เนื่องจากช่วงนี้เจอ “สิ่งดีดีมานำเสนอ” ติดๆกันแบบไม่ทันตั้งตัว(เพื่อนเก่าไม่เจอกันสิบปี มาขอคำปรึกษา เจือกพา Upline มาด้วย) ไม่รู้ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น เลยขอแชร์ความรู้เกี่ยวกับ แชร์ลูกโซ่กับ MLM มา แบบเนื้อๆ ไม่มีน้ำมา ณ ที่นี้
Q: MLM คืออะไร ทำไมต้องหา Downline
A: การทำธุรกิจแบบนึง ซึ่งถ้าเราช่วยขายเราจะได้ค่า Commission เป็นทอดๆ จากคนที่อยู่ใต้เรา
Q: อ้าวงี้ก้อดีสิครับ ทำไม่ถึงมีคนรังเกียจล่ะ
A: เพราะส่วนใหญ่ของจะแพงกว่าท้องตลาด เพราะต้องกันเงินไว้ให้เครือข่ายไง พอของแพงก้อขายยาก และทุกคนไม่ได้เป็นนักขาย ดังนั้นคนส่วนใหญ่ของระบบ จึงต้องซื้อของแพงกว่าตลาด(มาก) เพื่อเลี้ยงคนข้างบนไงครับ
Q: อ้าวแล้วไหงบอกว่ามีคนประสบความสำเร็จมีคนรวยเป็นล้าน
A: เอางี้ งั้นดูค่าเฉลี่ยก่อน ยกตัวอย่าง อย่าง Amway ที่ใหญ่ที่สุด ปี 2554 มียอด 15500 ล้านบาท
(อ้างอิง https://www.amwayshopping.com/amwayshopping-frontend/shopping/contentPage?id=6129
)

สมมุติว่า สมาชิกมีรายได้จาก Amway เดือนละ 15,000 เท่ากับปีละ 180,000 บาท

เอายอดขายมา หาร รายได้ดื้อๆ เท่ากับ Amway จะมีศักยภาพ เลี้ยงสมาชิกได้ 86,111 คน (15500 / 0.18)

แต่ด้วยระบบ Pyramid ทำให้การแบ่งรายได้ แบบคนข้างบนได้เป็นทวีคูณ คุณวอหลักสี่ได้ใช้ Model ทางคณิตศาสตร์ พบว่าสมาชิกที่มีรายได้มากกว่า 15,000 ต่อเดือนมีเพียง 3200 + 800 + 200 หรือ 4,000 คน จากยอดสมาชิก 440,000 เท่านั้น!
(http://topicstock.ppantip.com/wahkor/topicstock/2010/08/X9536530/X9536530.html
)

Q: โหอย่างนี้หมายความว่า ถ้าอยากได้เงินเดือนเป็นหมื่น ก้อต้อง...
A: ใช่ครับ ก้อต้องหา “Downline” หรือ “ลูกค้า” ประมาณ 2 พันคนน่ะครับ
Q: อย่างนี้ ถ้าเราขายของวิธีปกติ แล้วได้ Commission คนละ 100 บาท
A: ก้อรายได้ 2 แสนน่ะครับ ไม่ต้องจัดสัมมนา อบรม ใดใดทั้งสิ้น

เด๋วมาต่อนะครับ