ชื่อ มัณฑะเลย์ คงเป็นอีกเมืองหนึ่งในพม่าที่หลายคนใฝ่ฝันจะมาเยือนให้ได้สักครั้ง ซึ่งก็รวมถึงผมด้วยเช่นกัน เคยอ่านประวัติคร่าวๆทำการบ้านก่อนมาเยือนว่าที่นี่เป็นราชธานีสุดท้ายของพม่าก่อนเป็นเมืองขึ้นของชาติตะวันตก และเป็นเมืองที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่เคารพบูชาสูงสุดอีกสิ่งหนึ่งของชาวพม่าประดิษฐานอยู่ที่นี่เช่นเดียวกัน
ใช้บริการสายการบินราคาประหยัด Thai Air Asea เรียกได้ว่าจองที่นั่งข้ามปีเลยก็ว่าได้ บินลัดฟ้าใช้เวลาราวๆ หนึ่งชั่วโมงกับห้าสิบห้านาทีก็มาถึงสนามบินนานาชาติมัณฑะเลย์แล้ว (เป็นสนามบินนานาชาติที่แสนเงียบเหงาและมีขนาดเล็กมาก) ผ่านการตรวจเอกสารเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว ก็ตรงมาแลกเงิน Kyat ของพม่าสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายซื้อของเล็กๆน้อยๆ และสำหรับทำบุญที่วัด จากนั้นก็เดินออกจากสนามบินมาขึ้น Free shuttle bus บริการฟรีจากสนามบินสู่ตัวเมืองมัณฑะเลย์ แม้วันนี้จะอากาศร้อนไปนิดแต่ก็ยังได้เห็นสีเขียวของต้นไม้สองข้างทาง โดยเฉพาะต้นมะม่วงซึ่งมีเยอะมาก บรรยากาศสองข้างทางชวนมองเพลินจนไม่ได้ดูเวลาว่าใช้เวลาเดินทางเท่าไหร่จากสนามบินเข้ามาในตัวเมือง รถจะจอดให้เราใกล้กับกำแพงพระราชวังด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ ( ซึ่งมองเห็นกำแพงพระราชวังเลย) จากนั้นก็ได้เวลาหาที่พักแล้ว เนื่องจากไม่มีข้อมูลที่พักมาก่อนจึงต้องมาหาเอาข้างหน้าแบบนี้ จึงได้ข้อมูลจากเด็กรถชาวพม่าแนะนำที่พักให้พวกเราชื่อ MAHAR HOTEL คืนละ 25 USD และที่สำคัญอยู่ใกล้กับกำแพงพระราชวังฝั่งทิศตะวันตกด้วย พนักงานต้อนรับยิ้มแย้มน่ารักและให้บริการดีครับ ถือว่าใช้ได้สำหรับคนที่ไม่ค่อยเรื่องมากกับการเลือกที่หลับนอน และมี free Wifi ให้ด้วย เยี่ยม!! ข้าวเที่ยงก็ห่อมาจากกรุงเทพแบบง่ายๆ ก่อนตะลุยกันที่แรกเลยคือพระราชวังโบราณ
( ลืมบอกไปว่าพวกเราใช้บริการรถแทกซี่ เหมาพาเที่ยวแค่ในเขตตัวเมืองและไปชมพิธีการล้างพระพักตร์พระมหามัยมุนีตอนเช้ามืดในราคารวมแล้ว 38000 MMK)
[CR] +++MANDALAY กับอีกเสน่ห์ที่น่ายล+++
ใช้บริการสายการบินราคาประหยัด Thai Air Asea เรียกได้ว่าจองที่นั่งข้ามปีเลยก็ว่าได้ บินลัดฟ้าใช้เวลาราวๆ หนึ่งชั่วโมงกับห้าสิบห้านาทีก็มาถึงสนามบินนานาชาติมัณฑะเลย์แล้ว (เป็นสนามบินนานาชาติที่แสนเงียบเหงาและมีขนาดเล็กมาก) ผ่านการตรวจเอกสารเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว ก็ตรงมาแลกเงิน Kyat ของพม่าสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายซื้อของเล็กๆน้อยๆ และสำหรับทำบุญที่วัด จากนั้นก็เดินออกจากสนามบินมาขึ้น Free shuttle bus บริการฟรีจากสนามบินสู่ตัวเมืองมัณฑะเลย์ แม้วันนี้จะอากาศร้อนไปนิดแต่ก็ยังได้เห็นสีเขียวของต้นไม้สองข้างทาง โดยเฉพาะต้นมะม่วงซึ่งมีเยอะมาก บรรยากาศสองข้างทางชวนมองเพลินจนไม่ได้ดูเวลาว่าใช้เวลาเดินทางเท่าไหร่จากสนามบินเข้ามาในตัวเมือง รถจะจอดให้เราใกล้กับกำแพงพระราชวังด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ ( ซึ่งมองเห็นกำแพงพระราชวังเลย) จากนั้นก็ได้เวลาหาที่พักแล้ว เนื่องจากไม่มีข้อมูลที่พักมาก่อนจึงต้องมาหาเอาข้างหน้าแบบนี้ จึงได้ข้อมูลจากเด็กรถชาวพม่าแนะนำที่พักให้พวกเราชื่อ MAHAR HOTEL คืนละ 25 USD และที่สำคัญอยู่ใกล้กับกำแพงพระราชวังฝั่งทิศตะวันตกด้วย พนักงานต้อนรับยิ้มแย้มน่ารักและให้บริการดีครับ ถือว่าใช้ได้สำหรับคนที่ไม่ค่อยเรื่องมากกับการเลือกที่หลับนอน และมี free Wifi ให้ด้วย เยี่ยม!! ข้าวเที่ยงก็ห่อมาจากกรุงเทพแบบง่ายๆ ก่อนตะลุยกันที่แรกเลยคือพระราชวังโบราณ
( ลืมบอกไปว่าพวกเราใช้บริการรถแทกซี่ เหมาพาเที่ยวแค่ในเขตตัวเมืองและไปชมพิธีการล้างพระพักตร์พระมหามัยมุนีตอนเช้ามืดในราคารวมแล้ว 38000 MMK)