ปรัชญาการลงทุนของพระพุทธเจ้า

ผมได้อ่านพระไตรปิฎก (ฉบับ มจร. (จำเล่มไม่ได้)) พระพุทธเจ้าได้กล่าวถึงคุณสมบัติของพ่อค้า ทำให้ผมเกิดแรงบันดาลใจ จึงได้นำแนวความคิดของพระพุทธเจ้ามาวางเป็นโครงสร้างใหญ่ จากนั้นค่อยๆตีความในหลักการย่อย ค่อยๆคิด  ค่อยๆปรับ เพื่อให้เป็นปรัชญาการลงทุนที่เหมาะกับตนเองซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างแนวความคิดปัจจุบัน (ตะวันตกและตะวันออก) กับคำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งผมเห็นว่าคำสอนพระพุทธเจ้าเข้ากันได้กับแนวคิดการลงทุนในโลกปัจจุบันนี้
          แนวความคิดหลักของพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ตรัสว่า คุณสมบัติของพ่อค้า ต้องมีตาดี ธุรกิจดี เพียบพร้อมด้วยแหล่งที่พักพิงอาศัย หากพ่อค้ามีคุณสมบัติทั้ง ๓ อย่างนี้ จะประสบความสำเร็จในการค้าขาย สาเหตุที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสถึงคุณสมบัติของพ่อค้า เพื่อเป็นกุศโลบายในการปลุกเร้าอารมณ์พระภิกษุให้สนใจในการปฏิบัติธรรม (บรรลุมรรค ผล นิพพาน) จากคำสอนที่กล่าวมา นักลงทุนก็ควรที่จะศึกษาหาความรู้ไว้เพื่อประยุกต์ ปรับใช้ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น
          ส่วนปรัชญาการลงทุนของผม ก็มีการผสมผสานแนวคิดทั้งทางตะวันตก ตะวันออก ศาสนา โดยเนื้อหาจะหาความสมบูรณ์แบบไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเป็นไปของโลกแห่งการลงทุน ผมจึงยึดหลักการลงทุนแบบ Dynamic Investor (DI)
          การตีความโครงสร้างหลักการลงทุนของพระพุทธเจ้า ผมได้วางหลักการไว้ตามที่คิดได้ในขณะนี้ ดังนี้

1. มีตาดี (จักขุมา)

    - ปรโตโฆสะ

    - โยนิโสมนสิการ

    - ทัศนคติ

2. มีธุรกิจดี (วิธุโร)

    - สินค้าและบริการ

    - ผู้บริหารเก่ง ซื่อสัตย์ มีเหตุผล

    - ผลการดำเนินงานในอดีต ย้อนหลัง 10 ปี

    - แนวโน้มในอนาคต 10 ปี ข้างหน้า

    - งบการเงิน

3. เพียบพร้อมด้วยที่พักพิงอาศัย (นิสฺสยสัมปันโน)

    - Margin of safety

    - Intrinsic value

    - EQ

    - ผู้รู้ / ข้อมูล

    - เงิน

    - เวลา / ประสบการณ์

          จากโครงสร้างดังกล่าวนั้น เป็นการประมวลความคิดเฉพาะบุคคล ทุกคนสามารถตีความ เพื่อยึดเป็นหลักการของตนและปรับประยุกต์ตามความเหมาะสม ในแต่สถานการณ์
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่