางคนที่เคยอยู่ที่นี่แต่ไม่ทำตามกฎก็ต้องออกไปอย่างเสียใจ เพราะไม่มีใครที่อยากจากไป ทุกคนรักและผูกพันกับครอบครัว ดร.สืบฟ้า ซึ่งเป็นคุณพ่อของโรเจอร์
ซึ่งตอนนี้ดร.สืบฟ้า ป่วยต้องนอนพักรักษาตัวด้วยโรคมะเร็งที่โรงพยาบาลในกรุงอมร ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศสีหาอมร ดร.สืบฟ้ามอบหมายให้โรเจอร์ลูกชายคนโตได้ทำหน้าที่ประมุขของบ้านหลังจากที่ ดร.ป่วย และต้องเข้าๆออกๆโรงพยาบาลเป็นประจำ
ส่วนคุณแม่ของโรเจอร์ ผู้มีนามว่า คุณพรฤดี ก็เป็นผู้ที่มีนิสัยอ่อนโยน และเป็นคนสุภาพ ลูกสองคนของของดร.สืบฟ้าและคุณพรฤดีมีนิสัยที่ดีเหมือนบิดามารดา ไม่เคยใช้ความรุนแรงกับบ่าวในบ้าน
ครอบครัว ดร.สืบฟ้าจึงเป็นครอบครัวที่บ่าวทุกคนรักและจงรักภักดี และเป็นครอบครัวที่ไม่เคยมีประวัติไม่ดีไม่งามในการทำร้าย หรือเอาเปรียบคนทำงานในบ้านแต่อย่างใด
โรเจอร์ เข้ามานั่งบนเก้าอี้สีน้ำตาลที่ทำด้วยไม้อย่างดีที่มีเบาะหนาและนุ่มสีขาวพร้อมลวดลายดอกไม้ใบไม้ในโต๊ะรับประทานอาหารที่มีเก้าอี้อยู่สามตัว เแล้วรินน้ำจากโถน้ำผลไม้ลงในแก้วเพื่อดื่ม
ชายหนุ่มดื่มน้ำผลไม้แล้วถามกานดาว่าวันนี้มีใครโทรศัพท์มาหาเขาหรือไม่ ด้วยเขานัดกับอติพงศ์ เพื่อนรัก เพื่อจะออกไปยังสนามเทนนิสเพื่อตีเทนนิสในช่วงบ่ายของวันนี้
“คุณอติพงศ์โทรมาบอกว่าจะไปรอที่สนามก่อนค่ะ คุณแจ๊กกี้ จะเข้ามาคุยเรื่องของที่ประมูลได้จากสมาคมริเวอร์เพื่ออนุรักษ์วัตถุโบราณตอนหนึ่งทุ่มค่ะ” หญิงวัยห้าสิบเศษๆตอบ
สมาคมริเวอร์เพื่ออนุรักษ์วัตถุโบราณ คือสมาคมที่ทำการสืบหาวัตถุโบราณตามร้านรับซื้อของโบราณ แล้วน้ำมาปรับปรุงแก้ไขตำหนิให้ดีขึ้นเพื่อนำออกมาขาย และยังมีการประมูลขายทุกเดือน
ณ ถ้ำมหันคา ถ้ำที่มีขนาดใหญ่ของของเผ่าเกซา ที่อยู่ในเทือกเขาฟาดุลเล คนในเผ่ากำลังวุ่นวายกับการคัดลอกคัมภีร์อธิกรัตน์ จากถ้อยคำผู้เฒ่าชาย- หญิง ผู้นำการทำพิธีบวงสรวงเทพแห่งฤดูกาลทั้งสอง ซึ่งกำลังท่องจำบทสวดในคัมภีร์ให้ผู้ที่ทำการบันทึกได้บันทึกเก็บไว้
เนื่องจากคัมภีร์ดังกล่าวได้ถูกขโมยไปจากหอคัมภีร์เมื่อห้าเดือนที่ผ่านมา แต่การสวดก็เป็นไปอย่างกระท่อนกระแท่นเนื่องจากต้องคอยให้ผู้บันทึกได้เขียนบันทึกและหยุดเพื่อฟังท่อนใหม่และแก้ไขคำบางคำที่ผิดในเป็นระยะๆ
ผู้เฒ่าทั้งสองพยายามช่วยกันสวดให้เหมือนที่ตนเคยสวดมาหลายปี แต่บางครั้งก็ไม่สามารถจดจำได้ดีพอ จึงต้องทบทวนอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และคัมภีร์ก็มีความยาวมาก ถึงแม้เกิดความยากลำบากเพียงใดผู้เฒ่าทั้งสองก็ไม่ละความพยายามในการจดจำบทสวดให้ได้สมบูรณ์ที่สุดขอแต่เพียงให้ได้บันทึกไว้จนจบ
เพื่อใช้ในการอ่านสวดในพิธีกรรมการบวงสรวง แทนคัมภีร์เล่มเดิมซึ่งเป็นคัมภีร์อันเก่าแก่ที่หายไปเป็นครั้งที่สอง บทสวดที่ถูกต้องจะทำให้พิธีบูชาเทพแห่งฤดูกาลนั้นสมบูรณ์ดี ขณะนี้เวลาในพิธีบวงสรวงก็งวดเข้ามาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งเผ่าเกซาต้องจัดพิธีใหญ่ในการบวงสรวงขอพรเทพแห่งฤดูกาลเพื่อการลงการกสิกรรมทุกปีในพื้นดินที่เป็นเนื้อที่ของเผ่า
ภายนอกถ้ำก็เช่นกันเกิดความโกลาหลอย่างมากมายอันเนื่องจากต้องตามหาคัมภีร์อธิกรัตน์ อันศักดิ์สิทธิ์ให้ทัน เพื่อสำหรับให้ผู้เฒ่าที่นำสวดในพิธีบวงสรวงได้ใช้อ่านบวงสรวง ซึ่งภาษาในคัมภีร์เป็นภาษาของเผ่าเกซา โดยบรรพบุรุษได้ร่วมใจกันคิดค้นบทสวดที่มีเนื้อหาดี และไพเราะให้ทุกคนในเผ่าได้สวด
ความหมายในคัมภีร์นั้นสอนให้ทุกคนกระทำความดีและไม่ทำสิ่งที่เลวร้าย พึ่งพาช่วยเหลือกัน และไม่ทำร้าย ทำลายสิ่งต่างๆทั้งมีชีวิตและไม่มีชีวิต ตลอดจนการดูแลธรรมชาติให้คงอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ รวมถึงการกล่าวบูชาเทพทั้งหลายโดยเฉาะเทพแห่งฤดูกาล
หากเสาะหาไม่พบแล้วในวันบวงสรวงเกิดการสวดคำใด หรือท่อนใดผิดพลาดก็จะเป็นเหตุให้เกิดอาเพศ ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมากจากพายุและน้ำท่วมใหญ่ เหมือนในครั้งอดีตที่เคยเป็นมาเมื่อสองปีหลังจากเกิดการหายไปของคัมภีร์
คนในเผ่าจึงต้องหาวิธีแก้ไขเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่คัมภีร์หายไปเป็นหนที่สอง โดยให้ผู้เฒ่าผู้นำสวดชาย- หญิงสวดเนื้อหาในคัมภีร์เท่าที่จำได้ แล้วมาอ่านปรับปรุงจนถูกต้องสมบูรณ์ที่สุด
สองปีก่อนเมื่อคัมภีร์ได้หายไป ก็ไม่มีคัมภีร์มาอ่านประกอบการบวงสรวง ทำให้เกิดความผิดพลาดในการสวด จึงเกิดเหตุอาเพศถัดจากวันทำพิธีหนึ่งวัน
ผู้คนไม่ว่าเด็ก หรือคนชรา รวมทั้งสัตว์เลี้ยง สัตว์ป่าน้อยใหญ่ต้องล้มตายไปส่วนหนึ่ง ครานั้นเป็นโศกนาฏกรรมที่สร้างความสะเทือนขวัญให้คนในเผ่าอย่างรุนแรง แต่ก็บังเอิญอย่างที่สุดเมื่อมาค้นหาคัมภีร์อธิกรัตน์เจอในบ้านของแม่เฒ่าเพตาในสองสามวันหลังจากเกิดอาเพศนั้น ซึ่งนั่นก็เป็นการหาคัมภีร์เจอเมื่อสายไปแล้วหลังผู้คนล้มตายเกือบหนึ่งพันคน การทำพิธีบูชาเทพเจ้าแห่งฤดูกาลครั้งต่อไปเหลือเวลาอีกเพียงห้าเดือนที่จะต้องตามหาคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์นี้ให้พบ
แม่เฒ่าเพตานั้นอดีตเคยเป็นผู้นำทางพิธีฝ่ายหญิง ผู้ซึ่งพลาดโอกาสจากการเป็นผู้นำฝ่ายหญิงในพิธีบวงสรวงเทพแห่งฤดูกาลมาหลายปี การทำพิธีบวงสรวงในระยะปีหลังๆมานี้ตำแหน่งอันทรงเกียรติของฝ่ายหญิงได้เป็นของแม่เฒ่าอโนรีแทนสาเหตุเพราะในหลายปีที่ผ่านมาแม่เฒ่าเพตามักขาดความระมัดระวังในการควบคุมการพูดจากับบุคคลต่างๆ และกิริยามารยาทก็เริ่มที่ไม่เหมะสมที่จะเป็นตัวแทนอันทรงเกียรตินี้ เพราะผู้นำการบวงสรวงทั้งชายหญิงนอกจากสามารถอ่านบทสวดได้ถูกต้องและไพเราะแล้ว คุณสมบัติที่ต้องมีอีกประการหนึ่งคือ เป็นผู้มีมารยาทอันงดงาม มีนิสัยอ่อนโยน ควบคุมตนเองได้ดีไม่ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมา ซึ่งจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้คนในเผ่าได้เห็น และภูมิใจในเชื้อสายเผ่าพันธุ์ตนเอง อีกทั้งเผ่าเกซาก็ถือมั่นในความสงบมาช้านาน ไม่ต้องการให้ผู้ใดปฏิบัติตนให้คนในเผ่าปั่นป่วนโดยเฉพาะผู้นำด้านต่างๆต้องระมะระวังการพูดจา และกิริยามารยาทเป็นพิเศษแม่เฒ่าอโนรีผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมกว่าจึงได้รับคัดเลือกจากคณะผู้บริหารเผ่าเกซาให้เป็นผู้นำพิธีสวดบูชาเทพแห่งฤดูกาลอันศักดิ์สิทธิ์แทน
เผ่าเกซามีชนเผ่าอยู่สองแสนคน มากกว่าเผ่าใดในประเทศลานี ประเทศที่มีเทือกเขาฟาดุลเลอันกว้างใหญ่ขวางทางออกทะเลไว้ หากแต่มีเพียงอุโมงค์อาทิตรัตน์เพียงอุโมงค์เดียวเท่านั้นที่ให้รถไฟ และรถยนต์ผ่านไปได้โดยออกไปสู่สะพานข้ามไปยังดินแดนของอีกประเทศหนึ่งในทวีปมายา ซึ่งเป็นสะพานเหล็กที่ไม่ยาวมากนักเนื่องจากทะเลที่ขวางกั้นสองประเทศนั้นเป็นแค่ช่องแคบ
และเผ่าเกซาก็อยู่อาศัยในแถบภูเขานี้มาหลายชั่วอายุคนมีลูกหลานได้ออกไปทำงานอยู่ทั่วโลก รวมถึงท่านลาฟีอะผู้เป็นบุตรชายคนโตของหัวหน้าเผ่าเกซา พี่ชายของลายา หรือลายาณีที่ได้ทำงานและมีครอบครัวอยู่ทีประเทศปุรมาลี ในทวีปที่ห่างไกล
ภาพขนาดใหญ่นั้น เป็นภาพของแม่ชี(ท่านแม่) และท่านพ่อที่ถ่ายจากล้องถ่ายภาพในอดีต ขณะที่ท่านทั้งสองเข้าพิธี สาเดวันยา หรือ พิธีแต่งงาน เมื่อสามสิบปีก่อน
ท่านแม่เคยเล่าให้ลายาฟังว่าหลังจากแต่งงาน ท่านแม่ของลายา ก็ให้กำเนิดพี่ชายของลายา คือท่านพี่ ลาฟีอะในปีถัดมา และสิบปีต่อมาก็ให้กำเนิด ลายา
ในอดีตนั้นท่านแม่ได้รู้จักกับท่านพ่อจากการที่ท่านแม่ได้มาปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของเจ้านายในหน่วยงานระดับสากลหน่วยงานหนึ่ง ทำให้ท่านแม่ที่มีหน้าที่ช่วยเหลือดูแลงานด้านเวชภัณฑ์ที่เผ่าเกซา ท่านแม่ในตอนนั้นมีรูปร่างค่อนข้างเจ้าเนื้อ มีนัตย์ตาสีน้ำเงิน ผิวสีขาวจัดเหมือนดังเช่นชาวซีกโลกเหนือโดยทั่วไป ท่านได้ทำงานอยู่ที่เผ่าเกซาสามปีเต็มจนกระทั่งสนิทสนมกับท่านพ่อซึ่งขณะนั้นเป็นบุตรชายคนโตของหัวหน้าเผ่า ท่านพ่อมีรูปร่างสูงโปร่งเหมือนหนุ่มๆชาวเผ่าเกซาโดยทั่วไป หากแต่มีลักษณะท่าทางเหมือนผู้ที่มีการศึกษาดีคนหนึ่งจึงทำให้ท่านแม่ในขณะนั้นก็เกิดความรู้สึกดีๆเป็นพิเศษต่อท่านพ่อขึ้นมา
ท่านพ่อและบ่าวไพร่มักจะช่วยกันทำอาหารประจำเผ่าให้หน่วยงานสากลที่ท่านแม่ทำงานด้วยได้รับประทานเป็นประจำ และบางครั้งก็สวมชุดประจำเผ่ามาที่พักของคณะทำงานของท่านแม่ ท่านแม่รู้สึกดีต่อท่านพ่อจนเกิดความประทับใจ และชมชอบในเอกลักษณ์ของเผ่าเกซา ตลอดจนนิสัยโอบอ้อมอารีของคนในเผ่า ไม่นานท่านแม่ก็แจ้งท่านตาท่านยายว่ามีเพื่อนชายคนสนิท ต่อมาก็กลายมาเป็นคนรักและแต่งงานกันตามพิธีของเผ่าเกซา