[CR] [Review] Maleficent : ด้วยรักและไว้ใจจากคุณแม่มาลีขี้ซึน (Spoil)


Maleficent : กำเนิดนางฟ้าปีศาจ


จากมุมมองของ
- คนที่โดนสปอยแก่นเรื่องเพราะความอยากอวดของคนที่ไปดูมาแล้วในทวิตเตอร์
- แฟนอนิเมชั่นดิสนีย์ยุคคลาสสิกและ Renaissance
- แต่ไม่ชอบดู Sleeping Beauty เลย กลัวออโรร่าตัวเขียว =__=
- รอหนังเรื่องนี้มานานมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ตั้งแต่เค้าแค่มีข่าวเองว่าจะทำมาเลฟิเซนต์เวอร์ชั่นคนแสดง

เมื่อไหร่ / ที่ไหน / เท่าไร
- โรงภาพยนตร์สกาล่า  รอบ 16.30 วันที่ 15/06/2014
- 100 บาท

หลังดูจบ
- มาเลฟิเซนต์เป็นหนังตลก (อยากติดแทกหนังตลกให้ด้วย แต่ไม่พอ...)
- ขุ่นแม่มาลีเลอค่ามากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก (ก.ไก่แปดสิบหกล้านตัว) พลังมาก รู้สึกแบบน้ำตาปริ่มๆ จะไหล (เวอร์)
- เอฟเฟคสวยงามอลังการตระการตา แม้จะดูแค่แบบ 2D ควรค่าแก่การไปดูแบบ 3D และ 4Dx มาก
- ปีกคุณแม่มาลีสวยและดูเป็นธรรมชาติกว่าที่คิดมาก
- ออโรร่าดูเป็นสาวบ้านนอกโง่ๆ แบบที่ทหารคนนั้นว่าจริงๆ นางน่ารักนะ แต่ยิ้มแล้วดูไร้สติมาก แลเมายา เมาเห็ดป่านิดหน่อย
- ฟิลิปส์นี่มีให้ครบองค์เฉยๆ จริง มาทำม๊าย 5555 แต่น่ารักนะ ฉากเปิดตัวงั้นๆ แต่ฉากจบหล่อดี

ตัวภาพยนตร์ขายว่าทำไมคนที่เคยแสนดี ถึงได้กลับเปลี่ยนเป็นมารร้าย คนเราทุกคนย่อมมีเหตุผลในการจะทำอะไรสักอย่าง
สิ่งที่มาลิฟิเซนท์ทำไป มันคือความโมโหและเคียดแค้นจากการถูกหักหลังจากคนที่เธอรักและเชื่อใจ
ตอนแรกเธออาจจะมึนงงและไม่เข้าใจ แต่หลังจากที่เธอได้ปีกคืนมา (เดียวัล) ทำให้รู้สาเหตุของการถูกหักหลัง

คงไม่มีอะไรเจ็บปวดจากการถูกทำร้ายจิตใจ (และร่างกาย) เพื่อสนองตัญหาของคนที่เรารักและไว้ใจมากที่สุดอีกแล้วแหล่ะ

ยิ่งพอตอนที่เธอรู้ว่าสเตฟานมีลูกกับผู้หญิงอื่นแล้วอีก
เรามองว่ามาลิฟิเซนต์ไม่ได้หึงหวงสเตฟานอีกต่อไป แต่มันคือหนทางการแก้แค้นของเธอ ที่จะทำยังไงก็ได้ให้สเตฟานรู้สึกเจ็บปวดยิ่งกว่าที่เธอโดน
โดยไม่สนใจว่าเธอจะต้องเสียอะไรไป และทำร้ายใครไปบ้าง แม้แต่ผู้บริสุทธิ์ .......หรือแม้แต่ตัวเธอเองในเวลาต่อมา

ความอ่อนโยนของมาเลฟิเซนต์ในวัยเด็ก ทำให้เราอนุมานเอาเองว่า ถ้าเธอไม่ได้โดนหักหลังและเติบโตขึ้นแบบสาวโลกสวย
เธอจะต้องเข้าตำรานางงามมากแน่ๆ อ่อนโยน อ่อนหวาน รักเด็ก!

ถึงแม้ว่าเธอจะชิงชังสเตฟานมาก แต่ออโรร่าก็เป็นเด็กที่หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูมาก แม้ว่าเธอจะพร่ำบอกตลอดเวลาว่านางช่างอัปลักษณ์
แต่แววตาของเธอก็อ่อนโยนเสมอ แล้วก็คอยจับจ้องดูแลไม่เคยห่าง หรือคุณแม่จะอ้างคะว่าที่ตามดูแลมาตลอดนี่เพราะกลัวตายก่อนคำสาปจะสัมฤทธิ์

นี่มันสาวซึนนิ!

(สำหรับผู้ที่ไม่เข้าใจ : ซึน หรือ ซึนเดเระ คือ พฤติกรรมปากกับใจไม่ตรงกัน / รักนะ แต่ไม่แสดงออก ไม่ให้รู้หรอก ♫)

แต่ก็อย่างว่าแหล่ะ ความไม่ได้เรื่องไม่ได้ราวของแก๊งนางฟ้าสามช่า ที่นอกจากจะดูไร้สติและยังไร้ประโยชน์ของจริง
มันพลิกจากแบบอนิเมชั่นไปเลยที่ว่าแก๊งนางฟ้าพยายามจะเลี้ยงดูโรสให้ดีที่สุด แต่ในฉบับนี้...อืม
นอกจากกินแมงมุม ให้แครอทดิบ เกือบตกหน้าผาตายแล้ว...นี่ถ้าไม่ได้มาเลฟิเซนต์ แม่ออโรร่านี่คงได้ไปเกิดใหม่ไปนานแย้ววว

หลังจากที่ออโรร่าได้รับอนุญาตให้มาวนเวียนอยู่รอบๆ ตัวมาเลฟิเซนต์ จนผูกพันกันยิ่งกว่าสมัยที่มาเลฟิเซนต์แอบตามดูห่างๆ อยู่กับเดียวัล
เป็นเหตุให้มาเลฟิเซนต์คิดจะถอนคำสาป ด้วยความรักและสงสาร แต่มันก็ไม่ทัน
โทสะที่เธอเคยบันดาลไว้มันมีอำนาจและฝังรากเสียยิ่งกว่าความอ่อนโยนในใจของเธอ คำสาปยังคงอยู่และไม่อาจลบล้างได้ แม้จะเป็นความตั้งใจของเธอ
ทำให้เกิดบาดแผลในใจออโรร่าและมาเลฟิเซนต์ในวันที่ออโรร่ากำลังจะอายุ 16 และไปขอป้าๆ นางฟ้าสามช่าไปอยู่กับมาเลฟิเซนต์
ความจริงที่ออโรร่าต้องรู้ว่าเธอถูกสาปจากคนที่เธอรักและไว้ใจ

เป็นเหมือนตลกร้ายที่ย้อนมาทำร้ายมาเลฟิเซนต์อีกครั้ง

เหมือนกงเกวียนกรรมเกวียนในเรื่องของมิตรภาพ ความรัก ความไว้ใจ และการทรยศหักหลังของคุณพ่อ คุณป้าแฟนเก่าพ่อ และคุณลูก
ในกรณีของมาเลฟิเซนต์ยังดีที่ว่าเธอหาทางพยายามแก้ไข แม้ว่าเด็กน้อยจะเกลียดเธอไปแล้วก็ไม่เป็นไร เธอก็ยังอยากช่วยให้ได้
ไม่ว่าจะอยากลบล้างความผิดในใจ หรือเพราะว่ารักออโรร่ามากมาย อย่างน้อยเธอก็ไม่ปล่อยให้ความอาฆาตเป็นฝ่ายครอบงำเธออีกต่อไป
ให้อภัยแม้กระทั่งสเตฟาน ที่จะฆ่าเขาทิ้งเลยก็ได้ โอกาสอยู่ตรงหน้า แต่แล้วก็ไม่...

ผิดกับคิงสเตฟาน

ในตอนแรกก็โดนความทะเยอทะยานและกระหายอำนาจ ผลักดันให้ยอมแลกทุกสิ่งแม้แต่ทำร้ายคนที่เป็นทั้งเพื่อนและคนรัก
ในตอนหลังก็หมกหมุ่นอยู่กับความหวาดระแวง และต้องการแก้แค้นจนกลายเป็นราชาเสียสติ
ยิ่งในตอนที่มาเลฟิเซนต์ยอมปล่อยวางความโกรธเกลียดทุกอย่าง ด้วยการไว้ชีวิต แต่เขาเองก็ถูกความอาฆาตบังตา
แทนที่จะสำนึก กลับคิดร้ายไม่ยอมเลิก สุดท้ายก็ถูกดาบนั้นคืนสนอง จบชีวิตเพราะการกระทำของตัวเอง

ทั้งหมดมีเหตุผลในการกระทำของตัวเองทั้งสิ้น จะดี จะร้าย ไม่ว่าสิ่งแวดล้อมและคนรอบข้างจะเป็นอย่างไร
หรือจะหลงผิดไปบ้าง แต่สุดท้ายเรามองว่า คนสุดท้ายก็คือตัวเราเองที่ตัดสินใจในการกระทำของเราเอง

ตัวภาพยนตร์นั้น เรามองว่าเขาก็ขายคุณแม่โจลี่จริงๆ แหล่ะ และแน่นอว่าคุณแม่เอาอยู่มากนะ
คือที่หนังดูมีพลัง ดูสนุกแบบนี้คือต้องยกความดีความชอบให้นางเลย นางแสดงได้ดีมาก
ไม่ว่าจะเป็นฉากต่อสู้ ฉากกวนประสาท ฉากอ่อนโยน ฉากตลก ฉากร้าย ฉากหวีด คุณแม่เป๊ะมาก
ที่ชอบเป็นพิเศษคือฉากตอนคุณแม่โดนสเตฟานหักหลัง เสียงกรีดร้องบาดลึกมาก แบบสงสารและเข้าข้างนางมากว่าทำไมนางแค้น
แต่ฉากที่สาปออโรร่าก็ชอบนะ แต่ไม่ได้ชอบตรง Well Well นะ เราเฉยๆ
เราชอบตอนคุณแม่ฉีกยิ้มกับตอนทำเสียงผิดหวังหงอยๆ มากกว่า มันแบบ แอร๊ย ขุ่นแม่ขา มันเริ่ดดด

เพี้ยนสู้สู้

แต่ในความมีพลังของคุณแม่ ก็ต้องปรบมือให้กับตัวเสริมอีกหลายๆ ตัวด้วย ที่ซัพพอร์ตคุณแม่ได้ดีมาก
เช่น อีกาเดียวัล (แซม ไรลีย์) ที่ซัพพอร์ตและเล่นคู่กับคุณแม่ได้ดีนะ ไม่โดนกลบ หรืออาจะเพราะบทก็คือไม่ได้ไฟท์กับคุณแม่
แม่มดสามช่า โดยเฉพาะแม่ตัวเขียว (จูโน เทมเปิล) นางดูเป็นพวก Legally Blonde มาก
และแน่นอน Imelda Staunton ...หรือยัยอัมบริดจ์ จากภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์
นางยังเล่นตัวละครน่ารังเกียจ ได้น่ารังเกียจและน่ารำคาญมากจริงๆ 5555555555555555

ส่วนน้องแอล แฟนนิ่งกับบทสาวบ้านนอกโง่ๆเจ้าหญิงออโรร่านั้น
อาจจะไม่ถึงขั้นเลอค่าประติมากรรมชั้นครูเหมือนโรสคนสวยในเวอร์ชั่นอนิเมชั่น แต่นางก็ดูน่ารัก น่าเอ็นดูมาก
แม้ว่าตอนยัยบีสท์ตี้ฉีกยิ้มร่าเริงใส่นางฟ้าแม่ทูนหัวของหล่อนจะดูไร้สติมากก็ตาม 555

รวมถึงตัวละครอื่นๆ ด้วยนะ เช่น พวกโทรลล์ในอาณาจักรมัวร์ หรือองค์รักษ์ต้นไม้
(อ้อ ไม่ลืมน้องวิเวียนลูกสาวคุณแม่โจลี่ด้วยนะ น่ารักน่าเอ็นดูที่ซู๊ด! กับฉาก Up Up)

และส่วนเสริมที่ทำให้หนังมีมากกว่าการสร้างอีกมุมมองหนึ่งให้น่าสนใจและสนุก คือมุขตลกในภาพยนตร์ที่ค่อนข้างเยอะทีเดียว
เยอะจนนั่นแหล่ะ...เราว่ามาเลฟิเซนต์เป็นหนังตลก

นอกรอบนิดนึง...

เรารอหนังเรื่องนี้มานานมาแล้ว ตั้งแต่โปรเจ็คยังไม่มีอะไรเลยนอกจากว่าจะมาเลฟิเซนต์เวอร์ชั่นคนแสดง โดยคุณแม่โจลี่
โดยส่วนตัวคือชอบการ์ตูนของดิสนีย์ยุคคลาสสิกและยุค Renaissance มาก แต่! Sleeping Beauty เป็นเรื่องที่เราดูน้อยที่สุด รองจาก Snow White
ทั้งที่ฟิลิปส์เป็นเจ้าชายที่เริ่ดที่สุดในบรรดาเจ้าชายดิสนีย์ (สำหรับเรา) หล่อ พ่อรวย ร้องเพลงได้ และมีประโยชน์!
แต่เรากลัวแม่ออโรร่าตัวเขียว ในฉากที่เดินขึ้นหอคอยเอานิ้วไปแทงเข็มปั่นด้ายมาก ... คือไม่ได้กลัวมาเลฟิเซนต์เล้ย กลัวยัยออโรร่าเนี่ย!

เราชอบเพลง Once Upon A Dream เวอร์ชั่นดั้งเดิมอยู่แล้วนะ (ฉบับภาษาอังกฤษ)
พอมาเวอร์ชั่นของ Lena Del Rey มันเข้ากับหน้าหนังดีมากๆ ฟังตอนดูหนังตัวอย่างในโรงแล้วชอบสุดๆ ตอนนี้เป็นเสียงเรียกเข้ามือถืออยู่ XD

อ้อ อีกนิดค่ะ ชอบคอสตูมคุณแม่ทุกชุดเลย
โดยเฉพาะชุดตอนที่ไฟท์กับคิงสเตฟานแล้วผ้าคลุมไหล่หลุด เหลือแต่บอดี้สูท ตอนแรกนึกว่าตาฝาด แต่มันเป็นบอดี้สูทจริงๆ ชุดหนังด้วยเปล่าไม่แน่ใจ
แต่ตอนคุณแม่ลุกขึ้นหน้าบัลลังค์แล้วปีกกลับมาเสียบ (?) หลังนาง อยากจะยืนแสตนดิ้งโอเวชั่นให้ขุ่นแม่! เท่ค่อด

แว้บนึงคิดว่าคุณแม่จะชักปืนคู่ขึ้นมายิงคิงสเตฟานทิ้งแบบใน Tomb Rider ... อัศวินขี่ม้าขาว
(ชุดอยู่ในสปอยนะจ๊ะ แต่รูปนี้ขายปีกอ่ะ เห็นชุดไม่เต็มตัว TT)

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ถ้าจะไปดู
- ถ้าคาดหวังความดาร์กมากอาจจะไม่ค่อยเหมาะ ค่อนข้างจะหนัง Feel Good รักเด็กเลยทีเดียว
- เป็นแฟนคุณแม่โจลี่ไม่ควรพลาดนะ อิอิ

บ่น
- เข้าโรงภาพยนตร์กรุณาปิดโทรศัพท์เถอะค่ะ ปิดเสียงแล้วมีคนโทรเข้าหน้าจอมันกระพริบ คุณไม่รับ แสงมันก็แยงตาคนอื่นไหม
- คือไม่ใช่อะไรนะคะ ตอนก่อนนั่งฉาย (ช่วงฟังเพลง) คนนั่งข้างๆ เราเขาจิกตาใส่ แล้วก็หันไปพูดกับคนที่มาด้วยว่าอย่าลืมปิดโทรศัพท์นะ ไม่มีมารยาท
- แล้ว?? ตัวเองก็ปล่อยให้หน้าจอกระพริบแยงตาชาวบ้านอยู่ห้ารอบเนี่ยนะ เพลีย =__=

แล้วไงต่อ?
- ควรแค่แก่การไปดูแบบ 3D / 4Dx และซื้อ Box Set เก็บม๊าก มากค่ะ คุณแม่ขา

สรุป
- ให้ 8/10
- หนังสนุกนะ ไม่ผิดหวัง แต่ให้คะแนนไม่เยอะมาก เพราะถ้าไม่ใช่คุณแม่โจลี่อาจจะไม่ดีงามเท่านี้
- หนังขายคุณแม่โจลี่จ้ะ (แหงล่ะ!)

ยาวมาก... ทำไมเขียนยาวขึ้นเรื่อยๆ จะมีคนอ่านไหมเนี่ย 555
ขอบคุณทุกท่านค่ะ หัวใจ
ชื่อสินค้า:   Maleficent (2014)
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่