ต่อจากตอนที่แล้ว ที่พวกเราพูดถึงความพ่ายแพ้ที่เป็นส่วนหนึ่งของการเล่นหุ้น ซึ่งยังไงซะพวกเราก็จะต้องแก้ไขแนวทางตัวเองให้เหมาะสม พวกเราพูดคุยในเรื่องการกลัวต่อความพ่ายแพ้ในการเล่นหุ้น ซึ่งมันจะสร้างความเสียหายให้กับเราอย่างมหันต์หากเราไม่ตรวจสอบเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม อย่างที่ Mark Ritchie ได้เน้นย้ำเรื่องนี้ว่า ความพ่ายแพ้เป็นพื้นฐานที่สำคัญในการทำกำไรกลับคืนมาได้
อาหารสมองวันนี้ผมจะถามพวกเราว่า ตอนนี้เรามีความเชื่อมั่นหรือรู้สึกกลัวกับการเล่นหุ้นอยู่ล่ะ? หวังว่าคำถามนี้เราคงจะตอบได้ งั้นเรามาดูกันต่อเลยดีกว่า
เทรดเดอร์ที่ดีที่สุดเขาจะไม่ให้ความกลัวเข้ามาครอบงำความสำเร็จ แน่นอนพวกเขามีแนวทางในการเดินของตัวเอง พวกเขาเคารพต่อตลาดหุ้นและก็ตรวจดูความเสี่ยงที่ได้รับแต่ละครั้ง ทำให้พวกเขามีความเชื่อมั่นมากพอที่จะเข้าออกจากตลาดหุ้นและมีความมั่นใจต่อการใช้แบบแผน ทำให้พวกเขาสามารถเล่นหุ้นได้อย่างคล่องแคล่ว และก็เล่นตามความเหมาะสมของตัวเอง พวกเขารู้ตัวเองว่าพวกเขาพ่ายแพ้ได้ทุกเมื่อและจากนั้นพวกเขาก็จะมาตรวจดูตัวเองอีกทีนึง
แล้วพวกเราล่ะ เป็นเทรดเดอร์แบบไหน?
เล่นหุ้นให้ดียิ่งขึ้น
ฟังดูแล้วเป็นคำพูดเรียบง่ายๆใช่ไหมล่ะ แต่ยังไงผมขออธิบายตรงนี้ให้กระจ่างสักหน่อยนะครับ
การเล่นหุ้นให้ดียิ่งขึ้นไม่ได้หมายความว่าเราได้ชัยชนะในการเล่นหุ้น เพราะว่าแน่นอนพวกเราไม่รู้หรอกว่าสักวันหนึ่งเราจะต้องล้มเหลวบ้าง เรื่องนี้เรามักจะเข้าใจผิดกันมาตลอด หมายความว่าเราจะต้องเล่นหุ้นตามความเหมาะสมของตัวเอง ซึ่งจะต้องมีแบบแผนเป็นของตัวเองในการเล่นหุ้น หากเราไม่มีแบบแผนเลย ก็เลิกอ่านบทความนี้เสียและก็ไปสร้างแบบแผนของตัวเองขึ้นมาก่อน เราไม่สามารถรู้ได้หรอกว่าทิศทางลมจะเปลี่ยนเส้นทางไปทางไหน แต่หากเรามีเส้นทางเป็นของตัวเอง เราก็สามารถเล่นหุ้นได้ดีโดยที่ไม่กังวลกับความพ่ายแพ้เลย หากเรารู้ความเสี่ยงที่ได้รับและก็ทำกำไรได้อย่างปลอดภัย เราก็สามารถจัดสรรเงินทุนให้มีความเหมาะสมกับตัวเองได้
เปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างระมัดระวัง
ในแต่ละช่วง พวกเราก็จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงตัวเองบ้าง หากเราขาดความอดทนต่อการเปลี่ยนแปลง ก็ทำให้เราเดินเกมผิดพลาดในแต่ละสถานการณ์อยู่บ่อยๆ และเราจะต้องเอาใจใส่เรื่องนี้ให้มากๆ
ตัวอย่างเช่น เทรดเดอร์ที่มีความกลัวอยู่ข้างในและก็กำลังจะพ่ายแพ้ในการเล่นหุ้น ก็จะต้องรีบหาแนวทางการเล่นหุ้นให้เหมาะสมกับตัวเอง โดยจะต้องเป้าหมายให้สูงๆ จะทำให้เราต่อสู้กับความพ่ายแพ้ได้ แต่แน่นอนเราก็จะต้องปรับปรุงความผิดพลาดของตัวเองซะก่อน
ในหนังสือ One Good Trade ของ Mike Bellafiore นั้นได้กล่าวไว้ว่าเทรดเดอร์ที่ต้องการทำเงิน $ 5000 ก็จะต้องเจอกับการขาดทุน $ 5000 ก่อน การขาดทุน $ 5000 ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องทวงเงิน $ 5000 กลับคืนมานะครับ เราอย่าไปรีบทำกำไรเร็วเกินไป มันจะทำให้เรายิ่งขาดทุนมากขึ้นไปอีก ซึ่งมันก็ไม่ได้ช่วยให้เราแก้ปัญหาอะไรได้เลย จะมีแต่ทำให้บัญชีของเราล่มจมลง
ในการพ่ายแพ้นั้นเราจะต้องเตรียมตัวเล่นหุ้นให้มีความเชื่อมั่นและก็จะต้องรู้ตัวเองว่าทำอะไรอยู่ ไม่ใช่ทำแบบสะเพร่า
จะต้องมองตัวเลขให้ถูกต้อง
การเล่นหุ้นเราก็จะเน้นอยู่ 2 เรื่องก็คือ ราคาหุ้นบนหน้าจอหุ้นของเรากับผลกำไรขาดทุน เทรดเดอร์ส่วนใหญ่มักจะมองตัวเลขแบบผิดๆอยู่เสมอ (ในผลกำไรขาดทุน) และก็ปล่อยมันไปตามมีตามเกิด แล้วก็ค่อยมาดูราคาหุ้นทีหลัง
และต่อมาพวกเขาก็จะต้องจ่ายค่าเล่าเรียนนี้ไป
สิ่งที่ซ่อนอยู่ในผลกำไรขาดทุนนั้น ไม่ว่าเราจะมีบัญชีแบบไหนก็แล้วแต่ มันก็จะให้ตัวเลขผิดๆอยู่เสมอ ซึ่งอาชีพของเราคือจะต้องอยู่กับเกม ไม่ใช่อยู่กับผลกำไรขาดทุน
ผลกำไรขาดทุนมันก็มีอิทธิพลกับเราบ้างในบางครั้ง แต่แน่นอนเราก็จะต้องรู้ด้วยว่า เราไม่ได้เล่นหุ้นอยู่คนเดียว สิ่งที่นำไปสู่ความผิดพลาดนั้นก็ได้แก่ การพยายามทำกำไรให้ได้ก้อนโตทุกๆครั้งเมื่อเราตั้งใจแน่วแน่ว่าจะต้องทำให้ได้ แทนที่เราจะมาดูในเรื่องการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นจะดีกว่า ที่มันจะช่วยบอกเราว่าอยากรู้เรื่องอะไรบ้าง
และนี่คือส่วนที่สำคัญที่สุด
พวกเราทุกคนก็รู้ดีว่า จะต้องยอมรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้น แต่ว่าเราจะเป็นผู้แพ้หรือเปล่านี่สิ เป็นคำถามที่เราจะต้องตอบให้ได้ และทุกคนจะต้องตอบด้วย ไม่ว่าเราจะไม่เต็มใจตอบหรือไม่ก็ตามแต่ ก็แสดงให้เห็นว่าจะต้องมีความกลัวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการเล่นหุ้นของเราเข้าให้แล้ว หากเรากำลังเล่นหุ้นอยู่ เราก็จะต้องเดินหน้าให้ถูกวิธีและก็จะต้องพร้อมที่จะเล่นหุ้นไม่ว่าผลออกมาจะชนะหรือแพ้ก็ตาม
เทรดหุ้นอย่างโจร !!!
ผู้เขียน Jeff White
ผู้แปล Mr.lawrence10
ที่มา : TheStockBandit.net
เรากำลังเป็นผู้แพ้หรือเปล่า ตอนที่ 2 (ตอนจบ)
อาหารสมองวันนี้ผมจะถามพวกเราว่า ตอนนี้เรามีความเชื่อมั่นหรือรู้สึกกลัวกับการเล่นหุ้นอยู่ล่ะ? หวังว่าคำถามนี้เราคงจะตอบได้ งั้นเรามาดูกันต่อเลยดีกว่า
เทรดเดอร์ที่ดีที่สุดเขาจะไม่ให้ความกลัวเข้ามาครอบงำความสำเร็จ แน่นอนพวกเขามีแนวทางในการเดินของตัวเอง พวกเขาเคารพต่อตลาดหุ้นและก็ตรวจดูความเสี่ยงที่ได้รับแต่ละครั้ง ทำให้พวกเขามีความเชื่อมั่นมากพอที่จะเข้าออกจากตลาดหุ้นและมีความมั่นใจต่อการใช้แบบแผน ทำให้พวกเขาสามารถเล่นหุ้นได้อย่างคล่องแคล่ว และก็เล่นตามความเหมาะสมของตัวเอง พวกเขารู้ตัวเองว่าพวกเขาพ่ายแพ้ได้ทุกเมื่อและจากนั้นพวกเขาก็จะมาตรวจดูตัวเองอีกทีนึง
แล้วพวกเราล่ะ เป็นเทรดเดอร์แบบไหน?
เล่นหุ้นให้ดียิ่งขึ้น
ฟังดูแล้วเป็นคำพูดเรียบง่ายๆใช่ไหมล่ะ แต่ยังไงผมขออธิบายตรงนี้ให้กระจ่างสักหน่อยนะครับ
การเล่นหุ้นให้ดียิ่งขึ้นไม่ได้หมายความว่าเราได้ชัยชนะในการเล่นหุ้น เพราะว่าแน่นอนพวกเราไม่รู้หรอกว่าสักวันหนึ่งเราจะต้องล้มเหลวบ้าง เรื่องนี้เรามักจะเข้าใจผิดกันมาตลอด หมายความว่าเราจะต้องเล่นหุ้นตามความเหมาะสมของตัวเอง ซึ่งจะต้องมีแบบแผนเป็นของตัวเองในการเล่นหุ้น หากเราไม่มีแบบแผนเลย ก็เลิกอ่านบทความนี้เสียและก็ไปสร้างแบบแผนของตัวเองขึ้นมาก่อน เราไม่สามารถรู้ได้หรอกว่าทิศทางลมจะเปลี่ยนเส้นทางไปทางไหน แต่หากเรามีเส้นทางเป็นของตัวเอง เราก็สามารถเล่นหุ้นได้ดีโดยที่ไม่กังวลกับความพ่ายแพ้เลย หากเรารู้ความเสี่ยงที่ได้รับและก็ทำกำไรได้อย่างปลอดภัย เราก็สามารถจัดสรรเงินทุนให้มีความเหมาะสมกับตัวเองได้
เปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างระมัดระวัง
ในแต่ละช่วง พวกเราก็จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงตัวเองบ้าง หากเราขาดความอดทนต่อการเปลี่ยนแปลง ก็ทำให้เราเดินเกมผิดพลาดในแต่ละสถานการณ์อยู่บ่อยๆ และเราจะต้องเอาใจใส่เรื่องนี้ให้มากๆ
ตัวอย่างเช่น เทรดเดอร์ที่มีความกลัวอยู่ข้างในและก็กำลังจะพ่ายแพ้ในการเล่นหุ้น ก็จะต้องรีบหาแนวทางการเล่นหุ้นให้เหมาะสมกับตัวเอง โดยจะต้องเป้าหมายให้สูงๆ จะทำให้เราต่อสู้กับความพ่ายแพ้ได้ แต่แน่นอนเราก็จะต้องปรับปรุงความผิดพลาดของตัวเองซะก่อน
ในหนังสือ One Good Trade ของ Mike Bellafiore นั้นได้กล่าวไว้ว่าเทรดเดอร์ที่ต้องการทำเงิน $ 5000 ก็จะต้องเจอกับการขาดทุน $ 5000 ก่อน การขาดทุน $ 5000 ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องทวงเงิน $ 5000 กลับคืนมานะครับ เราอย่าไปรีบทำกำไรเร็วเกินไป มันจะทำให้เรายิ่งขาดทุนมากขึ้นไปอีก ซึ่งมันก็ไม่ได้ช่วยให้เราแก้ปัญหาอะไรได้เลย จะมีแต่ทำให้บัญชีของเราล่มจมลง
ในการพ่ายแพ้นั้นเราจะต้องเตรียมตัวเล่นหุ้นให้มีความเชื่อมั่นและก็จะต้องรู้ตัวเองว่าทำอะไรอยู่ ไม่ใช่ทำแบบสะเพร่า
จะต้องมองตัวเลขให้ถูกต้อง
การเล่นหุ้นเราก็จะเน้นอยู่ 2 เรื่องก็คือ ราคาหุ้นบนหน้าจอหุ้นของเรากับผลกำไรขาดทุน เทรดเดอร์ส่วนใหญ่มักจะมองตัวเลขแบบผิดๆอยู่เสมอ (ในผลกำไรขาดทุน) และก็ปล่อยมันไปตามมีตามเกิด แล้วก็ค่อยมาดูราคาหุ้นทีหลัง
และต่อมาพวกเขาก็จะต้องจ่ายค่าเล่าเรียนนี้ไป
สิ่งที่ซ่อนอยู่ในผลกำไรขาดทุนนั้น ไม่ว่าเราจะมีบัญชีแบบไหนก็แล้วแต่ มันก็จะให้ตัวเลขผิดๆอยู่เสมอ ซึ่งอาชีพของเราคือจะต้องอยู่กับเกม ไม่ใช่อยู่กับผลกำไรขาดทุน
ผลกำไรขาดทุนมันก็มีอิทธิพลกับเราบ้างในบางครั้ง แต่แน่นอนเราก็จะต้องรู้ด้วยว่า เราไม่ได้เล่นหุ้นอยู่คนเดียว สิ่งที่นำไปสู่ความผิดพลาดนั้นก็ได้แก่ การพยายามทำกำไรให้ได้ก้อนโตทุกๆครั้งเมื่อเราตั้งใจแน่วแน่ว่าจะต้องทำให้ได้ แทนที่เราจะมาดูในเรื่องการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นจะดีกว่า ที่มันจะช่วยบอกเราว่าอยากรู้เรื่องอะไรบ้าง
และนี่คือส่วนที่สำคัญที่สุด
พวกเราทุกคนก็รู้ดีว่า จะต้องยอมรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้น แต่ว่าเราจะเป็นผู้แพ้หรือเปล่านี่สิ เป็นคำถามที่เราจะต้องตอบให้ได้ และทุกคนจะต้องตอบด้วย ไม่ว่าเราจะไม่เต็มใจตอบหรือไม่ก็ตามแต่ ก็แสดงให้เห็นว่าจะต้องมีความกลัวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการเล่นหุ้นของเราเข้าให้แล้ว หากเรากำลังเล่นหุ้นอยู่ เราก็จะต้องเดินหน้าให้ถูกวิธีและก็จะต้องพร้อมที่จะเล่นหุ้นไม่ว่าผลออกมาจะชนะหรือแพ้ก็ตาม
เทรดหุ้นอย่างโจร !!!
ผู้เขียน Jeff White
ผู้แปล Mr.lawrence10
ที่มา : TheStockBandit.net