เกษมณี หากรับประทานผลจะทำให้อาเจียน ท้องร่วง เป็นอัมพาต อาจตายได้
ชวนชม น้ำยางจากทุกส่วนมีรสขมมาก หากกินเข้าไปจะทำให้เกิดอาการหัวใจเต้นแรงและเร็วอาจทำให้ หัวใจวายตายได้
ดองดึง ในเหง้าและเมล็ดพบว่ามีแอลคาลอยด์ colchicineจัดเป็นสารที่มีพิษสูงการใช้ต้องอยู่ในความควบคุมของแพทย์ ไม่ควรใช้เหง้าต้มหรือปรุงวิธีอื่นกิน อาจเป็นพิษถึงตายได้ เพราะขนาดรักษาใช้ปริมาณน้อยมาก และใกล้เคียงขนาดที่ทำให้เป็นพิษ อาการพิษคือ เจ็บปวดตัวเหมือนถูกเข็มทิ่ม ปากและผิวหนังชา คลื่นไส้รุนแรง ตามด้วยท้องเสียมีเลือดปน ชักไม่รู้สึกตัว ตัวเย็น อาจตายได้ภายใน3-20ชั่วโมง
ตีนเป็ดทราย มีพิษทุกส่วน ถ้ากินใช้พอเหมาะจะเป็นยาสมุนไพร ถ้ากินมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งผล จะทำให้ท้องร่วง อาเจียน ทำให้แท้งลูกและตายได้
ตีนเป็ดทะเล เปลือกผลให้ทำท้องเดิน เนื้อผลทำให้ท้องเดินและอาเจียน อาจถึงตายได้ ต้นและใบทำให้ท้องเดินและอาเจียน
เทียนหยด ใบ ผลและเมล็ด กินเข้าไป ทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสียหากกินในปริมาณมากอาจทำให้เสียชีวิต
น้อยหน่า ความเป็นพิษอยู่ที่เมล็ด ใบ และผลดิบ ใช้เป็นยาฆ่าแมลง เหาและเบื่อปลา ที่รากมีกรดไฮโดรไซยานิก (Hydrocyanic) เมื่อรับประทานจะทำ ให้ท้องร่วงอย่างรุนแรง ทำลายระบบหัวใจ ที่เปลือกมีแอลคาลอยด์อะโนเนอิน (Anonaine) รับประทานจำนวนมากอาจถึงตายได้
บานบุรี น้ำยางจากทุกส่วน หากสัมผัสทำให้เกิดผื่นคัน หากกินจะท้องร่วงอย่างแรง และถึงตายได้ เนื่องจากสูญเสียน้ำ
ผกากรอง ขนตามส่วนต่างๆ ของต้น ใบ ดอก ผลแก่แต่ยังไม่สุก หากกินจะเป็นพิษ โดยเฉพาะเด็กทำให้ท้องเดิน อาเจียน หายใจลึกแต่ช้า ม่านตาขยาย ตัวเขียวหมดสติและอาจเสียชีวิต ผู้ใหญ่ หากกินเข้าไป ผิวหนังจะไวต่อแสง ผิวหนังมีรอยฟกช้ำดำเขียว
มะกล่ำตาหนู พิษที่พบในเมล็ด เรียกว่า อะบริน (Abrin) เป็นสารที่มีพิษร้ายแรงมากๆ หากนำมาเคี้ยวเล่นด้วยความสนุก และกลืนเข้าไป สารพิษอะบรินจะออกฤทธิ์ภายในเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง คือสารนี้จะไปทำลายเม็ดเลือดแดง ระบบทางเดินอาหาร ทำให้อาเจียน ปวดท้องอย่างแรง ทำให้กระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ ในกรณีที่กินเข้าไปมาก จะอาเจียนเป็นเลือด อุจจาระมีมูกเลือด ภายใน 2 – 3 วัน จะมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนเพลียไม่มีแรง หัวใจสั่น มือสั่น ตับวาย ไตวาย และในที่สุดก็ถึงแก่ความตายได้ ถ้ารักษาไม่ทันท่วงที
ยางน่องเถา ส่วนที่เป็นพิษคือน้ำยางจากเปลือก มีฤทธิ์กระตุ้นหัวใจ ทำให้สลบและถึงตายได้ ชาวบ้านมักนำมาใช้ทาอาบที่หัวลูกศร หน้าไม้ ยิงสัตว์
ยี่โถ น้ำยางจากทุกส่วนของลำต้น ราก เปลือก เมล็ด หากสัมผัสทำให้เกิดผื่นคัน หากกินอาจถึงตายได้เพราะสารพิษที่พบมีฤทธิ์ต่อระบบหัวใจและทางเดินโลหิต ทำให้ทางเดินอาหารอักเสบ ท้องเสีย ปวดท้อง เหงื่อออก ชีพจรเต้นเร็ว ไม่สมำเสมอ ความดันลด ถ่ายเป็นเลือด ชัก กิ่งยี่โถห้ามนำไปเผาเพราะควันจากการเผาก็จะทำให้เกิดอาการพิษได้
แย้มปีนัง ส่วนที่เป็นพิษคือเมล็ดและยางจากเปลือก หลังจากเคี้ยวหรือกลืนส่วนมีพิษของบานทนเข้าไป จะอาเจียน ท้องเสีย ปวดศีรษะ มองเห็นไม่ชัด มึนงง ชีพจรเต้นช้าหรือไม่สม่ำเสมอ ความดันโลหิตลด และตาย ชาวพื้นเมืองในแอฟริกาใช้หัวลูกศรจุ่มยางนี้แล้วยิงสัตว์หรือคน
ราตรี พิษอยู่ที่ลำต้น กิ่ง ก้าน ใบ ผล มีสารพิษที่เรียกว่า โซลานีน (Solanine) และอะโทรพีน (Atropine) เมื่อได้รับสารพิษนี้เข้าสู่ร่างกาย จะทำให้ปาก คอแห้ง ม่านตาขยาย หัวใจเต้นเร็ว ระดับการหายใจจะช้าลงๆ ปัสสาวะไม่ออก และเสียชีวิตได้ถ้าได้รับการรักษาไม่ทันท่วงที
รำเพย น้ำยางถูกผิวหนัง จะมีอาการแพ้เป็นผื่นคัน แดง แสบ ถ้าเคี้ยวเมล็ดจะรู้สึกชาที่ลิ้นและปาก มีอาการปวดแสบปวดร้อน คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ อาจท้องเสีย ง่วงนอน ม่านตาขยาย ความดันลดลง หัวใจเต้นผิดปกติ ชีพจรเต้นช้าลง ถ้ามีอาการมากและรักษาไม่ทันท่วงทีอาจตายได้ (เด็กรับประทาน 1-3 เมล็ด ผู้ใหญ่รับประทาน 8-12 เมล็ด อาจตายได้)
สบู่ดำ หากรับประทานเมล็ดเข้าไปประมาณ 30-60 นาที จะเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเป็นเลือด บางรายอาการรุนแรง มือเท้าเกร็ง หายใจเร็ว หอบ ความดันโลหิตต่ำ หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ อาจเสียชีวิตได้
แสลงใจ ส่วนของเมล็ด ดอก ถ้ารับประทานเข้าไปทำให้กล้ามเนื้อกระตุก เกร็ง กลืนลำบาก ขาสั่น ชักอย่างแรง หัวใจเต้นแรง ขากรรไกรแข็งและตายได้ ในกรณีไม่ตายพบว่ามีไข้ ตัวชา กล้ามเนื้อเกร็ง หัวใจเต้นเร็ว และเหงื่อออกมากติดต่อกันหลายวัน ขนาดรับประทาน 60-90 มิลลิกรัม ทำให้ตายได้
ไฮเดรนเยีย ทุกส่วนเป็นพิษ สารที่เป็นพิษได้แก่ cyanide มีฤทธิ์ต่อระบบหายใจและทางเดินโลหิต อาการที่เป็นพิษหากรับประทานพืชนี้สดๆ จะทำให้คลื่นไส้อาเจียน หายใจขัด ชักกระตุก กล้ามเนื้อไม่มีแรง หายใจลำบาก อาจหมดสติ โคม่า ขั้นรุนแรงอาจถึงตาย
พืชแห่งความตาย
ชวนชม น้ำยางจากทุกส่วนมีรสขมมาก หากกินเข้าไปจะทำให้เกิดอาการหัวใจเต้นแรงและเร็วอาจทำให้ หัวใจวายตายได้
ดองดึง ในเหง้าและเมล็ดพบว่ามีแอลคาลอยด์ colchicineจัดเป็นสารที่มีพิษสูงการใช้ต้องอยู่ในความควบคุมของแพทย์ ไม่ควรใช้เหง้าต้มหรือปรุงวิธีอื่นกิน อาจเป็นพิษถึงตายได้ เพราะขนาดรักษาใช้ปริมาณน้อยมาก และใกล้เคียงขนาดที่ทำให้เป็นพิษ อาการพิษคือ เจ็บปวดตัวเหมือนถูกเข็มทิ่ม ปากและผิวหนังชา คลื่นไส้รุนแรง ตามด้วยท้องเสียมีเลือดปน ชักไม่รู้สึกตัว ตัวเย็น อาจตายได้ภายใน3-20ชั่วโมง
ตีนเป็ดทราย มีพิษทุกส่วน ถ้ากินใช้พอเหมาะจะเป็นยาสมุนไพร ถ้ากินมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งผล จะทำให้ท้องร่วง อาเจียน ทำให้แท้งลูกและตายได้
ตีนเป็ดทะเล เปลือกผลให้ทำท้องเดิน เนื้อผลทำให้ท้องเดินและอาเจียน อาจถึงตายได้ ต้นและใบทำให้ท้องเดินและอาเจียน
เทียนหยด ใบ ผลและเมล็ด กินเข้าไป ทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสียหากกินในปริมาณมากอาจทำให้เสียชีวิต
น้อยหน่า ความเป็นพิษอยู่ที่เมล็ด ใบ และผลดิบ ใช้เป็นยาฆ่าแมลง เหาและเบื่อปลา ที่รากมีกรดไฮโดรไซยานิก (Hydrocyanic) เมื่อรับประทานจะทำ ให้ท้องร่วงอย่างรุนแรง ทำลายระบบหัวใจ ที่เปลือกมีแอลคาลอยด์อะโนเนอิน (Anonaine) รับประทานจำนวนมากอาจถึงตายได้
บานบุรี น้ำยางจากทุกส่วน หากสัมผัสทำให้เกิดผื่นคัน หากกินจะท้องร่วงอย่างแรง และถึงตายได้ เนื่องจากสูญเสียน้ำ
ผกากรอง ขนตามส่วนต่างๆ ของต้น ใบ ดอก ผลแก่แต่ยังไม่สุก หากกินจะเป็นพิษ โดยเฉพาะเด็กทำให้ท้องเดิน อาเจียน หายใจลึกแต่ช้า ม่านตาขยาย ตัวเขียวหมดสติและอาจเสียชีวิต ผู้ใหญ่ หากกินเข้าไป ผิวหนังจะไวต่อแสง ผิวหนังมีรอยฟกช้ำดำเขียว
มะกล่ำตาหนู พิษที่พบในเมล็ด เรียกว่า อะบริน (Abrin) เป็นสารที่มีพิษร้ายแรงมากๆ หากนำมาเคี้ยวเล่นด้วยความสนุก และกลืนเข้าไป สารพิษอะบรินจะออกฤทธิ์ภายในเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง คือสารนี้จะไปทำลายเม็ดเลือดแดง ระบบทางเดินอาหาร ทำให้อาเจียน ปวดท้องอย่างแรง ทำให้กระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ ในกรณีที่กินเข้าไปมาก จะอาเจียนเป็นเลือด อุจจาระมีมูกเลือด ภายใน 2 – 3 วัน จะมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนเพลียไม่มีแรง หัวใจสั่น มือสั่น ตับวาย ไตวาย และในที่สุดก็ถึงแก่ความตายได้ ถ้ารักษาไม่ทันท่วงที
ยางน่องเถา ส่วนที่เป็นพิษคือน้ำยางจากเปลือก มีฤทธิ์กระตุ้นหัวใจ ทำให้สลบและถึงตายได้ ชาวบ้านมักนำมาใช้ทาอาบที่หัวลูกศร หน้าไม้ ยิงสัตว์
ยี่โถ น้ำยางจากทุกส่วนของลำต้น ราก เปลือก เมล็ด หากสัมผัสทำให้เกิดผื่นคัน หากกินอาจถึงตายได้เพราะสารพิษที่พบมีฤทธิ์ต่อระบบหัวใจและทางเดินโลหิต ทำให้ทางเดินอาหารอักเสบ ท้องเสีย ปวดท้อง เหงื่อออก ชีพจรเต้นเร็ว ไม่สมำเสมอ ความดันลด ถ่ายเป็นเลือด ชัก กิ่งยี่โถห้ามนำไปเผาเพราะควันจากการเผาก็จะทำให้เกิดอาการพิษได้
แย้มปีนัง ส่วนที่เป็นพิษคือเมล็ดและยางจากเปลือก หลังจากเคี้ยวหรือกลืนส่วนมีพิษของบานทนเข้าไป จะอาเจียน ท้องเสีย ปวดศีรษะ มองเห็นไม่ชัด มึนงง ชีพจรเต้นช้าหรือไม่สม่ำเสมอ ความดันโลหิตลด และตาย ชาวพื้นเมืองในแอฟริกาใช้หัวลูกศรจุ่มยางนี้แล้วยิงสัตว์หรือคน
ราตรี พิษอยู่ที่ลำต้น กิ่ง ก้าน ใบ ผล มีสารพิษที่เรียกว่า โซลานีน (Solanine) และอะโทรพีน (Atropine) เมื่อได้รับสารพิษนี้เข้าสู่ร่างกาย จะทำให้ปาก คอแห้ง ม่านตาขยาย หัวใจเต้นเร็ว ระดับการหายใจจะช้าลงๆ ปัสสาวะไม่ออก และเสียชีวิตได้ถ้าได้รับการรักษาไม่ทันท่วงที
รำเพย น้ำยางถูกผิวหนัง จะมีอาการแพ้เป็นผื่นคัน แดง แสบ ถ้าเคี้ยวเมล็ดจะรู้สึกชาที่ลิ้นและปาก มีอาการปวดแสบปวดร้อน คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ อาจท้องเสีย ง่วงนอน ม่านตาขยาย ความดันลดลง หัวใจเต้นผิดปกติ ชีพจรเต้นช้าลง ถ้ามีอาการมากและรักษาไม่ทันท่วงทีอาจตายได้ (เด็กรับประทาน 1-3 เมล็ด ผู้ใหญ่รับประทาน 8-12 เมล็ด อาจตายได้)
สบู่ดำ หากรับประทานเมล็ดเข้าไปประมาณ 30-60 นาที จะเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเป็นเลือด บางรายอาการรุนแรง มือเท้าเกร็ง หายใจเร็ว หอบ ความดันโลหิตต่ำ หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ อาจเสียชีวิตได้
แสลงใจ ส่วนของเมล็ด ดอก ถ้ารับประทานเข้าไปทำให้กล้ามเนื้อกระตุก เกร็ง กลืนลำบาก ขาสั่น ชักอย่างแรง หัวใจเต้นแรง ขากรรไกรแข็งและตายได้ ในกรณีไม่ตายพบว่ามีไข้ ตัวชา กล้ามเนื้อเกร็ง หัวใจเต้นเร็ว และเหงื่อออกมากติดต่อกันหลายวัน ขนาดรับประทาน 60-90 มิลลิกรัม ทำให้ตายได้
ไฮเดรนเยีย ทุกส่วนเป็นพิษ สารที่เป็นพิษได้แก่ cyanide มีฤทธิ์ต่อระบบหายใจและทางเดินโลหิต อาการที่เป็นพิษหากรับประทานพืชนี้สดๆ จะทำให้คลื่นไส้อาเจียน หายใจขัด ชักกระตุก กล้ามเนื้อไม่มีแรง หายใจลำบาก อาจหมดสติ โคม่า ขั้นรุนแรงอาจถึงตาย