เรื่องมีอยู่แว้....
บางทีเราก็เข้าใจนะ ว่าเบอร์โทรสาธารณะเนี่ย มักจะมีพวกจิตป่วนโทรไปแกล้ง โทรไปอำอยู่เสมอๆ จึงทำให้เจ้าของเบอร์ยกหูออกบ้าง ดึงสายออกบ้าง...ซึ่งพอบางครั้ง ที่เราจำเป็นต้องใช้บริการ มันกลับไม่สะดวกเอาสักเท่าไหร่เลย....
ในชีวิตนี้ไม่เคยอยากจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ดีหรือไม่ดีก็ตาม แต่วันนี้ในวันที่เราต้องพึ่งพาอำนาจยุติธรรมจากความเป็นสังคมคนเมืองบ้าง เรากลับติดต่อเบอร์ตรง เบอร์ท้องที่ที่มีไว้ไม่ได้เลย เลยตัดสินใจโทรไป 191 แต่ต้องแจ้งความข้ามจังหวัด เพราะเบอร์นี้จะถูกรับเรื่องโดยพื้นที่ในจังหวัดที่เราโทรไปค่ะ ซึ่งเรากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่คนละจังหวัด เรื่องที่จะแจ้งคือ มีโจรงัดเข้ามาขโมยของในบ้านซึ่งในวันที่ทราบเรื่อง แม่ไม่อยู่บ้านสองคืน พอกลับไปถึง ก็พบร่องรอยถูกงัดแงะ แม่เลยโทรมาบอกเราให้โทรแจ้งความให้หน่อย เพราะแม่มีเบอร์สถานีตำรวจแต่โทรไปไม่ติด อารามตกใจเลยหาเบอร์ใครไม่ได้ ทำอะไรไม่ถูก เราเลยรับอาสาโทรแจ้งความให้เอง ก่อนจะขับรถข้ามจังหวัดเพื่อกลับไปอยู่เป็นเพื่อนแม่ที่บ้าน ซึ่งที่ทำงานของเราห่างจากบ้านประมาณ 40 กิโล
กลับพบว่า สิ่งที่เราคิดมาตลอดว่า "เบอร์นี้ถ้าไม่จำเป็นอย่าโทรเล๊ย ..โทรหาเพื่อนตำรวจดีกว่าไม๊" มันผิดโดยสิ้นเชิง ปลายสายถูกยกขึ้นโดยคุณบุญลือ แล้วส่งต่อให้ ดาบตำรวจ พนม สุขวิชัย รับเรื่องต่อ โดยทั้งคู่ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ให้เข้าไปยังที่เกิดเหตุ และโทรมาแจ้งให้เราทราบเป็นระยะ
แล้วพูดประโยคตบท้ายว่า ......"สบายใจได้แล้วนะครับผมดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ....ผมอยู่ยะลา แต่สายตาผมมองไปถึงปัตตานี ยินดีรับใช้ครับ"
ซึ้ง...น้ำตาปริมๆ
เราคิดว่า ในความโชคร้ายครั้งนี้ มีความโชคดีหลายๆ อย่างแฝงอยู่ ซึ่งมันก็เหมือนสัญญาณเตือนให้เราระวังตัวเรื่องขโมยขโจรมากขึ้น ความห่วงใยของคนรอบข้าง และการทำงานของคนในสังคมที่เกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงในเหตุการณ์ดังกล่าว แม้ว่าทรัพย์ที่เสียไปจะไม่เยอะมากมาย แต่เรื่องนี้ทำให้เรารู้จักคุณค่าของการทำงานบริการมากขึ้นจริงค่ะ
ขอบคุณทั้งสองท่านมากๆ ค่ะ ศูนย์ 191 ยะลา
191 เห็นเบอร์นี้ หลายๆ คนแทบจะร้อง ยี้!! .....แต่ตอนนี้ ฉันไม่!!
บางทีเราก็เข้าใจนะ ว่าเบอร์โทรสาธารณะเนี่ย มักจะมีพวกจิตป่วนโทรไปแกล้ง โทรไปอำอยู่เสมอๆ จึงทำให้เจ้าของเบอร์ยกหูออกบ้าง ดึงสายออกบ้าง...ซึ่งพอบางครั้ง ที่เราจำเป็นต้องใช้บริการ มันกลับไม่สะดวกเอาสักเท่าไหร่เลย....
ในชีวิตนี้ไม่เคยอยากจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ดีหรือไม่ดีก็ตาม แต่วันนี้ในวันที่เราต้องพึ่งพาอำนาจยุติธรรมจากความเป็นสังคมคนเมืองบ้าง เรากลับติดต่อเบอร์ตรง เบอร์ท้องที่ที่มีไว้ไม่ได้เลย เลยตัดสินใจโทรไป 191 แต่ต้องแจ้งความข้ามจังหวัด เพราะเบอร์นี้จะถูกรับเรื่องโดยพื้นที่ในจังหวัดที่เราโทรไปค่ะ ซึ่งเรากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่คนละจังหวัด เรื่องที่จะแจ้งคือ มีโจรงัดเข้ามาขโมยของในบ้านซึ่งในวันที่ทราบเรื่อง แม่ไม่อยู่บ้านสองคืน พอกลับไปถึง ก็พบร่องรอยถูกงัดแงะ แม่เลยโทรมาบอกเราให้โทรแจ้งความให้หน่อย เพราะแม่มีเบอร์สถานีตำรวจแต่โทรไปไม่ติด อารามตกใจเลยหาเบอร์ใครไม่ได้ ทำอะไรไม่ถูก เราเลยรับอาสาโทรแจ้งความให้เอง ก่อนจะขับรถข้ามจังหวัดเพื่อกลับไปอยู่เป็นเพื่อนแม่ที่บ้าน ซึ่งที่ทำงานของเราห่างจากบ้านประมาณ 40 กิโล
กลับพบว่า สิ่งที่เราคิดมาตลอดว่า "เบอร์นี้ถ้าไม่จำเป็นอย่าโทรเล๊ย ..โทรหาเพื่อนตำรวจดีกว่าไม๊" มันผิดโดยสิ้นเชิง ปลายสายถูกยกขึ้นโดยคุณบุญลือ แล้วส่งต่อให้ ดาบตำรวจ พนม สุขวิชัย รับเรื่องต่อ โดยทั้งคู่ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ให้เข้าไปยังที่เกิดเหตุ และโทรมาแจ้งให้เราทราบเป็นระยะ
แล้วพูดประโยคตบท้ายว่า ......"สบายใจได้แล้วนะครับผมดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ....ผมอยู่ยะลา แต่สายตาผมมองไปถึงปัตตานี ยินดีรับใช้ครับ"
ซึ้ง...น้ำตาปริมๆ
เราคิดว่า ในความโชคร้ายครั้งนี้ มีความโชคดีหลายๆ อย่างแฝงอยู่ ซึ่งมันก็เหมือนสัญญาณเตือนให้เราระวังตัวเรื่องขโมยขโจรมากขึ้น ความห่วงใยของคนรอบข้าง และการทำงานของคนในสังคมที่เกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงในเหตุการณ์ดังกล่าว แม้ว่าทรัพย์ที่เสียไปจะไม่เยอะมากมาย แต่เรื่องนี้ทำให้เรารู้จักคุณค่าของการทำงานบริการมากขึ้นจริงค่ะ
ขอบคุณทั้งสองท่านมากๆ ค่ะ ศูนย์ 191 ยะลา