สวัสดีค่ะ
เรามีกำหนดคลอดช่วงต้นสิงหาคมนี้ค่ะ
แต่แทนที่เราจะสบายใจ เรากลับกังวล เพราะบ้านฝั่งเรากับบ้านแม่สามีอยู่ไกลกันพอควร ประมาณ 40 กม. คือไม่สะดวกในการเดินทางไปมากันบ่อยๆ
ช่วงหลังคลอด คุณแม่เราบอกว่าจะไม่ให้หลานออกไปข้างนอกภายใน 3 เดือนหลังคลอด
ส่วนฝั่งแม่สามีก็เคยถามว่าหลังคลอดจะเลี้ยงที่ไหน ยังไง สามีเคยบอกไปแล้วว่า เดือนแรกคงอยู่บ้านเรา ซึ่งแม่สามีก็เข้าใจว่าต้องอยู่เดือน
ใจเราเองก็ตั้งใจว่า หลังคลอดสัก 2 เดือนจะพาไปอยู่ฝั่งบ้านสามีบ้าง อาจจะช่วง ศุกร์ เสาร์ ก็ต้องดูอีกที คิดว่าถึงเวลาแม่เราน่าจะเข้าใจ
แต่วันนี้แม่ก็ยังยืนยันคำเดิมว่า ใน 3 เดือนจะไม่ให้หลานออกไปไหน
เราเข้าใจว่า แม่เชื่อว่า เด็กยังอ่อนเกินจะพาออกไปข้างนอก คือความจริงมันก็ทำได้แหละถ้าจะทำ เช่น บางคนที่พาลูกเล็กๆไปห้าง ซึ่งเค้าอาจจะไม่มีคนเฝ้าหรือเหตุผลอื่นๆ ก็แล้วแต่คนไป แต่กรณีของเราคนรอเลี้ยงเพียบ แม่ไม่ชอบให้พาออกไปเจอความวุ่นวาย เชื้อโรค ฯลฯ
สรุปคือเรากลุ้มใจ เพราะก็อยู่ตรงกลาง. เห็นใจทั้ง 2 ฝ่าย กลายเป็น ใกล้คลอดก็ยิ่งไม่สบายใจเลย
อยากได้คำแนะนำจากชาวชานเรือนด้วยค่ะ
กลุ้มใจ - 2 บ้าน - แย่งหลานคนแรก
เรามีกำหนดคลอดช่วงต้นสิงหาคมนี้ค่ะ
แต่แทนที่เราจะสบายใจ เรากลับกังวล เพราะบ้านฝั่งเรากับบ้านแม่สามีอยู่ไกลกันพอควร ประมาณ 40 กม. คือไม่สะดวกในการเดินทางไปมากันบ่อยๆ
ช่วงหลังคลอด คุณแม่เราบอกว่าจะไม่ให้หลานออกไปข้างนอกภายใน 3 เดือนหลังคลอด
ส่วนฝั่งแม่สามีก็เคยถามว่าหลังคลอดจะเลี้ยงที่ไหน ยังไง สามีเคยบอกไปแล้วว่า เดือนแรกคงอยู่บ้านเรา ซึ่งแม่สามีก็เข้าใจว่าต้องอยู่เดือน
ใจเราเองก็ตั้งใจว่า หลังคลอดสัก 2 เดือนจะพาไปอยู่ฝั่งบ้านสามีบ้าง อาจจะช่วง ศุกร์ เสาร์ ก็ต้องดูอีกที คิดว่าถึงเวลาแม่เราน่าจะเข้าใจ
แต่วันนี้แม่ก็ยังยืนยันคำเดิมว่า ใน 3 เดือนจะไม่ให้หลานออกไปไหน
เราเข้าใจว่า แม่เชื่อว่า เด็กยังอ่อนเกินจะพาออกไปข้างนอก คือความจริงมันก็ทำได้แหละถ้าจะทำ เช่น บางคนที่พาลูกเล็กๆไปห้าง ซึ่งเค้าอาจจะไม่มีคนเฝ้าหรือเหตุผลอื่นๆ ก็แล้วแต่คนไป แต่กรณีของเราคนรอเลี้ยงเพียบ แม่ไม่ชอบให้พาออกไปเจอความวุ่นวาย เชื้อโรค ฯลฯ
สรุปคือเรากลุ้มใจ เพราะก็อยู่ตรงกลาง. เห็นใจทั้ง 2 ฝ่าย กลายเป็น ใกล้คลอดก็ยิ่งไม่สบายใจเลย
อยากได้คำแนะนำจากชาวชานเรือนด้วยค่ะ