น้องแนน สาวพิการ นิสิตใหม่ มศว.



น.ส.ทิพภาวรรณ พลล่องช้าง หรือ น้องแนน สาวน้อยวัย 18 ปี ผู้มีรอยยิ้มเป็นเอกลักษณ์ เธอเป็นพิการมาแต่กำเนิด ซึ่งลักษณะร่างกายของเธอมีติ่งแขนแค่ข้อศอกทั้งแขนซ้ายและแขนขวาโดยไม่มีมือ ส่วนช่วงล่าง คือขานั้นจะมีขาขวาที่เป็นปกติ ส่วนขาซ้ายเล็กและลีบ ซึ่งมีขาถึงแค่หัวเข่า พร้อมมีนิ้วเท้างอกออกมา 4 นิ้ว และเธอก็ต้องใส่ขาเทียมด้านขาซ้าย ซึ่งลักษณะร่างกายที่กล่าวมานั้น ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตอยู่กับผู้คนในสังคมแม้แต่น้อย จนในที่สุดเธอใช้แรงผลักดันที่มาจากลักษณะทางร่างกายของเธอผนวกกับความมุ่งมั่นในการเรียน สามารถสอบตรงเข้าเป็นนิสิตน้องใหม่ในปี 2557 ของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ( มศว) ซึ่งเธอเลือกเรียนวิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม สาขาการจัดกาธุรกิจไซเบอร์

ทั้งนี้มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ได้มีนโยบายสร้างแรงบันดาลใจให้คนปกติ ด้วยการชูผู้พิการ ให้คนปกติเล็งเห็นถึงศักยภาพของผู้พิการ ทำให้เกิดพลังและแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต รวมทั้งเปิดพื้นที่รับคนพิการเข้าทำงานทุกหน่วยงานภายในมหาวิยาลัยฯ

น้องแนน เปิดใจว่า รู้สึกดีใจที่สามารถสอบเข้าศึกษาในระดับปริญญาตรีของ มศว. ได้สำเร็จ นับเป็นก้าวแรกที่ยิ่งใหญ่ ต่อจากนี้ไปจะมุ่งมั่นตั้งใจเรียนหนังสือและตั้งใจว่าทำคะแนนให้ได้สูงสุด เพราะวิทยาลัยฯนี้จะมอบทุนให้คนที่ทำคะแนนได้เป็นอันดับ1ไปดูงานในต่างประเทศ และตัวเองก็อยากได้รับโอกาสนี้แต่กว่าที่จะมาถึงจุดนี้ก็จะต้องใช้ความพยายามมากเป็นพิเศษ ซึ่งนอกจากคำชมที่เป็นแรงบันดาลใจแล้ว อีกอย่าง คือ ครอบครัวที่ให้การสนับสนุนและให้อิสระทางความคิดไม่จำกัดขอบเขตว่าจะต้องอยู่แค่ในกรอบ ซึ่งส่วนใหญ่ครอบครัวจะไม่พูดถึงเรื่องปมด้อยของตนเอง เพราะทุกคนจะรู้ดีว่า จะทำให้เกิดแรงกดดันทั้งหมดตกอยู่ที่ตนเอง

“สิ่งที่ทำลงไปอาจจะดีไม่เท่าคนอื่น หรือดีกว่าคนอื่น แต่ถือว่าดีที่สุดของเรา ทำทุกอย่างให้เต็มที่ ห้ามบ่นว่าไม่ได้ ก่อนที่จะลองทำ ถ้าไม่ได้จริงๆ ค่อยบอกว่าทำไม่ได้ เพราะส่วนใหญ่ที่หนูทำ บางคนคิดว่าหนูทำไม่ได้ ทั้งที่เขาคาดหวังว่าหนูทำได้แค่นี้ แต่กลับทำได้มากว่า” น้องแนน กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง

น้องแนน ยังเล่าให้ฟัง ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า ในช่วงวัยเด็กจะมีเพื่อนๆ ล้อ ช่วงแรกรู้สึกโกรธมาก แต่หลังจากโตขึ้นจึงรู้ว่าควรทำอย่างไร อีกอย่างหนึ่งตนเองเคยศึกษาที่โรงเรียนคนพิการที่จังหวัดนนทบุรี “โรงเรียนศรีสังวารย์” จึงทำให้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไม่ได้รู้สึกแปลกแยกจากสังคมแต่อย่างใด หากแต่ในบางเวลาท้อแท้จะนึกถึงครอบครัว ซึ่งจะคอยให้กำลังใจ ส่วนใหญ่ครอบครัวจะสนับสนุนเรื่องการเรียน ไม่กดดัน และไม่ตอกย้ำ ทั้งหมดคือการให้อิสระในการตัดสินใจ และภายในครอบครัวจะมีการสร้างแต่เสียงรอยยิ้ม และเหตุที่เธอเลือกเรียนในสาขาดังกล่าว เธอบอกว่า ที่เลือกเรียนเพราะชอบธุรกิจ และคิดว่าน่าจะนำพาตนนั้นไปได้ไกล และเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับอนาคต ซึ่งตอนแรกจะเรียนคอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียว ก็เลยคิดว่าธุรกิจและคอมพิวเตอร์สามารถรวมเข้าด้วยกันได้ และถ้ามีโอกาส อยากใช้วิชาความรู้ที่ได้เรียนมา เก็บเกี่ยวเอาประสบการณ์ไปเรียนต่อในระดับปริญญาโท

น้องแนนพูดทิ้งท้ายและมีน้ำตาคลอ ว่า “สำหรับความฝันอยากเรียนจบ ทำงานดีๆ เลี้ยงพ่อแม่ให้สบายได้ แต่เราต้องพยายามให้มากกว่าคนอื่น”

อย่างไรก็ดี “น้องแนน” นับเป็นเด็กสาวผู้พิการมาแต่กำเนิดคนหนึ่งที่น่ายกย่อง ซึ่งนอกจากเธอนั้นมีทั้งกำลังใจจากครอบครัวแล้ว เธอยังมีกำลังใจที่เธอสร้างขึ้นมาด้วยตนเอง เพื่อใช้ในการดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างมีความสุข

เดลินิวส์ออนไลน์

http://bit.ly/เพจข่าวดี

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่