How to train your dragon 2
จากภาคแรกที่เป็นฮิตเซอร์ไพรส์สนุกสนานบันเทิงเริงใจมากๆ จึงไม่แปลกที่หนังจะมีภาค 2 ออกมาให้ได้สนุกกันต่อครับ
ในภาคนี้หนังประเด็นหลักๆจะไปอยู่ที่การก้าวพ้นวัยมาสู่ผู้ใหญ่และภาระหน้าที่ความรับผิดชอบ แถมยังมีการใส่ดราม่าที่มีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้น เพราะมีเรื่องราวของการสูญเสียและการลาจาก รวมไปถึงการให้อภัย แต่มันก็ไม่ได้ดราม่ารุนแรงดาร์คมืดหม่นอะไรขนาดนั้นนะครับ อยู่ในระดับที่ทำให้เด็กรู้สึกเศร้าและรู้จักเรียนรู้ และการเติบโตในแบบที่หนังต้องการจะสื่อแก่นของหนังที่พูดถึงเด็กที่ต้องก้าวข้ามวัยมาสู่ผู้ใหญ่ และความรับผิดชอบที่มากขึ้น
อีกสิ่งหนึ่งที่ประทับใจในเรื่องนี้มาตั้งแต่ภาคแรกคือเรื่อวราวของครอบครัวที่มันดูอบอุ่น น่ารัก และน่าประทับใจดีทั้งสองภาค
แต่ในแง่ที่ผู้ใหญ่ไปดูแบบผมก็รู้สึกว่ามันแอบดรามาน้อยไปนิด รู้สึกว่าหนังสามารถลากอารมณ์ดรามาผู้ชมไปมากกว่านี้ได้ เรียกง่ายๆได้ว่ามันทำให้เศร้าและจุกได้กว่านี้ (แต่ก็อย่างว่านี่หนังเด็ก ไม่ใช่ Game of Thrones ซะหน่อยเนอะ ฮ่าๆๆๆๆ) และด้วยการคลี่คลายปมปัญหาที่ก็เข้าใจว่าตามสเตปหนังการ์ตูน แต่ผมรู้สึกว่ามันง่ายไปนิดไม่มีลูกเล่นอะไรให้ประหลาดใจก็ทำให้เนื้อเรื่องของภาคนี้ดูเป็นการ์ตูนๆไปหน่อยไม่มีอะไรแปลกใหม่ให้ได้ตื่นเต้นกัน
ในส่วนของความมหัศจรรย์ของโลกมังกรก็ทำได้ยิ่งใหญ่ดีครับ มีฉากแอ๊คชั่นที่ตระการตา สนุกสนาน มีฉากสงครามยิ่งใหญ่ มีฉากฟัดกันของมังกรเทียบกับไคจูระดับ 8 เรียกได้ว่าสนุกไม่แพ้ดูก๊อตซิลล่าเลย (เอาจริงๆเลยนะ ผมสนุกกว่าก๊อตซิลล่าหลายเท่าเลย) และก็ไม่รู้ว่าเรื่องนี้กับก๊อตซิลล่านี่ใครสร้างก่อนใคร ใครเลียนแบบใครเพราะช่วงท้ายๆนี่พลังของมังกรพระเอกยังกะก๊อตซิลล่าชัดๆ และที่ยังสร้างความประทับใจให้กับคนดูไม่รู้ลืมคือการโลดโผนโพนทะยานไปกับมังกรบนท้องฟ้ามันสนุกตื่นเต้นเหมือนนั่งรถไฟเหาะดีจริงๆ (เรื่องนี้เห็นว่า 3D เทพมากๆตั้งแต่ภาค 1 แล้ว แต่ผมไม่ได้ไปดูเลยบอกไม่ได้ว่าเป็นยังไง)
และที่ขาดไม่ได้เลย ไม่พูดไม่ได้เลยจริงๆ นั่นคือความน่ารักของมังกรในระดับที่เรียกว่าโคตรน่ารัก น่ารักมาก นี่มันหมาชัดๆ ไม่ใช่มังกร คนสร้างฉลาดมากที่เอาอุปนิสัยของหมา (รวมถึงแมว) เข้ามาใส่ให้เป็นบุคลิกของมังกรในเรื่อง ทำให้คนรักสัตว์จะรักมังกรในเรื่องนี้ทันทีที่เพียงเห็นมังกรแลบลิ้น แฮ่กๆ แล้วเรื่องนี้นี่แปลกไม่เหมือนสัตว์ประหลาดเรื่องอื่น คือมันดูเหนือจริงไม่สามารถหามาเลี้ยงได้ แต่ดูเรื่องนี้จบแล้วอยากออกมาหาหมาแมวเลี้ยงที่บ้านทันทีเลยครับ
ถึงแม้อาจจะมีดราม่าที่ผมรู้สึกว่ามันไม่สุดอยู่บ้าง รวมไปถึงความแปลกใหม่ที่รู้สึกด้อยกว่าภาคแรกเล็กน้อย แต่ยังไงก็เป็นหนังที่สนุกสมความคาดหมาย มีดราม่าให้ได้ตื้นตัน มีแอ๊คชั่นมันส์ตระการตา แถมมังกรก็น่ารักสุดๆ
สรุปแล้วไอ้หนังที่ไม่ได้คาดหวังนี่สนุกบันเทิงใจแบบเหนือความคาดหมายแทบจะทุกเรื่องเลยปีนี้ (ไล่มาตั้งแต่ Lego / Need for Speed / Edge of tomorrow ) แต่กลับหนังที่คาดหวังมากๆอย่าง Godzilla / Spider-Man นี่กลับไม่สนุกแบบที่คิดเลย
>>>> B <<<<
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=889361787747533&set=a.261764163840635.83587.246975608652824&type=1&relevant_count=1
อยากพูดคุยเรื่องหนัง อ่านรีวิวหนัง ก็ไปคุยที่เพจ JackobotReview ได้นะคร้าบ
https://www.facebook.com/JacKobotReview
[CR] รีวิว How to train your dragon 2 หนังสนุก แอ๊คชั่นยิ่งใหญ่ ฉากมังกรฟัดกันมันส์พอๆกับก๊อตซิลล่า
How to train your dragon 2
จากภาคแรกที่เป็นฮิตเซอร์ไพรส์สนุกสนานบันเทิงเริงใจมากๆ จึงไม่แปลกที่หนังจะมีภาค 2 ออกมาให้ได้สนุกกันต่อครับ
ในภาคนี้หนังประเด็นหลักๆจะไปอยู่ที่การก้าวพ้นวัยมาสู่ผู้ใหญ่และภาระหน้าที่ความรับผิดชอบ แถมยังมีการใส่ดราม่าที่มีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้น เพราะมีเรื่องราวของการสูญเสียและการลาจาก รวมไปถึงการให้อภัย แต่มันก็ไม่ได้ดราม่ารุนแรงดาร์คมืดหม่นอะไรขนาดนั้นนะครับ อยู่ในระดับที่ทำให้เด็กรู้สึกเศร้าและรู้จักเรียนรู้ และการเติบโตในแบบที่หนังต้องการจะสื่อแก่นของหนังที่พูดถึงเด็กที่ต้องก้าวข้ามวัยมาสู่ผู้ใหญ่ และความรับผิดชอบที่มากขึ้น
อีกสิ่งหนึ่งที่ประทับใจในเรื่องนี้มาตั้งแต่ภาคแรกคือเรื่อวราวของครอบครัวที่มันดูอบอุ่น น่ารัก และน่าประทับใจดีทั้งสองภาค
แต่ในแง่ที่ผู้ใหญ่ไปดูแบบผมก็รู้สึกว่ามันแอบดรามาน้อยไปนิด รู้สึกว่าหนังสามารถลากอารมณ์ดรามาผู้ชมไปมากกว่านี้ได้ เรียกง่ายๆได้ว่ามันทำให้เศร้าและจุกได้กว่านี้ (แต่ก็อย่างว่านี่หนังเด็ก ไม่ใช่ Game of Thrones ซะหน่อยเนอะ ฮ่าๆๆๆๆ) และด้วยการคลี่คลายปมปัญหาที่ก็เข้าใจว่าตามสเตปหนังการ์ตูน แต่ผมรู้สึกว่ามันง่ายไปนิดไม่มีลูกเล่นอะไรให้ประหลาดใจก็ทำให้เนื้อเรื่องของภาคนี้ดูเป็นการ์ตูนๆไปหน่อยไม่มีอะไรแปลกใหม่ให้ได้ตื่นเต้นกัน
ในส่วนของความมหัศจรรย์ของโลกมังกรก็ทำได้ยิ่งใหญ่ดีครับ มีฉากแอ๊คชั่นที่ตระการตา สนุกสนาน มีฉากสงครามยิ่งใหญ่ มีฉากฟัดกันของมังกรเทียบกับไคจูระดับ 8 เรียกได้ว่าสนุกไม่แพ้ดูก๊อตซิลล่าเลย (เอาจริงๆเลยนะ ผมสนุกกว่าก๊อตซิลล่าหลายเท่าเลย) และก็ไม่รู้ว่าเรื่องนี้กับก๊อตซิลล่านี่ใครสร้างก่อนใคร ใครเลียนแบบใครเพราะช่วงท้ายๆนี่พลังของมังกรพระเอกยังกะก๊อตซิลล่าชัดๆ และที่ยังสร้างความประทับใจให้กับคนดูไม่รู้ลืมคือการโลดโผนโพนทะยานไปกับมังกรบนท้องฟ้ามันสนุกตื่นเต้นเหมือนนั่งรถไฟเหาะดีจริงๆ (เรื่องนี้เห็นว่า 3D เทพมากๆตั้งแต่ภาค 1 แล้ว แต่ผมไม่ได้ไปดูเลยบอกไม่ได้ว่าเป็นยังไง)
และที่ขาดไม่ได้เลย ไม่พูดไม่ได้เลยจริงๆ นั่นคือความน่ารักของมังกรในระดับที่เรียกว่าโคตรน่ารัก น่ารักมาก นี่มันหมาชัดๆ ไม่ใช่มังกร คนสร้างฉลาดมากที่เอาอุปนิสัยของหมา (รวมถึงแมว) เข้ามาใส่ให้เป็นบุคลิกของมังกรในเรื่อง ทำให้คนรักสัตว์จะรักมังกรในเรื่องนี้ทันทีที่เพียงเห็นมังกรแลบลิ้น แฮ่กๆ แล้วเรื่องนี้นี่แปลกไม่เหมือนสัตว์ประหลาดเรื่องอื่น คือมันดูเหนือจริงไม่สามารถหามาเลี้ยงได้ แต่ดูเรื่องนี้จบแล้วอยากออกมาหาหมาแมวเลี้ยงที่บ้านทันทีเลยครับ
ถึงแม้อาจจะมีดราม่าที่ผมรู้สึกว่ามันไม่สุดอยู่บ้าง รวมไปถึงความแปลกใหม่ที่รู้สึกด้อยกว่าภาคแรกเล็กน้อย แต่ยังไงก็เป็นหนังที่สนุกสมความคาดหมาย มีดราม่าให้ได้ตื้นตัน มีแอ๊คชั่นมันส์ตระการตา แถมมังกรก็น่ารักสุดๆ
สรุปแล้วไอ้หนังที่ไม่ได้คาดหวังนี่สนุกบันเทิงใจแบบเหนือความคาดหมายแทบจะทุกเรื่องเลยปีนี้ (ไล่มาตั้งแต่ Lego / Need for Speed / Edge of tomorrow ) แต่กลับหนังที่คาดหวังมากๆอย่าง Godzilla / Spider-Man นี่กลับไม่สนุกแบบที่คิดเลย
>>>> B <<<<
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=889361787747533&set=a.261764163840635.83587.246975608652824&type=1&relevant_count=1
อยากพูดคุยเรื่องหนัง อ่านรีวิวหนัง ก็ไปคุยที่เพจ JackobotReview ได้นะคร้าบ
https://www.facebook.com/JacKobotReview