บทก่อนหน้า
บทที่ ๑
http://ppantip.com/topic/32012168
บทที่ ๒
http://ppantip.com/topic/32150649
บทที่ ๓
ปรวีร์เดินออกมาจากห้องในชุดกางเกงว่ายน้ำแบบกางเกงขาสั้น เนื้อตัวส่วนบนเปลือยเปล่า มีเพียงผ้าขนหนูสีขาวสะอาดพาดบ่าอยู่เท่านั้น ชายหนุ่มชะงักไปนิดเมื่อมองเห็นผู้อาศัยร่วมบ้านนั่งอยู่ที่โต๊ะรับประทานอาหาร ดูตั้งอกตั้งใจกับจอแลปทอปตรงหน้า หญิงสาวอยู่ในชุดเสื้อกล้ามหลวม ๆ สีขาวที่มองเห็นทะลุไปถึงชั้นในที่โอบอุ้มเนินเนื้อเต่งตึง กางเกงขาสั้นจู๋สีชมพูอวดเรียวขายาวตึงแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อน่ามอง ผมตรงยาวสีดำเป็นเงาถูกผูกเป็นหางม้าหลวม ๆ และดูเหมือนคนที่ตั้งอกตั้งใจกับจอคอมพิวเตอร์ตรงหน้าจะรู้สึกได้ถึงพลังจากสายตาของเขา จึงเงยหน้าขึ้นจากหน้าจอ และเปิดยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าเป็นเขายืนอยู่
“พี่วี มอร์นิ่งค่ะ จะไปไหนคะนั่น”
“มอร์นิ่งครับน้องดา พี่วีจะไปว่ายน้ำ น้องดา... เอ่อ... ตื่นเช้าจัง” เขาพูดตะกุกตะกัก รู้สึกราวกับเด็กซนที่ทำผิดแล้วถูกจับได้ เพราะแอบยืนมองเธออยู่ตั้งนานสองนาน
“คงเพราะยังชินกับเวลาที่นู่นมังคะเลยตื่นเร็ว” ตอบแล้วก็เบิกตาโตเมื่อนึกอะไรขึ้นได้
“น้องดาไปว่ายน้ำกับพี่วีดีกว่า รอแป๊บนะคะ ขอน้องดาเปลี่ยนเสื้อผ้าแป๊บเดียว” ว่าแล้วก็เดินเข้าห้องตนเองไป พักหนึ่งก็เดินออกมาในชุดว่ายน้ำแบบบิกินี่สองชิ้น เปิดเผยเรือนร่างระหงสมส่วน ที่ทำให้คนมองถึงกลับแอบกลืนน้ำลาย
“พี่วีช่วยทาครีมที่หลังให้น้องดาหน่อยได้ไหมคะ” ว่าพลางยื่นหลอดครีมกันแดดส่งให้คนที่ยืนเป็นใบ้อยู่ตรงหน้า ก่อนจะหันหลังอำนวยความสะดวกให้เต็มที่
ปรวีร์ยื่นมือรับหลอดครีมมาบีบลงบนฝ่ามือ ลูบไล้แผ่วเบาไปทั่วแผ่นหลังเนียนละมุนมือ ผิวเนื้อเปลือยเปล่าของหญิงสาวที่กำลังสัมผัส ทำให้ชายหนุ่มถึงกับหายใจติดขัด ยายน้องดาจะรู้ไหมว่าพี่วีต้องข่มใจแค่ไหน
“เสร็จแล้ว...” บอกเสียงแผ่ว
“ขอบคุณค่ะพี่วี มา... เดี๋ยวน้องดาจะทาให้พี่วีบ้าง หันหลังมาสิคะ” บอกพลางยื่นมือมารับหลอดครีมกันแดดจากมือใหญ่
“ไม่... เอ่อ... ไม่เป็นไรหรอกน้องดา พี่วีไม่ทาก็ได้ เช้าขนาดนี้ยังไม่มีแดดเลย” ตอบตะกุกตะกัก เขาอยากออกไปจากสถานการณ์ถึงเนื้อถึงตัวนี้เร็ว ๆ แต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่ได้รับรู้ถึงความว้าวุ่นที่เขากำลังรู้สึกทั้งใจและกายเลย เพราะเธอยังส่งเสียงแจ้ว ๆ
“ไม่ได้หรอกค่ะพี่วี ถึงจะยังไม่มีแดด แต่ก็มีรังสียูวีแล้ว ป้องกันไว้ก่อนค่ะ ยิ่งพี่วีอยู่ใกล้ทะเล เจอแดดตลอดเวลาแบบนี้ ถ้าไม่ทาครีมกันแดดป้องกันดี ๆ เดี๋ยวมะเร็งผิวหนังจะถามหาเอา” ว่าแล้วก็บีบครีมแล้วลูบไล้ลงไปบนแผ่นหลังกว้างอย่างตั้งอกตั้งใจ
“หืม..ม..ม.. พี่วีขา เนื้อแน่นมาก ๆ เลย ไม่มีไขมันส่วนเกินแม้แต่นิดเดียว พี่วีนี่หุ่นทรมานใจสาวมาก ๆ ไหนขอดูด้านหน้าหน่อยซิ” ว่าแล้วก็เดินวนมายืนตรงหน้าเขา ก่อนจะกล่าวถึงรูปร่างของเขาอย่างชื่นชม
“โอ้โห กล้ามท้องแข็งเป๊ก แบบนี้ค่อยคุยกันได้หน่อย” พูดพลางยื่นมือไปชกเบา ๆ ที่หน้าท้องของชายหนุ่ม โดยไม่รู้เลยว่าคนถูกชกกำลังกลั้นหายใจ เมื่อมองเห็นร่างสมส่วนในชุดเสื้อผ้าน้อยชิ้นตรงหน้าเต็มตา
“น้องดา... เอ่อ... หมายความว่าไง”
“ก็หมายความว่า พี่วีมีไลฟ์สไตล์ที่แอคทีฟน่ะสิคะ ถึงได้ไม่อ้วนลงพุง ตอนแรกน้องดาเกรงว่าพี่วีจะเป็นผู้บริหาร อยู่แต่ในออฟฟิศแล้วไม่มีกิจกรรมเสียเหงื่อ แบบนั้นน่าเบื่อตายเลย แต่นี่แปลว่าพี่วีออกกำลังกายประจำ น้องดาก็จะได้มีเพื่อน... ไปกันเถอะค่ะ” ตอบแล้วก็กล่าวชวนพลางเดินนำไปก่อน ทำให้ชายหนุ่มถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก และสามารถพูดคุยกับเธอได้เป็นปกติโดยไม่ต้องกลั้นหายใจตลอดเวลาเช่นก่อนหน้านี้
“อ้าว ไม่ว่ายที่สระหรือคะ” ถามอย่างแปลกใจเมื่อเดินออกจากบ้านแล้วชายหนุ่มพาเธอเดินเลยสระว่ายน้ำไป
“เปล่าครับ พี่วีว่ายน้ำในทะเล” ตอบพลางพาคนข้าง ๆ เดินไปตามทางเดินเล็ก ๆ ที่ทอดลงสู่ผืนอ่าวเบื้องล่าง
หลังจากเดินเคียงกันไปเงียบ ๆ ไม่กี่นาที ทั้งสองก็เดินมาถึงชายหาดที่มีผืนทรายสีขาวละเอียดทอดยาว แผ่นน้ำสีครามด้านหน้าราบเรียบ มองเห็นเรือยอชต์น้อยใหญ่ลอยลำอยู่จำนวนหนึ่ง
สองหนุ่มสาวโถมตัวลงน้ำก่อนจะยกแขนจ้วงว่ายน้ำแข่งกันโดยไม่ได้นัดหมาย แต่ก็สนุกสนานกับเกมการแข่งขันที่ทำให้รู้สึกว่าร่างกายได้ใช้กำลังอย่างถึงอกถึงใจ จวบจนพระอาทิตย์เริ่มส่องแสงและรู้สึกหิว ฝ่ายหญิงสาวจึงกล่าวชวนอีกคนขึ้นจากน้ำ
“ขึ้นกันเถอะค่ะพี่วี เริ่มหิวแล้ว ไปกินติ่มซำกัน”
“ไปสิ ไปสายเดี๋ยวจะหมดก่อน อดกิน แล้วเดี๋ยวพี่วีต้องกลับมาทำงานด้วย” เขาตอบพลางเดินขึ้นจากน้ำมาหยิบผ้าเช็ดตัวที่วางอยู่บนบนเก้าอี้ขึ้นมาเช็ดเนื้อเช็ดตัว ซึ่งหญิงสาวก็ทำอย่างเดียวกัน ก่อนที่จะเดินตามกันกลับไปยังบ้านพัก เพื่ออาบน้ำชำระร่างกาย เตรียมตัวออกไปหาติ่มซำรับประทานตามแผนที่คนตัวเล็กกว่าวางไว้ตั้งแต่เมื่อคืน
ปรวีร์พาคนหิวมาที่ร้านติ่มซำดั้งเดิมของภูเก็ต ซึ่งแม้จะมากันแต่เช้า แต่ก็ยังช้ากว่าชาวเมืองที่ออกมาหาอาหารเช้ารับประทาน ซึ่งโดยปกติ อาหารเช้าของชาวภูเก็ตจะเป็นขนมจีนหรือติ่มซำ ทำให้ร้านติ่มซำเปิดให้บริการตั้งแต่ฟ้าสาง และเวลาเกือบสายเพียงแค่แปดนาฬิกาเช่นนี้ ร้านก็เนืองแน่นไปด้วยผู้คนเสียแล้ว
หลังจากมีโต๊ะว่าง สองหนุ่มสาวก็เริ่มสั่งอาหารในทันที คนที่ไปอยู่ต่างประเทศเสียหลายปีสั่งสารพัดติ่มซำที่มีในร้าน แทบจะจิ้มไปทุกรายการบนเมนู และเมื่ออาหารถูกนำมาเสิร์ฟและวางเต็มโต๊ะ หญิงสาวก็ลงมือรับประทานด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย
“อื้ม..ม..ม..” ส่งเสียงครางพร้อมหลับตาพริ้มหลังจากใช้ตะเกียบคีบขนมจีบปูจากจาน แล้วจิ้มซอสสีคล้ายซอสมะเขือเทศในถ้วยซอสใบเล็กส่งเข้าปากในคำเดียว
“ซอสติ่มซำ หวาน ๆ เผ็ดนิด ๆ คิดถึงเธอจังเลย” เสียงพึมพำของคนตรงหน้า ทำให้ปรวีร์ถึงกับหัวเราะ ก็ท่าทางของเธอดูมีความสุขราวกับล่องลอยอยู่บนสรวงสวรรค์ก็ไม่ปาน
“พี่วีลองนี่ค่ะ อันนี้สาหร่ายห่อหมู อร่อยมาก ๆ” ว่าพลางคีบสาหร่ายห่อหมูวางบนจานให้ชายหนุ่ม ก่อนที่จะยื่นตะเกียบไปยังจานต่อไป
“ส่วนนี่ฮะเก๋าค่ะ เลิศเลอสุด ๆ” โฆษณาแล้วก็คีบฮะเก๋าส่งให้ ก่อนที่จะเวียนไปยังจานอื่น ๆ คีบใส่จานให้ตนเองบ้าง คีบส่งให้คนนั่งตรงข้ามบ้าง พลางชื่นชมรสชาติของอาหารไม่ขาดปาก
“น้องดาครับ กินแบบนี้ไม่กลัวอ้วนหรือไง” ถามอย่างอดไม่ได้ เขานึกว่าพวกสาว ๆ จะกลัวน้ำหนักขึ้นกัน อย่างพิลาสลักษณ์ที่มีโอกาสรับประทานอาหารด้วยกันบ่อย ๆ ก็ดูจะระมัดระวังเรื่องอาหารการกินอยู่ไม่น้อย แต่ทำไมยายตัวดีภรรยาของเขาถึงได้รับประทานแบบไม่ห่วงสวยเช่นนี้
“โธ่ กลัวอะไรกันคะพี่วี วัน ๆ น้องดาใช้พลังงานเยอะจะตายไป กินแค่นี้ไม่อ้วนหรอกค่ะ อีกอย่างน้องดาก็ไม่ได้สวาปามแบบนี้ทุกวันเสียหน่อย แค่ตอนนี้เท่านั้นล่ะค่ะ น้องดาเพิ่งกลับมา อะไรก็น่ากินไปหมดเลย” ว่าแล้วก็คีบติ่มซำเข้าปาก ยืนยันว่าอะไรก็น่ารับประทานไปเสียหมดจริง ๆ
หลังจัดการกับอาหารเช้าที่ปรวีร์คิดว่าไม่น่าจะหมดแต่ก็หมดเรียบร้อยดี สองหนุ่มสาวก็เดินทางกลับรีสอร์ทเพื่อที่ชายหนุ่มจะได้กลับไปทำงาน โดยที่อีกคนขอติดสอยห้อยตามไปด้วย
พันธนาการสีกุหลาบ บทที่ ๓
บทที่ ๑ http://ppantip.com/topic/32012168
บทที่ ๒ http://ppantip.com/topic/32150649
ปรวีร์เดินออกมาจากห้องในชุดกางเกงว่ายน้ำแบบกางเกงขาสั้น เนื้อตัวส่วนบนเปลือยเปล่า มีเพียงผ้าขนหนูสีขาวสะอาดพาดบ่าอยู่เท่านั้น ชายหนุ่มชะงักไปนิดเมื่อมองเห็นผู้อาศัยร่วมบ้านนั่งอยู่ที่โต๊ะรับประทานอาหาร ดูตั้งอกตั้งใจกับจอแลปทอปตรงหน้า หญิงสาวอยู่ในชุดเสื้อกล้ามหลวม ๆ สีขาวที่มองเห็นทะลุไปถึงชั้นในที่โอบอุ้มเนินเนื้อเต่งตึง กางเกงขาสั้นจู๋สีชมพูอวดเรียวขายาวตึงแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อน่ามอง ผมตรงยาวสีดำเป็นเงาถูกผูกเป็นหางม้าหลวม ๆ และดูเหมือนคนที่ตั้งอกตั้งใจกับจอคอมพิวเตอร์ตรงหน้าจะรู้สึกได้ถึงพลังจากสายตาของเขา จึงเงยหน้าขึ้นจากหน้าจอ และเปิดยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าเป็นเขายืนอยู่
“พี่วี มอร์นิ่งค่ะ จะไปไหนคะนั่น”
“มอร์นิ่งครับน้องดา พี่วีจะไปว่ายน้ำ น้องดา... เอ่อ... ตื่นเช้าจัง” เขาพูดตะกุกตะกัก รู้สึกราวกับเด็กซนที่ทำผิดแล้วถูกจับได้ เพราะแอบยืนมองเธออยู่ตั้งนานสองนาน
“คงเพราะยังชินกับเวลาที่นู่นมังคะเลยตื่นเร็ว” ตอบแล้วก็เบิกตาโตเมื่อนึกอะไรขึ้นได้
“น้องดาไปว่ายน้ำกับพี่วีดีกว่า รอแป๊บนะคะ ขอน้องดาเปลี่ยนเสื้อผ้าแป๊บเดียว” ว่าแล้วก็เดินเข้าห้องตนเองไป พักหนึ่งก็เดินออกมาในชุดว่ายน้ำแบบบิกินี่สองชิ้น เปิดเผยเรือนร่างระหงสมส่วน ที่ทำให้คนมองถึงกลับแอบกลืนน้ำลาย
“พี่วีช่วยทาครีมที่หลังให้น้องดาหน่อยได้ไหมคะ” ว่าพลางยื่นหลอดครีมกันแดดส่งให้คนที่ยืนเป็นใบ้อยู่ตรงหน้า ก่อนจะหันหลังอำนวยความสะดวกให้เต็มที่
ปรวีร์ยื่นมือรับหลอดครีมมาบีบลงบนฝ่ามือ ลูบไล้แผ่วเบาไปทั่วแผ่นหลังเนียนละมุนมือ ผิวเนื้อเปลือยเปล่าของหญิงสาวที่กำลังสัมผัส ทำให้ชายหนุ่มถึงกับหายใจติดขัด ยายน้องดาจะรู้ไหมว่าพี่วีต้องข่มใจแค่ไหน
“เสร็จแล้ว...” บอกเสียงแผ่ว
“ขอบคุณค่ะพี่วี มา... เดี๋ยวน้องดาจะทาให้พี่วีบ้าง หันหลังมาสิคะ” บอกพลางยื่นมือมารับหลอดครีมกันแดดจากมือใหญ่
“ไม่... เอ่อ... ไม่เป็นไรหรอกน้องดา พี่วีไม่ทาก็ได้ เช้าขนาดนี้ยังไม่มีแดดเลย” ตอบตะกุกตะกัก เขาอยากออกไปจากสถานการณ์ถึงเนื้อถึงตัวนี้เร็ว ๆ แต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่ได้รับรู้ถึงความว้าวุ่นที่เขากำลังรู้สึกทั้งใจและกายเลย เพราะเธอยังส่งเสียงแจ้ว ๆ
“ไม่ได้หรอกค่ะพี่วี ถึงจะยังไม่มีแดด แต่ก็มีรังสียูวีแล้ว ป้องกันไว้ก่อนค่ะ ยิ่งพี่วีอยู่ใกล้ทะเล เจอแดดตลอดเวลาแบบนี้ ถ้าไม่ทาครีมกันแดดป้องกันดี ๆ เดี๋ยวมะเร็งผิวหนังจะถามหาเอา” ว่าแล้วก็บีบครีมแล้วลูบไล้ลงไปบนแผ่นหลังกว้างอย่างตั้งอกตั้งใจ
“หืม..ม..ม.. พี่วีขา เนื้อแน่นมาก ๆ เลย ไม่มีไขมันส่วนเกินแม้แต่นิดเดียว พี่วีนี่หุ่นทรมานใจสาวมาก ๆ ไหนขอดูด้านหน้าหน่อยซิ” ว่าแล้วก็เดินวนมายืนตรงหน้าเขา ก่อนจะกล่าวถึงรูปร่างของเขาอย่างชื่นชม
“โอ้โห กล้ามท้องแข็งเป๊ก แบบนี้ค่อยคุยกันได้หน่อย” พูดพลางยื่นมือไปชกเบา ๆ ที่หน้าท้องของชายหนุ่ม โดยไม่รู้เลยว่าคนถูกชกกำลังกลั้นหายใจ เมื่อมองเห็นร่างสมส่วนในชุดเสื้อผ้าน้อยชิ้นตรงหน้าเต็มตา
“น้องดา... เอ่อ... หมายความว่าไง”
“ก็หมายความว่า พี่วีมีไลฟ์สไตล์ที่แอคทีฟน่ะสิคะ ถึงได้ไม่อ้วนลงพุง ตอนแรกน้องดาเกรงว่าพี่วีจะเป็นผู้บริหาร อยู่แต่ในออฟฟิศแล้วไม่มีกิจกรรมเสียเหงื่อ แบบนั้นน่าเบื่อตายเลย แต่นี่แปลว่าพี่วีออกกำลังกายประจำ น้องดาก็จะได้มีเพื่อน... ไปกันเถอะค่ะ” ตอบแล้วก็กล่าวชวนพลางเดินนำไปก่อน ทำให้ชายหนุ่มถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก และสามารถพูดคุยกับเธอได้เป็นปกติโดยไม่ต้องกลั้นหายใจตลอดเวลาเช่นก่อนหน้านี้
“อ้าว ไม่ว่ายที่สระหรือคะ” ถามอย่างแปลกใจเมื่อเดินออกจากบ้านแล้วชายหนุ่มพาเธอเดินเลยสระว่ายน้ำไป
“เปล่าครับ พี่วีว่ายน้ำในทะเล” ตอบพลางพาคนข้าง ๆ เดินไปตามทางเดินเล็ก ๆ ที่ทอดลงสู่ผืนอ่าวเบื้องล่าง
หลังจากเดินเคียงกันไปเงียบ ๆ ไม่กี่นาที ทั้งสองก็เดินมาถึงชายหาดที่มีผืนทรายสีขาวละเอียดทอดยาว แผ่นน้ำสีครามด้านหน้าราบเรียบ มองเห็นเรือยอชต์น้อยใหญ่ลอยลำอยู่จำนวนหนึ่ง
สองหนุ่มสาวโถมตัวลงน้ำก่อนจะยกแขนจ้วงว่ายน้ำแข่งกันโดยไม่ได้นัดหมาย แต่ก็สนุกสนานกับเกมการแข่งขันที่ทำให้รู้สึกว่าร่างกายได้ใช้กำลังอย่างถึงอกถึงใจ จวบจนพระอาทิตย์เริ่มส่องแสงและรู้สึกหิว ฝ่ายหญิงสาวจึงกล่าวชวนอีกคนขึ้นจากน้ำ
“ขึ้นกันเถอะค่ะพี่วี เริ่มหิวแล้ว ไปกินติ่มซำกัน”
“ไปสิ ไปสายเดี๋ยวจะหมดก่อน อดกิน แล้วเดี๋ยวพี่วีต้องกลับมาทำงานด้วย” เขาตอบพลางเดินขึ้นจากน้ำมาหยิบผ้าเช็ดตัวที่วางอยู่บนบนเก้าอี้ขึ้นมาเช็ดเนื้อเช็ดตัว ซึ่งหญิงสาวก็ทำอย่างเดียวกัน ก่อนที่จะเดินตามกันกลับไปยังบ้านพัก เพื่ออาบน้ำชำระร่างกาย เตรียมตัวออกไปหาติ่มซำรับประทานตามแผนที่คนตัวเล็กกว่าวางไว้ตั้งแต่เมื่อคืน
ปรวีร์พาคนหิวมาที่ร้านติ่มซำดั้งเดิมของภูเก็ต ซึ่งแม้จะมากันแต่เช้า แต่ก็ยังช้ากว่าชาวเมืองที่ออกมาหาอาหารเช้ารับประทาน ซึ่งโดยปกติ อาหารเช้าของชาวภูเก็ตจะเป็นขนมจีนหรือติ่มซำ ทำให้ร้านติ่มซำเปิดให้บริการตั้งแต่ฟ้าสาง และเวลาเกือบสายเพียงแค่แปดนาฬิกาเช่นนี้ ร้านก็เนืองแน่นไปด้วยผู้คนเสียแล้ว
หลังจากมีโต๊ะว่าง สองหนุ่มสาวก็เริ่มสั่งอาหารในทันที คนที่ไปอยู่ต่างประเทศเสียหลายปีสั่งสารพัดติ่มซำที่มีในร้าน แทบจะจิ้มไปทุกรายการบนเมนู และเมื่ออาหารถูกนำมาเสิร์ฟและวางเต็มโต๊ะ หญิงสาวก็ลงมือรับประทานด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย
“อื้ม..ม..ม..” ส่งเสียงครางพร้อมหลับตาพริ้มหลังจากใช้ตะเกียบคีบขนมจีบปูจากจาน แล้วจิ้มซอสสีคล้ายซอสมะเขือเทศในถ้วยซอสใบเล็กส่งเข้าปากในคำเดียว
“ซอสติ่มซำ หวาน ๆ เผ็ดนิด ๆ คิดถึงเธอจังเลย” เสียงพึมพำของคนตรงหน้า ทำให้ปรวีร์ถึงกับหัวเราะ ก็ท่าทางของเธอดูมีความสุขราวกับล่องลอยอยู่บนสรวงสวรรค์ก็ไม่ปาน
“พี่วีลองนี่ค่ะ อันนี้สาหร่ายห่อหมู อร่อยมาก ๆ” ว่าพลางคีบสาหร่ายห่อหมูวางบนจานให้ชายหนุ่ม ก่อนที่จะยื่นตะเกียบไปยังจานต่อไป
“ส่วนนี่ฮะเก๋าค่ะ เลิศเลอสุด ๆ” โฆษณาแล้วก็คีบฮะเก๋าส่งให้ ก่อนที่จะเวียนไปยังจานอื่น ๆ คีบใส่จานให้ตนเองบ้าง คีบส่งให้คนนั่งตรงข้ามบ้าง พลางชื่นชมรสชาติของอาหารไม่ขาดปาก
“น้องดาครับ กินแบบนี้ไม่กลัวอ้วนหรือไง” ถามอย่างอดไม่ได้ เขานึกว่าพวกสาว ๆ จะกลัวน้ำหนักขึ้นกัน อย่างพิลาสลักษณ์ที่มีโอกาสรับประทานอาหารด้วยกันบ่อย ๆ ก็ดูจะระมัดระวังเรื่องอาหารการกินอยู่ไม่น้อย แต่ทำไมยายตัวดีภรรยาของเขาถึงได้รับประทานแบบไม่ห่วงสวยเช่นนี้
“โธ่ กลัวอะไรกันคะพี่วี วัน ๆ น้องดาใช้พลังงานเยอะจะตายไป กินแค่นี้ไม่อ้วนหรอกค่ะ อีกอย่างน้องดาก็ไม่ได้สวาปามแบบนี้ทุกวันเสียหน่อย แค่ตอนนี้เท่านั้นล่ะค่ะ น้องดาเพิ่งกลับมา อะไรก็น่ากินไปหมดเลย” ว่าแล้วก็คีบติ่มซำเข้าปาก ยืนยันว่าอะไรก็น่ารับประทานไปเสียหมดจริง ๆ
หลังจัดการกับอาหารเช้าที่ปรวีร์คิดว่าไม่น่าจะหมดแต่ก็หมดเรียบร้อยดี สองหนุ่มสาวก็เดินทางกลับรีสอร์ทเพื่อที่ชายหนุ่มจะได้กลับไปทำงาน โดยที่อีกคนขอติดสอยห้อยตามไปด้วย