หนึ่งในเหตุผลยอดฮิตติดอันดับที่ทำให้ขาดทุนจากหุ้นคือ “การซื้อขายตามข่าว(ลือ)”
ข่าวลือ คือข่าวที่พูดกันทั่วไป แต่ยังไม่มีหลักฐานข้อเท็จจริงมายืนยันได้แน่นอน ซึ่งคือความเสี่ยงอย่างหนึ่ง “เสี่ยงว่ามันจะจริง หรือไม่จริง” และโดยธรรมชาติผู้ลงทุนก็ต้องการได้ยินได้ฟังเรื่องราวที่จะส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นในอนาคต
พฤติกรรมการแพร่กระจายข่าวลือนิยมบอกต่อ ๆ กันไปหลาย ๆ ทอด โดยอ้างว่ามีแหล่งที่มาจากคนในเรียกว่า อินไซด์สุด ๆ “ข่าวนี้รู้กันไม่กี่คนหรอก”
ยกตัวอย่างเช่น มีข่าวว่าบริษัทกำลังจะได้งานประมูลชิ้นใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะทำให้บริษัทได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ พอได้ยินอย่างเดียว โดยไม่เช็คข้อมูล
ให้แน่ใจก่อน ก็แห่เข้าไปซื้อหุ้นของบริษัทนั้นทันที ต่อมาก็มีข่าวใหม่ออกมาว่า “ไม่ได้งานประมูลแล้วนะ” ถึงตอนนั้นก็ถือบางอ้อว่า “เสร็จกัน”
ราคาที่เป็นอยู่ตอนนี้ ในไม่ช้าคงไม่ใช่แล้ว เพราะไม่มีปัจจัยอะไรมาสนับสนุน คนที่หลงเข้าไปซื้อตอนราคาสูงก็ “ติดดอย” กันไป
จำไว้ว่า..ถ้าไปหลงเชื่อในสิ่งที่ได้ยินทุกเรื่องโดยไม่มีการตรวจสอบความถูกต้องก่อนซื้อขายหุ้นตัวใดก็ตาม ย่อมมีโอกาสที่จะขาดทุนมากกว่าโอกาส
ที่จะได้กำไรแน่นอน
ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือคนที่คิดว่าเป็นเซียนหุ้น ก็ล้วนมีโอกาสตกเป็นเหยื่อของข่าวลือได้ ขอให้เช็คข้อมูลให้ดีก่อน อย่าหลงเชื่อข่าวง่าย ๆ
ยิ่งเราอยู่ในโลกที่ข้อมูลข่าวสารเคลื่อนที่เร็วและมากมายขนาดนี้ ยิ่งควรใช้วิจารณญาณในการบริโภคข่าวมาก ๆ แหล่งข้อมูลที่จะช่วยยืนยันได้ว่า
ข่าวนั้นเป็นข่าวที่กรองแล้วก็คือเว็บไซต์ www.set.or.th ของตลาดหลักทรัพย์ ในหัวข้อข่าวบริษัทจดทะเบียน
มีผู้ลงทุนหลายรายรู้สึกขยาดหรือไม่ดีเวลาพูดถึงตลาดหุ้น เพราะขาดทุน และไม่คิดจะกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นอีกเลย ดังนั้น อย่าลงทุนโดยเชื่อ
สิ่งที่บอกต่อๆ กันมา นอกจากจะทำให้เสียเงิน เสียเวลาแล้ว ยังทำให้เสียสุขภาพจิตเพราะเจ็บใจตัวเองอีกด้วยครับ
หากเพื่อน ๆ พบเห็นบุคคลที่กระทำการแพร่ข่าวที่ไม่เป็นความจริง โปรดแจ้งเบาะแสมายัง ก.ล.ต. Help Center โทร. 1207 กด 4 ครับ
เพราะตลาดทุนเป็นของทุกคน และคุณคือส่วนหนึ่งที่ช่วยพัฒนาตลาดทุนไทย
ที่มา :
https://www.facebook.com/StartToInvest
อย่าถูกลวงให้ซื้อขาย
ข่าวลือ คือข่าวที่พูดกันทั่วไป แต่ยังไม่มีหลักฐานข้อเท็จจริงมายืนยันได้แน่นอน ซึ่งคือความเสี่ยงอย่างหนึ่ง “เสี่ยงว่ามันจะจริง หรือไม่จริง” และโดยธรรมชาติผู้ลงทุนก็ต้องการได้ยินได้ฟังเรื่องราวที่จะส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นในอนาคต
พฤติกรรมการแพร่กระจายข่าวลือนิยมบอกต่อ ๆ กันไปหลาย ๆ ทอด โดยอ้างว่ามีแหล่งที่มาจากคนในเรียกว่า อินไซด์สุด ๆ “ข่าวนี้รู้กันไม่กี่คนหรอก”
ยกตัวอย่างเช่น มีข่าวว่าบริษัทกำลังจะได้งานประมูลชิ้นใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะทำให้บริษัทได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ พอได้ยินอย่างเดียว โดยไม่เช็คข้อมูล
ให้แน่ใจก่อน ก็แห่เข้าไปซื้อหุ้นของบริษัทนั้นทันที ต่อมาก็มีข่าวใหม่ออกมาว่า “ไม่ได้งานประมูลแล้วนะ” ถึงตอนนั้นก็ถือบางอ้อว่า “เสร็จกัน”
ราคาที่เป็นอยู่ตอนนี้ ในไม่ช้าคงไม่ใช่แล้ว เพราะไม่มีปัจจัยอะไรมาสนับสนุน คนที่หลงเข้าไปซื้อตอนราคาสูงก็ “ติดดอย” กันไป
จำไว้ว่า..ถ้าไปหลงเชื่อในสิ่งที่ได้ยินทุกเรื่องโดยไม่มีการตรวจสอบความถูกต้องก่อนซื้อขายหุ้นตัวใดก็ตาม ย่อมมีโอกาสที่จะขาดทุนมากกว่าโอกาส
ที่จะได้กำไรแน่นอน
ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือคนที่คิดว่าเป็นเซียนหุ้น ก็ล้วนมีโอกาสตกเป็นเหยื่อของข่าวลือได้ ขอให้เช็คข้อมูลให้ดีก่อน อย่าหลงเชื่อข่าวง่าย ๆ
ยิ่งเราอยู่ในโลกที่ข้อมูลข่าวสารเคลื่อนที่เร็วและมากมายขนาดนี้ ยิ่งควรใช้วิจารณญาณในการบริโภคข่าวมาก ๆ แหล่งข้อมูลที่จะช่วยยืนยันได้ว่า
ข่าวนั้นเป็นข่าวที่กรองแล้วก็คือเว็บไซต์ www.set.or.th ของตลาดหลักทรัพย์ ในหัวข้อข่าวบริษัทจดทะเบียน
มีผู้ลงทุนหลายรายรู้สึกขยาดหรือไม่ดีเวลาพูดถึงตลาดหุ้น เพราะขาดทุน และไม่คิดจะกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นอีกเลย ดังนั้น อย่าลงทุนโดยเชื่อ
สิ่งที่บอกต่อๆ กันมา นอกจากจะทำให้เสียเงิน เสียเวลาแล้ว ยังทำให้เสียสุขภาพจิตเพราะเจ็บใจตัวเองอีกด้วยครับ
หากเพื่อน ๆ พบเห็นบุคคลที่กระทำการแพร่ข่าวที่ไม่เป็นความจริง โปรดแจ้งเบาะแสมายัง ก.ล.ต. Help Center โทร. 1207 กด 4 ครับ
เพราะตลาดทุนเป็นของทุกคน และคุณคือส่วนหนึ่งที่ช่วยพัฒนาตลาดทุนไทย
ที่มา : https://www.facebook.com/StartToInvest