เหตุผลที่อยากฆ่าตัวตาย

หลายๆคนอ่านหัวข้อกระทู้แล้วอาจจะแอบด่าในใจว่า "พวกโง่ สิ้นคิด" แต่จะมีสักกี่คนที่รับรู้ถึงความรู้สึกของคนที่คิดสั้นจนอยากจะจบชีวิตตัวเอง ไม่ว่าสาเหตุมาจากความผิดหวัง เสียใจ อกหัก ชีวิตไม่เหลืออะไร สาเหตุที่ใครคนอื่นมองว่ามันไม่ได้หนักหนาขนาดจะต้องจบชีวิตตัวเองลงง่ายๆแบบนี้ แต่หากใครสักคนที่เจอเข้ากับตัว จะรู้เลยว่าปัญหาใหญ่โตที่เจอ มันทำให้เรามืดแปดด้าน และหาทางออกไม่เจอ เหมือนเราไปอยู่ในห้องมืดที่ไม่มีทางออก ทุกๆแย่มันดูแย่ไปหมด

หลายครั้งที่เราได้ดูคลิปพวกที่กรีดข้อมือตัวเอง กรีดหน้าตัวเองหรือตามตัว เพราะว่าโดนคนที่เรารักทิ้งไป พวกเค้าเหล่านั้นล้วนแล้วแต่ทำเพื่อ "เรียกร้องความสนใจ" ที่เราพูดได้เต็มปากคือ เพราะเราเคยผ่านจุดนั้นมา กรีดให้มันเลือดออกให้เป็นแผล เพื่อแสดงความรักอันยิ่งใหญ่ที่มีต่อคนที่รัก แต่หารู้ไหมว่าการกระทำแบบนี้ทำให้พวกเค้ามีแต่สมเพชเรา

เราเริ่มทำอะไรสิ้นคิดแบบนี้ตอนเรียนอยู่ม.ปลาย ตอนนั้นทะเลาะกับแม่และคนที่บ้าน เรื่องติดเพื่อนและกลับบ้านไม่เป็นเวลา เสียใจมากที่คนในครอบครัวไม่เข้าใจ ขังตัวเองอยู่ในห้องมองไปเห็นคัดเตอร์ ก็หยิบมาคิดจะกรีดข้อมือตัวเองให้ตาย แต่เดี๋ยวก่อน! หากต้องทำถึงตาย เราจะกรีดลงไปลึกมักมาก และมันคงเจ็บมากน่าดู ขนาดแค่กระดาษบาดยังร้องโอ้ยเลย แล้วนี้ต้องบรรจงกดมีดคัดเตอร์ที่แขน มันคงจะเจ็บช้าๆ และเจ็บมาก ผลสุดท้ายลองกรีดเบาๆ เลือดซึมออกมานิดหน่อย เหมือนแผลโดนกระดาษบาด แต่หลายๆแผล ในหัวตอนนั้นเราคิดว่า ไม่มีใครรักและเข้าใจเรา และไม่อยากจะอยู่บนโลกใบนี้แล้ว

หลังจากที่ไม่กล้ากรีดแขน ก็เอาผ้าปูที่นอนขนาด 6 ฟุต มาผูกกับกระจกเหล็กดัด เพราะว่าเหล็กดัดตรงกระจกที่ห้องค่อนข้างสูง เตรียมเก้าอี้เตรียมอะไร กำลังจะเอาหัวเข้าห่วง ก็เกิดกลัวตายขึ้นมา ในหัวคิดมันจะทรมานไหมกว่าจะตาย? หลังจากนั้นเสีย MSN ก็ดังขึ้น (ยุคนั้นกำลังฮิต) เพื่อนส่งเพลง MP3 มาให้ เพลงของ Mad pack it ชื่อเพลง "อยู่เพื่อตัวเอง" เพื่อนคนนี้รู้ว่าเราทะเลาะกับที่บ้าน ส่งมาให้กำลังใจและได้จังหวะมาก เราเปิดฟังเพลงนี้วนไปวนมา จนในที่สุดก็เก็บผ้าปูนที่นอนและเก้าอี้ แล้วออกไปขอโทษที่บ้าน เรื่องวันนี้จบลงด้วยดีอย่าไม่คาดคิด

แต่แล้วเรามาเกือบพลาดตายครั้งล่าสุดเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เราทะเลาะกับแฟนรุนแรงจนถึงขั้นจะเลิก ตอนนั้นเราแต่งงานและมีลูกกันล่ะ พอแฟนเราบอกจะเลิกเท่านั้นล่ะ เราปิดห้อง กรอกยาแก้แพ้จนหมดขวด รวบๆก็มากกว่า 30+ เม็ด ผ่านไปประมาณ 15 นาที เราเริ่มมีอาการคลื่นไส้ อ้วกออกมาเป็นน้ำ หายใจถี่ๆ เริ่มเดินไม่ไหว ลมตัวลงนอนกับพื้นพิมพ์ข้อความในมือถือส่งให้แฟนว่า "ฝากดูแลลูกแทนเค้าด้วยนะ" ตอนนั้นหัวใจเราเต้นแรงมาก หรือเรียกว่าใจสั่น ร่างกายไม่มีแรง สุดท้ายเรามารู้สึกตัวอีกทีตอนที่พยายามกำลังจะสอดสายยางเข้าทางจมูก เพื่อล้างท้องเรา มันเจ็บและทรมานมากเลยในการล้างท้อง เพราะต้องสอดสายยางผ่านทางจมูกลงไปที่กระเพราะ เราน้ำตาไหลตลอดเวลา ภวานาให้เรารอด และไม่เป็นอะไร เพราะแค่อารมณ์ในตอนนั้นที่เราคิดว่าเราจะไม่เหลือใคร ทั้งๆมีลูกอยู่ เรากลับมองว่าผู้ชายสำคัญกว่า ช่างโง่จริงๆ ภาพพ่อ แม่ และ ลูกที่เรารักผุดขึ้นมาให้เห็นหัว เราไม่อยากตายแล้วเราอยากอยู่ต่อ ดูลูกเติบโต อยู่ตอบแทนพระคุณพ่อแม่ น้ำตาเราไหลตลอดเวลาแต่ร่างกายเราขยับไม่ได้เลย ภาพพยาบาลและหมอวุ่นวายกันไปหมด แต่เชื่อไหมเรากลับไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย ทุกอย่างมันวิ้งไปหมด นอกจากเสียงที่คิดอยู่ในหัวว่า "ขอให้รอดด้วยเถอะ" แน่นอนเรารอดชีวิตจากการกินยาครั้งนั้น แต่ก็ไปล้างท้องช้าเกินไปเลยทำให้มีผลต่อตับเราในระยะยาว ความผิดพลาดและความสิ้นคิดของเราเกือบทำให้เราไม่ได้เห็นลูกเข้าโรงเรียน เกือบทำให้เราพลาดสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ หลังจากที่เราออกจากห้องฉุกเฉินเราเห็นใบหน้าที่กังวลและโศกเศร้าของแม่เรา และแฟนเราที่ร้องไห้กับสิ่งที่เราทำลงไป แฟนเราบอกว่า เค้าเสียใจมากกับการกระทำของเรา และเค้าไม่อยากเสียเราไป ที่บอกเลิกไปเพราะโมโห และไม่คิดว่าเราจะกล้าทำถึงขนาดนี้

ใช่คะเรารู้สึกโง่มากพอลองมองย้อนกลับไป บางอย่างมันอาจจะไม่ได้แย่อย่างที่เราคิด แต่มันติดที่ความคิดของเรากับคำว่า "กลัว" พูดเลยคะว่าเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ เพราะทุกวันนี้ใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าให้คุ้มกับที่เราได้โอกาสรอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้น และไม่มีความคิดที่จะฆ่าตัวตายหรือทำร้ายตัวเองอีกเลย ทุกวันนี้มีเป้าหมายและรู้ว่าจะทำเพื่อใครอยู่เพื่อใคร ขอให้ทุกคนสู้ๆนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่