นางผีเสื้อเหลือแค้นแสนสาหัส แต่ฉวยพลัดแพลงคลื่นลื่นไถล
อุตลุดผุดดำปล้ำกันไป เหมือนเล่นไล่ตามละเมาะทุกเกาะเกียน
ถึงเขาใหญ่ในน้ำชะเงื้อม พระหลบเลื่อมเลี้ยวลัดฉวัดเฉวียน
เข้าหาดทรายชายตื้นขึ้นบนเตียน เที่ยววิ่งเวียนวนรอบขอบคิรี
เห็นมารดาล่าลับแล้วยับยั้ง แกล้งถอยหลังลงน้ำแล้วดำหนี
ไม่พ่นผุดรุดไปในนที ตั้งภักดีตามติดพระบิดร
ฝ่ายผีเสื้อเมื่อลูกลอบลงน้ำ พอจวนค่ำคิดว่าวิ่งขึ้นสิงขร
ด้วยใจนางคิดว่าพาบิดร มาซุ่มซ่อนอยู่ที่นี่จึงหนีมา
เที่ยวแลรอบขอบเขาเงาชะงุ้ม ยิ่งมืดคลุ้มก็ยิ่งคลั่งตั้งแต่หา
เสียงคลื่นโครมโถมตะครุบก้อนศิลา จนหน้าตาแตกยับลงสับเงา
แล้วลุกขึ้นยืนชะโงกโยกสิงขร จนโคลงคลอนเคลื่อนดังทั้งภูเขา
ยิ่งมืดค่ำสำเหนียกร้องเรียกเดา ไม่พ้นเราเร่งมาหาโดยดี
เห็นไม่ขานมารร้ายทลายซ้ำ เขาย่อยยับดังสับสี
ไม่พบเห็นเป็นเพลาเข้าราตรี อสุรีเหลือแค้นแน่อุรา
ช่าง
หัวกระดูกลูก
ลวงให้แม่หลงกลเที่ยวค้นหา
เออกระนั้นมันจึงทบตลบมา ให้บิดาเลยไปเสียไกลแล้ว
ดำริพลางนางมารอ่านพระเวท ให้สองเนตรโชติช่วงดังดวงแก้ว
แลเขม้นเห็นไปไวแววแวว อยู่โน่นแล้วลุยตามโครมครามไป
หน่อนรินทร์สินสมุทรไม่หยุดยั้ง รีบมาทั้งคืนค่ำในน้ำไหล
จนแจ่มแจ้งสุริโยอโณทัย เห็นเงือกใหญ่ยายตายังล้านัก
จึงว่ารีบถีบถอนไปก่อนท่าน โน่นนางมารหนุนไล่มาใกล้หนัก
แล้วว่ายรอคลอไปพอได้พัก พอนางยักษ์ทันโถมกระโจมมา
พระลูกหลบพบเงือกจะ
หนี เหยียบขยี้สองแขนแน่นหนักหนา
ตะคอกถามตามโมโหที่โกรธา ไยพาผัวพรากมาจากกู
เดี๋ยวนี้องค์พระอภัยอยู่ไหนเล่า ไม่บอกเราหรือกระไรทำไขหู
จะควักเอานัยนาออกมาดู ตะคอกขู่คุกถามคำรามรน
ทั้งสองเงือก
กายหมายไม่รอด ถึงม้วยมอดมิให้แจ้งแห่งนุสนธิ์
จึงกล่าวแกล้งแสร้งเสด้วยเล่ห์กล เธออยู่บนเขาขวางริมทางมา
ข้าจะพาไปจับจงกลับหลัง ให้ได้ดังมุ่งมาดปรารถนา
ไม่เหมือนคำรำพันที่สัญญา จงเข่นฆ่าให้เราม้วยไปด้วยกัน
อสุรีผีเสื้อก็เชื่อถือ ยุดเอามือขวาซ้ายให้ผายผัน
เงือกก็พามาถึงได้ครึ่งวัน แกล้งรำพันพูดล่อให้ต่อไป
ช่วยแปลกลอนให้หน่อยนะคร้าาบบบบ
อุตลุดผุดดำปล้ำกันไป เหมือนเล่นไล่ตามละเมาะทุกเกาะเกียน
ถึงเขาใหญ่ในน้ำชะเงื้อม พระหลบเลื่อมเลี้ยวลัดฉวัดเฉวียน
เข้าหาดทรายชายตื้นขึ้นบนเตียน เที่ยววิ่งเวียนวนรอบขอบคิรี
เห็นมารดาล่าลับแล้วยับยั้ง แกล้งถอยหลังลงน้ำแล้วดำหนี
ไม่พ่นผุดรุดไปในนที ตั้งภักดีตามติดพระบิดร
ฝ่ายผีเสื้อเมื่อลูกลอบลงน้ำ พอจวนค่ำคิดว่าวิ่งขึ้นสิงขร
ด้วยใจนางคิดว่าพาบิดร มาซุ่มซ่อนอยู่ที่นี่จึงหนีมา
เที่ยวแลรอบขอบเขาเงาชะงุ้ม ยิ่งมืดคลุ้มก็ยิ่งคลั่งตั้งแต่หา
เสียงคลื่นโครมโถมตะครุบก้อนศิลา จนหน้าตาแตกยับลงสับเงา
แล้วลุกขึ้นยืนชะโงกโยกสิงขร จนโคลงคลอนเคลื่อนดังทั้งภูเขา
ยิ่งมืดค่ำสำเหนียกร้องเรียกเดา ไม่พ้นเราเร่งมาหาโดยดี
เห็นไม่ขานมารร้ายทลายซ้ำ เขาย่อยยับดังสับสี
ไม่พบเห็นเป็นเพลาเข้าราตรี อสุรีเหลือแค้นแน่อุรา
ช่างหัวกระดูกลูก ลวงให้แม่หลงกลเที่ยวค้นหา
เออกระนั้นมันจึงทบตลบมา ให้บิดาเลยไปเสียไกลแล้ว
ดำริพลางนางมารอ่านพระเวท ให้สองเนตรโชติช่วงดังดวงแก้ว
แลเขม้นเห็นไปไวแววแวว อยู่โน่นแล้วลุยตามโครมครามไป
หน่อนรินทร์สินสมุทรไม่หยุดยั้ง รีบมาทั้งคืนค่ำในน้ำไหล
จนแจ่มแจ้งสุริโยอโณทัย เห็นเงือกใหญ่ยายตายังล้านัก
จึงว่ารีบถีบถอนไปก่อนท่าน โน่นนางมารหนุนไล่มาใกล้หนัก
แล้วว่ายรอคลอไปพอได้พัก พอนางยักษ์ทันโถมกระโจมมา
พระลูกหลบพบเงือกจะหนี เหยียบขยี้สองแขนแน่นหนักหนา
ตะคอกถามตามโมโหที่โกรธา ไยพาผัวพรากมาจากกู
เดี๋ยวนี้องค์พระอภัยอยู่ไหนเล่า ไม่บอกเราหรือกระไรทำไขหู
จะควักเอานัยนาออกมาดู ตะคอกขู่คุกถามคำรามรน
ทั้งสองเงือกกายหมายไม่รอด ถึงม้วยมอดมิให้แจ้งแห่งนุสนธิ์
จึงกล่าวแกล้งแสร้งเสด้วยเล่ห์กล เธออยู่บนเขาขวางริมทางมา
ข้าจะพาไปจับจงกลับหลัง ให้ได้ดังมุ่งมาดปรารถนา
ไม่เหมือนคำรำพันที่สัญญา จงเข่นฆ่าให้เราม้วยไปด้วยกัน
อสุรีผีเสื้อก็เชื่อถือ ยุดเอามือขวาซ้ายให้ผายผัน
เงือกก็พามาถึงได้ครึ่งวัน แกล้งรำพันพูดล่อให้ต่อไป