ปฏิรูปบ้านเมืองแล้ว ควรจะต้องปฏิรูปวงการคณะสงฆ์ไทยบ้าง ขืนปล่อยให้วงการสงฆ์ไทยมีนักบวชอลัชชีต่อไป แล้วพุทธศาสนิกชนจะหวังพึ่งอาศัยใคร หากบ้านเมืองนี้มีแต่
- ภิกษุเล่นการพนัน มั่วสุมซ่องโจร แทงบอล เล่นหวย เล่นเกมออนไลน์ เป็นเจ้ามือหวยเถื่อน เป็นเจ้ามือเท้าแชร์ ตั้งวงเล่นไพ่ เล่นไฮโล และการพนันทุกชนิด
- ภิกษุกินเหล้า เมายาเสพย์ติด เป็นพ่อค้ายาเสพย์ติดเสียเอง
- ภิกษุทะยานอยาก ต้องการ ตะกละ ขวนขวายเพื่อให้ได้มาซึ่งลาภสักการะ ยศถาบรรดาศักดิ์ และตำแหน่ง
- ภิกษุใช้เงินวิ่งเต้น ซื้อยศ ซื้อตำแหน่งจากนักบวชผู้ใหญ่ และพวกนักการเมือง พร้อมกับซ่องสุมสมัครพรรคพวกที่มีพฤติกรรมเช่นเดียวกับตน คล้ายกับตน จะได้ช่วยกันปกป้องกันและกัน
- ภิกษุประจบคฤหัสถ์ รับจ้างจัดดอกไม้ จัดงาน จัดสถานที่ รับจ้างมีเครื่องเสียงให้เช่า มีวงดนตรีและนักร้องหางเครื่อง นักแสดงอยู่ในสังกัดออกมารับจ้างแสดงในงานต่างๆ แม้แต่งานแต่ง งานวันเกิด งานบวช รวมทั้งงานฉลองพัดยศของนักบวชด้วยกันเอง แม้กระทั่งรับจ้างทำพลุ จุดตะไล ไฟพะเนียง
- ภิกษุร่ำรวยออกเงินกู้ รับจำนำทรัพย์สิน คิดดอกเบี้ยแพงแก่ชาวบ้านผู้ให้ข้าวให้น้ำแก่ภิกษุนั้นกิน
- ภิกษุสะสมทรัพย์สินเงินทองที่ชาวบ้านเข้าให้ด้วยศรัทธา จนกลายเป็นภิกษุผู้มากด้วยความละโมบ ร่ำรวยกว่าชาวบ้านที่ให้ข้าวกินเสียอีก
- เมื่อมีเงินมีทองแล้ว ก็ต้องมีเมียตามสูตร เอาเงินที่ชาวบ้านเขาถวายมาด้วยความศรัทธา ไปปรนเปรอลูกเมียตนอย่างไม่ละอาย
- ภิกษุยักยอกทรัพย์ ลักทรัพย์ ขโมยทรัพย์ของสงฆ์ ตนเป็นเจ้าอาวาสครอบครองเงินของวัด แต่นำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค เช่น เจ้าอาวาสวัดใหญ่ที่รังสิต มีคำสอนว่านิพพานเป็นอัตตา เคยต้องคดียักยอกเงินวัด แต่ทรราชทักษิณมีอำนาจช่วยให้พ้นจากคดี แต่พระวินัยนี้หนีไม่พ้น พวกอลัชชีเหล่านี้ก็ยังลอยนวลเป็นใหญ่เป็นโต
- ภิกษุอวดอุตริมนุสสธรรมที่ไม่มีในตน เพื่อให้ได้มาซึ่งลาภสักการะ ยศถาบรรดาศักดิ์ ซึ่งมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่นไอ้เณรคำเป็นต้น
- ภิกษุผู้มีเพศภาวะไม่แน่นอนมีทั้งกระเทย ตุ๊ด แต๋ว อาศัยผ้าเหลืองหากิน พร้อมทำความเสื่อมเสียให้แก่พระพุทธศาสนา อย่างที่เป็นข่าวอยู่บ่อยมาก
- ที่ยกมานี้เป็นเพียงส่วนน้อย หากจะให้เจรนัยก็จับสึกได้ยันนักบวชที่นั่งอยู่ในมหาเถรสมาคมบางคน
- ภิกษุผู้ปกครองตามระดับชั้นไม่เคยสำนึกรับผิดชอบต่อพระธรรมวินัย ไม่ว่าจะมีภิกษุอลัชชีเกิดขึ้นสักกี่รูป มหาเถรสมาคมและภิกษุผู้ปกครองหาได้สนใจไม่ แถมยังปล่อยปละละเลย ให้ประชาชนผู้เดือดร้อนจากการประพฤติชั่วของพวกอลัชชี จนชาวบ้านเขาทนไม่ไหว ต้องออกมาโวยวายตีแผ่พฤติกรรมเลวร้ายของนักบวชชั่ว แทนที่มหาเถรสมาคมจะออกมาจัดการกับผู้ผิด กลับออกมาปกป้องหรือไม่ก็ทำตัวอยู่เหนือปัญหา
- ภิกษุผู้ปกครองตามระดับชั้น ไม่เคยอนาถร้อนใจต่อเหตุการณ์บ้านเมือง ไม่ว่าชาวบ้านจะทุกข์ยากเดือดร้อนขนาดไหน น้ำจะท่วม ไฟจะไหม้ แผ่นดินจะไหว หรือจะบังเกิดภัยพิบัติต่างๆ แม้เหตุการณ์ชาวนาเดือดร้อนอดอยากถึงกับฆ่าตัวตายไปเป็น 10 กว่าศพ คณะสงฆ์โดยมหาเถรสมาคมกลับทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ไม่รู้สึกรู้สากับความเดือดร้อนของชาวบ้าน ในบางกรณีทำได้อย่างดีคือหักเงินเดือนจากเจ้าคณะพระสังฆาธิการทั่วประเทศนำไปบริจาค ทั้งที่แต่ละคนในกรรมการมหาเถรสมาคม ร่ำรวย มีทรัพย์สมบัติสะสมเป็นของตนและญาติ แต่ละคนเป็นสิบๆล้าน บางคนมีเป็นร้อยๆล้าน แทนที่จะเสียสละเป็นต้นแบบให้ผู้ใต้บังคับบัญชา กลับบอกให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเสียสละ แต่ตนเองเอาแต่หวงแหนแหงนหน้าพูด เพราะกลัวว่าอะไรอะไรที่อมเอาไว้จะหลุดออกมาให้เห็น
- มหาเถรสมาคมประชุมแต่ละครั้งใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมง เรื่องที่ประชุมมีแต่ใครตาย ใครพ้นจากตำแหน่ง ใครปลด ใครจะได้รับตำแหน่งใหม่ แม้เจ้าคณะปกครองทุกระดับชั้นก็ประชุมแต่เรื่องดังกล่าวมา ไม่เคยที่จะวางแผน วางมาตรการปกครองหมู่คณะสงฆ์ให้รัดกุม กระชับ ฉับไว ทันสมัย ปกป้องพระธรรมวินัย พระพุทธศาสนา ทั้งที่ตลอดเวลาก็มีนักบวชอลัชชีเกิดขึ้นใน สังฆมณฑลตลอดเวลา พวกอลัชชีพวกนี้ต่างพากันเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ มหาเถรสมาคมและองค์กรปกครองคณะสงฆ์ หาได้สำเหนียกถึงความเสียหายที่พระพุทธศาสนา และพุทธศาสนิกชนจะได้รับ ปล่อยให้เป็นไปตามเวรตามกรรม ไม่ยอมปฏิบัติหน้าที่ทั้งที่ตนมีอำนาจหน้าที่จะต้องทำ ละเลย ละเว้นไม่ปฏิบัติ หรือเลือกปฏิบัติ หากเป็นข้าราชการติดคุกไปนานแล้ว แต่อยากบอกว่าแม้เป็นนักบวชก็ติดคุกได้
- พวกอลัชชีพวกนี้เมื่อเข้ามากอบโกยก็จะสร้างเครือข่ายอำนาจ มีสมัครพรรคพวก ทั้งนักการเมือง ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และนักบวชที่มียศสูงตำแหน่งใหญ่เอาไว้อิงอาศัยปกป้องตนเอง อลัชชีพวกนี้จะปรนเปรอด้วยทรัพย์สินที่ตนแสวงหามา จะได้เกรงใจ ว่าง่าย ใช้คล่อง ช่วยป้องกันพวกตนได้เวลามีเรื่อง
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้มีอยู่จริงในสังฆมณฑล หากมหาเถรสมาคมไม่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ คิดว่าธุระไม่ใช่ พวกภิกษุอลัชชีดังกล่าวมานี้จะมาอยู่อาศัยดูดน้ำเลี้ยงต้นโพธิ์แห่งพระพุทธศาสนาอยู่ได้อย่างไร นักบวชกาฝากพวกนี้เจริญเติบโตขึ้นมาได้ก็เพราะผู้ปกครอง ผู้มีอำนาจทางการเมือง และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่คอยให้ท้าย แถมยังอยู่ได้ยืนยงคงทน เพราะพวกเดียวกันนั่งชูคออยู่ในศูนย์กลางแห่งอำนาจการปกครอง คือมหาเถรสมาคม
ตื่นเสียทีเถิดมหาเถร ตาสว่างได้แล้ว อย่ามัวแต่นั่งเฝ้าเก้าอี้และตำแหน่ง รู้จักออกมาจากห้องแอร์ มาเดินตรวจตราดูแลความเป็นอยู่สุขทุกข์ของผู้ใต้บังคับบัญชา และผู้ให้ก้อนข้าวหยดน้ำดูบ้างว่าเขาเป็นอยู่กันอย่างไร อย่าเอาแต่นั่งติดสุขเป็นพระพรหมอยู่ได้ไม่รู้ทุกข์รู้ร้อน นั่งคอยรับลาภสักการะแต่ฝ่ายเดียว เอาเยี่ยงอย่างพระบรมศาสดาบ้าง ที่พระองค์ทรงพระดำเนินไปทั่วทุกสารทิศ โปรดเวไนยนิกรสรรพสัตว์ วันนึงเป็นสิบๆโยชน์ แม้ในยุครัตนโกสินทร์ สมเด็จพระมหาสมณเจ้าแห่งวัดบวรนิเวศวิหาร พระองค์ยังทรงจาริกออกตรวจงานสังฆมณฑล ทรงงานต่างพระเนตรพระกรรณของพระเจ้าแผ่นดิน เพื่อทรงปลดเปลื้องพระราชภาระของพระเจ้าอยู่หัว พวกนักบวชในศาสนาคริสต์ เขายังเดินขึ้นเขาลงห้วยไปช่วยชาวบ้าน สร้างศรัทธา ทำตัวเป็นต้นแบบให้แก่คนในสังคม แต่กรรมการมหาเถรสมาคมเอาแต่นั่งบ่มก้นอยู่ในห้องแอร์ หากจะออกจากห้องก็ต้องไปรับเงินบริจาคจากกิจนิมนต์ เอาเป็นว่าถ้าหากไม่นิมนต์ก็ไม่ออกจากห้องบรมสุขก็แล้วกันล่ะ หรือถ้าจะออกเอง ต้องออกไปช้อปปิ้งเมืองนอก ไปสวนสนุก ไปนั่งรถไฟเหาะ เช่นนี้หรือพฤติกรรมที่เหมาะสำหรับผู้ปกครองคณะสงฆ์
หยุดเสียที พอได้แล้ว เปลี่ยนแปลงนิสัยแก้ไขพฤติกรรมกันเสียที พวกเจ้าคณะพระสังฆาธิการเถรสมาคม บ้านเมืองสังคมเขาเปลี่ยนแปลงไปถึงไหนแล้ว มัวแต่มะงุมมะงาหรา งุ่มง่ามเชื่องช้า มันก็ไม่ทันภิกษุชั่วอย่างที่เห็น คณะสงฆ์ควรจะปฏิรูปกระบวนการปกครอง กระบวนการบริหารให้เข้ายุคเข้าสมัยในปัจจุบัน (แต่ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงพระธรรมวินัย) ยกเลิกระบบแต่งตั้งแบบพวกมากลากมา ให้ใช้ระบบคุณธรรม ความรู้ความสามารถ ไม่ใช่ใช้ความอยากได้ อยากมี อยากดี อยากเป็น แล้วก็ลากเอาเข้ามาปล้นพระพุทธศาสนาอย่างที่เห็นกันทุกวันนี้
ขอให้คณะสงฆ์ทำตัวเป็นต้นแบบในด้านความเสียสละ ความเมตตา ความมีสติปัญญา ความจริงใจที่จะช่วยชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีความรับผิดชอบต่อผู้ที่ให้ก้อนข้าวหยดน้ำหล่อเลี้ยงชีวิตและสังคม คณะสงฆ์ควรจะแสดงบทบาทให้ชัดเจนในทุกด้าน ไม่ใช่นั่งเป็นพระพรหมพระภูมิอยู่อย่างนี้ มิสนใจใยดีทั้งที่บ้านเมืองจะแตกแยกเสียหาย ผู้คนจะอดอยากยากแค้น บาดเจ็บล้มตายซักกี่คน ก็ทำเป็นไม่สน ขอให้กูอยู่รอดได้เป็นพอ สำนึกน่ะมีไหม คิดได้บ้างไหม ที่จะหาวิธีตอบแทนคุณแผ่นดิน และคุณก้อนข้าวหยดน้ำข้าวแดงแกงร้อนของชาวบ้าน ลืมไปแล้วหรือคำสั่งสอนของพระบรมศาสดา ที่สอนว่า “นิมิตตัง สาธุรูปานัง กตัญญูกตเวทิตา” ความกตัญญูรู้คุณ กตเวทิตาตอบแทนคุณ เป็นสัญลักษณ์ของคนดี คณะสงฆ์ลองแสดงสัญลักษณ์ของคนดีผู้ดีให้เป็นที่ประจักษ์แก่สังคมดูบ้างสิ
คณะสงฆ์และมหาเถรเคยคิดไหมว่า ควรจะมีบทบาทรับผิดชอบต่อแผ่นดินเกิดและสังคมให้มากกว่าที่เป็นอยู่ ต้นแบบดีๆน่ะทำเป็นไหม เมื่อหลับตาสร้างศรัทธาอย่างท่านอาจารย์มั่น อาจารย์ชาไม่ได้ ก็ควรใช้สติปัญญา แรงกายแรงใจ ลงไม้ลงมือช่วยเหลือทำตนให้เป็นประโยชน์ต่อแผ่นดินเกิดและสังคมบ้าง ไม่ใช่เอาแต่นั่งเฉยชาไม่รู้ไม่ชี้ เต๊ะท่าเฝ้าพัดยศในห้องแอร์โดยไม่สนแม้แต่คนที่ให้เขาให้ข้าวน้ำกินจะเดือดร้อนอย่างไร ที่ชาวบ้านเขาพูดกันว่า นักบวชในพระพุทธศาสนาทำตัวคล้ายกาฝากสังคมดูท่าน่าจะเป็นจริง เห็นชอบพูด ชอบสอนกันนักว่าให้บำเพ็ญประโยชน์ทั้งในชาตินี้และชาติหน้า ประโยชน์ในเบื้องต้น ท่ามกลาง และที่สุด ชาวบ้านเขาไม่รู้หรอกว่า ประโยชน์ชาติหน้าจะเป็นเช่นไร แต่เขาอยากเห็นพระสงฆ์ที่พวกเขาเทิดทูนบูชา เป็นต้นแบบในการสร้างประโยชน์ ทำประโยชน์ และให้ประโยชน์ ไม่ใช่เอาแต่นั่งนอนรับประโยชน์ฝ่ายเดียวอย่างที่เป็นอยู่นี่
พระบรมศาสดาท่านทรงสอนว่า พระสงฆ์เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ท่านหมายถึงพระสงฆ์ที่มีวิชาจรณสัมปันโน ไม่ใช่พระสงฆ์ที่มีอยู่ในปัจจุบันส่วนมาก ที่ทะยานอยาก มักมาก พวกท่านเคยศึกษากันบ้างไหม เรื่องหลักตัดสินพระธรรมวินัย 8 ประการ อันได้แก่ ความคลายกำหนัด คลายเครื่องผูกรัด ไม่พอกพูนกิเลส มีความอยากอันน้อย สันโดษ ไม่คลุกคลีในหมู่คณะ ประกอบความเพียรมีสติอยู่เสมอ และเลี้ยงง่าย เมื่อเทียบกับหลักการนี้แล้ว พวกท่านไม่ใช่เนื้อนาบุญของโลกที่บริสุทธิ์เลย แล้วยังเสแสร้งสร้างภาพ วางมาดดุจดังผู้วิเศษ ไม่รู้สึกทู่เรศตัวเองบ้างหรือไง คิดให้ได้ คิดให้ออกเสียที ว่าจะมีชีวิตเป็นแค่ไม้ประดับ หรือแค่กาฝากสังคม หรือจะเป็นอยู่เพียงแค่สัญลักษณ์ของพระพุทธศาสนาเท่านั้น ศักยภาพของคณะสงฆ์มันน่าจะเป็นที่มุ่งหวังของชาวบ้านได้มากกว่านี้ ชาวบ้านเขายากเย็นดิ้นรน เพื่อไม่ให้มีชีวิตอย่างที่เป็นอยู่ แต่ดูแล้วแทบไม่คุ้มกับก้อนข้าวหยดน้ำของชาวบ้านที่เขาเลี้ยงเลย
ช่วยๆกันหน่อย บ้านเมืองต้องการความร่วมไม้ร่วมมือ อย่างน้อยก็เข้ามามีบทบาท สร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติหน่อยได้ไหม เสนอตัวเข้ามาเป็นวิทยากร โดยใช้หลักธรรมที่ร่ำเรียนมา เอามาชี้นำสังคมให้ผู้คนมีหลักคิดอยู่ในครรลองคลองธรรม สำนึกรักแผ่นดิน กตัญญูกตเวทิตาต่อพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมราชินีนาถ ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ สั่งสอนอบรมให้คนรอบๆวัดรักใคร่ปรองดอง อยู่ในศีลธรรมอันดี โดยเฉพาะนักบวชที่มีในทุกศาสนา ต้องทำตนให้เป็นต้นแบบให้เขาศรัทธา มิใช่ปากสอนอย่างแต่ตัวเองทำได้อีกอย่าง ช่วยกันหน่อยพี่น้อง ช่วยกันทำให้บ้านเมืองได้มีที่พึ่งอันประเสริฐจริงๆบ้าง นอกจากสถาบันพระมหากษัตริย์แล้ว อย่าให้ประชาชนเขารู้สึกว่ากำลังให้ความไว้วางใจพึ่งพาอาศัยกับมหาโจรที่จ้องจะปล้นสะดมเขาท่าเดียว ขอเถิดพระคุณท่าน ออกมาช่วยชาติบ้านเมืองกันหน่อย บ้านเมืองจะได้สงบสุขเสียที พระศาสนาจะได้เป็นที่งดงามในสายตาชาวโลกอีกต่างหาก ที่สามารถจะแก้ไขความขัดแย้งของคนในชาติได้จริงๆ คิดเป็นไหม ทำเป็นไหม เสียสละน่ะ
พุทธะอิสระ
7 มิถุนายน 2557
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้credit
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10152440838413446&set=a.10152020008438446.1073741871.257455723445&type=1&theater
ช่องอิสระธรรมออนไลน์
http://www.issaradham.com/
คลื่นวิทยุออนไลน์
http://www.onoi.org/index.php/2012-12-30-12-44-04
ถึงคิวนักบวชกันบ้างแล้วล่ะ... (หลวงปู่พุทธะอิสระ 7 มิถุนายน 2557)
ปฏิรูปบ้านเมืองแล้ว ควรจะต้องปฏิรูปวงการคณะสงฆ์ไทยบ้าง ขืนปล่อยให้วงการสงฆ์ไทยมีนักบวชอลัชชีต่อไป แล้วพุทธศาสนิกชนจะหวังพึ่งอาศัยใคร หากบ้านเมืองนี้มีแต่
- ภิกษุเล่นการพนัน มั่วสุมซ่องโจร แทงบอล เล่นหวย เล่นเกมออนไลน์ เป็นเจ้ามือหวยเถื่อน เป็นเจ้ามือเท้าแชร์ ตั้งวงเล่นไพ่ เล่นไฮโล และการพนันทุกชนิด
- ภิกษุกินเหล้า เมายาเสพย์ติด เป็นพ่อค้ายาเสพย์ติดเสียเอง
- ภิกษุทะยานอยาก ต้องการ ตะกละ ขวนขวายเพื่อให้ได้มาซึ่งลาภสักการะ ยศถาบรรดาศักดิ์ และตำแหน่ง
- ภิกษุใช้เงินวิ่งเต้น ซื้อยศ ซื้อตำแหน่งจากนักบวชผู้ใหญ่ และพวกนักการเมือง พร้อมกับซ่องสุมสมัครพรรคพวกที่มีพฤติกรรมเช่นเดียวกับตน คล้ายกับตน จะได้ช่วยกันปกป้องกันและกัน
- ภิกษุประจบคฤหัสถ์ รับจ้างจัดดอกไม้ จัดงาน จัดสถานที่ รับจ้างมีเครื่องเสียงให้เช่า มีวงดนตรีและนักร้องหางเครื่อง นักแสดงอยู่ในสังกัดออกมารับจ้างแสดงในงานต่างๆ แม้แต่งานแต่ง งานวันเกิด งานบวช รวมทั้งงานฉลองพัดยศของนักบวชด้วยกันเอง แม้กระทั่งรับจ้างทำพลุ จุดตะไล ไฟพะเนียง
- ภิกษุร่ำรวยออกเงินกู้ รับจำนำทรัพย์สิน คิดดอกเบี้ยแพงแก่ชาวบ้านผู้ให้ข้าวให้น้ำแก่ภิกษุนั้นกิน
- ภิกษุสะสมทรัพย์สินเงินทองที่ชาวบ้านเข้าให้ด้วยศรัทธา จนกลายเป็นภิกษุผู้มากด้วยความละโมบ ร่ำรวยกว่าชาวบ้านที่ให้ข้าวกินเสียอีก
- เมื่อมีเงินมีทองแล้ว ก็ต้องมีเมียตามสูตร เอาเงินที่ชาวบ้านเขาถวายมาด้วยความศรัทธา ไปปรนเปรอลูกเมียตนอย่างไม่ละอาย
- ภิกษุยักยอกทรัพย์ ลักทรัพย์ ขโมยทรัพย์ของสงฆ์ ตนเป็นเจ้าอาวาสครอบครองเงินของวัด แต่นำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค เช่น เจ้าอาวาสวัดใหญ่ที่รังสิต มีคำสอนว่านิพพานเป็นอัตตา เคยต้องคดียักยอกเงินวัด แต่ทรราชทักษิณมีอำนาจช่วยให้พ้นจากคดี แต่พระวินัยนี้หนีไม่พ้น พวกอลัชชีเหล่านี้ก็ยังลอยนวลเป็นใหญ่เป็นโต
- ภิกษุอวดอุตริมนุสสธรรมที่ไม่มีในตน เพื่อให้ได้มาซึ่งลาภสักการะ ยศถาบรรดาศักดิ์ ซึ่งมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่นไอ้เณรคำเป็นต้น
- ภิกษุผู้มีเพศภาวะไม่แน่นอนมีทั้งกระเทย ตุ๊ด แต๋ว อาศัยผ้าเหลืองหากิน พร้อมทำความเสื่อมเสียให้แก่พระพุทธศาสนา อย่างที่เป็นข่าวอยู่บ่อยมาก
- ที่ยกมานี้เป็นเพียงส่วนน้อย หากจะให้เจรนัยก็จับสึกได้ยันนักบวชที่นั่งอยู่ในมหาเถรสมาคมบางคน
- ภิกษุผู้ปกครองตามระดับชั้นไม่เคยสำนึกรับผิดชอบต่อพระธรรมวินัย ไม่ว่าจะมีภิกษุอลัชชีเกิดขึ้นสักกี่รูป มหาเถรสมาคมและภิกษุผู้ปกครองหาได้สนใจไม่ แถมยังปล่อยปละละเลย ให้ประชาชนผู้เดือดร้อนจากการประพฤติชั่วของพวกอลัชชี จนชาวบ้านเขาทนไม่ไหว ต้องออกมาโวยวายตีแผ่พฤติกรรมเลวร้ายของนักบวชชั่ว แทนที่มหาเถรสมาคมจะออกมาจัดการกับผู้ผิด กลับออกมาปกป้องหรือไม่ก็ทำตัวอยู่เหนือปัญหา
- ภิกษุผู้ปกครองตามระดับชั้น ไม่เคยอนาถร้อนใจต่อเหตุการณ์บ้านเมือง ไม่ว่าชาวบ้านจะทุกข์ยากเดือดร้อนขนาดไหน น้ำจะท่วม ไฟจะไหม้ แผ่นดินจะไหว หรือจะบังเกิดภัยพิบัติต่างๆ แม้เหตุการณ์ชาวนาเดือดร้อนอดอยากถึงกับฆ่าตัวตายไปเป็น 10 กว่าศพ คณะสงฆ์โดยมหาเถรสมาคมกลับทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ไม่รู้สึกรู้สากับความเดือดร้อนของชาวบ้าน ในบางกรณีทำได้อย่างดีคือหักเงินเดือนจากเจ้าคณะพระสังฆาธิการทั่วประเทศนำไปบริจาค ทั้งที่แต่ละคนในกรรมการมหาเถรสมาคม ร่ำรวย มีทรัพย์สมบัติสะสมเป็นของตนและญาติ แต่ละคนเป็นสิบๆล้าน บางคนมีเป็นร้อยๆล้าน แทนที่จะเสียสละเป็นต้นแบบให้ผู้ใต้บังคับบัญชา กลับบอกให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเสียสละ แต่ตนเองเอาแต่หวงแหนแหงนหน้าพูด เพราะกลัวว่าอะไรอะไรที่อมเอาไว้จะหลุดออกมาให้เห็น
- มหาเถรสมาคมประชุมแต่ละครั้งใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมง เรื่องที่ประชุมมีแต่ใครตาย ใครพ้นจากตำแหน่ง ใครปลด ใครจะได้รับตำแหน่งใหม่ แม้เจ้าคณะปกครองทุกระดับชั้นก็ประชุมแต่เรื่องดังกล่าวมา ไม่เคยที่จะวางแผน วางมาตรการปกครองหมู่คณะสงฆ์ให้รัดกุม กระชับ ฉับไว ทันสมัย ปกป้องพระธรรมวินัย พระพุทธศาสนา ทั้งที่ตลอดเวลาก็มีนักบวชอลัชชีเกิดขึ้นใน สังฆมณฑลตลอดเวลา พวกอลัชชีพวกนี้ต่างพากันเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ มหาเถรสมาคมและองค์กรปกครองคณะสงฆ์ หาได้สำเหนียกถึงความเสียหายที่พระพุทธศาสนา และพุทธศาสนิกชนจะได้รับ ปล่อยให้เป็นไปตามเวรตามกรรม ไม่ยอมปฏิบัติหน้าที่ทั้งที่ตนมีอำนาจหน้าที่จะต้องทำ ละเลย ละเว้นไม่ปฏิบัติ หรือเลือกปฏิบัติ หากเป็นข้าราชการติดคุกไปนานแล้ว แต่อยากบอกว่าแม้เป็นนักบวชก็ติดคุกได้
- พวกอลัชชีพวกนี้เมื่อเข้ามากอบโกยก็จะสร้างเครือข่ายอำนาจ มีสมัครพรรคพวก ทั้งนักการเมือง ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และนักบวชที่มียศสูงตำแหน่งใหญ่เอาไว้อิงอาศัยปกป้องตนเอง อลัชชีพวกนี้จะปรนเปรอด้วยทรัพย์สินที่ตนแสวงหามา จะได้เกรงใจ ว่าง่าย ใช้คล่อง ช่วยป้องกันพวกตนได้เวลามีเรื่อง
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้มีอยู่จริงในสังฆมณฑล หากมหาเถรสมาคมไม่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ คิดว่าธุระไม่ใช่ พวกภิกษุอลัชชีดังกล่าวมานี้จะมาอยู่อาศัยดูดน้ำเลี้ยงต้นโพธิ์แห่งพระพุทธศาสนาอยู่ได้อย่างไร นักบวชกาฝากพวกนี้เจริญเติบโตขึ้นมาได้ก็เพราะผู้ปกครอง ผู้มีอำนาจทางการเมือง และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่คอยให้ท้าย แถมยังอยู่ได้ยืนยงคงทน เพราะพวกเดียวกันนั่งชูคออยู่ในศูนย์กลางแห่งอำนาจการปกครอง คือมหาเถรสมาคม
ตื่นเสียทีเถิดมหาเถร ตาสว่างได้แล้ว อย่ามัวแต่นั่งเฝ้าเก้าอี้และตำแหน่ง รู้จักออกมาจากห้องแอร์ มาเดินตรวจตราดูแลความเป็นอยู่สุขทุกข์ของผู้ใต้บังคับบัญชา และผู้ให้ก้อนข้าวหยดน้ำดูบ้างว่าเขาเป็นอยู่กันอย่างไร อย่าเอาแต่นั่งติดสุขเป็นพระพรหมอยู่ได้ไม่รู้ทุกข์รู้ร้อน นั่งคอยรับลาภสักการะแต่ฝ่ายเดียว เอาเยี่ยงอย่างพระบรมศาสดาบ้าง ที่พระองค์ทรงพระดำเนินไปทั่วทุกสารทิศ โปรดเวไนยนิกรสรรพสัตว์ วันนึงเป็นสิบๆโยชน์ แม้ในยุครัตนโกสินทร์ สมเด็จพระมหาสมณเจ้าแห่งวัดบวรนิเวศวิหาร พระองค์ยังทรงจาริกออกตรวจงานสังฆมณฑล ทรงงานต่างพระเนตรพระกรรณของพระเจ้าแผ่นดิน เพื่อทรงปลดเปลื้องพระราชภาระของพระเจ้าอยู่หัว พวกนักบวชในศาสนาคริสต์ เขายังเดินขึ้นเขาลงห้วยไปช่วยชาวบ้าน สร้างศรัทธา ทำตัวเป็นต้นแบบให้แก่คนในสังคม แต่กรรมการมหาเถรสมาคมเอาแต่นั่งบ่มก้นอยู่ในห้องแอร์ หากจะออกจากห้องก็ต้องไปรับเงินบริจาคจากกิจนิมนต์ เอาเป็นว่าถ้าหากไม่นิมนต์ก็ไม่ออกจากห้องบรมสุขก็แล้วกันล่ะ หรือถ้าจะออกเอง ต้องออกไปช้อปปิ้งเมืองนอก ไปสวนสนุก ไปนั่งรถไฟเหาะ เช่นนี้หรือพฤติกรรมที่เหมาะสำหรับผู้ปกครองคณะสงฆ์
หยุดเสียที พอได้แล้ว เปลี่ยนแปลงนิสัยแก้ไขพฤติกรรมกันเสียที พวกเจ้าคณะพระสังฆาธิการเถรสมาคม บ้านเมืองสังคมเขาเปลี่ยนแปลงไปถึงไหนแล้ว มัวแต่มะงุมมะงาหรา งุ่มง่ามเชื่องช้า มันก็ไม่ทันภิกษุชั่วอย่างที่เห็น คณะสงฆ์ควรจะปฏิรูปกระบวนการปกครอง กระบวนการบริหารให้เข้ายุคเข้าสมัยในปัจจุบัน (แต่ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงพระธรรมวินัย) ยกเลิกระบบแต่งตั้งแบบพวกมากลากมา ให้ใช้ระบบคุณธรรม ความรู้ความสามารถ ไม่ใช่ใช้ความอยากได้ อยากมี อยากดี อยากเป็น แล้วก็ลากเอาเข้ามาปล้นพระพุทธศาสนาอย่างที่เห็นกันทุกวันนี้
ขอให้คณะสงฆ์ทำตัวเป็นต้นแบบในด้านความเสียสละ ความเมตตา ความมีสติปัญญา ความจริงใจที่จะช่วยชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีความรับผิดชอบต่อผู้ที่ให้ก้อนข้าวหยดน้ำหล่อเลี้ยงชีวิตและสังคม คณะสงฆ์ควรจะแสดงบทบาทให้ชัดเจนในทุกด้าน ไม่ใช่นั่งเป็นพระพรหมพระภูมิอยู่อย่างนี้ มิสนใจใยดีทั้งที่บ้านเมืองจะแตกแยกเสียหาย ผู้คนจะอดอยากยากแค้น บาดเจ็บล้มตายซักกี่คน ก็ทำเป็นไม่สน ขอให้กูอยู่รอดได้เป็นพอ สำนึกน่ะมีไหม คิดได้บ้างไหม ที่จะหาวิธีตอบแทนคุณแผ่นดิน และคุณก้อนข้าวหยดน้ำข้าวแดงแกงร้อนของชาวบ้าน ลืมไปแล้วหรือคำสั่งสอนของพระบรมศาสดา ที่สอนว่า “นิมิตตัง สาธุรูปานัง กตัญญูกตเวทิตา” ความกตัญญูรู้คุณ กตเวทิตาตอบแทนคุณ เป็นสัญลักษณ์ของคนดี คณะสงฆ์ลองแสดงสัญลักษณ์ของคนดีผู้ดีให้เป็นที่ประจักษ์แก่สังคมดูบ้างสิ
คณะสงฆ์และมหาเถรเคยคิดไหมว่า ควรจะมีบทบาทรับผิดชอบต่อแผ่นดินเกิดและสังคมให้มากกว่าที่เป็นอยู่ ต้นแบบดีๆน่ะทำเป็นไหม เมื่อหลับตาสร้างศรัทธาอย่างท่านอาจารย์มั่น อาจารย์ชาไม่ได้ ก็ควรใช้สติปัญญา แรงกายแรงใจ ลงไม้ลงมือช่วยเหลือทำตนให้เป็นประโยชน์ต่อแผ่นดินเกิดและสังคมบ้าง ไม่ใช่เอาแต่นั่งเฉยชาไม่รู้ไม่ชี้ เต๊ะท่าเฝ้าพัดยศในห้องแอร์โดยไม่สนแม้แต่คนที่ให้เขาให้ข้าวน้ำกินจะเดือดร้อนอย่างไร ที่ชาวบ้านเขาพูดกันว่า นักบวชในพระพุทธศาสนาทำตัวคล้ายกาฝากสังคมดูท่าน่าจะเป็นจริง เห็นชอบพูด ชอบสอนกันนักว่าให้บำเพ็ญประโยชน์ทั้งในชาตินี้และชาติหน้า ประโยชน์ในเบื้องต้น ท่ามกลาง และที่สุด ชาวบ้านเขาไม่รู้หรอกว่า ประโยชน์ชาติหน้าจะเป็นเช่นไร แต่เขาอยากเห็นพระสงฆ์ที่พวกเขาเทิดทูนบูชา เป็นต้นแบบในการสร้างประโยชน์ ทำประโยชน์ และให้ประโยชน์ ไม่ใช่เอาแต่นั่งนอนรับประโยชน์ฝ่ายเดียวอย่างที่เป็นอยู่นี่
พระบรมศาสดาท่านทรงสอนว่า พระสงฆ์เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ท่านหมายถึงพระสงฆ์ที่มีวิชาจรณสัมปันโน ไม่ใช่พระสงฆ์ที่มีอยู่ในปัจจุบันส่วนมาก ที่ทะยานอยาก มักมาก พวกท่านเคยศึกษากันบ้างไหม เรื่องหลักตัดสินพระธรรมวินัย 8 ประการ อันได้แก่ ความคลายกำหนัด คลายเครื่องผูกรัด ไม่พอกพูนกิเลส มีความอยากอันน้อย สันโดษ ไม่คลุกคลีในหมู่คณะ ประกอบความเพียรมีสติอยู่เสมอ และเลี้ยงง่าย เมื่อเทียบกับหลักการนี้แล้ว พวกท่านไม่ใช่เนื้อนาบุญของโลกที่บริสุทธิ์เลย แล้วยังเสแสร้งสร้างภาพ วางมาดดุจดังผู้วิเศษ ไม่รู้สึกทู่เรศตัวเองบ้างหรือไง คิดให้ได้ คิดให้ออกเสียที ว่าจะมีชีวิตเป็นแค่ไม้ประดับ หรือแค่กาฝากสังคม หรือจะเป็นอยู่เพียงแค่สัญลักษณ์ของพระพุทธศาสนาเท่านั้น ศักยภาพของคณะสงฆ์มันน่าจะเป็นที่มุ่งหวังของชาวบ้านได้มากกว่านี้ ชาวบ้านเขายากเย็นดิ้นรน เพื่อไม่ให้มีชีวิตอย่างที่เป็นอยู่ แต่ดูแล้วแทบไม่คุ้มกับก้อนข้าวหยดน้ำของชาวบ้านที่เขาเลี้ยงเลย
ช่วยๆกันหน่อย บ้านเมืองต้องการความร่วมไม้ร่วมมือ อย่างน้อยก็เข้ามามีบทบาท สร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติหน่อยได้ไหม เสนอตัวเข้ามาเป็นวิทยากร โดยใช้หลักธรรมที่ร่ำเรียนมา เอามาชี้นำสังคมให้ผู้คนมีหลักคิดอยู่ในครรลองคลองธรรม สำนึกรักแผ่นดิน กตัญญูกตเวทิตาต่อพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมราชินีนาถ ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ สั่งสอนอบรมให้คนรอบๆวัดรักใคร่ปรองดอง อยู่ในศีลธรรมอันดี โดยเฉพาะนักบวชที่มีในทุกศาสนา ต้องทำตนให้เป็นต้นแบบให้เขาศรัทธา มิใช่ปากสอนอย่างแต่ตัวเองทำได้อีกอย่าง ช่วยกันหน่อยพี่น้อง ช่วยกันทำให้บ้านเมืองได้มีที่พึ่งอันประเสริฐจริงๆบ้าง นอกจากสถาบันพระมหากษัตริย์แล้ว อย่าให้ประชาชนเขารู้สึกว่ากำลังให้ความไว้วางใจพึ่งพาอาศัยกับมหาโจรที่จ้องจะปล้นสะดมเขาท่าเดียว ขอเถิดพระคุณท่าน ออกมาช่วยชาติบ้านเมืองกันหน่อย บ้านเมืองจะได้สงบสุขเสียที พระศาสนาจะได้เป็นที่งดงามในสายตาชาวโลกอีกต่างหาก ที่สามารถจะแก้ไขความขัดแย้งของคนในชาติได้จริงๆ คิดเป็นไหม ทำเป็นไหม เสียสละน่ะ
พุทธะอิสระ
7 มิถุนายน 2557
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้