นาฬิกาชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน...
มื้อเช้า = อาหารมื้อแรกหลังจากตื่นนอน (ในเวลาไม่นานนัก เพราะคงไม่นับประเภทว่าตื่นมาแล้ว 8 ชม.ค่อยกินมื้อแรกว่ามื้อเช้า)
มื้อเที่ยง/มื้อกลางวัน = มื้อกลางของวันของคนนั้นๆ สำหรับคนที่กิน 3 มื้อต่อวัน
มื้อเย็น = มื้อสุดท้ายของวันในช่วงก่อนจะถึงเวลาเข้านอนระยะเวลาหนึ่งที่นานพอสมควร

ไม่ต้องไปสนใจนาฬิกาติดผนังหรือนาฬิการในมือถือของคุณ
ให้ดูนาิฬิกาชีวิตของคุณเป็นหลักว่าคุณตื่นกี่โมง คุณใช้เวลาตื่นกี่ชม. และคุณจะนอนตอนไหน
คุณก็แบ่งมื้ออาหารเอาตามความเหมาะสมกับนาฬิกาชีวิตของคุณ

ที่เขาบอกว่าให้ความสำคัญกับมื้อเช้า เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายคุณนอนมาเป็นระยะเวลาหลายชม. ไม่ได้รับสารอาหารใดๆ และคุณจะใช้เวลาทำกิจกรรมการเรียนการงานต่างๆในช่วงตื่นต่อไปอีกหลายชม.กว่าจะได้นอนพักอีกครั้ง
ร่างกายคุณจะต้องการพลังงานและสารอาหารไปใช้ในระหว่างวัน
เขาจึงบอกกันว่าคุณควรจะได้รับสารอาหารให้เพียงพอและจำนวนมากในมื้อเช้า ซึ่งตรงข้ามกับมื้อเย็นที่เมื่อกินเข้าไปแล้วอีกไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องนอนหลับพักผ่อนแล้ว

อนึ่ง....
คำว่า "มื้อเช้า" คือ คำภาษาไทย ซึ่งบังเอิญเราใช้คำว่า "เช้า" คนเลยเข้าใจผิดกันว่าต้องกินเฉพาะตอนเช้า
คุณจะเข้าใจได้ง่ายขึ้นถ้าคุณไปดูภาษาอื่นๆ เช่น ภาษาอังกฤษในปัจจุบันใช้คำว่า breakfast อันมีผู้พยายามค้นหาที่มาและนิยามของมัน นิยามหนึ่งที่พูดถึงกันมากก็คือการ break+fast ซึ่งคำว่า fast หมายถึง การอดอาหาร (เวลาตรวจเลือดดูระดับน้ำตาลตอนเช้า ที่หมอเค้าให้คุณอดอาหารไปตรวจ เขาก็เรียกค่านั้นว่า fasting blood sugar หรือ fasting plasma gulcose) ซึ่งช่วงคุณนอนคุณไม่ได้กินอะไร = fasting พอคุณตื่นขึ้นมาแล้วกินมื้อแรกจึงเท่ากับหยุดการ fast ก็เป็น breakfast
ทั้งนี้....ในสมัยก่อน คนไม่ได้กินสามมื้อแบบปัจจุบันนะครับ ในสมัยนานมาแล้วก็กินหลักๆแค่ 2 มื้อ และกินมื้อหนักที่สุดของวันในมื้อเช้าช่วงสายๆของวัน และเขาเรียกมื่อเ้ช้าของเขาด้วยคำที่มีรากศัพท์เดียวกับ dinner ด้วยซ้ำไป จนตอนหลังมื้ออาหารมันเริ่มเปลี่ยนไปตามรูปแบบสังคมและวัฒนธรรม จนกลายมากินสามมื้อ และ dinner กลายเป็นมื้อเย็นไป ส่วนเช้าก็เรียกกันว่า breakfast อย่างที่เห็นในปัจจุบัน
(dinner โดยพื้นฐานแล้วมันแปลว่า the main meal of the day)


หมายเหตุ.....
เรื่องความสับสนเรื่องมื้ออาหารนี้เคยเจอเหมือนกัน
ตอนนั่งอธิบายให้คุณลูกค้าฟังว่าควรกินอาหารให้ตรงเวลาและอื่นๆ บลา บลา
คุณลูกค้าก็แจ้งว่า เขากินอาหารไม่ตรงเวลา...
พอถามว่าเขากินไม่ตรงเวลายังไง
คำตอบคือ.....เขาทำงานกลางคืน (นักร้องในผับบาร์) แล้วนอนตอนกลางวัน กว่าจะตื่นก็บ่ายๆ (บ่ายสามบ่ายสี่) ก็เลยได้กินมื้อเช้าตอนเย็น (เขายังนับถูกว่ามันคือมื้อเช้า)....และที่บอกว่าไม่ตรงเวลาคือ มื้อเช้าของเขาไม่ได้กินตอน"เช้า"ของคนปกติ (เวลาพระอาทิตย์ขึ้นลง)
อันนี้ไม่ได้โทษเขานะครับ....ตอนนั้นก็อธิบายกันไป
เอามาเล่าให้ฟังขำๆว่า...บางทีนิยามอะไรที่มันดูเหมือนง่ายๆไม่มีอะไร แต่ก้มีคนเข้าใจผิดกันมาก เพราะไปยึดติดกับ "คำ" มากกว่า "ความสำคัญ"