ที่นำเรื่องราวมาเขียนในนี้ เพราะตอนเราไป เราหาข้อมูลในฐานะเด็กนักศึกษา ไปแบ็คแพ็คเอง ยากมาก ส่วนใหญ่จะเป็นคนทำงานแล้วไปเที่ยว เราเลยมาแบ่งปัน เผื่อมีคนอยากจัดทริปแบบเรา : )
จุดเริ่มต้นทริป คือตัวเราอยากกลับไปเบลเยียม ไปเยี่ยมโฮสต์แฟมิลี่ที่เคยไปพักด้วยตอนไปแลกเปลี่ยนAFS ตอนแรกกะว่าจะไปคนเดียวประเทศเดียว พักสักอาทิตย์สองอาทิตย์เยี่ยมเพื่อนๆที่นู้น แล้วก็กลับ แต่บังเอิญเพื่อนสนิทเรามันอยากไปยุโรปเหมือนกัน เลยเกิดทริปแบ็คแพ็คขึ้นมา ตั้งไว้ว่า จะไปเนเธอร์แลนด์ (เพื่อนอยากไป) เบลเยียม(เราไปเยี่ยมโฮสต์และเพื่อนๆ) และอิตาลี(ทั้งสองคนอยากไป) ออกตัวก่อนเลยว่า ตอนไปแลกเปลี่ยนเคยไปทั้งสามประเทศมาแล้ว เลยพอรู้เรื่องการคมนาคมเดินทางและใช้ชีวิตพอสมควร เลยสามารถวางแผนการเดินทางประหยัดๆในทริปนี้ได้
ออกตัวก่อนเลยนะค่ะ ว่าเราเคยแบ็คแพ็คมาแล้วสองประเทศ อิตาลี ตอนไปแลกเปลี่ยน ไม่วุ่นวายเรื่องขอเอกสาร,เกาหลี ไม่ต้องขอวีซ่า เลยไม่เคยมีประสบการณ์ขอวีซ่าด้วยตัวเองมาก่อน ครั้งนี้ครั้งแรกที่ต้องเตรียมทั้งหมดเอง พ่อกับแม่วางใจ เพราะเคยไปแบ็คแพ็คและเคยไปอยู่ที่นู้นมาก่อน เลยอนุญาตให้ไปค่ะ (เราเรียนอยู่ปีสองกำลังจะขึ้นปีสามค่ะ เรียนสถาปัตย์ค่ะ)
เริ่มแรก คือการขอวีซ่า เรากับเพื่อนก็เตรียมเอกสารเยอะมาก แต่ที่วุ่นสุด คือการจองเที่ยวบิน เพราะตอนแรก มีสองทางเลือก คือ
1. ซื้อเลย : จะได้ราคาถูก ตามโปรโมชั่น เกือบทุกๆเดือนจะมีโปรโมชั่นของสายการบิน KLM ที่บินตรงถึงอัมสเตอดัมเลย ถ้ามั่นใจว่าจะผ่านวีซ่าแน่ๆ ก็ออกตั๋วเลย ถ้าออกก่อนล่วงหน้าเกือบปี ราคาก็จะถูกมากๆ แต่ต้องมั่นใจนะค่ะว่าจะได้วีซ่าแน่ๆ
2. ออกเป็นใบจองตั๋ว : ใบจองตั๋ว ส่วนใหญ่จะเป็นเอเจนซี่ต่างๆที่ออกเป็นใบจองได้ สายการบินในเว็บส่วนใหญ่จะออกเป็นใบจองไม่ได้ค่ะ โดยเฉพาะพวกโปรโมชั่นเนี่ย เขาออกมาให้เราซื้อเลย เพราะงั้นจะไม่สามารถออกเป็นใบจองตั๋วในราคาโปรโมชั่นได้ ใบจองตั๋วจะมีระยะเวลาของมันค่ะ ว่าอยู่ได้ 1 เดือน 1 อาทิตย์ หรือน้อยกว่านั้น เพราะฉะนั้นการออกใบจองตั๋วจะออกได้ใกล้ๆขอวีซ่า เพราะระยะเวลาจะได้ครอบคลุมตอนขอค่ะ พอได้วีซ่า เราก็ค่อยไปขึ้นเป็นตั๋วจริง
เชงเก้นวีซ่า มีระยะเวลาอยู่ในประเทศสมาชิกได้ 90 วัน นับตั้งแต่วันที่วีซ่าอนุญาต (รายชื่อประเทศ
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%99)
เราเลือกขอประเทศเนเธอร์แลนด์ค่ะ เพราะจะเป็นประเทศที่เราอยู่นานสุด และเป็นประเทศแรกที่เราเข้า
*เน้นนะค่ะ ว่าประเทศที่อยู่นานสุด เพราะมีคนไปขอ แต่อยู่เยอรมันนานกว่า ทางสถานทูตจะให้ไปปรับแผนการเดินทางให้อยู่เนเธอร์แลนด์นานกว่า หรือบางทีให้ไปขออีกสถานทูตเลยค่ะ*
อย่างแรกที่ต้องเช็คคือพาสปอร์ตค่ะ อายุหมดเมื่อไหร ทันที่เรากลับรึเปล่า
การขอวีซ่าของเนเธอร์แลนด์ต้องจองคิวผ่านในเว็บสถานทูตค่ะ ไม่ได้จองแล้วโผล่ไป พลาดไปเลยนะค่ะวันนึง
เรามาดูขั้นตอนการจองคิวกันค่ะ (ดูในเว็บสถานทูตก็ได้ค่ะ
http://www.vfsglobal.com/netherlands/thailand/thai/)
1. กรอกใบชำระเงินแล้วไปธนาคาร ชำระเงินผ่านธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้ทุกสาขา 480 บาท
2. รอ 1 วันทำการ(เสาร์อาทิตย์ไม่ทำการนะค่ะ) แล้วจองคิวในเว็บไซต์ (จองภายใน 30 วันหลังชำระเงิน)
https://www.visaservices.firm.in/Netherlands-Thailand-Online/AppScheduling/AppWelcome.aspx?P=b+wElfCj%2fd7gXZ1BqesgbQ==
- เราก็กดเช็คว่าประเภทวีซ่าที่เราขอ มีวันว่างวันไหน (Check Earliest available date) เขาก็จะเลือก Number of Applicants เราเดินทางสองคน ก็พิม 2 ,Applicant type เลือก Individual ,Visa Category เลือก Short stay ค่ะ
- มันก็จะขึ้นอีกรอบว่า วันว่างเร็วสุดคือวันไหน แล้วเราก็กด submit เว็บก็จะให้ใส่เลขพาสปอร์ต/วันโอนเงิน/วันเกิด กด submit
- เว็บจะให้ใส่วันหมดอายุ passport,คำนำหน้าชื่อ,รหัสประเทศ 66,เบอร์โทรศัพท์,เบอร์มือถือ,อีเมล์,ประเภทวีซ่า,และพิมพ์รหัสที่อยู่ด้านล่าง กดsubmit
- เลือกวันที่ต้องการ กดปุ่นเลือกเวลา (ห้ามกด closeนะค่ะ)
- เช็คและพิมใบนัดหมาย ถ้าไม่ได้รับใบนัดหมาย ให้เช็คในอีเมล์
การเตรียมเอกสาร : เอกสารที่ต้องเตรียม เอกสารสามารถเป็นได้ทั้ง ภาษาอังกฤษ ภาษาไทยหรือภาษาดัตช์
(เช็คให้ดีนะค่ะ บางสถานทูตต้องเป็นอังกฤษหมด)
1. หนังสือเดินทาง (มีอายุอีกอย่างน้อย3เดือน นับจากวันที่เดินทางกลับ) ** ถ้าพึ่งต่อพาสปอร์ต ได้เล่มใหม่มา ให้เอาเล่มเก่าไปด้วยค่ะ **
2. รูปถ่ายปัจจุบัน ขนาด 5x3 ซม. (2นิ้ว) กระดาษรูปถ่ายเท่านั้นนะค่ะ
3. คำร้องขอวีซ่าเชงเก้น ซึ่งกรอกอย่างสมบูรณ์พร้อมลายเซ็น
http://www.vfsglobal.com/netherlands/thailand/pdf/ApplicationformforSchengenvisa.pdf
4. กรมธรรม์ประกันการเดินทาง ซึ่งมีวงเงินคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลอย่างน้อย 30,000 ยูโรหรือเทียบเท่าเงินบาท
ดูรายชื่อบริษัทที่ทางสถานทูตรองรับ
http://thailand.nlembassy.org/binaries/content/assets/postenweb/t/thailand/embassy-of-the-kingdom-of-the-netherlands-in-bangkok/import/products_and_services/consular_services/visa_application_in_thailand/list-of-travel-insurance-companies
5. รายละเอียดหรือตารางการเดินทาง (เราพิมเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดเลยค่ะ)
6. เอกสารหลักฐานทางการเงิน (Statement) เนื่องด้วยเรายังเป็นนักศึกษา เลยขอของพ่อและแม่ไปค่ะ ตอนขอ พ่อก็ให้ทางธนาคารพิมด้วยว่า ยื่นให้แก่สถานทูตเนเธอร์แลนด์
7. สำเนาการสำรองที่พัก
เราจองที่พักกับเว็บ www.booking.com หมดเลยค่ะ เว็บbooking จะสามารถจองแล้วไปยกเลิกได้ฟรี ไม่ต้องจ่ายค่าที่พักก่อน เหมาะกับการขอวีซ่ามากๆ เมื่อจองแล้ว ก็ปริ้นใบจองออกมา ในเว็บbookingก็มีให้เช่นกัน โดยไปที่การจัดการการจอง แล้วเลือกที่พัก มันจะมีให้เลือกปริ้นใบจองที่พัก ภาษาอังกฤษ ก็ปริ้นมาเลยค่ะ ของเราไปสองคน ก็จองสำหรับสองคน แล้วปริ้นออกมาเผื่อเพื่อนด้วย
8. สำเนาตั๋วโดยสารเครื่องบิน
ของเราซื้อของ KLM ค่ะ เพราะเป็นสายการบินตรง 11 ชม.ไปลงที่อัมสเตอดัมเลย
ให้น้าที่เป็นเอเจนซี่จัดการให้ ตอนแรกก็จองเป็นใบจองตั๋วค่ะ แต่KLMมีระยะใบจองตั๋วสั้นมาก ทำให้ก่อนไปขอวีซ่าสามวัน ต้องออกตั๋ว ไม่งั้นราคาขึ้น เราเลยตัดสินใจออกเลย ได้มา30,200 บาท ถ้าเลื่อนวันเดินทางต้องจ่าย2,400 ซึ่งโอเคสำหรับราคานี้ ขาไปลงอัมสเตอดัม ขากลับ กลับจากเวนิซค่ะ เปลี่ยนเครื่องที่อัมสเตอดัม แล้วก็กลับไทย
1. KL 876 R 06MAY BKKAMS HK2 1205 1840 O* E TU
2. KL 1654 L 23MAY VCEAMS HK2 1405 1600 O* E FR
3. KL 875 R 23MAY AMSBKK HK2 1750 #0935 O* E FR
ก็ปริ้น E-ticket ไป
9. เอกสารรับรองการทำงาน ของเราเป็นนักเรียนอยู่ ก็ไปขอ ใบรับรองจากมหาลัยค่ะ ขอมาสองภาษาเลย ติดรูปเรียบร้อย
10. เราเตรียมไปเผื่อค่ะ เพราะเราเป็นนักศึกษา พ่อแม่ออกเงินให้ เลยเตรียมไป
- สำเนาpassport พ่อแม่ (คนที่ออกเงิน)
- สำเนาใบสมรส
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- ใบรับรองการทำงานของพ่อและแม่
11. สำเนาเอกสารทั้งหมดที่ว่ามาอย่างละชุด (หนังสือเดินทางให้ถ่ายหน้าที่มีข้อมูลส่วนบุคคลและหน้าที่มีวีซ่า)
12. เงินค่าธรรมเนียมยื่นคำร้องวีซ่า 60 ยูโร หรือ 2,700 บาท (เช็คเรทได้ในหน้าเว็บสถานทูต) ถือเป็นเงินสดไปเลย พอดียิ่งดีค่ะ
13. ถ้าอายุไม่ถึง 18 ต้องขอหนังสือยินยอมจากผู้ปกครอง, ผู้ปกครองเซ็นชื่อในคำร้องขอวีซ่า, สูจิบัตรของผู้ยื่นขอวีซ่า
มีบางที่ เขาให้อายุ 20 เลยค่ะ เพราะงั้นต้องโทรไปถามสถานทูต เพื่อนเราอายุ 20 ปีพอดีในปีนี้ ทางสถานทูตบอก ขอได้โดยไม่ต้องมีหนังสือยินยอม แต่เพื่อนเราก็เอาไปเผื่อและทางสถานทูตก็เก็บไปนะค่ะ
เมื่อเอกสารพร้อม ถึงวันนัด เราได้คิว 9.30 เพื่อนได้ 9.40 ค่ะ ไปรอตั้ง 8.30 กันเลย เพราะมีเพื่อนไปขอมาก่อนหน้า เขาบอกให้ไปก่อน เผื่อคิวก่อนหน้าไม่มา เขาก็จะเรียกคิวเราเลยค่ะ ให้เผื่อเวลาการเดินทางด้วยนะค่ะ วันที่เราไป BTS ดันเสีย ทำให้ไปบีทีเอสไม่ได้ เปลี่ยนแผนการเดินทางใหญ่เลย กลัวไปไม่ทัน นั่งวินมอไซค์หัวฟูไปสถานทูตกันเลยทีเดียว
ไปถึงหน้าสถานทูต ยามก็จะให้ซองเรามาเขียนที่อยู่ แล้วเข้าไปรอค่ะ ที่สถานทูตก็มีข้างในกับข้างนอก คิวที่ยังไม่ถึงก็รอข้างนอกค่ะ ไม่ร้อน เย็นมาก มีพัดลมด้วย วันที่เราไปขอคนเยอะดีค่ะ มีกรุ๊ปทัวร์ก่อนเราหนึ่งกรุ๊ป และหลังเราหนึ่งกรุ๊ป พอเก้าโมงเราก็เขยิบเข้าไปนั่งข้างในที่เป็นห้องแอร์ค่ะ ห้องมันเล็ก นั่งได้สิบกว่าคนเอง เข้าไปรอ เพราะเขาจะเรียนคิวด้านในค่ะ ไม่ออกมาเรียกข้างนอก ปรากฏเลทค่ะ เลทครึ่งชม. เรียกคิวเราก็สิบโมงแล้ว เขาเรียกคิว 9.30 คือจะมีประมาณ6-7คนสำหรับคิวนี้ ก็เช็คชื่อแล้วเข้าไปข้างใน ก็ยื่นต่อแถว เรียงเข้ายื่นเอกสาร จะมีสี่ช่อง ช่องสุดท้ายสำหรับฝรั่งค่ะ สำหรับธุระของคนเนเธอร์แลนด์ สองช่องแรกสำหรับเช็คเอกสารและปั้มลายนิ้วมือ คนอายุมากๆก็จะปั้มนานหน่อย ลายนิ้วมือไม่ติด เมื่อถึงคิวก็ยื่นเอกสารไปค่ะ เขาก็ถามว่าเดินทางกี่คน เราก็บอกสองคน ไปกับเพื่อน เขาก็บอกให้เพื่อนลัดคิว มายื่นเอกสารต่อเราเลย พอปั้มเสร็จ เราก็นำเอกสารทั้งหมด ไปยื่นที่ช่องสาม ช่องสามก็จะเช็คละเอียดหน่อยค่ะ เช็คทุกหน้าเลยว่ามีอะไรบ้าง ครบมั้ย เขาก็แยกว่า อันนี้คืนไป อันนี้เขาเก็บไว้นะ แต่ตอนเขายื่นคืนมา เขายื่นตารางแผนการเดินทางคืนมาค่ะ เราก็ถามเขาว่า เอาไหม เขาก็ขอคืนไปค่ะ เหมือนกับลืม เพราะงั้นเอกสารสำคัญๆอันไหนเขาลืม ก็ถามเขาได้ค่ะ เอกสารที่ได้คืนมาทั้งหมดก็มี บัตรประชาชนแม่ค่ะ,สำเนาทะเบียนบ้าน,สำเนาสเตทเม้น(เผลอใส่ไป) เขาไม่ถามอะไรเลยค่ะ นอกจากเดินทางกี่คน กับใคร ตอนเพื่อนก็ไม่โดนถามค่ะ สิบครึ่งก็เสร็จแล้วค่ะ ไม่นาน
กลับมาถึงบ้าน ประมาณห้าโมง สถานทูตโทรมาค่ะ เราลืม ดันหยิบซองจดหมายกลับมาด้วย เขาเลยให้แฟกซ์ที่อยู่กับบาร์โค้ดที่ฉีกติดกับซองไปให้เขา เพราะงั้นอย่าลืมยื่นซองไปด้วยนะค่ะ 555 เดี๋ยวไม่ส่งมา แย่เลย มีคนรู้จักยื่น สถานทูตก็โทรมาขอใบรับรองมหาลัยเพิ่ม ก็สแกนส่งอีเมลล์หรือแฟกซ์ไป (เขาอาจให้ไปยื่นที่สถานทูตเพิ่มเลยนะค่ะถ้าต้องการตัวจริง แต่จะทำให้วีซ่าดำเนินการช้ามากขึ้น)
ผ่านมาเจ็ดวันทำการ เขาก็อีเมลล์มาค่ะ ว่าได้จัดส่งผลวีซ่าและเอกสารมาที่บ้านละนะ จะถึงอีกสองสามวัน ก็ถึง ผลก็รอตอนฉีกซองจดหมายเอาค่ะ
เมื่อวีซ่าพร้อม ตั๋วเครื่องบินพร้อม เราก็มาทำแผนการเดินทางแบบละเอียดอีกรอบค่ะ
ที่เราทำกับเพื่อน คือละเอียด แบบละเอียดมาก มานั่งหาเลยว่า ถ้าออกจากที่พัก จะไปตรงนี้ยังไง และราคาเท่าไหร
เพราะว่าเราไปทริปประหยัดกันค่ะ จะได้รู้ว่าควรเตรียมเงินไปเท่าไหร ขอพ่อแม่เท่าไหร ควรจะลดหรือประหยัดจุดไหนได้บ้าง การเตรียมแผนก่อนล่วงหน้าแบบละเอียด ดีมากๆเลยค่ะ จะได้วางแผนได้ว่าเราจะไปเที่ยวยังไงให้คุ้ม 55
งบทั้งหมด รวมค่าเครื่องบิน, ที่พัก และค่าใช้จ่ายทั้งหมด ต้องไม่เกิน = 80,000 บาท!!
(ใครอยากได้แผนการเดินทางแบบละเอียดเป็นตัวอย่าง ส่งข้อความมาหาได้นะค่ะ)
[CR] gotloveinEUROPE : 20 days Netherlands-Belgium-Italy แล้วคุณจะหลงรักยุโรป ep.1
ทริปแบ็คแพ็ค สามประเทศ รีวิวแบบละเอียดยิบ
ep.1 : การขอเชงเก้น VISA และการเตรียมตัว
ที่นำเรื่องราวมาเขียนในนี้ เพราะตอนเราไป เราหาข้อมูลในฐานะเด็กนักศึกษา ไปแบ็คแพ็คเอง ยากมาก ส่วนใหญ่จะเป็นคนทำงานแล้วไปเที่ยว เราเลยมาแบ่งปัน เผื่อมีคนอยากจัดทริปแบบเรา : )
จุดเริ่มต้นทริป คือตัวเราอยากกลับไปเบลเยียม ไปเยี่ยมโฮสต์แฟมิลี่ที่เคยไปพักด้วยตอนไปแลกเปลี่ยนAFS ตอนแรกกะว่าจะไปคนเดียวประเทศเดียว พักสักอาทิตย์สองอาทิตย์เยี่ยมเพื่อนๆที่นู้น แล้วก็กลับ แต่บังเอิญเพื่อนสนิทเรามันอยากไปยุโรปเหมือนกัน เลยเกิดทริปแบ็คแพ็คขึ้นมา ตั้งไว้ว่า จะไปเนเธอร์แลนด์ (เพื่อนอยากไป) เบลเยียม(เราไปเยี่ยมโฮสต์และเพื่อนๆ) และอิตาลี(ทั้งสองคนอยากไป) ออกตัวก่อนเลยว่า ตอนไปแลกเปลี่ยนเคยไปทั้งสามประเทศมาแล้ว เลยพอรู้เรื่องการคมนาคมเดินทางและใช้ชีวิตพอสมควร เลยสามารถวางแผนการเดินทางประหยัดๆในทริปนี้ได้
ออกตัวก่อนเลยนะค่ะ ว่าเราเคยแบ็คแพ็คมาแล้วสองประเทศ อิตาลี ตอนไปแลกเปลี่ยน ไม่วุ่นวายเรื่องขอเอกสาร,เกาหลี ไม่ต้องขอวีซ่า เลยไม่เคยมีประสบการณ์ขอวีซ่าด้วยตัวเองมาก่อน ครั้งนี้ครั้งแรกที่ต้องเตรียมทั้งหมดเอง พ่อกับแม่วางใจ เพราะเคยไปแบ็คแพ็คและเคยไปอยู่ที่นู้นมาก่อน เลยอนุญาตให้ไปค่ะ (เราเรียนอยู่ปีสองกำลังจะขึ้นปีสามค่ะ เรียนสถาปัตย์ค่ะ)
เริ่มแรก คือการขอวีซ่า เรากับเพื่อนก็เตรียมเอกสารเยอะมาก แต่ที่วุ่นสุด คือการจองเที่ยวบิน เพราะตอนแรก มีสองทางเลือก คือ
1. ซื้อเลย : จะได้ราคาถูก ตามโปรโมชั่น เกือบทุกๆเดือนจะมีโปรโมชั่นของสายการบิน KLM ที่บินตรงถึงอัมสเตอดัมเลย ถ้ามั่นใจว่าจะผ่านวีซ่าแน่ๆ ก็ออกตั๋วเลย ถ้าออกก่อนล่วงหน้าเกือบปี ราคาก็จะถูกมากๆ แต่ต้องมั่นใจนะค่ะว่าจะได้วีซ่าแน่ๆ
2. ออกเป็นใบจองตั๋ว : ใบจองตั๋ว ส่วนใหญ่จะเป็นเอเจนซี่ต่างๆที่ออกเป็นใบจองได้ สายการบินในเว็บส่วนใหญ่จะออกเป็นใบจองไม่ได้ค่ะ โดยเฉพาะพวกโปรโมชั่นเนี่ย เขาออกมาให้เราซื้อเลย เพราะงั้นจะไม่สามารถออกเป็นใบจองตั๋วในราคาโปรโมชั่นได้ ใบจองตั๋วจะมีระยะเวลาของมันค่ะ ว่าอยู่ได้ 1 เดือน 1 อาทิตย์ หรือน้อยกว่านั้น เพราะฉะนั้นการออกใบจองตั๋วจะออกได้ใกล้ๆขอวีซ่า เพราะระยะเวลาจะได้ครอบคลุมตอนขอค่ะ พอได้วีซ่า เราก็ค่อยไปขึ้นเป็นตั๋วจริง
เชงเก้นวีซ่า มีระยะเวลาอยู่ในประเทศสมาชิกได้ 90 วัน นับตั้งแต่วันที่วีซ่าอนุญาต (รายชื่อประเทศ http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%99)
เราเลือกขอประเทศเนเธอร์แลนด์ค่ะ เพราะจะเป็นประเทศที่เราอยู่นานสุด และเป็นประเทศแรกที่เราเข้า
*เน้นนะค่ะ ว่าประเทศที่อยู่นานสุด เพราะมีคนไปขอ แต่อยู่เยอรมันนานกว่า ทางสถานทูตจะให้ไปปรับแผนการเดินทางให้อยู่เนเธอร์แลนด์นานกว่า หรือบางทีให้ไปขออีกสถานทูตเลยค่ะ*
อย่างแรกที่ต้องเช็คคือพาสปอร์ตค่ะ อายุหมดเมื่อไหร ทันที่เรากลับรึเปล่า
การขอวีซ่าของเนเธอร์แลนด์ต้องจองคิวผ่านในเว็บสถานทูตค่ะ ไม่ได้จองแล้วโผล่ไป พลาดไปเลยนะค่ะวันนึง
เรามาดูขั้นตอนการจองคิวกันค่ะ (ดูในเว็บสถานทูตก็ได้ค่ะ http://www.vfsglobal.com/netherlands/thailand/thai/)
1. กรอกใบชำระเงินแล้วไปธนาคาร ชำระเงินผ่านธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้ทุกสาขา 480 บาท
2. รอ 1 วันทำการ(เสาร์อาทิตย์ไม่ทำการนะค่ะ) แล้วจองคิวในเว็บไซต์ (จองภายใน 30 วันหลังชำระเงิน) https://www.visaservices.firm.in/Netherlands-Thailand-Online/AppScheduling/AppWelcome.aspx?P=b+wElfCj%2fd7gXZ1BqesgbQ==
- เราก็กดเช็คว่าประเภทวีซ่าที่เราขอ มีวันว่างวันไหน (Check Earliest available date) เขาก็จะเลือก Number of Applicants เราเดินทางสองคน ก็พิม 2 ,Applicant type เลือก Individual ,Visa Category เลือก Short stay ค่ะ
- มันก็จะขึ้นอีกรอบว่า วันว่างเร็วสุดคือวันไหน แล้วเราก็กด submit เว็บก็จะให้ใส่เลขพาสปอร์ต/วันโอนเงิน/วันเกิด กด submit
- เว็บจะให้ใส่วันหมดอายุ passport,คำนำหน้าชื่อ,รหัสประเทศ 66,เบอร์โทรศัพท์,เบอร์มือถือ,อีเมล์,ประเภทวีซ่า,และพิมพ์รหัสที่อยู่ด้านล่าง กดsubmit
- เลือกวันที่ต้องการ กดปุ่นเลือกเวลา (ห้ามกด closeนะค่ะ)
- เช็คและพิมใบนัดหมาย ถ้าไม่ได้รับใบนัดหมาย ให้เช็คในอีเมล์
การเตรียมเอกสาร : เอกสารที่ต้องเตรียม เอกสารสามารถเป็นได้ทั้ง ภาษาอังกฤษ ภาษาไทยหรือภาษาดัตช์
(เช็คให้ดีนะค่ะ บางสถานทูตต้องเป็นอังกฤษหมด)
1. หนังสือเดินทาง (มีอายุอีกอย่างน้อย3เดือน นับจากวันที่เดินทางกลับ) ** ถ้าพึ่งต่อพาสปอร์ต ได้เล่มใหม่มา ให้เอาเล่มเก่าไปด้วยค่ะ **
2. รูปถ่ายปัจจุบัน ขนาด 5x3 ซม. (2นิ้ว) กระดาษรูปถ่ายเท่านั้นนะค่ะ
3. คำร้องขอวีซ่าเชงเก้น ซึ่งกรอกอย่างสมบูรณ์พร้อมลายเซ็น
http://www.vfsglobal.com/netherlands/thailand/pdf/ApplicationformforSchengenvisa.pdf
4. กรมธรรม์ประกันการเดินทาง ซึ่งมีวงเงินคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลอย่างน้อย 30,000 ยูโรหรือเทียบเท่าเงินบาท
ดูรายชื่อบริษัทที่ทางสถานทูตรองรับ http://thailand.nlembassy.org/binaries/content/assets/postenweb/t/thailand/embassy-of-the-kingdom-of-the-netherlands-in-bangkok/import/products_and_services/consular_services/visa_application_in_thailand/list-of-travel-insurance-companies
5. รายละเอียดหรือตารางการเดินทาง (เราพิมเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดเลยค่ะ)
6. เอกสารหลักฐานทางการเงิน (Statement) เนื่องด้วยเรายังเป็นนักศึกษา เลยขอของพ่อและแม่ไปค่ะ ตอนขอ พ่อก็ให้ทางธนาคารพิมด้วยว่า ยื่นให้แก่สถานทูตเนเธอร์แลนด์
7. สำเนาการสำรองที่พัก
เราจองที่พักกับเว็บ www.booking.com หมดเลยค่ะ เว็บbooking จะสามารถจองแล้วไปยกเลิกได้ฟรี ไม่ต้องจ่ายค่าที่พักก่อน เหมาะกับการขอวีซ่ามากๆ เมื่อจองแล้ว ก็ปริ้นใบจองออกมา ในเว็บbookingก็มีให้เช่นกัน โดยไปที่การจัดการการจอง แล้วเลือกที่พัก มันจะมีให้เลือกปริ้นใบจองที่พัก ภาษาอังกฤษ ก็ปริ้นมาเลยค่ะ ของเราไปสองคน ก็จองสำหรับสองคน แล้วปริ้นออกมาเผื่อเพื่อนด้วย
8. สำเนาตั๋วโดยสารเครื่องบิน
ของเราซื้อของ KLM ค่ะ เพราะเป็นสายการบินตรง 11 ชม.ไปลงที่อัมสเตอดัมเลย
ให้น้าที่เป็นเอเจนซี่จัดการให้ ตอนแรกก็จองเป็นใบจองตั๋วค่ะ แต่KLMมีระยะใบจองตั๋วสั้นมาก ทำให้ก่อนไปขอวีซ่าสามวัน ต้องออกตั๋ว ไม่งั้นราคาขึ้น เราเลยตัดสินใจออกเลย ได้มา30,200 บาท ถ้าเลื่อนวันเดินทางต้องจ่าย2,400 ซึ่งโอเคสำหรับราคานี้ ขาไปลงอัมสเตอดัม ขากลับ กลับจากเวนิซค่ะ เปลี่ยนเครื่องที่อัมสเตอดัม แล้วก็กลับไทย
1. KL 876 R 06MAY BKKAMS HK2 1205 1840 O* E TU
2. KL 1654 L 23MAY VCEAMS HK2 1405 1600 O* E FR
3. KL 875 R 23MAY AMSBKK HK2 1750 #0935 O* E FR
ก็ปริ้น E-ticket ไป
9. เอกสารรับรองการทำงาน ของเราเป็นนักเรียนอยู่ ก็ไปขอ ใบรับรองจากมหาลัยค่ะ ขอมาสองภาษาเลย ติดรูปเรียบร้อย
10. เราเตรียมไปเผื่อค่ะ เพราะเราเป็นนักศึกษา พ่อแม่ออกเงินให้ เลยเตรียมไป
- สำเนาpassport พ่อแม่ (คนที่ออกเงิน)
- สำเนาใบสมรส
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- ใบรับรองการทำงานของพ่อและแม่
11. สำเนาเอกสารทั้งหมดที่ว่ามาอย่างละชุด (หนังสือเดินทางให้ถ่ายหน้าที่มีข้อมูลส่วนบุคคลและหน้าที่มีวีซ่า)
12. เงินค่าธรรมเนียมยื่นคำร้องวีซ่า 60 ยูโร หรือ 2,700 บาท (เช็คเรทได้ในหน้าเว็บสถานทูต) ถือเป็นเงินสดไปเลย พอดียิ่งดีค่ะ
13. ถ้าอายุไม่ถึง 18 ต้องขอหนังสือยินยอมจากผู้ปกครอง, ผู้ปกครองเซ็นชื่อในคำร้องขอวีซ่า, สูจิบัตรของผู้ยื่นขอวีซ่า
มีบางที่ เขาให้อายุ 20 เลยค่ะ เพราะงั้นต้องโทรไปถามสถานทูต เพื่อนเราอายุ 20 ปีพอดีในปีนี้ ทางสถานทูตบอก ขอได้โดยไม่ต้องมีหนังสือยินยอม แต่เพื่อนเราก็เอาไปเผื่อและทางสถานทูตก็เก็บไปนะค่ะ
เมื่อเอกสารพร้อม ถึงวันนัด เราได้คิว 9.30 เพื่อนได้ 9.40 ค่ะ ไปรอตั้ง 8.30 กันเลย เพราะมีเพื่อนไปขอมาก่อนหน้า เขาบอกให้ไปก่อน เผื่อคิวก่อนหน้าไม่มา เขาก็จะเรียกคิวเราเลยค่ะ ให้เผื่อเวลาการเดินทางด้วยนะค่ะ วันที่เราไป BTS ดันเสีย ทำให้ไปบีทีเอสไม่ได้ เปลี่ยนแผนการเดินทางใหญ่เลย กลัวไปไม่ทัน นั่งวินมอไซค์หัวฟูไปสถานทูตกันเลยทีเดียว
ไปถึงหน้าสถานทูต ยามก็จะให้ซองเรามาเขียนที่อยู่ แล้วเข้าไปรอค่ะ ที่สถานทูตก็มีข้างในกับข้างนอก คิวที่ยังไม่ถึงก็รอข้างนอกค่ะ ไม่ร้อน เย็นมาก มีพัดลมด้วย วันที่เราไปขอคนเยอะดีค่ะ มีกรุ๊ปทัวร์ก่อนเราหนึ่งกรุ๊ป และหลังเราหนึ่งกรุ๊ป พอเก้าโมงเราก็เขยิบเข้าไปนั่งข้างในที่เป็นห้องแอร์ค่ะ ห้องมันเล็ก นั่งได้สิบกว่าคนเอง เข้าไปรอ เพราะเขาจะเรียนคิวด้านในค่ะ ไม่ออกมาเรียกข้างนอก ปรากฏเลทค่ะ เลทครึ่งชม. เรียกคิวเราก็สิบโมงแล้ว เขาเรียกคิว 9.30 คือจะมีประมาณ6-7คนสำหรับคิวนี้ ก็เช็คชื่อแล้วเข้าไปข้างใน ก็ยื่นต่อแถว เรียงเข้ายื่นเอกสาร จะมีสี่ช่อง ช่องสุดท้ายสำหรับฝรั่งค่ะ สำหรับธุระของคนเนเธอร์แลนด์ สองช่องแรกสำหรับเช็คเอกสารและปั้มลายนิ้วมือ คนอายุมากๆก็จะปั้มนานหน่อย ลายนิ้วมือไม่ติด เมื่อถึงคิวก็ยื่นเอกสารไปค่ะ เขาก็ถามว่าเดินทางกี่คน เราก็บอกสองคน ไปกับเพื่อน เขาก็บอกให้เพื่อนลัดคิว มายื่นเอกสารต่อเราเลย พอปั้มเสร็จ เราก็นำเอกสารทั้งหมด ไปยื่นที่ช่องสาม ช่องสามก็จะเช็คละเอียดหน่อยค่ะ เช็คทุกหน้าเลยว่ามีอะไรบ้าง ครบมั้ย เขาก็แยกว่า อันนี้คืนไป อันนี้เขาเก็บไว้นะ แต่ตอนเขายื่นคืนมา เขายื่นตารางแผนการเดินทางคืนมาค่ะ เราก็ถามเขาว่า เอาไหม เขาก็ขอคืนไปค่ะ เหมือนกับลืม เพราะงั้นเอกสารสำคัญๆอันไหนเขาลืม ก็ถามเขาได้ค่ะ เอกสารที่ได้คืนมาทั้งหมดก็มี บัตรประชาชนแม่ค่ะ,สำเนาทะเบียนบ้าน,สำเนาสเตทเม้น(เผลอใส่ไป) เขาไม่ถามอะไรเลยค่ะ นอกจากเดินทางกี่คน กับใคร ตอนเพื่อนก็ไม่โดนถามค่ะ สิบครึ่งก็เสร็จแล้วค่ะ ไม่นาน
กลับมาถึงบ้าน ประมาณห้าโมง สถานทูตโทรมาค่ะ เราลืม ดันหยิบซองจดหมายกลับมาด้วย เขาเลยให้แฟกซ์ที่อยู่กับบาร์โค้ดที่ฉีกติดกับซองไปให้เขา เพราะงั้นอย่าลืมยื่นซองไปด้วยนะค่ะ 555 เดี๋ยวไม่ส่งมา แย่เลย มีคนรู้จักยื่น สถานทูตก็โทรมาขอใบรับรองมหาลัยเพิ่ม ก็สแกนส่งอีเมลล์หรือแฟกซ์ไป (เขาอาจให้ไปยื่นที่สถานทูตเพิ่มเลยนะค่ะถ้าต้องการตัวจริง แต่จะทำให้วีซ่าดำเนินการช้ามากขึ้น)
ผ่านมาเจ็ดวันทำการ เขาก็อีเมลล์มาค่ะ ว่าได้จัดส่งผลวีซ่าและเอกสารมาที่บ้านละนะ จะถึงอีกสองสามวัน ก็ถึง ผลก็รอตอนฉีกซองจดหมายเอาค่ะ
เมื่อวีซ่าพร้อม ตั๋วเครื่องบินพร้อม เราก็มาทำแผนการเดินทางแบบละเอียดอีกรอบค่ะ
ที่เราทำกับเพื่อน คือละเอียด แบบละเอียดมาก มานั่งหาเลยว่า ถ้าออกจากที่พัก จะไปตรงนี้ยังไง และราคาเท่าไหร
เพราะว่าเราไปทริปประหยัดกันค่ะ จะได้รู้ว่าควรเตรียมเงินไปเท่าไหร ขอพ่อแม่เท่าไหร ควรจะลดหรือประหยัดจุดไหนได้บ้าง การเตรียมแผนก่อนล่วงหน้าแบบละเอียด ดีมากๆเลยค่ะ จะได้วางแผนได้ว่าเราจะไปเที่ยวยังไงให้คุ้ม 55
งบทั้งหมด รวมค่าเครื่องบิน, ที่พัก และค่าใช้จ่ายทั้งหมด ต้องไม่เกิน = 80,000 บาท!!
(ใครอยากได้แผนการเดินทางแบบละเอียดเป็นตัวอย่าง ส่งข้อความมาหาได้นะค่ะ)