PCX150i All New 2014 กับการเดินทาง ...ไทย - มาเลเซีย - สิงคโปร์
โดย ขอเริ่มรีวิวที่หาดใหญ่นะครับ ส่วนใครจะไปหาดใหญ่ยังไง ลองทางดู...
การเดินทางครั้งนี้ ขอให้เครดิตกับท่านที่ปรึกษา(แต่งตั้งยศให้เรียบร้อย) เหล่านี้ด้วยนะครับ
- CraZy D Monkey
- Nipon_V-Max
- benzino
- Aor mahaboonpachai
กับข้อมูลต่างๆ ที่ได้ให้มา เพื่อเป็นแนว สำหรับเดินทาง (บอกตรงๆ ว่ายัง งง เหมือนเดิม แต่เข้าใจมากขึ้น)
พอเอามารวมกัน มันก็เห็นภาพ และความเป็นไปได้ ชัดขึ้นกว่าเดิม
จุดเริ่มต้น : ทำตามฝันที่มีอยู่มากมาย และสิ่งนี้ ก็เป็นหนึ่งในนั้น ตามสโลแกนที่ว่า ”ความฝันนั้น  ไม่มีวันหมดอายุ”
จุดหมาย : ขี่มอเตอร์ไซค์ ข้ามประเทศให้ได้  แล้วไป ทัวร์ริ่ง ในประเทศนั้น เท่าที่ทำได้ กับวันหยุดที่ผมได้ ลางาน ไป




ต่อไปจะพูดถึงรถ ของผม ว่าเจ้า  PCX 150i All New 2014 ทำอะไรไปบ้าง ถึงกล้าเอาไปวิ่งข้ามประเทศ ขนาดนี้
-ติดกล่องหลัง ครับ...เพื่อ เพิ่มพื้นที่ในการเก็บของ ซึ่งผมรู้สึกว่า ผมน่าจะติดกล่องข้างเพิ่มด้วย จะช่วยได้มากกกกกกก!
-เปลี่ยนโช๊ค เพื่อเพิ่มสมรรถนะ ในการขับขี่ ให้เหมาะกับการบรรทุกสัมภาระ และสภาพถนนที่เราไม่รู้แน่นอน ให้ดีกว่าเดิม
-เปลี่ยนชาม เพื่อให้การเร่งของรถคงที่รอบไม่ตกเวลาจะแซง หรือช่วงออกตัวในสภาพที่มีน้ำหนักมากกว่าปกติ ให้ดียิ่งขึ้น(ส่วนเรื่องความเร็ว ผมขอไม่เกิน 110พอแล้ว)
-ถ่ายน้ำมันเครื่อง ผมได้เปลี่ยนถ่ายหมดเลย เพื่อความสบายใจ
-สุดท้าย เปลี่ยนแฮนด์แบบมีตัวบาร์ค้ำกลาง และเปลี่ยนใส่ชิลสูง(ซึ่งอยากได้สูงกว่านี้ แต่ไม่มีขาย เจ้าไหนกำลังคิดจะทำ ผมสนับสนุนเลย1ตัวทันที)


แนะนำเพิ่ม....
-หาก มี Smartphone หรือ มีอุปกรณ์ที่เป็น Android หรือ OS ให้โหลด App City map 2Go ไว้ด้วย จะช่วยบอกตำแหน่ง หรือดูประกอบเส้นทาง ดีมากๆๆๆ
-หากใคร ที่รู้ตัวว่า รถตัวเองมีความจุของถังน้ำมันน้อย(ของผม 8ลิตร) ให้พกถังน้ำมันสำรองไปด้วย เพราะบางช่วงมีระยะห่างกันมาก ของปั้มต่อปั้ม
-เวลาขับขี่ ควรดูกระจกข้างเสมอ ว่ามีรถใหญ่ตามหลังมาไหม(เนื่องจากวันกลับ เห็นรถมอ'ไซค์โดน แอร์โร่ไดนามิค จากรถใหญ่ ซัดตกข้างทาง)

เริ่มกันเลย!...

สิ่งที่ผมได้เตรียมไป คือ
-หนังสือเดินทาง Passport (เล่มจริง) ประจำตัวของผมและแฟน
-เอกสาร ทะเบียนรถ และ ใบแปลทะเบียนเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งไปขอทำได้ที่ กรมขนส่งฯ ที่จังหวัดเดียวกับทะเบียนรถของท่าน(รอภายในวันเดียว)
-เอกสาร การจองโรงแรม (ถ้ามี) จะดีมาก เพื่อยืนยัน เวลาที่ จนท.สุ่มตรวจ หรือ เราหน้าตาดันเหมือนพวกคนที่เข้า-ออกบ่อยๆ เขาอาจจะสงสัยขอดูหลักฐาน
-เงินตรา ต่างประเทศของ มาเลเซีย และ สิงคโปร โดยส่วนนี้ ผมแลกไป 1หมื่นบาท กับ 2หมื่นบาท(ค่าเงินไม่คงที่ อยู่ตามเรทแลก รายวัน)
- กล้อง Action Camera,DSLRพร้อมเคสกันน้ำ,กล้อง Compact, และ Tablet เอาไว้ดูภาพ กับดึงไฟล์จาก เมมฯกล้องมาเก็บไว้(พายุถล่มก็ถ่ายได้)
- ที่แปลงหัวปลั้กไฟ ชนิด Universal สำหรับเสียบกับที่ชาร์ตมือถือ กับกล้อง และ ขวดน้ำเปล่า เอาไปเติมเพื่อดื่มดำรงชีพของเงินในกระเป๋า
- อะไหล่สำรองรถ PCX ก็มี ชุดชามขับเคลื่อน สายพาน ฟิวส์
- อุปกรณ์และเครื่องมือ เช่น ปั้มลมแบบพกพา ชุดอุดปะยาง ประแจและลูกบล็อก(เฉพาะเบอร์ที่ใช้) ไขควง เทปพันสายไฟ และไฟฉาย
- แผนที่ ของประเทศ มาเลเซีย และสิงคโปร(ถ้า GPS ของท่านมี หรือMAPในมือถือ ก็อย่าเพิ่งไว้ใจ)
- อุปกรณ์ทำแผลฉุกเฉิน

ดูเหมือนจะเยอะนะครับ...แต่ มีไว้ก่อนดีกว่าไปหาซื้อ หรือรอความช่วยเหลือ


เอาล่ะเดินทางกันเลย...






เอาล่ะ...พออิ่มก็ไปกันต่อ ขับไปเรื่อยๆ จนจะเจอทางบังคับให้ขับรถเข้าไป สถานที่หนึ่ง แล้วขับออกอีกทางประตูเพื่อวิ่งเส้นเดิม
เราก็จะมีคำถาม ในหัวว่า "เพื่อ?" (ซึ่งเราจะตรงก็ได้ สำหรับมอเตอร์ไซค์ แต่แนะนำว่า ทำตามระเบียบของเขาดีกว่า ครับ)


ขี่มาเรื่อยๆ มาถึงด่าน ก็ให้ขับเข้าไปในด่านก่อน แล้วหาที่จอด(ไม่ต้องกลัว มันมีสองด่าน ถ้าด่านแรก คุณไม่ยื่นเอกสาร ด่านที่สองจะไล่คุณกลับมาเอง)
จอดรถเสร็จ ให้ไปขอใบ เข้า-ออกประเทศ(มันจะมีตึกออฟฟิศ อยู่ใต้หลังคาตึกเดียว เข้าไปขอในนั้น) แล้วมากรอกข้อมูลข้างนอก
เพื่อยื่นส่งให้ จนท. โดย ทะเบียนรถ เจ้าของรถจะยื่นตู้4 และ พาสปอร์ต จะยื่นตู้ตรวจคนเข้าเมือง(ดูดีๆ ผมก็เบลอ)
ต้องไปยื่นด้วยตัวเองเท่านั้น ห้ามฝาก
***ถ้าฝากเขาจะเอารถเราไปถอยชนถังขยะของเทศบาลเพื่อความสะใจ <----ประโยคนี้ล้อเล่นน่ะครับ





พอเรา ยื่น ทะเบียนรถกับตู้4 กรุณารอเขาแปปนึง...อย่า ไปแสดงความเร่งรีบ กับ เขานะครับ....เพราะวันนึงๆ เขาเจอคนอย่างเรา และปัญหามากมาย จงยิ้มให้กันครับ เราแฮปปี้เขาก็แฮปปี้ มั้ง!  
กลับมาๆๆๆๆๆๆ พอยื่นเสร็จ เขาจะดำเนินการลงทะเบียน จนเรียบร้อย แล้วเขาจะให้กระดาษมาแผ่นนึง(จง เก็บ ไว้ ให้ ดี)
เพื่อวันที่เดินทางกลับ เราจะต้องยื่นเอกสารตัวนี้ ให้ศุลกากรอีกตู้หนึ่ง ซึ่งอยู่ฝั่งขาเข้าประเทศไทย(ถ้าหาย ผมเกรงว่างานเข้า แน่ๆ)



พอดำเนินการเสร็จ เราก็ขับออกมาจากด่านของไทย เพื่อไปเข้าสู่ด่านมาเลเซีย เพื่อยื่นพาสปอร์ต(คราวนี้ ไม่ต้องลงจากรถ ครับ นั่งยื่นตรงนั้น)
และพอดำเนินการเสร็จก็ขับออกมา อย่าเพิ่งดีใจนะครับว่าเสร็จแล้ว! ยังครับ ยังไม่เสร็จ!
เราต้องดำเนินการ ขอป้ายวงกลมจาก ICP เพื่อติดตัวเดินทางในมาเลเซีย หากไม่มีให้เขาตรวจ โดนปรับครั้งละ 300ริงกิต (3000บาท)
สมมุติ เราโดนเรียก แล้วไม่มีป้ายวงกลมแสดง และหมวกกันน็อคไม่ใส่สายรัดคาง โดนครับ โดนข้อหาละ3000บาท เป็น6000บาท



พอเลยป้ายมา...ให้มองไปฝั่งตรงข้าม จะเจอ ออฟฟิศของ ICP ซึ่งสามารถทำป้ายวงกลมได้ที่นั่น
แต่เราต้องซื้อประกันภัย และมีติ๊กเกอร์ติดหน้ารถ(ป้าย สีดำ-ขาว) ก่อนที่จะเข้าไป
อย่าเผลอถ่ายรูป หรือขี่เพลินเลยไปนะ ทีเดียวเชียว!
โดยขั้นตอน จะประมาณนี้...ครับ
-วนรถกลับไปจอดฝั่ง ออฟฟิศ ICP
-อย่าเพิ่งเข้าไป
-จะมีเต็นท์ทางด้านขวา ของ ออฟฟิศ เขาจะมี บริการขายประกันภัย และรับทำสติ๊กเกอร์ติดหน้ารถ(ป้าย สีดำ-ขาว) ราคาทั้งหมดไม่เกิน800 สำหรับของผม
-พอดำเนินการที่ในเต็นท์เสร็จ เราก็นำสติ๊กเกอร์ติดหน้ารถ ก่อน
-แล้วเดินเข้าไปใน ออฟฟิศ ICP เพื่อนำเอกสาร พาสปอร์ต ใบแปลทะเบียนรถภาษาอังกฤษ ใบประกันภัย ไปยื่นในช่อง
-พอถึงคิว ทาง จนท. เขาจะให้เราเดินนำไปที่รถ เพื่อให้เขาตรวจเช็ครถของเรา
-พอตรวจเสร็จ เราต้องเดินกลับเข้าไปที่ ออฟฟิศICP อีกครั้ง เพื่อรับเอกสาร ป้ายวงกลม ก็ถือว่าเสร็จสิ้น พร้อมที่จะขี่ทริป ยาวไป! ยาวไป!




คราวนี้...ก็ ฮัมเพลง แล้วขี่ยาวๆ ไปเลย ครับ!!!
น้ำมันที่นี่ ลิตรละ 19-20กว่าๆ มี 95 97 และ RACE(ตัวนี้ บอกได้คำเดียวว่า ได้ใจมาก แต่ค่าตัวเขา ลิตรละ30บาทหน่อยๆ แต่ก็ลองไป1ถัง)
ส่วนผม เติมเจ้า PCX นี่เต็มถัง(97) ประมาณ 130บาท อะไรนะ! ใช่แล้ว! 130บาท (13ริงกิต)ครับ เต็มถัง...
โดยที่นี่ การเติมน้ำมันบ้านเขาต้องเดินไปบอกที่ เคาน์เตอร์อยู่มินิมาร์ท (สังเกตุดีๆ ว่าจะมีช่องกระจก ให้เรายืนด้านนอกได้)
ให้เราบอก กับ พนง.ว่าจะเติมเท่าไหร่ หรือจะบอกว่า Full Tank แล้ว วางเงินมัดจำไว้(บางที่ 10ริงกิต ไม่ก็50ริงกิตแล้วเขาจะทอนให้)
ก็แล้วแต่เรา




ในช่วงนี้ ผมใช้ความเร็วอยู่ที่ประมาณ 90-118 กิโลเมตร ต่อ ชม. ซึ่งเท่านี้ก็เพียงพอ สำหรับผม ซึ่งมีคนซ้อนและสัมภาระ
และยางที่ใช้ ก็เป็นยางเดิม แต่เติมลม อยู่ที่ ล้อหน้า33 และล้อหลัง36 พอดีกับการรับน้ำหนัก และการทำงานของโช็ค ผมเลยรู้สึกว่า วิ่งสบาย
ส่วน อัตราการใช้น้ำมันของรถ ช่วงที่ผมได้ถ่ายรูปและเปรียบเทียบ ในความเร็วที่ประมาณใกล้เคียงกัน คือ
-ช่วงทางเรียบ จะอยู่ที่ 38.5-36.2 ต่อกิโลเมตร
-ช่วงทางที่ ขึ้นเขา ลงเนิน จะอยู่ที่ 34.6-32.4 ต่อกิโลเมตร
*นี่เป็น แค่ความคิดเห็นส่วนตัว หลังจากที่ได้ คำนวนด้วยตัวเอง โดยการกดจับในโหมดอัตราการสิ้นเปลืองของรถ
ซึ่งทั้งนี้ ขาไป เส้นทาง ไทย-มาเลเซีย(กัวลาลัมเปอร์)นั้น ผมบิดอย่างเดียว และพักแค่5ครั้ง โดยใน5ครั้ง ผมเติมน้ำมันไป 2 ครั้ง เต็มถัง
ระยะทางที่จับได้ ต่อ1ถัง คือ 322+- ซึ่งก่อนเติม ผมเสี่ยงให้ไฟกระพริบที่ขีดสุดท้าย(เพราะรู้ว่า 5กิโลต่อจากนี้ จะมีปั้ม)
แต่หากมีเนินเขา หรือทางขึ้นลาดชัน ผมคาดว่า น่าจะอยู่ที่ 280-290+-

เอาล่ะครับ...พักด้วยข้อมูลส่วนตัวเล็กน้อยไปแล้ว ตามผมไป เข้า KL กันดีกว่า....