เมื่อวานได้มีโอกาสไปทาน BBQ PLAZA สาขา โลตัส ลาดพร้าว (ตรงข้าม รร.หอวัง) เนื่องจากสาขานี้มีโปร รีฟิล ให้บริการในวันหยุดด้วย
จขกท. ไปกับแฟน 2 คน ไปถึงร้านก็ไม่ได้สนใจอะไร ก็สั่งชุด รีฟิลไป
สักพักจะมีพนักงานมาแจ้งเวลา และถือป้าย ที่ด้านหน้าจะบอกเวลาทาน และ ด้านหลังจะบอกกฎในการทานรีฟิล
ซึ่งตอนพนักงานมาพูด ก็จะบอกเวลา และบอกว่า ด้านหลังนี้เป็นกฏการทานชุดรีฟิลนะคะ แล้วก็เสียบไว้ที่โต๊ะ
ตัว จขกท ก็ยังหยิบมาอ่าน ทำความเข้าใจ และก็เสียบไว้ที่เดิม
ป้ายก็ตามภาพค่ะ จะเสียบไว้ข้างโต๊ะ
พอเริ่มกินสักพัก ก็ได้ยินเสียงผู้ชายที่อยู่โต๊ะด้านหลังซึ่งนั่งอยู่คนเดียวโวยวาย ตอนนั่นแรกนึกว่าเค้าพูดดังเฉยๆ แต่สักพักไม่ใช่แล้ว เพราะเริ่มตะคอกพนักงาน
บทสนทนาประมาณว่า
พนักงานสาว : มันเป็นกฏของทางร้านค่ะ ถ้าทานไม่หมด ต้องปรับชิ้นละ 5 บาท
มนุษย์ลุง (อายุประมาณเกือบ 50) : ผมไม่สนใจ คุณมาเสียบไว้ ใครจะไปอ่าน ถึงคุณจะบอกให้ผมอ่าน แต่ผมก็ไม่อ่านหรอก คุณต้องอ่านให้ผมฟังสิ
พนักงานสาว : แต่ได้แจ้งทางลูกค้าไปแล้วในตอนแรกนะคะว่า มีกติกาการทาน รบกวนคุณลูกค้าอ่านด้วยนะคะ
มนุษย์ลุง : (เริ่มเสียงดังมากๆๆ) ก็ผมบอกแล้วว่า ผมไม่ได้อ่านๆๆๆๆๆ ผมไม่รู้ ผมไม่สนใจ คุณไม่บอกกับผม ผมไม่ได้ดู ผมไม่รู้ และผมไม่จ่าย
พนักงานสาว : (ถอยร่นกลับที่ตั้ง คาดว่าจะไปปรึกษา ผู้จัดการ)
ตอนนั้นทั้งร้านหันมามอง ที่โต๊ะนั้นกันทุกคน เพราะแกโวยวายเสียงดังมาก แต่มนุษย์ลุงท่านนั้นก็ไม่สนใจ ก็ยังคงนั่งรูดมือถืออย่างสบายอารมณ์
สักพัก พนักงานสาวกลับมาที่โต๊ะนั้นอีกครั้ง
พนักงานสาว : คุณลูกค้าคะ ในตอนแรกดิฉันเป็นคนมาแจ้งกับคุณลูกค้าเองเกี่ยวกับเวลาในการทานอาหาร และกติกาการทาน ซึ่งถ้าคุณลูกค้าทานไม่หมด ทางร้านต้องขออนุญาตปรับเงินค่ะ (พนักงานสาวพยายามพูดด้วยแบบดีสุดๆ)
มนุษย์ลุง : (เสียงโวยวายดังลั่นร้านเหมือนเดิม) ก็ผมบอกคุณแล้วว่าผมไม่อ่าน ถ้าคุณไม่อ่านให้ผมฟัง และนี่คุณไม่บอก ผมไม่รู้ มาถึงคุณก็มาเสียบๆ ป้าย ผมไม่สนใจหรอกป้ายอะไรอะ ผมไม่จ่ายก็คือไม่จ่าย
พนักงานสาว : (ถอยร่นกลับที่ตั้ง อีกครั้ง)
ส่วนมนุษย์ลุงนั่งรูดมือถือเหมือนเดิม
คือตอนนั้นคนทั้งร้านซุบซิบกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โต๊ะ จขกท. ก็เหมือนกัน แบบ อารมณ์เผือกมาเต็มๆ อยากรู้ว่าตอนจบเป็นยังไง
สุดท้าย เป็นพนักงานอีกคนออกมา (สงสัยพนักงานคนแรกกลับไปทำแผลที่โดนกระซวกอยู่) พร้อมกับแจ้งราคา ประมาณ 900 กว่าบาท มนุษย์ลุงคนนั้นก็จ่ายไป
เรากับแฟนก็ งง ว่า สรุปแล้วยอมโดนปรับเหรอ เห็นนั่งอยู่คนเดียว เพราะตอนแรก จขกท ไม่เห็นว่าโต๊ะนั้นมาทานกันกี่คน แต่สักพัก เมีย และลูกของมนุษย์ลุงก็เข้ามาในร้าน แล้วก็คุยประมาณว่าจะไปซื้อของรอข้างบน ซึ่งมนุษย์ลุงผู้เกรี้ยวกราดเมื่อสักครู่ได้หายไป กลับร่างมาเป็นคุณพ่อผู้แสนดี จ๊ะจ๋าๆๆๆ ตลอดเวลา (แหมะ ตาลุงคนเมื่อกี๊หายไปไหนฟระ) ก็เลยถึงบางอ้อว่า มากับครอบครัวนี่เอง (แต่เสียดายที่ทางครอบครัวไม่ได้เห็นด้านดาร์กสุดๆของแก)
พอเมียมนุษย์ลุงออกไปจากร้าน พนักงานก็กลับมาไม่แน่ใจว่าคืนเงินทอนหรือคืนบัตร แต่มนุษย์ลุงก็ได้บอกว่า ผมขอพบผู้จัดการหน่อย
สักพักผู้จัดการผู้โชคร้ายก็เดินมา มนุษย์ลุงก็ได้พูดว่า
"พนักงานคุณไม่บอกผมเลยว่ามีการปรับถ้ากินไม่หมด แล้วคุณมาเสียบๆไว้ตรงนี้ ผมไม่อ่านหรอก ผมไม่สนใจ ผมว่ามันไม่แฟร์กับลูกค้า เมียผมเค้าอยากกินร้านนี้มาก เห็นว่ามีโปรรีฟิล แต่มาเจอแบบนี้บอกตรงๆผมเสียความรู้สึก ผมรับไม่ได้ ถ้าคุณบอกก่อนผมจะไม่ว่าอะไรเลย นี่คุณไม่บอก ผมก็ไม่ยอมหรอก"
ทางผู้จัดการก็ได้แต่ ค่ะๆๆๆๆ แล้วก็บอกว่า ทางร้านต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้แจ้ง และก็จะไม่มีการปรับสำหรับการกินเหลือในครั้งนี้ (กรูว่าแว้ววววววววววว)
พอคุยเสร็จ มนุษย์ลุงก็เดินออกจากร้านไปด้วยหน้าตาแช่มชื่น สุขสมอารมณ์หมาย
และด้วยความเผือก แฟน จขกท เลยหันหลังกลับไปมองว่า มนุษย์ลุงแกกินเหลือเยอะแค่ไหน ซึ่งพอหันไปมอง แฟน จขกท อุทานมาว่า
"โหหหหหหหหหหหหหหหหหห เหลือโคตรเยอะะะะะะะะะะะะะะะะะ กุ้ง หมู เหลือเยอะมาก ถ้าโดนปรับนี่เกินร้อยแน่นอน"
....................................................
เอาจริงๆ จขกท ว่า มันเป็นมารยาท และมันเป็นกฏที่ทุกคนควรจะทราบรึเปล่าว่า การเข้ามาทานร้านอาหารบุฟเฟ่ต์แบบนี้ คุณไม่ควรกินเหลือ ถึงแม้จะชิ้นสองชิ้น แต่มันก็คือเหลือ ถ้ามีคนทำแบบมนุษย์ลุงคนนั้นสัก 3 คนต่อวัน ทางร้านก็ตายสิคะ ส่วนตัว จขกท เอง ค่อนข้างเป็นเซียนร้านบุฟเฟ่ต์ พอพนักงานมาบอกว่ามีกติกาการทาน ยังหยิบขึ้นมาอ่านเลย เผื่อมีอะไรที่เราไม่ทราบ หรือขนาดทานสลัดบาร์ซิสเล่อร์ ถึงเค้าจะไม่ได้บังคับทานให้หมด แต่ก็พยายามไม่ทานเหลือ และตักมาให้พอดี คือ มันเป็นจิตใต้สำนึกที่ทุกคนควรรู้ไม่ใช่เหรอ และมนุษย์ลุงท่านนั้น ก็ท่าทางมีความรู้ แต่งตัวดี แต่ไม่เข้าใจว่า เรื่องแค่นี้ ทำไมถึงแถข้างๆคูๆ ไปได้ซะขนาดนั้น ไม่เข้าใจเหมือนกัน
ปกติ จขกท ไม่ค่อยอะไรกับคนประเภทนี้เท่าไหร่ เจอแซงคิวบ้างอะไรบ้าง ก็ยอมๆ เพราะไม่ชอบมีปัญหากับใคร แต่มาเจอแบบนี้ (ถึงแม้จะไม่ใช่คู่กรณีก็เถอะ) แต่ก็คิดว่า คนเราเดี๋ยวนี้เห็นแก่หัว และเอาปรียบสังคมมากขึ้นทุกวัน ระหว่างที่มนุษย์ลุงคนนั้นโวยวาย บอกได้เลยว่า มีแต่คนส่ายหัว ส่วน จขกท กับแฟน ซึ่งนั่งใกล้สุด นี่ส่ายหัวให้เห็นเลย คือบอกตรงๆ เจอแบบนี้แล้ว รับไม่ได้จริงๆ
ปล. วิแคะแกะเกากับแฟนว่า อาจจะเป็นไปได้ ที่มนุษย์ลุงและครอบครัว ไม่ทราบและไม่เข้าใจว่าต้องมีการทานชุดเริ่มก่อน คนละ 3 ถาด ก็เลยสั่งเพิ่มเยอะ จนอิ่มทานไม่ไหว พอเจอแบบนี้เลยโวยวายก็เป็นได้
>>> เจอมนุษย์ลุงใน BBQ PLAZA กินเหลือมากมาย แต่ไม่ยอมจ่ายค่าปรับ (เหวอสุดๆ)
จขกท. ไปกับแฟน 2 คน ไปถึงร้านก็ไม่ได้สนใจอะไร ก็สั่งชุด รีฟิลไป
สักพักจะมีพนักงานมาแจ้งเวลา และถือป้าย ที่ด้านหน้าจะบอกเวลาทาน และ ด้านหลังจะบอกกฎในการทานรีฟิล
ซึ่งตอนพนักงานมาพูด ก็จะบอกเวลา และบอกว่า ด้านหลังนี้เป็นกฏการทานชุดรีฟิลนะคะ แล้วก็เสียบไว้ที่โต๊ะ
ตัว จขกท ก็ยังหยิบมาอ่าน ทำความเข้าใจ และก็เสียบไว้ที่เดิม
ป้ายก็ตามภาพค่ะ จะเสียบไว้ข้างโต๊ะ
พอเริ่มกินสักพัก ก็ได้ยินเสียงผู้ชายที่อยู่โต๊ะด้านหลังซึ่งนั่งอยู่คนเดียวโวยวาย ตอนนั่นแรกนึกว่าเค้าพูดดังเฉยๆ แต่สักพักไม่ใช่แล้ว เพราะเริ่มตะคอกพนักงาน
บทสนทนาประมาณว่า
พนักงานสาว : มันเป็นกฏของทางร้านค่ะ ถ้าทานไม่หมด ต้องปรับชิ้นละ 5 บาท
มนุษย์ลุง (อายุประมาณเกือบ 50) : ผมไม่สนใจ คุณมาเสียบไว้ ใครจะไปอ่าน ถึงคุณจะบอกให้ผมอ่าน แต่ผมก็ไม่อ่านหรอก คุณต้องอ่านให้ผมฟังสิ
พนักงานสาว : แต่ได้แจ้งทางลูกค้าไปแล้วในตอนแรกนะคะว่า มีกติกาการทาน รบกวนคุณลูกค้าอ่านด้วยนะคะ
มนุษย์ลุง : (เริ่มเสียงดังมากๆๆ) ก็ผมบอกแล้วว่า ผมไม่ได้อ่านๆๆๆๆๆ ผมไม่รู้ ผมไม่สนใจ คุณไม่บอกกับผม ผมไม่ได้ดู ผมไม่รู้ และผมไม่จ่าย
พนักงานสาว : (ถอยร่นกลับที่ตั้ง คาดว่าจะไปปรึกษา ผู้จัดการ)
ตอนนั้นทั้งร้านหันมามอง ที่โต๊ะนั้นกันทุกคน เพราะแกโวยวายเสียงดังมาก แต่มนุษย์ลุงท่านนั้นก็ไม่สนใจ ก็ยังคงนั่งรูดมือถืออย่างสบายอารมณ์
สักพัก พนักงานสาวกลับมาที่โต๊ะนั้นอีกครั้ง
พนักงานสาว : คุณลูกค้าคะ ในตอนแรกดิฉันเป็นคนมาแจ้งกับคุณลูกค้าเองเกี่ยวกับเวลาในการทานอาหาร และกติกาการทาน ซึ่งถ้าคุณลูกค้าทานไม่หมด ทางร้านต้องขออนุญาตปรับเงินค่ะ (พนักงานสาวพยายามพูดด้วยแบบดีสุดๆ)
มนุษย์ลุง : (เสียงโวยวายดังลั่นร้านเหมือนเดิม) ก็ผมบอกคุณแล้วว่าผมไม่อ่าน ถ้าคุณไม่อ่านให้ผมฟัง และนี่คุณไม่บอก ผมไม่รู้ มาถึงคุณก็มาเสียบๆ ป้าย ผมไม่สนใจหรอกป้ายอะไรอะ ผมไม่จ่ายก็คือไม่จ่าย
พนักงานสาว : (ถอยร่นกลับที่ตั้ง อีกครั้ง)
ส่วนมนุษย์ลุงนั่งรูดมือถือเหมือนเดิม
คือตอนนั้นคนทั้งร้านซุบซิบกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โต๊ะ จขกท. ก็เหมือนกัน แบบ อารมณ์เผือกมาเต็มๆ อยากรู้ว่าตอนจบเป็นยังไง
สุดท้าย เป็นพนักงานอีกคนออกมา (สงสัยพนักงานคนแรกกลับไปทำแผลที่โดนกระซวกอยู่) พร้อมกับแจ้งราคา ประมาณ 900 กว่าบาท มนุษย์ลุงคนนั้นก็จ่ายไป
เรากับแฟนก็ งง ว่า สรุปแล้วยอมโดนปรับเหรอ เห็นนั่งอยู่คนเดียว เพราะตอนแรก จขกท ไม่เห็นว่าโต๊ะนั้นมาทานกันกี่คน แต่สักพัก เมีย และลูกของมนุษย์ลุงก็เข้ามาในร้าน แล้วก็คุยประมาณว่าจะไปซื้อของรอข้างบน ซึ่งมนุษย์ลุงผู้เกรี้ยวกราดเมื่อสักครู่ได้หายไป กลับร่างมาเป็นคุณพ่อผู้แสนดี จ๊ะจ๋าๆๆๆ ตลอดเวลา (แหมะ ตาลุงคนเมื่อกี๊หายไปไหนฟระ) ก็เลยถึงบางอ้อว่า มากับครอบครัวนี่เอง (แต่เสียดายที่ทางครอบครัวไม่ได้เห็นด้านดาร์กสุดๆของแก)
พอเมียมนุษย์ลุงออกไปจากร้าน พนักงานก็กลับมาไม่แน่ใจว่าคืนเงินทอนหรือคืนบัตร แต่มนุษย์ลุงก็ได้บอกว่า ผมขอพบผู้จัดการหน่อย
สักพักผู้จัดการผู้โชคร้ายก็เดินมา มนุษย์ลุงก็ได้พูดว่า
"พนักงานคุณไม่บอกผมเลยว่ามีการปรับถ้ากินไม่หมด แล้วคุณมาเสียบๆไว้ตรงนี้ ผมไม่อ่านหรอก ผมไม่สนใจ ผมว่ามันไม่แฟร์กับลูกค้า เมียผมเค้าอยากกินร้านนี้มาก เห็นว่ามีโปรรีฟิล แต่มาเจอแบบนี้บอกตรงๆผมเสียความรู้สึก ผมรับไม่ได้ ถ้าคุณบอกก่อนผมจะไม่ว่าอะไรเลย นี่คุณไม่บอก ผมก็ไม่ยอมหรอก"
ทางผู้จัดการก็ได้แต่ ค่ะๆๆๆๆ แล้วก็บอกว่า ทางร้านต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้แจ้ง และก็จะไม่มีการปรับสำหรับการกินเหลือในครั้งนี้ (กรูว่าแว้ววววววววววว)
พอคุยเสร็จ มนุษย์ลุงก็เดินออกจากร้านไปด้วยหน้าตาแช่มชื่น สุขสมอารมณ์หมาย
และด้วยความเผือก แฟน จขกท เลยหันหลังกลับไปมองว่า มนุษย์ลุงแกกินเหลือเยอะแค่ไหน ซึ่งพอหันไปมอง แฟน จขกท อุทานมาว่า
"โหหหหหหหหหหหหหหหหหห เหลือโคตรเยอะะะะะะะะะะะะะะะะะ กุ้ง หมู เหลือเยอะมาก ถ้าโดนปรับนี่เกินร้อยแน่นอน"
....................................................
เอาจริงๆ จขกท ว่า มันเป็นมารยาท และมันเป็นกฏที่ทุกคนควรจะทราบรึเปล่าว่า การเข้ามาทานร้านอาหารบุฟเฟ่ต์แบบนี้ คุณไม่ควรกินเหลือ ถึงแม้จะชิ้นสองชิ้น แต่มันก็คือเหลือ ถ้ามีคนทำแบบมนุษย์ลุงคนนั้นสัก 3 คนต่อวัน ทางร้านก็ตายสิคะ ส่วนตัว จขกท เอง ค่อนข้างเป็นเซียนร้านบุฟเฟ่ต์ พอพนักงานมาบอกว่ามีกติกาการทาน ยังหยิบขึ้นมาอ่านเลย เผื่อมีอะไรที่เราไม่ทราบ หรือขนาดทานสลัดบาร์ซิสเล่อร์ ถึงเค้าจะไม่ได้บังคับทานให้หมด แต่ก็พยายามไม่ทานเหลือ และตักมาให้พอดี คือ มันเป็นจิตใต้สำนึกที่ทุกคนควรรู้ไม่ใช่เหรอ และมนุษย์ลุงท่านนั้น ก็ท่าทางมีความรู้ แต่งตัวดี แต่ไม่เข้าใจว่า เรื่องแค่นี้ ทำไมถึงแถข้างๆคูๆ ไปได้ซะขนาดนั้น ไม่เข้าใจเหมือนกัน
ปกติ จขกท ไม่ค่อยอะไรกับคนประเภทนี้เท่าไหร่ เจอแซงคิวบ้างอะไรบ้าง ก็ยอมๆ เพราะไม่ชอบมีปัญหากับใคร แต่มาเจอแบบนี้ (ถึงแม้จะไม่ใช่คู่กรณีก็เถอะ) แต่ก็คิดว่า คนเราเดี๋ยวนี้เห็นแก่หัว และเอาปรียบสังคมมากขึ้นทุกวัน ระหว่างที่มนุษย์ลุงคนนั้นโวยวาย บอกได้เลยว่า มีแต่คนส่ายหัว ส่วน จขกท กับแฟน ซึ่งนั่งใกล้สุด นี่ส่ายหัวให้เห็นเลย คือบอกตรงๆ เจอแบบนี้แล้ว รับไม่ได้จริงๆ
ปล. วิแคะแกะเกากับแฟนว่า อาจจะเป็นไปได้ ที่มนุษย์ลุงและครอบครัว ไม่ทราบและไม่เข้าใจว่าต้องมีการทานชุดเริ่มก่อน คนละ 3 ถาด ก็เลยสั่งเพิ่มเยอะ จนอิ่มทานไม่ไหว พอเจอแบบนี้เลยโวยวายก็เป็นได้