เรากับเพื่อนเริ่มเดินทางเมื่อเดือนที่แล้ว 20-25 พ.ค ก่อนจะไปก็ต้องไถ่ถามเพื่อนแต่ละคนว่า
-เฮ้ยเคยไปปะว้า เป็นไงว้า น่ากลัวมั้ยว้า โดนปล้นมั้ยว้า บลาๆๆๆ
บอกเลยว่าคำตอบนี่ไม่น่าฟังสักอัน
-เออตอนกรุไปก็โดนปล้นอะน้า
-กรุโดนล้วงกระเป๋าวะ
-คนดำแม่นน่ากลัวนะเว้ย
-ไปสองคนไหวหรอวะ
บอกเลยว่าถ้าไม่เจอกับต้วเอง เราก็ไม่รู้หรอกค่ะ ที่ไหนบนโลกนี่ก็ไม่ปลอดภัยทั้งนั้นแหละ
ไม่ต้องไปว่าประเทศไหนหรอก ประเทศเราเองก็ไม่ปลอดภัยหากเราไม่ระวัง
เจ๊ต๊อก กับเจ้ภู่ นามแฝงซึ่งเป็นชื่อแม่ของเราทั้งคู่ ได้ออกเดินทางวันที่ 20 ตอนบ่ายๆ
ไปที่ St Pancras station ครั้งแรกของชีวิตที่อังกฤษ เพื่อท่จะขึ้น Eurostar train รถไฟ
ความเร็วสูง ใช้เวลาเพียง 1 ชม ไปปารีส ลองผิดลองถูกเราก็ได้ตั๋วมาจากเครื่อง
มั่วๆเอายังไปรอด รูปข้างบนคือรอประตูเปิดเพื่อที่จะขึ้นรถไฟ มีคุณลุงมาให้เผ้าของให้ด้วย
คือ...ลุงคะ ดิฉันอยากไปซื้อหนมค่ะ !! ไม่กินก็ได้วะ เลยเฝ้าเป๋าให้ลุง
บอกเลยว่าความดีสำแดงผลเร็วมาก กระเป๋าเราและเพื่อนหนักถึง20 โล
ไม่รู้แบกอะไรไป แต่ที่แน่ๆคือยกไม่ขึ้นรถไฟ คุณลุงที่เราช่วยเฝ้ากระเ)่าให้ก็มาช่วยยก
ทำดีได้ดีค่ะงานนี้
นั่งไปถึงก็ประมานห้าโมงเย็น เราก็มาต่อแถวรอแทกซี่กัน
แทกซี่มองเราสองคนอย่างกับจะกินเรา เริ่มกลัวนิดๆ กล้อง 1 มือถือ 2 จะหายมั้ยนะ....
แต่ก็ไม่เกิดอะไรขึ้น เราขึ้นไปแทกซี่เพื่อที่จะนั่งไปยังโรงแรมที่จองผ่านเว็ปอะไรสักอย่าง
Kleber hotel อยู่แถวย่านช้อปปิ้ง Champ Elysee ขอบอกเลยว่าโรงแรมเริ่ดมาก
แทกซี่แทบจะไม่พูดภาษาอังกฤษ เราต้องใบ้เอากับเค้าว่าไปยังไง
บริการดีมาก คุยไปคุยมาเหมือนโดนจีบ เขาก็เลยอัพเกรดห้องเราให้ไปชั้นสูงสุดและดีสุด
อาหารเช้าฟรี พูดมาทำไมยะมันฟรีอยู่แล้ว คนต้อนรับแม่นโครดขี้โม้เลย แต่อัพเกรดห้องนี่ของจริง
เริ่มขี้เกียจเขียน...
วันนั้นก็ไปกินข้าวบนหอไอเฟล คนมองเราเหมือนเป็นตัวประหลาด ....ทำไมอะ เอเชียน? ส้นสูง? สวย?
มองทำไมอยากจะเข้าไปถาม แต่คนก็ไม่พูดอังกฤษอีกเจริญเหอะ
สักพักก็มีคนเดินเข้ามา ไม่รู้ว่าจีบหรือขอตัง555555555
ถึงเวลาทานข้าวก็ไปรับตั๋ว ตรวจกระเป๋าด้วยนะ ขอบอกว่าถ้าไปต้องไปกินเพราะคนตรวจกระเป๋านางหล่ออออมาก
เขาแอบส่งยิ้มให้ ใจจะแตก ถ้าพูดอังกฤษได้นี่ชั้นจีบแกไปละ
ทานเสร็จก็มถ่ายรุปกับหอไอเฟลกัน
้หากคุณมองดีดีจะเห็นรังสีอัมหิตอยู่ข้างหลัง
คือพี่ดำน่ากลัวจริงแต่เขาก็แค่เข้ามาขายของทำมาหากิน เราก็ไม่เข้าใจว่าคนจะกลัวกันทำไม
เพื่อนเราที่ไปด้วยมันก็เกาะเราแน่น บอกกลัวเขามาทำร้าย เราก็บอกไปว่ามิงไม่ได้ไปครี่บนบ้านเขา อย่าปยอใจกล้าๆหน่อย
ทริปนี้เราเหมือนไปเป็นพ่อมันเลยค่ะ หบังจากถ่านรุปเสร็จเราก็กลับถึงรรห้าทุ่มเพราะแทกซี่พาไปหลง
ปวดดดดตับบบบส
วันที่สอง
วันนี้แพลนคือไปดีสนีล์แลนด์กันทั้งวัน
ก่อนไปเราก็ได้เดินทางตามล่าหาร้านสเต็กที่เราโปรดปรานมาจากที่อังกฤษ L' entrocote
ไครไปแนะนำเลยว่าต้องไปอย่างแรงงงงงง อร่อยเริศ
เสร็จก็มั่วๆเดินลงไปใต้ดินได้ไงก็ไม่รู้แล้วก็ไปเจอรถไฟ มุ่งหน้าไปยังดิสนี่แลน
ไปถึงเราก็ลงจอดถูกสถานที่ บอกเลยค่ะว่าไปไม่ยาก
เราไปแบบโง่ๆ เบลอๆยังจะไปถึงได้ ไม่ต้องพูดถึงเพื่อนเราอีกคน เพราะมันพึ่งเราอย่างเดียว
ไปถึงก็ผิดหวังม้ากกกกกกมาก เพราะเจอของญี่ปุ่นมาแล้ว ดีกว่าล้านเท่าา
ยิ่งเพื่อนเราไปของอเมกามา ดีกว่าของณี่ปุ่นเสียอีก ผิดหวังค่ะ ไม่น่าไป น่าจะเอาเวลาไปตระเวนกิน
แต่ก็ถ่ายรูปมาแทบทุกเม็ดเลยนะ ผมแดงๆตัวดำๆเป็นเจ้าหญิงได้มั้ยนะ.....กลับปราสาทดีกว่า5555555
ไปถึงฝนก็ตก ร้านอาหารก็ต้องจองก่อนไป อะไรวะะะ ไครจะไปรู้ เราก็เลยงอนไม่กินที่ดิสนีละ กลับไปกินใกล้ๆ
รร ดีกว่า โป้ง!
วันที่สาม
วันนี้แพลนคือจะไปพิพิธภัณฑ์ Louvre ที่คนชอบไปถ่ายรูปกัน
แต่แล้ว ฝนก็ตกอีกเช่นเคย ก็เลยไปกินข้าวที่ Kong กัน เพื่อนเรามันอยากไปตามเซเลป
เลยอะ ไปก็ไป เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นฟิวชั่น ร้านสวยเริสใช้ได้ ไปตอนกลางวันไม่ต้องจองค่ะ
ระหว่างทางก็หาไรกิน...นิดหน่อย...มาเป็นถุงเลย 55555555
รถที่ผ่านไปผ่านมาก็ทองเราแล้วบางคนก็โบกให้ บอกเลยนะว่าชั้นโบกกลับให้แค่คนหล่อ XD กรี้สส ยังจะเลือก
เครพอไปถึงที่ร้านอาหารก็ ก็ถ่ายรูปค่ะ จัดหนัก Starter - Avocado crab อร่อยยยมากกกก แชร์กัน
ส่วน Main เราสั่ง Pork chop น้องหมู ส่วนเจ้ต๊อกสั่ง Lobster Udon
นางกินไม่เคยหมดสักอย่าง แค่อันนี้เราอนุโลมให้เพราะมัน มันมาก ไม่ไหวเหมือนกัน ขอเราอร่อยเหาะกินเรียบ
หลังจากหนังท้องตึงเราก็เดินทางกลับไปพิพิธภัณฑ์เพราะฝนไม่ตกละ เพื่อที่จะถ่ายรุปแล้วระบุว่า กิมาแล้วนะ
ระหว่างทางนั้นเราก็ถ่ายๆๆๆๆๆๆๆๆคนมองกันใหญ่ นึกว่าเป็นดารามั้ง5555555.....หน้าเงี้ยเนี่ยนะ ขอบคุณนะคะที่ให้ความหวัง
ไปต่อ ระหว่างทางก็มีหลายๆสิ่งอย่างให้เราได้ถ่าย เพราะไม่ว่าตรงไหนมันก็สวยไปหมด
รูปมีอีกเยอะแต่ว่าภ้าเอาลงเยอะกว่านี้จะเกลื่อนมาก 5555555
ถึงพิพิธภัณฑ์สักที สวยเริ่ดเหมือนที่ร่ำลือ เสียดายไม่ได้เข้าไปเพระาทัวร์ลง คนเยอะ แพง และ ขี้เกียจ
เราสองสาวสวยจึงเดินมุ่งหน้าต่อไป ปารีสเป็นเมืองเล็กๆที่ดีมากเพราะสถานที่ท่องเที่ยวนั้นอยู่ใกล้เพียงแค่เดิน
หากคุณไม่ขี้เกียดเดินก็สามารถไปที่ๆอยากไปได้อีกเยอะ
เดินไปเรื่อยๆเราก็ไปเจอสวยทิวลิป และก็ได้ถ่ายภาพกับรูปปั้นนี้มา ขอบอกว่าหลังจากถ่ายมี
ฝรั่งมาจีบ 5 คน บอกเลยว่า ถ้าเป็นกิ กิจะไม่จีบตัวเองค่ะ อุบาททท
เราก็ถ่ายรุปกันสักพักจนเริ่มหมดเเรงเก๊ก จึงเดินทางไปหาอะไรกินแถวๆนั้น
ทานเสร็จก็กลับโรงแรมค่า
จะมีคนอ่านรอดมาถึงตรนี้มั้ยนะ ถ้ามจะเขียนต่อนะคะตอนนี้ขี้เกียจเบาๆ
ขอโทษที่มีแต่รูปจขกทนะคะ เพราะเราสองคนแลกมือถือกันถ่าย เราจึงมีแต่รูปตัวเอง
ส่วนตัวจะไม่ค่อยถ่ายพวกวิวหรืออาหาร เพราะคิดว่าหาในกูเกิ้ลน่าจะสวยกว่า
เราชอบถ่ายแบบที่มีคนรู้จักอยู่ในภาพค่ะ น่าจะเก็บเป็นความทรงจำได้มากกว่าคหสตนะคะ
ถ้าไม่ชอบขี้หน้าเราก็บอกได้นะจะได้ไม่ลง จะได้เล่าอย่างเดียว 55555555 ชิวๆค่ะ
ฟิ้วว~~~
http://ppantip.com/topic/32209430 ตอนสองค่า
6 Days in Paris
-เฮ้ยเคยไปปะว้า เป็นไงว้า น่ากลัวมั้ยว้า โดนปล้นมั้ยว้า บลาๆๆๆ
บอกเลยว่าคำตอบนี่ไม่น่าฟังสักอัน
-เออตอนกรุไปก็โดนปล้นอะน้า
-กรุโดนล้วงกระเป๋าวะ
-คนดำแม่นน่ากลัวนะเว้ย
-ไปสองคนไหวหรอวะ
บอกเลยว่าถ้าไม่เจอกับต้วเอง เราก็ไม่รู้หรอกค่ะ ที่ไหนบนโลกนี่ก็ไม่ปลอดภัยทั้งนั้นแหละ
ไม่ต้องไปว่าประเทศไหนหรอก ประเทศเราเองก็ไม่ปลอดภัยหากเราไม่ระวัง
เจ๊ต๊อก กับเจ้ภู่ นามแฝงซึ่งเป็นชื่อแม่ของเราทั้งคู่ ได้ออกเดินทางวันที่ 20 ตอนบ่ายๆ
ไปที่ St Pancras station ครั้งแรกของชีวิตที่อังกฤษ เพื่อท่จะขึ้น Eurostar train รถไฟ
ความเร็วสูง ใช้เวลาเพียง 1 ชม ไปปารีส ลองผิดลองถูกเราก็ได้ตั๋วมาจากเครื่อง
มั่วๆเอายังไปรอด รูปข้างบนคือรอประตูเปิดเพื่อที่จะขึ้นรถไฟ มีคุณลุงมาให้เผ้าของให้ด้วย
คือ...ลุงคะ ดิฉันอยากไปซื้อหนมค่ะ !! ไม่กินก็ได้วะ เลยเฝ้าเป๋าให้ลุง
บอกเลยว่าความดีสำแดงผลเร็วมาก กระเป๋าเราและเพื่อนหนักถึง20 โล
ไม่รู้แบกอะไรไป แต่ที่แน่ๆคือยกไม่ขึ้นรถไฟ คุณลุงที่เราช่วยเฝ้ากระเ)่าให้ก็มาช่วยยก
ทำดีได้ดีค่ะงานนี้
นั่งไปถึงก็ประมานห้าโมงเย็น เราก็มาต่อแถวรอแทกซี่กัน
แทกซี่มองเราสองคนอย่างกับจะกินเรา เริ่มกลัวนิดๆ กล้อง 1 มือถือ 2 จะหายมั้ยนะ....
แต่ก็ไม่เกิดอะไรขึ้น เราขึ้นไปแทกซี่เพื่อที่จะนั่งไปยังโรงแรมที่จองผ่านเว็ปอะไรสักอย่าง
Kleber hotel อยู่แถวย่านช้อปปิ้ง Champ Elysee ขอบอกเลยว่าโรงแรมเริ่ดมาก
แทกซี่แทบจะไม่พูดภาษาอังกฤษ เราต้องใบ้เอากับเค้าว่าไปยังไง
บริการดีมาก คุยไปคุยมาเหมือนโดนจีบ เขาก็เลยอัพเกรดห้องเราให้ไปชั้นสูงสุดและดีสุด
อาหารเช้าฟรี พูดมาทำไมยะมันฟรีอยู่แล้ว คนต้อนรับแม่นโครดขี้โม้เลย แต่อัพเกรดห้องนี่ของจริง
เริ่มขี้เกียจเขียน...
วันนั้นก็ไปกินข้าวบนหอไอเฟล คนมองเราเหมือนเป็นตัวประหลาด ....ทำไมอะ เอเชียน? ส้นสูง? สวย?
มองทำไมอยากจะเข้าไปถาม แต่คนก็ไม่พูดอังกฤษอีกเจริญเหอะ
สักพักก็มีคนเดินเข้ามา ไม่รู้ว่าจีบหรือขอตัง555555555
ถึงเวลาทานข้าวก็ไปรับตั๋ว ตรวจกระเป๋าด้วยนะ ขอบอกว่าถ้าไปต้องไปกินเพราะคนตรวจกระเป๋านางหล่ออออมาก
เขาแอบส่งยิ้มให้ ใจจะแตก ถ้าพูดอังกฤษได้นี่ชั้นจีบแกไปละ
ทานเสร็จก็มถ่ายรุปกับหอไอเฟลกัน
้หากคุณมองดีดีจะเห็นรังสีอัมหิตอยู่ข้างหลัง
คือพี่ดำน่ากลัวจริงแต่เขาก็แค่เข้ามาขายของทำมาหากิน เราก็ไม่เข้าใจว่าคนจะกลัวกันทำไม
เพื่อนเราที่ไปด้วยมันก็เกาะเราแน่น บอกกลัวเขามาทำร้าย เราก็บอกไปว่ามิงไม่ได้ไปครี่บนบ้านเขา อย่าปยอใจกล้าๆหน่อย
ทริปนี้เราเหมือนไปเป็นพ่อมันเลยค่ะ หบังจากถ่านรุปเสร็จเราก็กลับถึงรรห้าทุ่มเพราะแทกซี่พาไปหลง
ปวดดดดตับบบบส
วันที่สอง
วันนี้แพลนคือไปดีสนีล์แลนด์กันทั้งวัน
ก่อนไปเราก็ได้เดินทางตามล่าหาร้านสเต็กที่เราโปรดปรานมาจากที่อังกฤษ L' entrocote
ไครไปแนะนำเลยว่าต้องไปอย่างแรงงงงงง อร่อยเริศ
เสร็จก็มั่วๆเดินลงไปใต้ดินได้ไงก็ไม่รู้แล้วก็ไปเจอรถไฟ มุ่งหน้าไปยังดิสนี่แลน
ไปถึงเราก็ลงจอดถูกสถานที่ บอกเลยค่ะว่าไปไม่ยาก
เราไปแบบโง่ๆ เบลอๆยังจะไปถึงได้ ไม่ต้องพูดถึงเพื่อนเราอีกคน เพราะมันพึ่งเราอย่างเดียว
ไปถึงก็ผิดหวังม้ากกกกกกมาก เพราะเจอของญี่ปุ่นมาแล้ว ดีกว่าล้านเท่าา
ยิ่งเพื่อนเราไปของอเมกามา ดีกว่าของณี่ปุ่นเสียอีก ผิดหวังค่ะ ไม่น่าไป น่าจะเอาเวลาไปตระเวนกิน
แต่ก็ถ่ายรูปมาแทบทุกเม็ดเลยนะ ผมแดงๆตัวดำๆเป็นเจ้าหญิงได้มั้ยนะ.....กลับปราสาทดีกว่า5555555
ไปถึงฝนก็ตก ร้านอาหารก็ต้องจองก่อนไป อะไรวะะะ ไครจะไปรู้ เราก็เลยงอนไม่กินที่ดิสนีละ กลับไปกินใกล้ๆ
รร ดีกว่า โป้ง!
วันที่สาม
วันนี้แพลนคือจะไปพิพิธภัณฑ์ Louvre ที่คนชอบไปถ่ายรูปกัน
แต่แล้ว ฝนก็ตกอีกเช่นเคย ก็เลยไปกินข้าวที่ Kong กัน เพื่อนเรามันอยากไปตามเซเลป
เลยอะ ไปก็ไป เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นฟิวชั่น ร้านสวยเริสใช้ได้ ไปตอนกลางวันไม่ต้องจองค่ะ
ระหว่างทางก็หาไรกิน...นิดหน่อย...มาเป็นถุงเลย 55555555
รถที่ผ่านไปผ่านมาก็ทองเราแล้วบางคนก็โบกให้ บอกเลยนะว่าชั้นโบกกลับให้แค่คนหล่อ XD กรี้สส ยังจะเลือก
เครพอไปถึงที่ร้านอาหารก็ ก็ถ่ายรูปค่ะ จัดหนัก Starter - Avocado crab อร่อยยยมากกกก แชร์กัน
ส่วน Main เราสั่ง Pork chop น้องหมู ส่วนเจ้ต๊อกสั่ง Lobster Udon
นางกินไม่เคยหมดสักอย่าง แค่อันนี้เราอนุโลมให้เพราะมัน มันมาก ไม่ไหวเหมือนกัน ขอเราอร่อยเหาะกินเรียบ
หลังจากหนังท้องตึงเราก็เดินทางกลับไปพิพิธภัณฑ์เพราะฝนไม่ตกละ เพื่อที่จะถ่ายรุปแล้วระบุว่า กิมาแล้วนะ
ระหว่างทางนั้นเราก็ถ่ายๆๆๆๆๆๆๆๆคนมองกันใหญ่ นึกว่าเป็นดารามั้ง5555555.....หน้าเงี้ยเนี่ยนะ ขอบคุณนะคะที่ให้ความหวัง
ไปต่อ ระหว่างทางก็มีหลายๆสิ่งอย่างให้เราได้ถ่าย เพราะไม่ว่าตรงไหนมันก็สวยไปหมด
รูปมีอีกเยอะแต่ว่าภ้าเอาลงเยอะกว่านี้จะเกลื่อนมาก 5555555
ถึงพิพิธภัณฑ์สักที สวยเริ่ดเหมือนที่ร่ำลือ เสียดายไม่ได้เข้าไปเพระาทัวร์ลง คนเยอะ แพง และ ขี้เกียจ
เราสองสาวสวยจึงเดินมุ่งหน้าต่อไป ปารีสเป็นเมืองเล็กๆที่ดีมากเพราะสถานที่ท่องเที่ยวนั้นอยู่ใกล้เพียงแค่เดิน
หากคุณไม่ขี้เกียดเดินก็สามารถไปที่ๆอยากไปได้อีกเยอะ
เดินไปเรื่อยๆเราก็ไปเจอสวยทิวลิป และก็ได้ถ่ายภาพกับรูปปั้นนี้มา ขอบอกว่าหลังจากถ่ายมี
ฝรั่งมาจีบ 5 คน บอกเลยว่า ถ้าเป็นกิ กิจะไม่จีบตัวเองค่ะ อุบาททท
เราก็ถ่ายรุปกันสักพักจนเริ่มหมดเเรงเก๊ก จึงเดินทางไปหาอะไรกินแถวๆนั้น
ทานเสร็จก็กลับโรงแรมค่า
จะมีคนอ่านรอดมาถึงตรนี้มั้ยนะ ถ้ามจะเขียนต่อนะคะตอนนี้ขี้เกียจเบาๆ
ขอโทษที่มีแต่รูปจขกทนะคะ เพราะเราสองคนแลกมือถือกันถ่าย เราจึงมีแต่รูปตัวเอง
ส่วนตัวจะไม่ค่อยถ่ายพวกวิวหรืออาหาร เพราะคิดว่าหาในกูเกิ้ลน่าจะสวยกว่า
เราชอบถ่ายแบบที่มีคนรู้จักอยู่ในภาพค่ะ น่าจะเก็บเป็นความทรงจำได้มากกว่าคหสตนะคะ
ถ้าไม่ชอบขี้หน้าเราก็บอกได้นะจะได้ไม่ลง จะได้เล่าอย่างเดียว 55555555 ชิวๆค่ะ
ฟิ้วว~~~
http://ppantip.com/topic/32209430 ตอนสองค่า