คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 19
ขอข้ามเรื่องนมแท้ไม่แท้ ผงไม่ผงนะคะ
ว่ากันที่เรื่องฉลากโภชนาการ อย ไม่ได้เป็นคนออกนะคะ แต่เป็นคนกำหนดว่าต้องมี
คนที่จะไปดำเนินการจัดหาข้อมูล คือผู้ผลิต ต้องเอาตัวอย่างไปจ้างแลบที่เค้าสามารถวิเคราะห์ข้อมูลตามฉลากโภชนาการได้ ซึ่งต้องเป็นแลบที่ผ่านการรับรองว่าสามารถวิเคราะห์และออกผลฉลากโภชนาการได้ค่ะ
แลบของ อย ก็มี แต่งานล้น แลบเอกชนผ่านการรับรองเยอะแยะ ทำเร็วแต่แพง
การนำตัวอย่างส่งแลบ ก็จะมีข้อกำหนด ว่าต้องมีกี่ตัวอย่าง ต้องมาในรูปไหน ต้องให้ข้อมูลอะไรในแลบบ้าง ทำแล้วไม่ใช่ทีเดียวจบ ต้องมีส่งเป็นระยะ เพื่อดูว่าผลเบี่ยงเบนจากที่เคยทำไว้หรือไม่
ส่วนมาก ผู้ผลิตรายใหญ่ รวมถึงทั้งสามรายที่ว่ามา จะทำการรับรองระบบ GMP HACCPอยู่แล้ว เวลา auditor มาตรวจประเมิน จะต้องถามหาผลวิเคราะห์ฉลากโภชนาการเป็นประจำ ทุกครั้ง ไม่มีให้ดู เจอ CAR แก้ยาวเลย
ทีนี้ มาว่ากันเรื่องการผลิต การมีข้อมูลฉลากโภชนาการ ก้ต้องให้ค่ามันคงที่ ก็ต้องกำหนดสเปค ซึ่งมีพารามิเตอร์ในการควบคุมคุณภาพ
เช่น ไขมัน / Total solid / protien / sodium / calcium / วิตามินต่างๆนาๆ
เมื่อได้วัตถุดิบมา ก็ต้องวิเคราะห์เบื้องต้น อันไหนไม่มี อันไหนขาด ก็เติม อันไหนเกิน ก็เอาออก
ซึ่งจากตารางอันบน ดูแล้วก็ไม่ได้ต่างกันมาก มีอันกลางที่มี วิตามินเอ กับบี เยอะ อันนี้คาดเอาว่าจะเติม เพราะเป็นตัวที่ไม่ได้ซับซ้อนอะไร เติมนิดนึงแล้วเอาผ่านเครื่อง ก็ไม่สลาย
ส่วนอันสุดท้าย พ่อง เอ้ยพร่องมันเนย คอเรสเตอรอลเลยไม่มี แต่โปรตีนสูงกว่าตัวอื่น
ในกระบวนการผลิต ก็จะมี QC คอยตามผลคุณภาพ เริ่มจากวัตถุดิบ เข้ามา มีอะไรแค่ไหน ต้องเติมอะไรเท่าไหร่ ออกมาเป็นผลิตภัณท์ได้ค่าอะไรเท่าไหร่ วิเคราะห์แล้วรายงานผลออกมา
แต่ผลพวกนี้ จะใช้ในการควบคุมคุณภาพและระบวนการผลิต ไม่ได้เอามาแปะเป็นฉลากโภชนาการค่ะ
ปสก แบบอ้อมๆนะคะ ไม่ได้ทำโรงนม แต่เคยเรียน เคยฝึกงาน มีเพื่อนทำ และเคยเป็นคู่ค้า แต่ในอุตสาหกรรมอาหาร หลักการก็คล้ายกันหมดค่ะ
ว่ากันที่เรื่องฉลากโภชนาการ อย ไม่ได้เป็นคนออกนะคะ แต่เป็นคนกำหนดว่าต้องมี
คนที่จะไปดำเนินการจัดหาข้อมูล คือผู้ผลิต ต้องเอาตัวอย่างไปจ้างแลบที่เค้าสามารถวิเคราะห์ข้อมูลตามฉลากโภชนาการได้ ซึ่งต้องเป็นแลบที่ผ่านการรับรองว่าสามารถวิเคราะห์และออกผลฉลากโภชนาการได้ค่ะ
แลบของ อย ก็มี แต่งานล้น แลบเอกชนผ่านการรับรองเยอะแยะ ทำเร็วแต่แพง
การนำตัวอย่างส่งแลบ ก็จะมีข้อกำหนด ว่าต้องมีกี่ตัวอย่าง ต้องมาในรูปไหน ต้องให้ข้อมูลอะไรในแลบบ้าง ทำแล้วไม่ใช่ทีเดียวจบ ต้องมีส่งเป็นระยะ เพื่อดูว่าผลเบี่ยงเบนจากที่เคยทำไว้หรือไม่
ส่วนมาก ผู้ผลิตรายใหญ่ รวมถึงทั้งสามรายที่ว่ามา จะทำการรับรองระบบ GMP HACCPอยู่แล้ว เวลา auditor มาตรวจประเมิน จะต้องถามหาผลวิเคราะห์ฉลากโภชนาการเป็นประจำ ทุกครั้ง ไม่มีให้ดู เจอ CAR แก้ยาวเลย
ทีนี้ มาว่ากันเรื่องการผลิต การมีข้อมูลฉลากโภชนาการ ก้ต้องให้ค่ามันคงที่ ก็ต้องกำหนดสเปค ซึ่งมีพารามิเตอร์ในการควบคุมคุณภาพ
เช่น ไขมัน / Total solid / protien / sodium / calcium / วิตามินต่างๆนาๆ
เมื่อได้วัตถุดิบมา ก็ต้องวิเคราะห์เบื้องต้น อันไหนไม่มี อันไหนขาด ก็เติม อันไหนเกิน ก็เอาออก
ซึ่งจากตารางอันบน ดูแล้วก็ไม่ได้ต่างกันมาก มีอันกลางที่มี วิตามินเอ กับบี เยอะ อันนี้คาดเอาว่าจะเติม เพราะเป็นตัวที่ไม่ได้ซับซ้อนอะไร เติมนิดนึงแล้วเอาผ่านเครื่อง ก็ไม่สลาย
ส่วนอันสุดท้าย พ่อง เอ้ยพร่องมันเนย คอเรสเตอรอลเลยไม่มี แต่โปรตีนสูงกว่าตัวอื่น
ในกระบวนการผลิต ก็จะมี QC คอยตามผลคุณภาพ เริ่มจากวัตถุดิบ เข้ามา มีอะไรแค่ไหน ต้องเติมอะไรเท่าไหร่ ออกมาเป็นผลิตภัณท์ได้ค่าอะไรเท่าไหร่ วิเคราะห์แล้วรายงานผลออกมา
แต่ผลพวกนี้ จะใช้ในการควบคุมคุณภาพและระบวนการผลิต ไม่ได้เอามาแปะเป็นฉลากโภชนาการค่ะ
ปสก แบบอ้อมๆนะคะ ไม่ได้ทำโรงนม แต่เคยเรียน เคยฝึกงาน มีเพื่อนทำ และเคยเป็นคู่ค้า แต่ในอุตสาหกรรมอาหาร หลักการก็คล้ายกันหมดค่ะ
แสดงความคิดเห็น
นม UHT ที่ผลิตจากนมวัวสดแท้ 100% ฉลากโภชนาการข้างกล่อง เชื่อถือได้แค่ไหน
ว่าด้วยนมกล่อง UHT ยี่ห้อหาซื้อง่ายตามท้องตลอด ข้อมูลโภชนาการที่ระบุไว้ข้างกล่อง มันเชื่อถือได้แค่ไหนครับ
จากทีผมดูมา 3 ยี่ห้อ โดยทั้ง 3 ยี่ห้อนี้ เป็นนมที่ผลิตจาก นมโคสดแท้ 100%
จากข้อมูลโภชนาการ ของทั้ง 3 ยี่ห้อ ในปริมาณ 1 กล่อง (250 มล.) จะเป็นได้ว่า ยี่ห้อ B ให้คุณค่าสารอาหารเยอะกว่าเพิ่อน
ผมเลยสงสัยว่า ในเมื่อนมทั้ง 3 ผลิตจาก นมโคสดแท้ 100% ทำไมนมยี่ห้อ B ถึงโดดเด่นกว่า ยี่ห้อ A และ C
จะเป็นเพราะคุณภาพน้ำนมจากสายพันธ์ของวัวเอง หรือกระบวนการผลิต หรือมีการใส่วิตามินเพิ่มลงไป ครับ