ฝันเห็นผีแล้วผมขอเค้ามาอยู่ด้วย เค้าเลยใบ้หวยให้..แม่นด้วยแต่ไม่ได้ซื้อ จะรู้ได้ไงครับว่าผีมีจริง?และตามเรามั้ย?

กระทู้คำถาม
ขอเกริ่นเกี่ยวกับตัวผมที่เป็นแนวลึกลับที่เคยเจอมา แต่ไม่เคยบอกใคร เจอจริงๆ กลัวถูกหาว่าบ้า เคยเล่าให้เพื่อนฟังก็ขำ
แต่พอมาถึงเรื่องความฝันกับหวยที่ผ่านมานี่แหละ มันเจอเยอะไปเลยสงสัย ขึ้นมา.........................
ปล. ผมก็พึ่งเคยตั้งกระทู้ครั้งแรกครับ ปกติเคยแต่อ่าน เล่นถูกๆผิดๆ แต่เรื่องเหล่านี้เรื่องจริง สาบาน!
มีต่อที่ ความคิดเห็นที่ 2 ด้วยนะครับ  อมยิ้ม18


ผมเป็นคนไม่เชื่อเรื่องพวกนี้แบบพระก็ไม่แขวน แบบเกี่ยวกับพวกศาสนาอ่าครับไม่เชื่อเลย ไสยศาสตร์แต่เชื่อเรื่องดูดวงบ้างก็งง ตัวเอง แต่นับถือพุทธนะ เพราะผมคิดว่าศาสนาเป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งของสงครามและทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำไม่เท่าเทียมกัน ทุกชีวิตควรมีค่าเท่ากันไม่ว่าจะฆ่ายุงหรือชีวิตคน คือ บางเรื่องศาสนาก็เกินจริงไป วิเศษเกิน เหาะงี้ หายตัว เปล่งแสง คือสมัยก่อนชาวบ้านเป่าอะไรก็เชื่อเหมือนในหนังที่แย่งชิงบัลลังก์ อะคับ กษัตริย์ชี้นกเป็นนก ชี้กงจักรเป็นดอกบัวก็ได้เอาเรื่องอภิหารมาหลอกลวงว่าคนนั้นคนนี้ไม่ดีอยู่บ้านเมืองนี้จะเกิดความยิ้มให้เนรเทศมันออกไปหรือสั่งฆ่า เอาพระมาทำบุญใหญ่ ให้มาสวดปัดความชั่วร้าย เออช่างมันเถอะครับ.. คือถ้าผมไม่โดนกับตัว2-3 ครั้งก็จะไม่เชื่อ แต่ศาสนาก็เป็นที่พึ่งของคนที่เป็นทุกข์ได้จริงๆครับ แต่ผมเป็นเด็กขี้สงสัย ถ้าถึงวันเกิดผมก็ทำบุญทุกปีอยู่นะ

และผมเชื่อเรื่องsense ของตัวเองกับความฝันระดับหนึ่ง
ครั้งแรก :: เกิดขึ้นเด็กอายุประมาณอนุบาล คืนนั้นนอนอยู่บ้านในห้องนอนมี 4คนพ่อแม่และน้อง จำได้แม่นเลยเรื่องที่ขนลุก คือทุกคนนอนกันหลับกันหมดแล้ว ผมนอนประมาณเที่ยงคืนซึ่งโดยปกติอนุบาล เด็กก็ไม่ควรนอนดึกน้อ แต่ผมเป็นเด็กที่ชอบดูหนังbig cinema ,ซีรี่ย์ที่ช่อง7 สมัยก่อนเคยฉายไรงี้ เลยตื่นสายอนุบาลสาบานได้ ไม่เคยเข้าแถวกับเพื่อนเลย ไปถึงก็เข้าห้องเรียน แต่การบ้านนี่ทำตั้งแต่ตอนเย็นทุกวันครับ เพราะขี้เกียจทำตอนเช้า รู้ว่าตื่นสาย, อ่าวไกลไปละ คือทุกคนนอนกันหมดห้องก็มืดผมปิดไฟผมดูTv คนเดียวนอนตรงกลาง น้องนอนทางซ้าย พ่อกับแม่จะนอนด้วยกันทางขวา แล้วทีนี้เห็นทุกคนหลับกันหมด ดึกแล้วเลยปิดTv นอนเท่านั้นแหละตรงที่ผมนอนปลายเท้าเข้าหาหน้าต่างพอดี หน้าต่างอยู่ทางทิศeast เป็นหน้าต่างที่ปิดตายและเอากระดาษหนาเท่ากระดาษห่อของขวัญมาหุ้มอีกที บ้านผมนี่นั่นถ้าเดินออกจากบ้านเลี้ยวซ้ายอีก 15- 20เมตรได้ คือทางสามแพร่งอ่ะ แล้วมีเสาไฟกิ่งสีส้มตรงนั้นต้นเดียว แล้วไม่มีบ้านคนต่อจากบ้านผมเลยนะคือติดที่สุดแล้ว ถ้าเดินออกจากบ้านไปก็ประมาณว่าตรงกลางระหว่าง
ซ้ายขวา ของทางสามแพร่งเลยแหละ นึกภาพออกนะครับ ผมโน้มตัวลงนอนหันไปที่ปลายเท้า เท่านั้นแหละคือครั้งแรกในชีวิตที่คิดว่าเจอผี แต่ไม่ได้มาเป็นตัวแบบในหนังนะ เป็นเงาสะท้อนจากแสงไฟที่ส่องเข้ามาคือถ้าส่องเข้ามาปกติก็ส่องเข้ามาทุกวันเพราะไฟก็เปิดทุกวันแต่วันนี้คือ มีเงาทับตรงกลางเป็นร่างของคนครึ่งท่อนบนอ่ะ ไล่จาท้อง ไล่ไปถึงไหล่ คอ แต่ไม่มีหัว! คือตอนนั้นจำได้แม่นเลยเห็นจริงๆแต่เป็นเงาดำๆที่มันทับหน้าต่าง ผมก็ไม่กล้าปลุกใครน้อ เลยเอาผ้าห่มคลุมโปงแล้วหลับไปเลย เรื่องนี้ผมไม่เคยบอกคนในบ้านเลยนะ และบ้านตายายเป็นคนสร้างขนาดแม่ยังเกิดไม่ทันเลย แต่เรื่องนี้ก็เคยเล่าให้เพื่อนฟังนะ ถ้ามีการสนทนากันเรื่องผี แต่ตอนเด็กกลัวผีมากเพราะจากในหนัง ละคร รวมถึงเรื่องนี้ด้วยครับ

ตอนเด็ก ป.1,2 เนี่ยแหละเคยหยุดเรียน 3เดือนโดนจับโกนหัวเป็นเณรน้อยที่วัด เพราะมีคนทักว่า "แม่จากชาติที่แล้ว จะมาเอาลูกคืน" เราก็ไม่รู้เรื่องหรอก ไปเป็นเณรโดนมดกัดก็ฆ่ามด ตบยุงสารพัด และผมมีปานดำที่ขานะคั้งแต่เกิดเลยตรงขาขวาเลยหัวเข่าขึ้นมาสัก 3นิ้วตอนเด็กๆ ชัดมากโตมาก็ค่อยๆจางแต่ไม่หายเป็นคราบอยู่ และตรงข้อพับด้วยเป็นขีดเฉียงๆลงไป และตรงเหนือเอ็นร้อยหวายขึ้นมา 2นิ้ว ขาขวาเหมือนกัน จางลงกว่าแต่ก่อนเยอะ ตอนเด็กๆเหมือนขาเปื้อนดินอ่ะ ขัดไงก็ไม่ออก แต่คนเฒ่าคนแก่ คนโบราณเค้าว่า "เด็กทารกคนใดที่เกิดมาแล้วมีปาน คนโบราณเชื่อว่า ได้เกิดมาแล้วชาติหนึ่ง (ชาติที่แล้ว) และถูกป้ายด้วยของตำหนิเอาไว้ หากเป็นปานแดงหมายถึงถูกป้ายด้วยปูนแดง และหากเป็นปานดำหมายถึงถูกป้ายด้วยถ่าน"
อันนี้ก็ไม่รู้นะ แต่ก็แอบขุนลุกว่าแม่ชาติที่แล้วตามหาลูกจนเจอด้วยตำหนิที่ทำไว้ - -!

ตอน ป.4 ผมก็ย้ายมาอยู่กับน้าครับ อยู่เหนือ(แม่ฮ่องสอน) บ้านตอนแรกๆบ้านเกิดอยู่อีสาน(บึงกาฬ) มาอยู่เหนือได้น่าจะ 9-10ปี ละ แต่ก็พึ่งกลับมาจากการไปเยี่ยมบ้านเมื่อเดือนที่แล้วนี่เองคับ เพราะพ่อแม่หย่ากัน ผมก็เลยเด้งมั้ง ผมไม่คิดมากหรอกเพราะความรักเป็นเรื่องของคนสองคนห้ามใจกันไม่ได้ ป.4 ก็เด็กอยู่นะผมไม่กล้าถามหรอกหย่ากันทำไม แต่ผมเชื่อว่าเป็นกรรมด้วยแหละกรรมของตัวเองตอนเด็กคือมีคำด่าที่ฮิตที่สุดตอนนั้นที่โรงเรียน ผมน่าจะ ป.2นะ คือ "พ่อแม่ ไม่สั่งสอนเหรอ" แล้วตอนนั้นทะเลาะกับแม่ไง เรื่องไรจำไม่ได้จำได้ที่คำด่าแหละเพราะรู้สึกผิดสุดๆ เผลอปากพูดออกไปเลยโดนไล่ตี ผมวิ่งรอบรถเลย สุดท้ายแม่ก็จับไม่ได้ โตมาก็เลยมานั่งคิดไง เพราะทะเลาะตอนนั้นรึปล่าวตอนนี้เลยไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ ไม่มีพ่อแม่มาสั่งสอนเหมือนลูกคนอื่นเค้า แต่น้องอยู่กับแม่นะ จำได้ว่าพ่อเคยสอนการบ้านครั้งสุดท้ายเรื่องการหาค่าตัวแปรกำลังสอง ส่วนแม่ไม่เคยสอนการบ้านเลยผมจำได้ จิงๆ เพราะมีอะไรแม่ก็ให้ไปหาพ่อตลอด เรื่องที่แม่ชอบพูดเกี่ยวกับการเรียน มีอยู่ 2เรื่อง คือ "ให้ตั้งใจเรียน" กับอีกประโยคนึงที่จำได้ขึ้นใจแม่พูดอยู่ 4ครั้ง ตั้งแต่เกิดมาที่ได้ยินเข้าหู ครั้งแรกตอน ป.1, ตอนย้ายโรงเรียน ป.4 ตอนย้ายโรงเรียนเข้า ม.1และ ตอนช่วงที่เลื่อนไปเตรียมเข้ามหาลัยคือ ม.4  ,4ครั้งด้วยกัน คือ "เวลาเรียน ให้นั่งแถวหน้า"
#โอ้ยดราม่าครอบครัว

เคยได้ยินที่เค้าพูดมั้ยครับ ว่าถ้ามีเสียงปริศนาทัก ห้ามทักตอบ อันนี้เคยได้ยินมาอีกที
ขอย้อนกลับมาตอนเด็กสมัยอยู่อีสานแปป คือคุณผู้อ่านจะว่าผมบ้า หูแว่ว คิดไปเอง รึอะไรก็ชั่งนะแต่ผมมักจะได้ยินเสียงคนเรียกชื่อบ่อยและเป็นเสียงผู้หญิงตลอด หรือจะเป็นเสียงผู้ชายที่แอ๊บอันนี้ก็ไม่รู้ แต่ผมไม่เคยขานรับนะ เพราะนึกว่าคนไกล้ตัวแหละเรียก เพราะเสียงมันไม่ได้ดังถึงขนาดตะโกนเรียก มันคล้ายๆ ต้นเสียงห่างจากเรา แบบ 3-5 เมตรอ่ะ ปกติเด็กถ้าผู้ใหญ่เรียกก็ไปหา แต่ผมเป็นคนที่ไม่พูดแบบ "ครับ" "ได้ครับแม่" "อะไรนะครับพ่อ"
คือมันเขิณอายอ่ะ เลยไม่เคยขานรับ เดินไปหาอย่างเดียว คำว่า "ครับ" เก็บไว้ใช้กับผู้ใหญ่ที่ไม่สนิทกับคนแปลกหน้าพอ มันก็มีนานๆทีนะไม่บ่อยมาก
ที่จะได้ยินคนเรียกทัก อาจจะ 3เดือน มี2 ครั้ง บางปีก็ไม่มีเลย เคยได้ยินตอนเด็กเดินไปเล่นข้างบ้านคนเดียวมีคนเรียกทักขึ้นมาผมก็เดินไปหาแม่ แม่ก็บอกว่าไม่ได้เรียก พอมาอยู่กับน้าก็เป็นอีก 2,3 ครั้งติดในเดือนเดียว น้าก็บอกว่าไม่ได้เรียก จนบางทีน้าเรียก ผมก็คิดว่าเอาอีกแหละ นึกว่าน้าเป็นเด็กเลี้ยงแกะไงเลยโดนด่าหาว่าหูตึง - -! ครั้งนึงฝึกดีดลูกแก้วอยู่หน้าบ้านคนเดียวเอา โปรไว้ก่อนจะได้ไปชนะเพื่อนที่โรงเรียน กำลังสนุก มีเสียงทักปริศนานั้นขึ้นมา ผมแยกไม่ออกนะว่าเสียงใครรู้แค่เสียงผู้หญิงนึกว่าน้าอีกแล้ว เลยตอบอย่างดัง "เอ่อ" น้าเลยบอกว่า " เป๋นบ้าเบาะ"  - -! แล้วพอโตมามันก็หายไปพักนึง จนมาตอนนี้ก็เป็นอีกแล้วเคยโดนที่ รร. กับที่บ้าน แต่ไม่บ่อย ชินล่ะ ไม่ได้รู้สึกกลัวนะ คือมันเหมือนกวนตีนมากกว่า  ชอบทักตอนอยู่คนเดียว

พอย้ายมาอยู่กับน้าที่น่าแปลกคือ มีขี้แมลงวันข้างเท้าซ้ายด้านนอกตรงนี้เหมือนกัน แล้วคือเคยมีพี่สาวญาติกันเคยมาอาศัยอยู่ด้วยก็มีเหมือนกัน แต่ตอนนี้พี่เค้าย้ายไปแต่งงานแล้ว

ครั้งที่สอง :: ช่วง ป.4 -6 ที่ย้ายมาอยู่กับน้าแรกๆเช่าบ้านอยู่ หลังๆมาน้าซื้อบ้านอยู่เอง ตอนนี้จบม.6 แล้ว รอ มช.เปิด เป็นเด็กกำลังจะเข้าเรียนปี.1พอโตขึ้นมาเคยไปนอนห้องรับแขกบนบ้านซึ่งบ้านเนี่ยซื้อต่อเค้ามาอีกทีเป็นไม้สักทองทั้งหลัง แล้วมาแต่งเติมอีกที เดิมทีบ้านมีห้องนอนห้องเดียวคือห้องรับแขก เป็นห้องของเจ้าของบ้านคนเก่าที่แก่แล้ว เลยขายให้ ต่อจากนั้นก็ตกแต่งบ้านเพิ่มห้องนอนขึ้นมาอีก 2ห้อง ก็แต่งบ้านไปด้วยนอนที่ห้องรับแขกนั่นแหละกับน้าก็กว่าบ้านจะแต่งเสร็จ แต่ห้องเก่าบ้านที่ซื้อต่อเค้ามาไม่ได้รื้อนะ ทำเป็นห้องรับแขกนอนต่อเติมบ้านก็นอนปกติดีไม่มีไร แต่ตอนผมน่าจะซัก ม.2,3 เนี่ยแหละ มีครั้งนึงตากับยายมาเยี่ยมเลยไปนอนด้วยกัน 3คน ยายนอนข้างล่างบอกนอนเตียงปวดหลัง ผมนอนกับตาบนเตียง ยายนอนไกล้ประตู คือหลังจากซ่อมบ้านผมก็ไม่ได้มานอนแล้วไง ก็ไปนอนห้องใหม่ดีกว่า แต่คืนนั้นคือตา ยายเข้าใจอารมณ์คนแก่มั้ยว่านอนไว คือละครจบนอน บางวันละครไม่สนุกแกก็ไม่ดูสวดมนต์นอน คือทั้งบ้านธรรมะ ธรรมโมสวดมนต์ไหว้พระนั่งสมาธิก่อนนอนกันทุกคน ผมก็ทำการบ้านเสร็จก็ขึ้นมานอนก็ล็อคกลอน กลอนประตูนี่เป็นแบบลูกบิดนะครับ ประตูนี้ก็ประตูเดิมเลย ครั้งตั้งแต่บ้านตาแก่คนนั้น ก็เอนตัวลงนอนคือปกติหลับยากอยู่แล้วยิ่งเป็นเตียงนอนที่ไม่ได้มานอนบ่อยๆที่ๆไม่คุ้นยิ่งหลับยาก ผมก็นอนแบบคนไม่หลับอ่ะพลิกตัวไปพลิกมาน่าจะนานอยู่ 30นาทีได้ มีเสียงดังเหมือนคนปลดล็อคที่ประตูผมเอะใจว่าตาหรือยายจะลงไปข้างล่างเข้าห้องน้ำทำไมดึกแล้วคนแก่กินจุกจิกก็ไม่ใช่ผมเลยลุกมานั่งมองซ้ายขวาอยู่ครบ คือผมนอนตรงกลางไงจะเป็นน้าที่นอนห้องตรงข้ามก็ไม่ใช่เพราะหูไม่เพี้ยนที่ประตูห้องนี้แน่ๆเลยลุกจากเตียงเอามือไปจับลูกบิดดู ปรากฎว่าลูกบิดไม่ได้ล็อค อุทานในใจ(ไอ่สัสเอ้ย กูไม่น่าลุกมาเลย)คือประตูกับเตียงห่างกันประมาณ3 ก้าวก็ประมาณว่าผมก้าวให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้รีบทิ้งตัวลงประดุจนักกีฬาที่ข้ามรั้วแล้วทิ้งตัวลงเบาะคือตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่าทำไงกูถึงจะหลับว้ะ

ครั้งที่สาม :: มันเป็นอารมณ์เปลี่ยว ตอน ม.4 คือที่ห้องนอนตัวเองไม่มีTv ไงคือโตแล้วต้องมีวินัยกับตัวเองเราจะทำการบ้าน,อ่านหนังสือพร้อมกับดูTvไปด้วยไม่ได้ ข้างนอกก็ยุง คือตอนเด็กข่าวเด็กติดเกมส์เยอะมากนะจิงๆน้าเลยไม่ให้ติดNet พึ่งได้มาก็ตอน ม.5เนี่ยแหละที่ต้องตามข่าวพวกรับตรงเข้ามหาลัย #แลดูเด็กดี กลับมาตอนคืนนั้นจำได้ว่าหลังจากทำการบ้านเสร็จก็มาดูTvสักครู่ปิด ก็นอนไม่หลับนอนคนเดียวนะ แรกๆนอนตงขอบเตียงไกล้ประตู แล้วรู้สึกมันเหมือนมีคนนอนด้วยเลยขยับไปนอนตงกลางแล้วคือนอนแบบกินเนื้อที่ที่สุดแล้วรู้สึกว่านอนสบายดีเหมือนโลกนี้เป็นของฉันหลับสบายเลยมานอนเรื่อยๆได้สัก 7-8วัน ก็นอนปกติแล้วมันมีอะไรดนใจไม่รู้ให้ตื่นมากลางดึก หัวเตียงติดหน้าต่างนะแล้วก็มีเงามาอีกแล้วเป็นเงาผญ.ดำผมยาวอันที่จิงจะว่าเงาก็ไม่ใช่นะคือมันยืนปลายเตียงแล้วผมสลวยปลิวยังกะโฆษณาRejoice เลย ก็คือไม่ได้ตาฝาดจิงๆนะ หลังจากนั้นก็ไม่ขึ้นไปนอนอีกเลย ไม่เด็ดขาด แค่ขึ้นไปปิดหน้าต่างหรือ ไปเอาของในห้องยังระแวงอ่ะ แล้ววันไหนนอนตื่นสายนะผมชอบตื่นเที่ยง แล้วน้าก็ไปทำงานข้าราชการงี้ กลับมาอีกทีก็เย็นๆ ตอนเช้าๆสัก9-10โมงจะมีเสียงคนเดินอ่ะมันมีเสียงนะเพราะบนบ้านเป็นไม้สัก จังหว่ะก็ปกติเหมือนคนในเย็นเดินเล่น แรกๆนึกว่าขโมยแน่ๆห้องผมอยู่ข้างล่าง ห้องน้ากับห้องรับแขกจะตรงข้ามกัน ตรงกลางระหว่างห้องทั้งสองคือหิ้งพระ มันก็มีเสียงตึกๆ ตึกๆๆช้าๆเนิบๆ ทุกวันจนผมชินอ่ะประมาณว่า อยากเดินนักเหรอชั่งยิ้ม กูขี้เกียจตื่นมาดูแล้ว ประมาณนั้นแ แต่ผมรู้สึกได้นะว่าห้องรับแขกเป็นมุมที่อับที่สุดของบ้านแล้ว คือเหมือนมีคนอยู่ทั้งๆที่ไม่มีคนอยู่ ถ้าไม่มีแขกมาเที่ยวบ้าน ก็ไม่มีใครเข้าไปเลยนะ ก็ปิดตายอยู่อย่างงั้น
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
เม่าตกใจ
มีเรื่องอื่นอีกม่ะ  
กลัว แต่ก็อยากฟัง  ^^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่