นี่คือกระทู้เตือนใจของคนที่มีวิธีเรียกร้องความสนใจแบบผิด ๆ
พวกที่ชอบเอะอะก็หยิบมีดขึ้นกรีดแขนตัวเอง เห็นกระจกบางหน่อยก็ต่อยให้บาดนิ้วเล่น
อยากบอกว่า ถ้าเกิดซวยติดเชื้อขึ้นมาล่ะก้อ ... ชะเอิ่งเอิงเอย ... ยาวววววว
เริ่มแรกก็งี่เง่า หยิบใบมีดคัตเตอร์มากรีดแขนเล่นก่อน แบบว่า "กรีดแขน แล้วใจจะหายเจ็บ"
ซักพักชักหลอน ๆ เห็นหน้าตัวเองในกระจกแล้วเกลียดชัง "หน้าอย่างงี้ ใคร ๆ ก็ไม่รัก" ต่อยให้มันแตก ๆ ไปซะ
ผ่านไป 1 อาทิตย์ ... แผลเริ่มสมาน ... แต่มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ... เพราะแผลดันเริ่มบวม แดง และคันคะเยอ
บริเวณผิวหนังรอบข้างที่ไม่ได้เป็นแผล ก็แดงเป็นปื้น ๆ กระจายวงกว้างอยู่ใต้ผิวหนัง
เริ่มเป็นสิ่งบอกเหตุว่า ... มีบางอย่างไม่ปกติ !!! ร่างกายไม่น่าจะไม่สามารถรักษาแผลนี้ได้ด้วยตัวเองแน่ ๆ
แล้วเวลาแห่งความสลดก็มาถึง เมื่อต้องแบกเอาใบหน้าบาง ๆ ไปหาหมอ ... หมอก็มองว่า "เป็นคนไข้จิตเวช"
ไม่ว่า ... แต่ปลอบ ... ส่วนแผลนี่ ... ติดเชื้อรุนแรง ... ฉีดยา ... ต้องมาให้หมอดูและทำแผลทุกวัน ... แนวโน้มแผลเป็น 100%
... อย่าคิดอะไรง่าย ๆ อย่าสักแต่ว่าจะทำเพื่อสะใจ ... "แผลเป็น" คือ "สัญลักษณ์ความโง่" ที่จะอยู่ติดตัวเราตลอดไป
... กรีดไม่ลึกเดี๋ยวก็หาย ...
พวกที่ชอบเอะอะก็หยิบมีดขึ้นกรีดแขนตัวเอง เห็นกระจกบางหน่อยก็ต่อยให้บาดนิ้วเล่น
อยากบอกว่า ถ้าเกิดซวยติดเชื้อขึ้นมาล่ะก้อ ... ชะเอิ่งเอิงเอย ... ยาวววววว
เริ่มแรกก็งี่เง่า หยิบใบมีดคัตเตอร์มากรีดแขนเล่นก่อน แบบว่า "กรีดแขน แล้วใจจะหายเจ็บ"
ซักพักชักหลอน ๆ เห็นหน้าตัวเองในกระจกแล้วเกลียดชัง "หน้าอย่างงี้ ใคร ๆ ก็ไม่รัก" ต่อยให้มันแตก ๆ ไปซะ
ผ่านไป 1 อาทิตย์ ... แผลเริ่มสมาน ... แต่มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ... เพราะแผลดันเริ่มบวม แดง และคันคะเยอ
บริเวณผิวหนังรอบข้างที่ไม่ได้เป็นแผล ก็แดงเป็นปื้น ๆ กระจายวงกว้างอยู่ใต้ผิวหนัง
เริ่มเป็นสิ่งบอกเหตุว่า ... มีบางอย่างไม่ปกติ !!! ร่างกายไม่น่าจะไม่สามารถรักษาแผลนี้ได้ด้วยตัวเองแน่ ๆ
แล้วเวลาแห่งความสลดก็มาถึง เมื่อต้องแบกเอาใบหน้าบาง ๆ ไปหาหมอ ... หมอก็มองว่า "เป็นคนไข้จิตเวช"
ไม่ว่า ... แต่ปลอบ ... ส่วนแผลนี่ ... ติดเชื้อรุนแรง ... ฉีดยา ... ต้องมาให้หมอดูและทำแผลทุกวัน ... แนวโน้มแผลเป็น 100%
... อย่าคิดอะไรง่าย ๆ อย่าสักแต่ว่าจะทำเพื่อสะใจ ... "แผลเป็น" คือ "สัญลักษณ์ความโง่" ที่จะอยู่ติดตัวเราตลอดไป