พอดีผมได้ทำงานพาร์ทไทม์ของบริษัทบัตรเครดิตแห่งหนึ่ง ซึ่งลักษณะงานก็คือ โทรไปแจ้งเตือนกับลูกค้าว่า เลยวันครบกำหนดชำระมาแล้ว ถ้าไม่จ่ายก็จะเสียค่าปรับ ซึ่งผมคิดว่า วันครบรอบกำหนดชำระที่อยู่ในใบแจ้งหนี้ ก็คือวันที่ลูกค้าจะต้องจ่ายเงินให้กับบัตรก่อนวันนั้น หรือภายในวันนั้น ทีนี้ พอเลยกำหนดมา สายก็จะทำการโทรออกไปแจ้งเตือนลูกค้าว่า เลยครบกำหนดแล้วนะ แล้วทีนี้ ผมได้คุยกับลูกค้าหลายๆแบบ ซึ่งบางทีทำไมลูกค้าไม่เข้าใจหรอครับ ว่ามันเลยมาแล้ว ก็จะต้องมีการแจ้งเตือน หรือมันจะตัดรอบบัญชีใหม่ ทำให้ประวัติการชำระเงินของลูกค้าเสียนะครับ ลูกค้าบางคนก็ อุ้ยๆ พี่ลืมจ่ายค่ะน้อง ขอโทษที บางคนก็วีนแบบ อะไรกันคะน้อง เพิ่งเลยมาวันเดียวเอง สองสามวันเอง นี่ทวงกันแล้วหรอ คืออยากให้เข้าใจอ่ะครับว่า มันเป็นระบบงานของบริษัท ถ้าลูกค้าไม่อยากให้ทวง ทำไมไม่จ่ายกันให้ตรงวันล่ะครับ ผมสงสัยมาก ผมว่านะ การมีบัตรเครดิตนี่ต้องมีวินัยในการเงินมากๆอ่ะครับ แล้วลูกค้า็ก็น่าจะรู้ตัวว่า ตนเองมีการรูดสินค้า กดเงินสด ผ่านบัตรเครดิต ซึ่งหมายความว่า ในแต่ละเดือน ทางลูกค้าจะต้องจ่ายคืนกลับมา เจอลูกค้าจ่ายเกินวัน มีค่าปรับเกิดขึ้น แต่ลูกค้าพูดจาดี มีเหตุผล ผมแทบจะถวายการเวฟค่าปรับให้เลยอ่ะครับ แต่บางคนนี่แบบ จ่ายก็ช้า โทรไปเตือนก็แล้ว ทวงก็แล้ว อย่างนี้มันน่าให้เกิดค่าปรับครับ เพราะเป็นความผิดลูกค้าเต็มๆ แถมมาเหวี่ยงใส่อีก บางทีก็แอบคิดในใจ นี่กูผิดใช่ไหม ที่ไม่อยากให้ลูกค้าเสียประวัติ หรือค้างชำระ ก็ต้องปล่อยตามมีตามเกิดอ่ะครับ

ปล. นักศึกษางานพาร์ทไทม์แบบผมได้ทวงแบบ ลูกค้าปกติอ่ะครับ เลเวลยังไม่ถึงขั้นแบบ ค้างสอง สามงวด ถ้าสองสามงวดนั่นต้องโดนพี่ๆเลเวลสูงๆ มีทักษะในการทวง ซึ่งน้ำเสียงวาจา ก็เป็นไปตามงวดที่ค้างชำระครับ อย่างผมอ่ะใสๆ แทบจะกราบลูกค้าเลยล่ะครับถ้าทำได้

ปล.อีกครั้ง บางทีก็สงสารลูกค้าที่โดนขายประกันทางโทรศัพท์นะครับ ที่โดนเรียกเก็บยอดกับทางบัตรเครดิต คือการยกเลิกเนี่ย มันต้องติดต่อกับทางบ.ประกันนะครับ โดยคืนกรมธรรม์ พร้อมกับเขียนคำร้อง  หารายละเอียดกับทาง คปภ ดูอ่ะครับ บางทีลูกค้าไม่เข้าใจ ว่ายกเลิกกับทางบ.ประกันแล้ว ทำไมยังโดนเรียกเก็บอยู่ มันต้องยกเลิกเป็นลายลักษณ์อักษรครับ แล้วทางประกันจะคืนเบี้ยกลับมายังบัตรอ่ะครับ ถึงแม้ว่าเวลาทำจะเผลอตอบตกลง หรืออะไรไป แต่ยกเลิกนี่ยุ่งยากมากอ่ะครับ มันไม่เหมือนกับประกันที่ซื้อกับตัวแทนนา ที่ไม่ส่ง แล้วจะขาดไปเอง