ข้อเกริ่นเรื่องหน่อยนะครับ
คือว่าตามที่ผมหาข้อมูลต่างๆมามีกระทู้หรือบทความบางอย่างที่ชี้ให้เห็นถึง ความน่าจะเป็นไปได้เรื่องนี้ซึ่งเรื่องมิติคู่ขนานปัจจุบัน ทางวิทยาศาสตร์ยังถือว่าเป็นเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ว่ามีจริงหรือไม่ แต่ทางผมจะขออธิบายว่าสิ่งที่ผมเข้าตรงกันหรือเปล่า
มิติคู่ขนานคือ มิติที่เกิดขึ้นในเวลาพร้อมกันซึ่งขณะที่เกิดขึ้นมันจะมีสองทางเลือกเสมอ เช่นตอนที่เราเลือกจะทำหรือไม่ทำก็ตาม ซึ่งหากเราเลือกไม่ทำช่วงที่เราทำก็จะไม่หายไปแต่จะดำเนินต่อไปกลายเป็นมิติคู่ขนานอีกอันนึงซึ่งว่าใน 1 วัน หากมีการเลือกซัก 10 ครั้งเป็นอย่างต่ำการที่จะเกิดโลกคู่ขนานก็จะเป็น 210 = 1024 มิติที่ดำเนินไปพร้อมกัน (แค่สิบครั้งเองเยอะชิหายเลย) ซึ่งทฤษฎี ตรงนี้จะมีข้อแตกต่างกับการเดินทางข้ามเวลาซึ่งบ้างตัวอย่างบอกถึงมิติเดียวที่เป็นเส้นเดียวเสมอยกตัวอย่างเช่นถ้ามีตัวเราในอีก 10ปีมาให้เงินเราตอนนี้ ในอีก10ปีข้างหน้าเราก็จะต้องย้อนเวลากลับไปเพื่อที่จะให้เงินตัวเราอีกคนที่เด็กกว่าตรงนี้เป็นจุดมองที่บอกว่าเส้นที่เราเดินเป็นวงกลมเส้นเดียว แต่มิติคู่ขนาดคือสิ่งที่ดำเนินไปพร้อมกันไม่ว่าจะต่างหรือเหมือนกันก็ตาม ซึ่งผมจะยกตัวอย่างบุคคนที่นำทฤษฎีตรงนี้มาทำเป็นจุดขายต่างๆ เช่นเรื่อง The one พระเอกตามฆ่าตัวเองต่างมิติเพื่อให้ได้พลังส่วนอื่นๆมาเป็นขอตน ในเรื่องชี้ให้เห็นถึงอุปกรณ์ที่พระเอกใช้เดินทางข้ามมิติโดยการโดดจากมิติอีกเส้นนึงไปสู่อีกเส้นนึง เป็นการบอกว่าการเดินทางนี้สามารถเดินทางไปยังมิติต่างๆ และสามารถกลับมาที่มิติเดิมได้แต่เวลาก็ยังดำเนินไปเหมือนเดิม กับอีกตัวอย่างเช่นการเดินทางไปอีกมิติแต่ต่างกันที่สามารถเดินทางไปช่วงเลาไหนก้ได้ เหมือนแนวคิดของอ. F.Fujiko เคยว่าไว้ในโดราเอม่อน ตอนที่ โนบิสุเกะเดินทางมาช่วยโนบิตะ ซึ่งก็สามารถเปลี่ยนได้แต่โลกบองโนบิสุเกะก็ยังดำเนินไปเหมือนเดิม หรือ อ.โทริยาม่า ในเรื่องดรากอนบอลบอกไว้ถึง 3 มิติด้วยกันคือ ตอนที่ ทรังค์เดินทางมาช่วยโงกุนสุดท้ายช่วยได้แต่ในโลกของทรังค์พวกนักรบ Z ก็ยังตายเหมือนเดิม รวมทั้งโลกของทรังค์ไม่มี Cell ด้วย และหมายเลข 18,17 ยังไม่โหดร้ายเหมือนโลกที่เป็นเนื้อเรื่องหลัก ทั้งนี้สองนักเขียนได้บ่งชี้ถึงความเชื่อในมิติคู่ขนาน ซึ่งถึงแม้เราจะดำเนินไปแต่มิติอื่นๆก็ยังดำเนินตามเหมือนกัน
และตรงนี้ผมขอโยงเรื่องนี้รวมกันกับเดจาวูเลยนะครับ เพราะเดจาวู ถ้าแปลตรงตัวก็หมายถึงเคยเห็นแล้ว ซึ่งความรู้สึกบางวูบทั้งๆทีเราเจอเป็นครั้งแรกแต่กลับรู้สึกว่าเคยเกิดขึ้นแล้ว ตรงนี้อาจเป็นหลักฐานที่มีน้ำหนักที่สุดสำหรับการชี้ถึงเรื่องโลกคู่ขนานต่างมิติ ตามที่เคยอ่านบทความมาบอกว่าการที่เราเห็นภาพหรือรู้สึกเหล่านี้อาจเกิดเพราะตัวเราอีกมิติได้เคยเจอเรื่องแบบนี้ไว้แล้วทิ้งเป็นข้อมูลในประจุของมิติเอาไว้ซึ่งอาจเกิดขึ้นก่อนหรือพร้อมกันก็ได้ เมื่อเราเข้าไปที่จุดที่เรียกว่าจุดขนานหรือจุดบรรจบทางประจุของมิติก็จะทำงานทันทีเสมือนได้ความทรงจำของอีกมิติมารชั่วขณะนึง เช่น หากเราตัดสินใจว่าจะไปตลาดก่อนหรือไปบ้านเพื่อนก่อน ตรงจุดนี้จำทำให้เกิดโลกคู่ขนานมา2มิติด้วยกัน คือเมื่อมิติที่ 1 เดินทางไปบ้านเพื่อน มิติที่ 2ไป ตลาดก่อนจากนั้นมันจะสลับกับโดยมิติที่ 1 พอมาถึงตลาดก็จะเจอเหตุการที่จะทำให้เกิดเดจาวู1ครั้งหรือมากกว่า และเป็นเช่นเดียวกับมิติที่ 2 และยังสรุปได้ว่าหากเดินทางข้ามมิติไปยังอีกมิติข้อมูลในประจุเวลาก็จะถ่ายทอดสู่คนเดียวกัน เหมือนกับในเรื่อง Loopper อธิบายถึงโลกที่มีมิติ 2 มิติด้วยกันเกิดตอนทีพระเอกเลือกที่จะยอมตามกับเลือกที่จะไม่ตายสุดท้ายคนที่ไม่ยอมตายเดินทางมาเพื่อเปลี่ยนอดีต(เป็นพระเอกตอนแก่กับตอนหนุ่มนะ) ซึ่งคนทำเรื่องบอกให้มองถึงเรื่องข้อมูลประจุมิติที่ถ่ายให้ตัวเราเมื่อเดินทางเข้ามาที่มิติดังกล่าวเหมือนตอนที่พระเอกตอนหนุ่มกรีดข้อมือตัวเองเป็นรูปตัวหนังสือ หรือตอนที่ได้รับการรักษา แม้กระทั้งตอนที่ยิงตัวเองตาย อีกคนถึงแม้ว่าจะอยู่คนละมิติกันก็ได้รับผลด้วย
จากที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นความคิดของผมล้วนๆ ที่เป็นแง้คิดเกี่ยวกับโลกคู่ขนานต่างมิติ ซึ่งอาจเกิดขึ้นจริงในอนาคตก็เป็นได้ แต่นั้นก็เป็นแค่การอ้างถึงการสมมุติเท่านั้น ใครจะเชื่อ หรือมีความคิดต่างยังไงก็คืออีกสิ่งที่ต้องมาแชร์ให้ฟังกัน ......ขอบคุณ......
คุณว่า มิติคู่ขนานมีจริงหรือไม่??
คือว่าตามที่ผมหาข้อมูลต่างๆมามีกระทู้หรือบทความบางอย่างที่ชี้ให้เห็นถึง ความน่าจะเป็นไปได้เรื่องนี้ซึ่งเรื่องมิติคู่ขนานปัจจุบัน ทางวิทยาศาสตร์ยังถือว่าเป็นเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ว่ามีจริงหรือไม่ แต่ทางผมจะขออธิบายว่าสิ่งที่ผมเข้าตรงกันหรือเปล่า
มิติคู่ขนานคือ มิติที่เกิดขึ้นในเวลาพร้อมกันซึ่งขณะที่เกิดขึ้นมันจะมีสองทางเลือกเสมอ เช่นตอนที่เราเลือกจะทำหรือไม่ทำก็ตาม ซึ่งหากเราเลือกไม่ทำช่วงที่เราทำก็จะไม่หายไปแต่จะดำเนินต่อไปกลายเป็นมิติคู่ขนานอีกอันนึงซึ่งว่าใน 1 วัน หากมีการเลือกซัก 10 ครั้งเป็นอย่างต่ำการที่จะเกิดโลกคู่ขนานก็จะเป็น 210 = 1024 มิติที่ดำเนินไปพร้อมกัน (แค่สิบครั้งเองเยอะชิหายเลย) ซึ่งทฤษฎี ตรงนี้จะมีข้อแตกต่างกับการเดินทางข้ามเวลาซึ่งบ้างตัวอย่างบอกถึงมิติเดียวที่เป็นเส้นเดียวเสมอยกตัวอย่างเช่นถ้ามีตัวเราในอีก 10ปีมาให้เงินเราตอนนี้ ในอีก10ปีข้างหน้าเราก็จะต้องย้อนเวลากลับไปเพื่อที่จะให้เงินตัวเราอีกคนที่เด็กกว่าตรงนี้เป็นจุดมองที่บอกว่าเส้นที่เราเดินเป็นวงกลมเส้นเดียว แต่มิติคู่ขนาดคือสิ่งที่ดำเนินไปพร้อมกันไม่ว่าจะต่างหรือเหมือนกันก็ตาม ซึ่งผมจะยกตัวอย่างบุคคนที่นำทฤษฎีตรงนี้มาทำเป็นจุดขายต่างๆ เช่นเรื่อง The one พระเอกตามฆ่าตัวเองต่างมิติเพื่อให้ได้พลังส่วนอื่นๆมาเป็นขอตน ในเรื่องชี้ให้เห็นถึงอุปกรณ์ที่พระเอกใช้เดินทางข้ามมิติโดยการโดดจากมิติอีกเส้นนึงไปสู่อีกเส้นนึง เป็นการบอกว่าการเดินทางนี้สามารถเดินทางไปยังมิติต่างๆ และสามารถกลับมาที่มิติเดิมได้แต่เวลาก็ยังดำเนินไปเหมือนเดิม กับอีกตัวอย่างเช่นการเดินทางไปอีกมิติแต่ต่างกันที่สามารถเดินทางไปช่วงเลาไหนก้ได้ เหมือนแนวคิดของอ. F.Fujiko เคยว่าไว้ในโดราเอม่อน ตอนที่ โนบิสุเกะเดินทางมาช่วยโนบิตะ ซึ่งก็สามารถเปลี่ยนได้แต่โลกบองโนบิสุเกะก็ยังดำเนินไปเหมือนเดิม หรือ อ.โทริยาม่า ในเรื่องดรากอนบอลบอกไว้ถึง 3 มิติด้วยกันคือ ตอนที่ ทรังค์เดินทางมาช่วยโงกุนสุดท้ายช่วยได้แต่ในโลกของทรังค์พวกนักรบ Z ก็ยังตายเหมือนเดิม รวมทั้งโลกของทรังค์ไม่มี Cell ด้วย และหมายเลข 18,17 ยังไม่โหดร้ายเหมือนโลกที่เป็นเนื้อเรื่องหลัก ทั้งนี้สองนักเขียนได้บ่งชี้ถึงความเชื่อในมิติคู่ขนาน ซึ่งถึงแม้เราจะดำเนินไปแต่มิติอื่นๆก็ยังดำเนินตามเหมือนกัน
และตรงนี้ผมขอโยงเรื่องนี้รวมกันกับเดจาวูเลยนะครับ เพราะเดจาวู ถ้าแปลตรงตัวก็หมายถึงเคยเห็นแล้ว ซึ่งความรู้สึกบางวูบทั้งๆทีเราเจอเป็นครั้งแรกแต่กลับรู้สึกว่าเคยเกิดขึ้นแล้ว ตรงนี้อาจเป็นหลักฐานที่มีน้ำหนักที่สุดสำหรับการชี้ถึงเรื่องโลกคู่ขนานต่างมิติ ตามที่เคยอ่านบทความมาบอกว่าการที่เราเห็นภาพหรือรู้สึกเหล่านี้อาจเกิดเพราะตัวเราอีกมิติได้เคยเจอเรื่องแบบนี้ไว้แล้วทิ้งเป็นข้อมูลในประจุของมิติเอาไว้ซึ่งอาจเกิดขึ้นก่อนหรือพร้อมกันก็ได้ เมื่อเราเข้าไปที่จุดที่เรียกว่าจุดขนานหรือจุดบรรจบทางประจุของมิติก็จะทำงานทันทีเสมือนได้ความทรงจำของอีกมิติมารชั่วขณะนึง เช่น หากเราตัดสินใจว่าจะไปตลาดก่อนหรือไปบ้านเพื่อนก่อน ตรงจุดนี้จำทำให้เกิดโลกคู่ขนานมา2มิติด้วยกัน คือเมื่อมิติที่ 1 เดินทางไปบ้านเพื่อน มิติที่ 2ไป ตลาดก่อนจากนั้นมันจะสลับกับโดยมิติที่ 1 พอมาถึงตลาดก็จะเจอเหตุการที่จะทำให้เกิดเดจาวู1ครั้งหรือมากกว่า และเป็นเช่นเดียวกับมิติที่ 2 และยังสรุปได้ว่าหากเดินทางข้ามมิติไปยังอีกมิติข้อมูลในประจุเวลาก็จะถ่ายทอดสู่คนเดียวกัน เหมือนกับในเรื่อง Loopper อธิบายถึงโลกที่มีมิติ 2 มิติด้วยกันเกิดตอนทีพระเอกเลือกที่จะยอมตามกับเลือกที่จะไม่ตายสุดท้ายคนที่ไม่ยอมตายเดินทางมาเพื่อเปลี่ยนอดีต(เป็นพระเอกตอนแก่กับตอนหนุ่มนะ) ซึ่งคนทำเรื่องบอกให้มองถึงเรื่องข้อมูลประจุมิติที่ถ่ายให้ตัวเราเมื่อเดินทางเข้ามาที่มิติดังกล่าวเหมือนตอนที่พระเอกตอนหนุ่มกรีดข้อมือตัวเองเป็นรูปตัวหนังสือ หรือตอนที่ได้รับการรักษา แม้กระทั้งตอนที่ยิงตัวเองตาย อีกคนถึงแม้ว่าจะอยู่คนละมิติกันก็ได้รับผลด้วย
จากที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นความคิดของผมล้วนๆ ที่เป็นแง้คิดเกี่ยวกับโลกคู่ขนานต่างมิติ ซึ่งอาจเกิดขึ้นจริงในอนาคตก็เป็นได้ แต่นั้นก็เป็นแค่การอ้างถึงการสมมุติเท่านั้น ใครจะเชื่อ หรือมีความคิดต่างยังไงก็คืออีกสิ่งที่ต้องมาแชร์ให้ฟังกัน ......ขอบคุณ......