กระทู้นี้ไม่ได้เน้นนินทานะครับ
บนชานชาลาสถานีสยามมุ่งหน้าหมอชิต ณ เวลาราวห้าโมงเย็นของวันนี้
ทุกคนคงทราบดีนะครับ ว่าการจะขึ้นรถไฟสายนี้ได้มันจะต้องต่อคิวจากชานชาลาไปจนเกือบสุดอีกฝั่งนึง
เมื่อรถไฟมาถึงชานชาลาแล้ว คนที่อยู่ท้ายแถวมีโอกาสสูงมากที่จะต้องรอขบวนถัดไป
ผมซึ่งต่อคิวอยู่เป็นลำดับที่สามข้างหน้ามีลุงและน้องผู้หญิงวัยรุ่นน่ารักยืนต่อคิวอยู่แล้ว
ทีนี้พอแถวเริ่มยาว ก็ปรากฎผู้หญิงวัยห้าสิบขึ้นไปสองท่าน เดินเข้ามาสถาปนาแถวใหม่ขึ้นหลังน้องผู้หญิงน่ารักคนนั้น
โอ้ว พระเจ้า นี่มันเกิดอะไรขึ้น (ผมนึกในใจ) จากนั้นจึงเหลือบมองไปยังแถวข้างๆ โอ้วอีกสามท่านตรงนั้นก็สร้างแถวใหม่ขึ้นมาแทรกเช่นกัน
แล้วทุกท่านนี่เจเนเรชั่นเดียวกันหมดเลยนะครับ 5555+
คือมันก็แปลกนะครับ ผมก็ไม่เคยเห็นเจเนเรชั่นคุณยายยุคPre WWIIทำอะไรแบบนี้
มองแล้วก็นึกขำ คุณป้าแถวผมดูท่านรีบๆร้อนๆ ไม่รู้รีบไปรับหลานรึเปล่า ส่วนคุณป้าท่านอื่นๆก็นะ ดูเหนื่อยและคงอยากรีบกลับบ้านเต็มทนแล้ว
ครั้นจะบอกว่าป้าครับต่อแถวเถอะ ก็ไม่รู้บอกไปแล้วจะได้อะไร ผมก็แอบสงสารป้านะ คนแถวนั้น เค้าก็มองกันอยู่เยอะแล้ว
เอาจริงๆผมไม่รู้ว่าป้าหลายท่านนี้จะรู้ตัวหรือเปล่า หรือคิดว่าการสถาปนาคิวของตัวเองแบบนี้เป็นเรื่องถูกต้อง ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน
หรือยังไงผมก็ไม่ทราบ
แต่เจตนาที่ผมตั้งกระทู้นี้ไม่ได้ต้องการวิจารณ์แต่มนุษย์ป้าอย่างเดียวนะครับ จริงๆคำว่ามนุษย์ป้านี่ผมก็ไม่ชอบเลย เพราะเป็นการสร้างStereotypeให้กับคนบางกลุ่ม บางประเภท เป็นการสร้างสัญลักษณ์ให้เค้า แล้วมันจะถูกยัดเยียดความเกลียดชังได้ง่าย แต่การศึกษาบ้านเราไม่เคยสอน
จริงๆคนเจเนเรชั่นป้าที่ปกติดีๆ ยังมีอยู่อีกมาก
เห็นโฆษณาที่เด็กTMBถามนู้นนี่พ่อตัวเองไหมครับ ว่าทำไมป้าคนนั้นไม่ต่อคิว ฯลฯ นั่นแหละครับคือสิ่งที่น่ากลัว แม้แต่ผู้ใหญ่เองยังไม่สามารถเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กได้ ไม่เฉพาะมนุษย์ป้า แต่มันคือภาระของทุกคนในสังคม การฝากลูกเข้าโรงเรียน ซื้อหนังก็อป ขับรถฝ่าไฟแดง ติดสินบนตำรวจ ฯลฯ
ตั้งแต่วันที่เด็กไทยที่เกิดใหม่ลืมตาดูโลกมา สภาพสังคมที่เค้าเห็นที่เค้าเรียนรู้ มันก็หล่อหลอมจนเป็นสภาพสังคมไทยในอนาคตนั่นแหละ
อีกสามสิบสี่สิบปีมนุษย์ป้าเหล่านี้ก็คงตายไปหมดแล้ว ถ้าดูตามอายุเฉลี่ย ส่วนผมก็กลายเป็นมนุษย์ลุง ซึ่งต้องอาศัยอยู่ในสภาพสังคมที่พวกเราๆท่านๆช่วยกันหล่อหลอมขึ้นมา
ถ้าผู้ใหญ่ยังทำดีให้เด็กดูไม่ได้ ยังคงละเลยสิ่งที่พึงปฏิบัติเล็กๆน้อยๆ ยังคงใช้ระบบเส้นสาย อีกห้าสิบปีเราก็ยังคงเป็นได้แค่ชาติกำลังพัฒนาละครับ แล้วผมก็ได้แต่หวังว่าพอผมเป็นมนุษย์ปู่แล้ว คงมีหลานๆใจดียุคอนาคตสละที่นั่งให้บ้าง
ตอนนี้ถ้าเจอคุณยายหรือคุณตาขึ้นมานี่รีบลุกให้นั่งตลอดเลยครับ
การศึกษาไทย การสอนในโรงเรียนอะไรมันดีอยู่แล้วครับ เด็กอนุบาลไหว้สวย มีอนามัย ใส่ใจ เรียนรู้ คู่คุณธรรมกันหมดแหละครับ แต่พอเค้าโตขึ้น
เค้าก็ถูกหล่อหลอมไปตามสภาพสังคม น้อยคนนักที่จะอินดี้แล้วคิดได้
ผมเกิดและโตในประเทศไทยที่กำลังพัฒนา แต่อยากแก่และตายในที่ประเทศไทยที่พัฒนาแล้ว ถ้าเราช่วยกัน มันเริ่มที่ตัวเราจริงๆครับ
วิเคราะห์มนุษย์ป้าบนBTS SIAMวันนี้
บนชานชาลาสถานีสยามมุ่งหน้าหมอชิต ณ เวลาราวห้าโมงเย็นของวันนี้
ทุกคนคงทราบดีนะครับ ว่าการจะขึ้นรถไฟสายนี้ได้มันจะต้องต่อคิวจากชานชาลาไปจนเกือบสุดอีกฝั่งนึง
เมื่อรถไฟมาถึงชานชาลาแล้ว คนที่อยู่ท้ายแถวมีโอกาสสูงมากที่จะต้องรอขบวนถัดไป
ผมซึ่งต่อคิวอยู่เป็นลำดับที่สามข้างหน้ามีลุงและน้องผู้หญิงวัยรุ่นน่ารักยืนต่อคิวอยู่แล้ว
ทีนี้พอแถวเริ่มยาว ก็ปรากฎผู้หญิงวัยห้าสิบขึ้นไปสองท่าน เดินเข้ามาสถาปนาแถวใหม่ขึ้นหลังน้องผู้หญิงน่ารักคนนั้น
โอ้ว พระเจ้า นี่มันเกิดอะไรขึ้น (ผมนึกในใจ) จากนั้นจึงเหลือบมองไปยังแถวข้างๆ โอ้วอีกสามท่านตรงนั้นก็สร้างแถวใหม่ขึ้นมาแทรกเช่นกัน
แล้วทุกท่านนี่เจเนเรชั่นเดียวกันหมดเลยนะครับ 5555+
คือมันก็แปลกนะครับ ผมก็ไม่เคยเห็นเจเนเรชั่นคุณยายยุคPre WWIIทำอะไรแบบนี้
มองแล้วก็นึกขำ คุณป้าแถวผมดูท่านรีบๆร้อนๆ ไม่รู้รีบไปรับหลานรึเปล่า ส่วนคุณป้าท่านอื่นๆก็นะ ดูเหนื่อยและคงอยากรีบกลับบ้านเต็มทนแล้ว
ครั้นจะบอกว่าป้าครับต่อแถวเถอะ ก็ไม่รู้บอกไปแล้วจะได้อะไร ผมก็แอบสงสารป้านะ คนแถวนั้น เค้าก็มองกันอยู่เยอะแล้ว
เอาจริงๆผมไม่รู้ว่าป้าหลายท่านนี้จะรู้ตัวหรือเปล่า หรือคิดว่าการสถาปนาคิวของตัวเองแบบนี้เป็นเรื่องถูกต้อง ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน
หรือยังไงผมก็ไม่ทราบ
แต่เจตนาที่ผมตั้งกระทู้นี้ไม่ได้ต้องการวิจารณ์แต่มนุษย์ป้าอย่างเดียวนะครับ จริงๆคำว่ามนุษย์ป้านี่ผมก็ไม่ชอบเลย เพราะเป็นการสร้างStereotypeให้กับคนบางกลุ่ม บางประเภท เป็นการสร้างสัญลักษณ์ให้เค้า แล้วมันจะถูกยัดเยียดความเกลียดชังได้ง่าย แต่การศึกษาบ้านเราไม่เคยสอน
จริงๆคนเจเนเรชั่นป้าที่ปกติดีๆ ยังมีอยู่อีกมาก
เห็นโฆษณาที่เด็กTMBถามนู้นนี่พ่อตัวเองไหมครับ ว่าทำไมป้าคนนั้นไม่ต่อคิว ฯลฯ นั่นแหละครับคือสิ่งที่น่ากลัว แม้แต่ผู้ใหญ่เองยังไม่สามารถเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กได้ ไม่เฉพาะมนุษย์ป้า แต่มันคือภาระของทุกคนในสังคม การฝากลูกเข้าโรงเรียน ซื้อหนังก็อป ขับรถฝ่าไฟแดง ติดสินบนตำรวจ ฯลฯ
ตั้งแต่วันที่เด็กไทยที่เกิดใหม่ลืมตาดูโลกมา สภาพสังคมที่เค้าเห็นที่เค้าเรียนรู้ มันก็หล่อหลอมจนเป็นสภาพสังคมไทยในอนาคตนั่นแหละ
อีกสามสิบสี่สิบปีมนุษย์ป้าเหล่านี้ก็คงตายไปหมดแล้ว ถ้าดูตามอายุเฉลี่ย ส่วนผมก็กลายเป็นมนุษย์ลุง ซึ่งต้องอาศัยอยู่ในสภาพสังคมที่พวกเราๆท่านๆช่วยกันหล่อหลอมขึ้นมา
ถ้าผู้ใหญ่ยังทำดีให้เด็กดูไม่ได้ ยังคงละเลยสิ่งที่พึงปฏิบัติเล็กๆน้อยๆ ยังคงใช้ระบบเส้นสาย อีกห้าสิบปีเราก็ยังคงเป็นได้แค่ชาติกำลังพัฒนาละครับ แล้วผมก็ได้แต่หวังว่าพอผมเป็นมนุษย์ปู่แล้ว คงมีหลานๆใจดียุคอนาคตสละที่นั่งให้บ้าง
ตอนนี้ถ้าเจอคุณยายหรือคุณตาขึ้นมานี่รีบลุกให้นั่งตลอดเลยครับ
การศึกษาไทย การสอนในโรงเรียนอะไรมันดีอยู่แล้วครับ เด็กอนุบาลไหว้สวย มีอนามัย ใส่ใจ เรียนรู้ คู่คุณธรรมกันหมดแหละครับ แต่พอเค้าโตขึ้น
เค้าก็ถูกหล่อหลอมไปตามสภาพสังคม น้อยคนนักที่จะอินดี้แล้วคิดได้
ผมเกิดและโตในประเทศไทยที่กำลังพัฒนา แต่อยากแก่และตายในที่ประเทศไทยที่พัฒนาแล้ว ถ้าเราช่วยกัน มันเริ่มที่ตัวเราจริงๆครับ