อยากเล่าครับ
เคยรู้สึกมั้ยครับ ว่าบางครั้งสิ่งที่เราไม่ค่อยให้ความสำคัญ มันอาจมีคุณค่าในสายตาของคนอื่น
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เป็นวันครบรอบ 1 ปี ของการคบกันระหว่างผมกับแฟน ซึ่งมุมมองของหลายๆคนคงไม่เหมือนกัน
บางคนอาจจะมองว่า ก็ไม่เห็นแปลกแค่วันๆหนึ่งที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป สำหรับผมดีขึ้นมาหน่อย ไม่มองว่าเป็นวันสำคัญเลิศเลอ แต่นะ
ก็เป็นวันที่พิเศษวันหนึ่ง เพราะแฟนผมค่อนข้างจะชอบความเซอร์ไพรซ์ และพิถีพิถันในเรื่องวันสำคัญของคนรอบข้าง
ซึ่งผมเองก็ได้รับของขวัญที่คาดไม่ถึงจากเขาบ่อยๆ ดังนั้น ผมจึงเอากระดูกมาแขวนคอ เอ้ย! จึงเสนอไอเดียว่า มาแลกของขวัญกันดีกว่า
ซึ่งจุดประสงค์ผมมี 3 ข้อ
ข้อ 1. หยุดชนวนสงครามที่อาจจะก่อตัวได้ในอนาคตอันใกล้
ข้อ 2. อยากจะให้ของขวัญจริงๆ เพราะเป็นวันพิเศษ
และข้อ 3. สำคัญที่สุด ผมต้องการลบคำปรามาสของแฟนผม ที่ชอบพูดกรอกหูทุกวัน ว่า
“ความหวานและความโรแมนติคของคุณหน่ะเท่ากับศูนย์”
ซึ่งบ้างครั้งผมก็ทำไม่ได้ยินบ้าง แต่บ่อยๆเข้า ก็ไม่ได้ละ ไอ้เราก็ไม่ใช่ธรรมดา ดูหนังรักโรแมนติคมาก็เยอะ ทั้ง Transformer,
Missions impossible, Badboy, Die hard ซุปเปอร์ฮีโร่ ทั้ง Marvel และ DC ก็ชอบ ฯลฯ เรียกว่าดูหนังของเจ้าพ่อหนังรักอย่าง ไมเคิ่ล เบย์หรือโนแลนมาเกือบทุกเรื่อง ไอเดียสำหรับของขวัญชิ้น 2 ชิ้นนะ ขี้ประติ๋ว!! ผมจึงชะล่าใจ คิดว่าใกล้ๆค่อยจัดการ
ดูบอลโลกก่อน 4 ปีมีครั้ง ไอ้วันครบรอบหน่ะ มีทุกปี ซึ่งเป็นความคิดที่ไม่เอาถ่านไม่พอ ไม่เอาขี้เถ้าอีกต่างหาก คือนิ่งนอนใจมากก
จนวันนั้นใกล้มาถึง
ด้วยความที่เราสองคนยุ่งมาก งานล้นมือ จึงตกลงกันว่าให้เลื่อนจากที่จะฉลองกันวันพฤหัสบดี (ที่ผ่านมา) ซึ่งเป็นวันครบรอบ
โยกไปวันศุกร์หรือเสาร์แทนจะสะดวกกว่า ก็ตกลงกันตามนี้ เวลาผ่านไปจนถึงวันนั้น ผมก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะงานยุ่งจนไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้
จนช่วงสายๆ มีคนเอาขนมเค้กมาส่งที่ออฟฟิศ ซึ่งเป็นไปตามคาดคือ แฟนผมส่งขนมเค้ก Happy Anniversary มาให้
ผมก็ดีใจเลยโทรไปขอบคุณ เขาก็บอกว่าสุขสันต์วันครบรอบด้วยน้ำเสียงที่มีความสุข อะไรประมาณนั้น ดูแฮปปี้ดีใช่มั้ยครับ?
ผมก็คิดในใจ สถานการณ์ปกติดี งั้นพรุ่งนี้ไปฉลองกันเล็กๆน้อยก็น่าจะเพียงพอแล้ว ของขงของขวัญไม่ต้องก็ได้มั้ง...
นั่น!! อยู่ดีไม่ว่าดี เอาคอพาดเขียงรอปังตอซะงั้น!!? จนช่วงเย็นๆ งานผมซาลงเล็กน้อยจึงโทรไปคุยอีกรอบ ตามบทสนทนาด้านล่าง
ดอกไม้ช่วยชีวิตคุณได้นะ
เคยรู้สึกมั้ยครับ ว่าบางครั้งสิ่งที่เราไม่ค่อยให้ความสำคัญ มันอาจมีคุณค่าในสายตาของคนอื่น
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เป็นวันครบรอบ 1 ปี ของการคบกันระหว่างผมกับแฟน ซึ่งมุมมองของหลายๆคนคงไม่เหมือนกัน
บางคนอาจจะมองว่า ก็ไม่เห็นแปลกแค่วันๆหนึ่งที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป สำหรับผมดีขึ้นมาหน่อย ไม่มองว่าเป็นวันสำคัญเลิศเลอ แต่นะ
ก็เป็นวันที่พิเศษวันหนึ่ง เพราะแฟนผมค่อนข้างจะชอบความเซอร์ไพรซ์ และพิถีพิถันในเรื่องวันสำคัญของคนรอบข้าง
ซึ่งผมเองก็ได้รับของขวัญที่คาดไม่ถึงจากเขาบ่อยๆ ดังนั้น ผมจึงเอากระดูกมาแขวนคอ เอ้ย! จึงเสนอไอเดียว่า มาแลกของขวัญกันดีกว่า
ซึ่งจุดประสงค์ผมมี 3 ข้อ
ข้อ 1. หยุดชนวนสงครามที่อาจจะก่อตัวได้ในอนาคตอันใกล้
ข้อ 2. อยากจะให้ของขวัญจริงๆ เพราะเป็นวันพิเศษ
และข้อ 3. สำคัญที่สุด ผมต้องการลบคำปรามาสของแฟนผม ที่ชอบพูดกรอกหูทุกวัน ว่า
“ความหวานและความโรแมนติคของคุณหน่ะเท่ากับศูนย์”
ซึ่งบ้างครั้งผมก็ทำไม่ได้ยินบ้าง แต่บ่อยๆเข้า ก็ไม่ได้ละ ไอ้เราก็ไม่ใช่ธรรมดา ดูหนังรักโรแมนติคมาก็เยอะ ทั้ง Transformer,
Missions impossible, Badboy, Die hard ซุปเปอร์ฮีโร่ ทั้ง Marvel และ DC ก็ชอบ ฯลฯ เรียกว่าดูหนังของเจ้าพ่อหนังรักอย่าง ไมเคิ่ล เบย์หรือโนแลนมาเกือบทุกเรื่อง ไอเดียสำหรับของขวัญชิ้น 2 ชิ้นนะ ขี้ประติ๋ว!! ผมจึงชะล่าใจ คิดว่าใกล้ๆค่อยจัดการ
ดูบอลโลกก่อน 4 ปีมีครั้ง ไอ้วันครบรอบหน่ะ มีทุกปี ซึ่งเป็นความคิดที่ไม่เอาถ่านไม่พอ ไม่เอาขี้เถ้าอีกต่างหาก คือนิ่งนอนใจมากก
จนวันนั้นใกล้มาถึง
ด้วยความที่เราสองคนยุ่งมาก งานล้นมือ จึงตกลงกันว่าให้เลื่อนจากที่จะฉลองกันวันพฤหัสบดี (ที่ผ่านมา) ซึ่งเป็นวันครบรอบ
โยกไปวันศุกร์หรือเสาร์แทนจะสะดวกกว่า ก็ตกลงกันตามนี้ เวลาผ่านไปจนถึงวันนั้น ผมก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะงานยุ่งจนไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้
จนช่วงสายๆ มีคนเอาขนมเค้กมาส่งที่ออฟฟิศ ซึ่งเป็นไปตามคาดคือ แฟนผมส่งขนมเค้ก Happy Anniversary มาให้
ผมก็ดีใจเลยโทรไปขอบคุณ เขาก็บอกว่าสุขสันต์วันครบรอบด้วยน้ำเสียงที่มีความสุข อะไรประมาณนั้น ดูแฮปปี้ดีใช่มั้ยครับ?
ผมก็คิดในใจ สถานการณ์ปกติดี งั้นพรุ่งนี้ไปฉลองกันเล็กๆน้อยก็น่าจะเพียงพอแล้ว ของขงของขวัญไม่ต้องก็ได้มั้ง...
นั่น!! อยู่ดีไม่ว่าดี เอาคอพาดเขียงรอปังตอซะงั้น!!? จนช่วงเย็นๆ งานผมซาลงเล็กน้อยจึงโทรไปคุยอีกรอบ ตามบทสนทนาด้านล่าง