สวัสดีคะ เนื่องจากไปสัมภาษณ์วีซ่านักเรียนอเมริกา F-1 มาเมื่อวานคะ (วันที่ 25 มิถุนายน 2557) ที่กงสุลใหญ่อเมริกา เชียงใหม่คะ (เราเป็นคนเหนือคะ)
แต่โดนปฏิเสธคะ TT เศร้ามากคะความตั้งใจหายหมด แต่ตอนนี้จะสู้ใหม่คะ เลยอยากขอคำแนะนำผู้มีประสบการณ์คะ
** *ตอนนี้กำลังจะสัมภาษณ์รอบที่สองคะ แต่ครั้งนี้ไปสัมภาษณ์ที่ สถานทูตที่กรุงเทพคะ เพราะต้นเดือนมีธุระเรื่องรับปริญญาที่นั้น
มาพูดถึงเรื่องสัมภาษณ์เมื่อวานก่อนนะคะ เราขอวีซ่านักเรียนคะ อยากไปเรียนภาษาที่ Oregon คะ เราเพิ่งเรียนจบ ป.ตรีคะ ด้านการตลาด เกรด 3.xx ทำเรื่องเองทั้งหมดคะทั้งติดต่อโรงเรียน กรอกเอกสาร นัดสัมภาษณ์
เรามีพี่สาวแท้ๆอยู่ที่ อเมริกาคะ เค้าไปเรียนภาษาคะ (โรงเรียนเดียวกับที่เราสมัคร) ไปอยู่ที่นู้นสองปีละคะ มีแพลนจะกลับไทยปลายปีนี้คะ คืออยู่รอให้เราไปก่อนเพราะพี่ยังมีสัญญากับ อพาทเมนท์ที่นู้นอยู่คะ แต่จริงๆก็คืออยากอยู่เป็นเพื่อนเราก่อนสักเดือนสองเดือนคะ แล้วพี่จะกลับมาทำงานคะ
เอกสารที่เตรียมไปมีดังนี้คะ
1. หนังสือเดินทาง passport ขาวสะอาดคะ ไม่เคยเดินทางไปไหนเลยคะ
2. รูปถ่าย 2x2 นิ้ว ตามกำหนดคะ
3. หลักฐานทางการศึกษา Transcript ตัวเต็มคะ และ ใบรับรองการสำเร็จการศึกษา
4. I-20 จากโรงเรียนที่อเมริกาคะ
5. ใบเสร็จ Sevis Fee
6. ใบเสร็จค่าธรรมเนียมวีซ่า จ่ายที่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยาคะ
7. ใบนัดวันสัมภาษณ์ ปริ้นจากเนตคะ
8. หน้ายืนยัน DS-160 คะ
9. สำเนาบัตรประชาชน (sponsor คุณลุงคะ)
10. สำเนาทะเบียนบ้าน + พร้อมตัวจริง (sponsor คุณลุงคะ)
11. จดหมายรับรองสถานะทางการเงินจากธนาคาร ประมาณ 1 ล้านบาทคะ
12. จดหมายยืนยันการออกค่าใช้จ่ายให้ (sponsor คุณลุงคะ)
13. statement ย้อนหลัง 6 เดือนคะ ขอจากธนาคาร
14. ทะเบียนพาณิชย์ของคุณลุง ตัวจริง + สำเนา
15. สำเนาทะเบียนบ้านของเราตัวจริงคะ
16. สำเนาบัตรประชาชนแม่
17. สำเนาทำเบียนบ้านแม่
18. ใบหย่าของ ( พ่อกับแม่เราหย่ากันคะ )
19. เอกสารของพี่สาวเราคะ มีหน้าพาสปอร์ตเล่มใหม่+เล่มเก่า, วีซ่า, I-20
20. เอกสารอื่นคะเช่น ใบประกาศนียบัตร เอกสารต่างๆ คิดว่าเอาไปให้เยอะที่สุดคะ
พอข้าไปในกงสุลก็มีการผ่านเครื่องสแกนคะ เราฝากมือถือไว้ 1 เครื่อง เดินเข้ามาตรงแยกเอกสารคะ
เค้าเอาเอกสารเราใส่แฟ้มใส่คะ และถามว่าเคยขอวีว่าอเมริกาหรือยัง เราก็ตอบว่ายังไม่เคยคะ
เอกสารที่เค้าเอาใส่แฟ้มใสมีดังนี้คะ
1. หนังสือเดินทาง passport
2. รูปถ่าย 2x2 นิ้ว 1 ใบ
4. I-20
5. ใบเสร็จ Sevis Fee
7. ใบนัดวันสัมภาษณ์
8. หน้ายืนยัน DS-160
มีเท่านี้เองคะ
จากนั้นเราเข้าไปก็สแกนนิ้ว และรอคิวสัมภาษณ์คะ ตอนไปสแกนนิ้วมีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงคนไทยคะใส่แว่นผมสั้น สัมภาษณ์เรานิดหน่อยคะ
จนท : ไปเรียนหรอคะ
เรา : ใช่คะ
จนท : มีพี่ชายหรือน้องชายอยู่ที่นั้นหรอคะ
เรา : ไม่ใช่คะ พี่สาวคะ ยิ้ม
จนท : เค้าทำอะไรที่นั้นคะ
เรา : เรียนภาษาคะ ขอวีซ่านักเรียนไปเหมือนกันคะ มีแพลนจะกลับปลายปีนี้คะ (ไม่รู้ว่าพูดมากไปหรือป่าว)
จนท : ถ้าได้วีซ่าจะให้ส่งที่ไหนคะ
เรา : ที่บ้านคะ
จนท : สแกนนิ้วคะ
เรา : สแกน 10 นิ้ว
จนท : นั่งรอที่เดิมคะ
เมื่อถึงคิวเราเข้ามาสัมภาษณ์ เราได้สัมภาษณ์กับผู้ชายฝรั่งคะ หน้าตาก็ไม่ดุมาก
เค้าสัมภาษณ์เราเป็นภาษาไทยหมดเลยคะ
ท่านกงสุล : สวัสดีครับ สบายดีไหมครับ พูดไทยชัดมาก
เรา : สบายดีคะ ยิ้มๆ ตื่นเต้น
ท่านกงสุล : ทำไมอยากไปเรียนที่อเมริกาครับ
เรา : อยากไปเรียนภาษาเพื่อพัฒนาภาษาให้ดีขึ้นคะ (น่าจะพลาดตรงนี้ตอบสั้นมาก TT)
ท่านกงสุล : แล้วคุณ aaa (พี่สาวเรา) เค้าทำอะไรที่นู้นครับ
เรา : เรียนภาษาคะ มีแพลนจะกลับปลายปีคะ
ท่านกงสุล : เค้าเคยเปลี่ยนชื่อไหมครับ หมายถึงพี่สาวเรา
เรา : ไม่เคยคะ
ท่านกงสุล : ทำหน้าเครียดหน้าจอคอม พิมพ์ๆ สักพักก็พยักหน้า
ท่านกงสุล : คุณ aaa เรียนที่ไหนครับ
เรา : เรียนที่ โรงเรียน xxx โรงเรียนเดียวกับใน I-20 เรา
ท่านกงสุล : พลิกๆดู I-20 เรา
ท่านกงสุล : ครายจะออกค่าใช้จ่ายให้คุณครับ
เรา : คุณลุงคะ
ท่านกงสุล : ทำไมคุณลุงถึงออกค่าใช้จ่ายให้คุณครับ
เรา : พ่อกับแม่หย่ากันตั้งแต่หนูอายุ 10 ปี คะ อยู่กับลุงกับแม่มาตลอดคะ ลุงรักหนูเหมือนลูกคะ
ท่านกงสุล : ไม่พูดอะไรคลิกๆ พิมพ์ๆๆๆๆ
ท่านกงสุล : ขอดูเอกสารทางการเงินของคุณลุงหน่อยครับ
เรา : เรายื่นใบรับรองสถานะทางการเงินให้ท่านคะ (เรายื่นให้แค่นี้น้อยไปใช่มั้ยคะ ควรยื่นไรเพิ่มไหม )
ท่านกงสุล : ดูๆๆ ยื่นคืน
ท่านกงสุล : พี่สาวคุณพักที่ไหนครับ
เรา : ที่อพาทเม้นท์คะ
ท่านกงสุล : พี่สาวคุณไปมานานเท่าไหร่แล้วคะ
เรา : ประมาณสองปีคะ
ท่านกงสุล : พี่สาวคุณวางแผนว่าจะเรียนภาษากี่ปีครับ
เรา : ตอนแรกพี่คิดว่าจะเรียน 1 ปีคะ แต่ภาษายังไม่แน่นเลยเรียนต่ออีก 1 ปีคะ
ท่านกงสุล : พยักหน้า คลิก พิมพ์ๆ
ท่านกงสุล : พี่สาวคุณรู้จักใครที่นั้นก่อนไปอเมริกาไหมครับ
เรา : ไม่รู้จักคะ
ท่านกงสุล : พิมพ์ๆ คลิกๆ นานพอดูเลยคะ
เรา : เริ่มรู้ชะตากรรมละ
ท่านกงสุล : หลังจากพิมพ์นานมาก ก็รวบพาสปอร์คืนให้เราคะ และบอกว่าเสียใจไม่สามารถออกวีซ่าให้คุณได้และท่านก็ไหว้เรา
เรา : ไหว้ตอบ อึ้ง งง เศร้ามาก
ขอดูเอกสารแค่อย่างเดียวคะ ทรานสคริป เรายังไม่ดูเลยคะ
เราได้รับจดหมายแนบมาคะว่าเหตุผลที่ไม่ได้ก็คือ
1. ท่านไม่ได้แสดงให้เจ้าหน้าที่เชื่อเจตนาของท่านที่จะกระทำการใดๆในสหรัฐอเมริกาว่าตรงกับประเภทของวีซ่าที่ท่านได้ยื่นคำร้องมา
2. ท่านไม่สามารถแสดงให้เห็นว่าท่านมีคุณสมบัติเพียงพอต่อประเภทที่ท่าได้ยื่นคำร้องมา
เราคิดว่าเราน่าจะพลาดตรงคำถามแรก
ท่านกงสุล : ทำไมอยากไปเรียนที่อเมริกาครับ
เรา : อยากไปเรียนภาษาเพื่อพัฒนาภาษาให้ดีขึ้นคะ
คือตอบสั้น ไม่บอกเหตุผลว่าจะกลับมาทำอะไร เซ็งตัวเองมากคะ ตื่นเต้น และในคำถามสุดท้ายคะ
ท่านกงสุล : พี่สาวคุณรู้จักใครที่นั้นก่อนไปอเมริกาไหมครับ
เรา : ไม่รู้จักคะ
คือพี่เราเคยขอวีว่าท่องเที่ยวที่กงสุล เชียงใหม่คะ แต่ไม่ผ่าน พี่เคยใส่ชื่อคนรู้จักไปคะ ตอนนั้นเค้าเรียนโทที่นั้น
พอพี่เราขอวีซ่านักเรียนอีกทีที่ กรุงเทพคะ ผ่านคะ พี่ใส่ว่าไม่มีคนรู้จักเพราะคนนั้นจบโทกลับไทยแล้ว ตรงนี้รึป่าวเค้าอาจคิดว่าเราโกหก
เล่ามายาวยืดถึงตรงนี้คะที่เราอยากได้คำแนะนำคะ
คือรอบสองนี้เราจะตอบว่าเราอยากพัฒนาภาษาของเราให้เราสามารถใช้ภาษาได้อย่างถูกต้องคล่องแคล่วคะ เราอยากเป็นแอร์คะ และเราอยากนำภาษาที่ได้มาทำธุรกิจที่บ้านคะ เพราะในอนาคตแม่เราอยากให้เราอยู่บ้านคะ เนื่องจากบ้านเรามีแต่หลานสาว แล้วเราเป็นหลานสาวคนเล็กแม่เราอยากให้ทำธุรกิจที่บ้านคะ เราก็มีแพลนทำธุรกิจอยู่แล้วคะ เป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงของอำเภอเราคะคะ เราอยากนำภาษามาขยายช่องทางการตลาดคะทำให้สินค้านี้เป็นที่รู้จักในสากลมากขึ้น ในจุดนี้เราจะเอารูปสินค้าดังกล่าวไปให้เค้าดูเลยคะ เผื่อเค้าไม่เข้าใจไม่รู้จักคะ
อยากขอความเห็นคะว่าเราควรเพิ่มตรงไหนบ้างคะ กรุณาด้วยนะ
ปล. ต้องขอบคุณข้อมูลทุกๆอย่างในพันทิปคะ หนูหาข้อมูลจากพันทิปตลอดคะ เกิดมาเพิ่งเคยตั้งกระทู้เป็นครั้งแรก อยากได้คำแนะนำจริงๆคะ ขอบคุณทุกคนที่อ่านคะ ยาวไปหน่อย อิอิ
สัมภาษณ์วีซ่านักเรียนอเมริกา ไม่ผ่าน กำลังจะขอรอบที่ 2 คะ ขอคำแนะนำด้วยคะ พลีสสส TT
แต่โดนปฏิเสธคะ TT เศร้ามากคะความตั้งใจหายหมด แต่ตอนนี้จะสู้ใหม่คะ เลยอยากขอคำแนะนำผู้มีประสบการณ์คะ
** *ตอนนี้กำลังจะสัมภาษณ์รอบที่สองคะ แต่ครั้งนี้ไปสัมภาษณ์ที่ สถานทูตที่กรุงเทพคะ เพราะต้นเดือนมีธุระเรื่องรับปริญญาที่นั้น
มาพูดถึงเรื่องสัมภาษณ์เมื่อวานก่อนนะคะ เราขอวีซ่านักเรียนคะ อยากไปเรียนภาษาที่ Oregon คะ เราเพิ่งเรียนจบ ป.ตรีคะ ด้านการตลาด เกรด 3.xx ทำเรื่องเองทั้งหมดคะทั้งติดต่อโรงเรียน กรอกเอกสาร นัดสัมภาษณ์
เรามีพี่สาวแท้ๆอยู่ที่ อเมริกาคะ เค้าไปเรียนภาษาคะ (โรงเรียนเดียวกับที่เราสมัคร) ไปอยู่ที่นู้นสองปีละคะ มีแพลนจะกลับไทยปลายปีนี้คะ คืออยู่รอให้เราไปก่อนเพราะพี่ยังมีสัญญากับ อพาทเมนท์ที่นู้นอยู่คะ แต่จริงๆก็คืออยากอยู่เป็นเพื่อนเราก่อนสักเดือนสองเดือนคะ แล้วพี่จะกลับมาทำงานคะ
เอกสารที่เตรียมไปมีดังนี้คะ
1. หนังสือเดินทาง passport ขาวสะอาดคะ ไม่เคยเดินทางไปไหนเลยคะ
2. รูปถ่าย 2x2 นิ้ว ตามกำหนดคะ
3. หลักฐานทางการศึกษา Transcript ตัวเต็มคะ และ ใบรับรองการสำเร็จการศึกษา
4. I-20 จากโรงเรียนที่อเมริกาคะ
5. ใบเสร็จ Sevis Fee
6. ใบเสร็จค่าธรรมเนียมวีซ่า จ่ายที่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยาคะ
7. ใบนัดวันสัมภาษณ์ ปริ้นจากเนตคะ
8. หน้ายืนยัน DS-160 คะ
9. สำเนาบัตรประชาชน (sponsor คุณลุงคะ)
10. สำเนาทะเบียนบ้าน + พร้อมตัวจริง (sponsor คุณลุงคะ)
11. จดหมายรับรองสถานะทางการเงินจากธนาคาร ประมาณ 1 ล้านบาทคะ
12. จดหมายยืนยันการออกค่าใช้จ่ายให้ (sponsor คุณลุงคะ)
13. statement ย้อนหลัง 6 เดือนคะ ขอจากธนาคาร
14. ทะเบียนพาณิชย์ของคุณลุง ตัวจริง + สำเนา
15. สำเนาทะเบียนบ้านของเราตัวจริงคะ
16. สำเนาบัตรประชาชนแม่
17. สำเนาทำเบียนบ้านแม่
18. ใบหย่าของ ( พ่อกับแม่เราหย่ากันคะ )
19. เอกสารของพี่สาวเราคะ มีหน้าพาสปอร์ตเล่มใหม่+เล่มเก่า, วีซ่า, I-20
20. เอกสารอื่นคะเช่น ใบประกาศนียบัตร เอกสารต่างๆ คิดว่าเอาไปให้เยอะที่สุดคะ
พอข้าไปในกงสุลก็มีการผ่านเครื่องสแกนคะ เราฝากมือถือไว้ 1 เครื่อง เดินเข้ามาตรงแยกเอกสารคะ
เค้าเอาเอกสารเราใส่แฟ้มใส่คะ และถามว่าเคยขอวีว่าอเมริกาหรือยัง เราก็ตอบว่ายังไม่เคยคะ
เอกสารที่เค้าเอาใส่แฟ้มใสมีดังนี้คะ
1. หนังสือเดินทาง passport
2. รูปถ่าย 2x2 นิ้ว 1 ใบ
4. I-20
5. ใบเสร็จ Sevis Fee
7. ใบนัดวันสัมภาษณ์
8. หน้ายืนยัน DS-160
มีเท่านี้เองคะ
จากนั้นเราเข้าไปก็สแกนนิ้ว และรอคิวสัมภาษณ์คะ ตอนไปสแกนนิ้วมีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงคนไทยคะใส่แว่นผมสั้น สัมภาษณ์เรานิดหน่อยคะ
จนท : ไปเรียนหรอคะ
เรา : ใช่คะ
จนท : มีพี่ชายหรือน้องชายอยู่ที่นั้นหรอคะ
เรา : ไม่ใช่คะ พี่สาวคะ ยิ้ม
จนท : เค้าทำอะไรที่นั้นคะ
เรา : เรียนภาษาคะ ขอวีซ่านักเรียนไปเหมือนกันคะ มีแพลนจะกลับปลายปีนี้คะ (ไม่รู้ว่าพูดมากไปหรือป่าว)
จนท : ถ้าได้วีซ่าจะให้ส่งที่ไหนคะ
เรา : ที่บ้านคะ
จนท : สแกนนิ้วคะ
เรา : สแกน 10 นิ้ว
จนท : นั่งรอที่เดิมคะ
เมื่อถึงคิวเราเข้ามาสัมภาษณ์ เราได้สัมภาษณ์กับผู้ชายฝรั่งคะ หน้าตาก็ไม่ดุมาก
เค้าสัมภาษณ์เราเป็นภาษาไทยหมดเลยคะ
ท่านกงสุล : สวัสดีครับ สบายดีไหมครับ พูดไทยชัดมาก
เรา : สบายดีคะ ยิ้มๆ ตื่นเต้น
ท่านกงสุล : ทำไมอยากไปเรียนที่อเมริกาครับ
เรา : อยากไปเรียนภาษาเพื่อพัฒนาภาษาให้ดีขึ้นคะ (น่าจะพลาดตรงนี้ตอบสั้นมาก TT)
ท่านกงสุล : แล้วคุณ aaa (พี่สาวเรา) เค้าทำอะไรที่นู้นครับ
เรา : เรียนภาษาคะ มีแพลนจะกลับปลายปีคะ
ท่านกงสุล : เค้าเคยเปลี่ยนชื่อไหมครับ หมายถึงพี่สาวเรา
เรา : ไม่เคยคะ
ท่านกงสุล : ทำหน้าเครียดหน้าจอคอม พิมพ์ๆ สักพักก็พยักหน้า
ท่านกงสุล : คุณ aaa เรียนที่ไหนครับ
เรา : เรียนที่ โรงเรียน xxx โรงเรียนเดียวกับใน I-20 เรา
ท่านกงสุล : พลิกๆดู I-20 เรา
ท่านกงสุล : ครายจะออกค่าใช้จ่ายให้คุณครับ
เรา : คุณลุงคะ
ท่านกงสุล : ทำไมคุณลุงถึงออกค่าใช้จ่ายให้คุณครับ
เรา : พ่อกับแม่หย่ากันตั้งแต่หนูอายุ 10 ปี คะ อยู่กับลุงกับแม่มาตลอดคะ ลุงรักหนูเหมือนลูกคะ
ท่านกงสุล : ไม่พูดอะไรคลิกๆ พิมพ์ๆๆๆๆ
ท่านกงสุล : ขอดูเอกสารทางการเงินของคุณลุงหน่อยครับ
เรา : เรายื่นใบรับรองสถานะทางการเงินให้ท่านคะ (เรายื่นให้แค่นี้น้อยไปใช่มั้ยคะ ควรยื่นไรเพิ่มไหม )
ท่านกงสุล : ดูๆๆ ยื่นคืน
ท่านกงสุล : พี่สาวคุณพักที่ไหนครับ
เรา : ที่อพาทเม้นท์คะ
ท่านกงสุล : พี่สาวคุณไปมานานเท่าไหร่แล้วคะ
เรา : ประมาณสองปีคะ
ท่านกงสุล : พี่สาวคุณวางแผนว่าจะเรียนภาษากี่ปีครับ
เรา : ตอนแรกพี่คิดว่าจะเรียน 1 ปีคะ แต่ภาษายังไม่แน่นเลยเรียนต่ออีก 1 ปีคะ
ท่านกงสุล : พยักหน้า คลิก พิมพ์ๆ
ท่านกงสุล : พี่สาวคุณรู้จักใครที่นั้นก่อนไปอเมริกาไหมครับ
เรา : ไม่รู้จักคะ
ท่านกงสุล : พิมพ์ๆ คลิกๆ นานพอดูเลยคะ
เรา : เริ่มรู้ชะตากรรมละ
ท่านกงสุล : หลังจากพิมพ์นานมาก ก็รวบพาสปอร์คืนให้เราคะ และบอกว่าเสียใจไม่สามารถออกวีซ่าให้คุณได้และท่านก็ไหว้เรา
เรา : ไหว้ตอบ อึ้ง งง เศร้ามาก
ขอดูเอกสารแค่อย่างเดียวคะ ทรานสคริป เรายังไม่ดูเลยคะ
เราได้รับจดหมายแนบมาคะว่าเหตุผลที่ไม่ได้ก็คือ
1. ท่านไม่ได้แสดงให้เจ้าหน้าที่เชื่อเจตนาของท่านที่จะกระทำการใดๆในสหรัฐอเมริกาว่าตรงกับประเภทของวีซ่าที่ท่านได้ยื่นคำร้องมา
2. ท่านไม่สามารถแสดงให้เห็นว่าท่านมีคุณสมบัติเพียงพอต่อประเภทที่ท่าได้ยื่นคำร้องมา
เราคิดว่าเราน่าจะพลาดตรงคำถามแรก
ท่านกงสุล : ทำไมอยากไปเรียนที่อเมริกาครับ
เรา : อยากไปเรียนภาษาเพื่อพัฒนาภาษาให้ดีขึ้นคะ
คือตอบสั้น ไม่บอกเหตุผลว่าจะกลับมาทำอะไร เซ็งตัวเองมากคะ ตื่นเต้น และในคำถามสุดท้ายคะ
ท่านกงสุล : พี่สาวคุณรู้จักใครที่นั้นก่อนไปอเมริกาไหมครับ
เรา : ไม่รู้จักคะ
คือพี่เราเคยขอวีว่าท่องเที่ยวที่กงสุล เชียงใหม่คะ แต่ไม่ผ่าน พี่เคยใส่ชื่อคนรู้จักไปคะ ตอนนั้นเค้าเรียนโทที่นั้น
พอพี่เราขอวีซ่านักเรียนอีกทีที่ กรุงเทพคะ ผ่านคะ พี่ใส่ว่าไม่มีคนรู้จักเพราะคนนั้นจบโทกลับไทยแล้ว ตรงนี้รึป่าวเค้าอาจคิดว่าเราโกหก
เล่ามายาวยืดถึงตรงนี้คะที่เราอยากได้คำแนะนำคะ
คือรอบสองนี้เราจะตอบว่าเราอยากพัฒนาภาษาของเราให้เราสามารถใช้ภาษาได้อย่างถูกต้องคล่องแคล่วคะ เราอยากเป็นแอร์คะ และเราอยากนำภาษาที่ได้มาทำธุรกิจที่บ้านคะ เพราะในอนาคตแม่เราอยากให้เราอยู่บ้านคะ เนื่องจากบ้านเรามีแต่หลานสาว แล้วเราเป็นหลานสาวคนเล็กแม่เราอยากให้ทำธุรกิจที่บ้านคะ เราก็มีแพลนทำธุรกิจอยู่แล้วคะ เป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงของอำเภอเราคะคะ เราอยากนำภาษามาขยายช่องทางการตลาดคะทำให้สินค้านี้เป็นที่รู้จักในสากลมากขึ้น ในจุดนี้เราจะเอารูปสินค้าดังกล่าวไปให้เค้าดูเลยคะ เผื่อเค้าไม่เข้าใจไม่รู้จักคะ
อยากขอความเห็นคะว่าเราควรเพิ่มตรงไหนบ้างคะ กรุณาด้วยนะ
ปล. ต้องขอบคุณข้อมูลทุกๆอย่างในพันทิปคะ หนูหาข้อมูลจากพันทิปตลอดคะ เกิดมาเพิ่งเคยตั้งกระทู้เป็นครั้งแรก อยากได้คำแนะนำจริงๆคะ ขอบคุณทุกคนที่อ่านคะ ยาวไปหน่อย อิอิ