สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิพย์
*นี่เป็นกระทู้ที่2 หากผิดพลาดประการใดรบกวนติติงได้ครับ*
จากกระทู้ที่แล้วเรื่อง Franchise Democracy เมื่อ3วันก่อน ผมพูดถึงเรื่องการร่วมรนณรงค์ ลด ละ เลิก ใช้ของนอก เนื่องจากการพยายามกดดันประเทศไทยของ USAและEU (ผมเขียนประโยชน์8ข้อไว้เผื่อท่านใดสนใจอัพเดท)
ตอนนี้เห็นคนไทยหลายคนออกมาเคลื่อนไหวเรื่องนี้กันมาก (ไม่เกี่ยวข้องใดๆกับกระทู้ที่ผมตั้ง)รวมถึงเห็นคนที่คิดเห็นต่างหรือต่อว่าต่อขานก็มาก
วันนี้เลยขออนุญาตเขียนเรื่องนึงเพื่อเป็นข้อคิดให้กับผู้สนใจครับ
ก่อนหน้านี้ สังคมไทยมีการพูดกันถึงเรื่อง Hate speech หรือเรื่องการพูด-คำพูดที่ส่งเสริมให้เกิดความเกลียดชัง โดยเฉพาะในหมู่ผู้ที่สนใจการเมืองที่มีสีเสื้ออันเข้มข้น
ช่วงนั้นเปิดดูสื่อหลายๆสีก็จะเจอแต่ Hate speech ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มการศึกษาสูงหรือปานกลาง,รวย-จน,คนที่อ้างว่าตัวเองดี-คนที่อ้างว่าคนอื่นเลว ฯลฯ
แปลกใจว่า Hate speech พวกนี้ทำไม กบว.ไม่เซ็นเซอร์ ผมว่ามันอันตรายกว่าละคร(น้ำเน่า)ไม่รู้กี่เท่า จนมาถึงวันนี้ โดนปิดกันไปหมด ก็เบาลงไปหน่อย
คำพูดพวกนี้ ผมว่ามันทำให้เกิดอารมณ์(ร่วม) ฟังแล้วถ้าไม่ทันแยกแยะว่าอันไหนข้อมูลอันไหนอคติ จะพาลถลำลึกไปกับอารมณ์โดยไม่รู้ตัว
คนเราพออารมณ์มากเข้า ปัญญาก็ลดลง ผมเลยโยงมาถึงเรื่อง Fool speech ผมให้ความหมายว่า การพูด-คำพูดที่ทำให้ผู้พูดไม่ฉลาด(ผมขออนุญาตไมใช้คำว่าโง่นะครับ)
จริงๆแล้วเรื่องนี้อ้างอิงถึง ศีลข้อ4 ในหมวดศีล5 ตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา ที่อ้างอย่างนี้เพราะผมเชื่อว่าคนไทยเกือบจะทุกคนต้องเคยเรียนเรื่องศีล5กันมาแล้ว อยู่ที่ว่าเข้าใจและปฏิบัติตามกันแค่ไหน ลองทบทวนดูตามนี้ครับ
http://larndham.org/index.php?/topic/22998 ขอบคุณเจ้าของเวปและจขกท. ด้วยครับ
ใน pantip ผมสังเกตุว่าส่วนนึงตั้งกระทู้หรือตอบกระทู้ ด้วยอารมณ์กับการประชดประชันกันมาก ผมเพียงเสนอว่าพวกท่านทำได้ดีกว่านั้นครับ ลองนึกถึงว่าหากมีเยาวชนที่สนใจเข้ามาอ่าน น้องๆเหล่านั้นเขาจะเห็นอะไรครับ นอกจาก Hate speech and fool speech (ท่านที่เขียนดีก็มาก ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้ครับ)
You are what you eat อย่าลืมรวมถึงอายตนะทั้ง6 ด้วยนะครับ ทั้งนี้ผมหวังว่าท่านจะส่งต่อสิ่งที่ดีที่สุดของท่านให้กับคนรุ่นต่อไปครับ
ขอบคุณครับ
ตน.
Hate speech and fool speech
*นี่เป็นกระทู้ที่2 หากผิดพลาดประการใดรบกวนติติงได้ครับ*
จากกระทู้ที่แล้วเรื่อง Franchise Democracy เมื่อ3วันก่อน ผมพูดถึงเรื่องการร่วมรนณรงค์ ลด ละ เลิก ใช้ของนอก เนื่องจากการพยายามกดดันประเทศไทยของ USAและEU (ผมเขียนประโยชน์8ข้อไว้เผื่อท่านใดสนใจอัพเดท)
ตอนนี้เห็นคนไทยหลายคนออกมาเคลื่อนไหวเรื่องนี้กันมาก (ไม่เกี่ยวข้องใดๆกับกระทู้ที่ผมตั้ง)รวมถึงเห็นคนที่คิดเห็นต่างหรือต่อว่าต่อขานก็มาก
วันนี้เลยขออนุญาตเขียนเรื่องนึงเพื่อเป็นข้อคิดให้กับผู้สนใจครับ
ก่อนหน้านี้ สังคมไทยมีการพูดกันถึงเรื่อง Hate speech หรือเรื่องการพูด-คำพูดที่ส่งเสริมให้เกิดความเกลียดชัง โดยเฉพาะในหมู่ผู้ที่สนใจการเมืองที่มีสีเสื้ออันเข้มข้น
ช่วงนั้นเปิดดูสื่อหลายๆสีก็จะเจอแต่ Hate speech ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มการศึกษาสูงหรือปานกลาง,รวย-จน,คนที่อ้างว่าตัวเองดี-คนที่อ้างว่าคนอื่นเลว ฯลฯ
แปลกใจว่า Hate speech พวกนี้ทำไม กบว.ไม่เซ็นเซอร์ ผมว่ามันอันตรายกว่าละคร(น้ำเน่า)ไม่รู้กี่เท่า จนมาถึงวันนี้ โดนปิดกันไปหมด ก็เบาลงไปหน่อย
คำพูดพวกนี้ ผมว่ามันทำให้เกิดอารมณ์(ร่วม) ฟังแล้วถ้าไม่ทันแยกแยะว่าอันไหนข้อมูลอันไหนอคติ จะพาลถลำลึกไปกับอารมณ์โดยไม่รู้ตัว
คนเราพออารมณ์มากเข้า ปัญญาก็ลดลง ผมเลยโยงมาถึงเรื่อง Fool speech ผมให้ความหมายว่า การพูด-คำพูดที่ทำให้ผู้พูดไม่ฉลาด(ผมขออนุญาตไมใช้คำว่าโง่นะครับ)
จริงๆแล้วเรื่องนี้อ้างอิงถึง ศีลข้อ4 ในหมวดศีล5 ตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา ที่อ้างอย่างนี้เพราะผมเชื่อว่าคนไทยเกือบจะทุกคนต้องเคยเรียนเรื่องศีล5กันมาแล้ว อยู่ที่ว่าเข้าใจและปฏิบัติตามกันแค่ไหน ลองทบทวนดูตามนี้ครับ http://larndham.org/index.php?/topic/22998 ขอบคุณเจ้าของเวปและจขกท. ด้วยครับ
ใน pantip ผมสังเกตุว่าส่วนนึงตั้งกระทู้หรือตอบกระทู้ ด้วยอารมณ์กับการประชดประชันกันมาก ผมเพียงเสนอว่าพวกท่านทำได้ดีกว่านั้นครับ ลองนึกถึงว่าหากมีเยาวชนที่สนใจเข้ามาอ่าน น้องๆเหล่านั้นเขาจะเห็นอะไรครับ นอกจาก Hate speech and fool speech (ท่านที่เขียนดีก็มาก ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้ครับ)
You are what you eat อย่าลืมรวมถึงอายตนะทั้ง6 ด้วยนะครับ ทั้งนี้ผมหวังว่าท่านจะส่งต่อสิ่งที่ดีที่สุดของท่านให้กับคนรุ่นต่อไปครับ
ขอบคุณครับ
ตน.