เมื่อวันที่ 2/6/57 แมวเราซึมไม่ยอมทานอาหาร หายใจติดขัด ก็เลยพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลย่านมหาสิน
พอไปถึงตอนนั้นไม่มีเคส หมอผู้ชาย(เจ้าของโรงพยาบาล)ว่างอยู่ และมีหมอใหม่(ผู้หญิง)อีกคน ซึ่งแมวเราได้ตรวจกับหมอใหม่
เริ่มต้นด้วยวัดไข้ปกติดี หมอใหม่ก้เปิดเหงือกแล้วบอกว่าเหงือกซีดมาก หลังจากนั้นก้ไปนำสเตปมาฟังปอด ฟังอยู่นานพอสมควร
แล้วบ่นพึมพำกับตัวเองว่างุ้งงิ้งประมาณว่าฟังไม่ออกว่ามันเปนเสียงpurringของแมว หรือเสียงหายใจ (โคตรไม่มืออาชีพมาบ่นให้เจ้าของฟังจะรักษาต่อไปก็หวั่นๆหละ)
หมอใหม่เลยไปเรียกหมอผู้ชายเจ้าของโรงพยาบาลมาฟัง
ได้คำตอบว่า ปอดไม่ดีเลยนะ ต่อมาก็เปิดเหงือกดูบอกว่าเหงือกซีด แล้วบอกต่อว่า งั้นเจาะเลือดไปตรวจนะ หมอผู้ชาย
เค้าก้ถามว่าเราสะดวกนำมันมาดมยาไหม หมอคิดว่ามันน่าจะเป็นหวัดเรื้อรังไม่หาย ถ้าไม่สะดวกเอายาไปทานก่อนก็ได้
ระหว่างนั้นหมอใหม่เตรียมตัวจะเจาะเลือด หมอใหม่บอกให้เราออกไปรอข้างนอกก่อน เพราะแมวจะร้องเสียงดังถ้าเจ้าของอยู่ด้วย
เราก็เดินออกไปรอข้างนอก ระหว่างนั้นเราก็ได้ยินเสียงแมวเราร้องตลอดเวลา เราก้พยายามไม่คิดอะไรมาก สักพักก็มีผู้ช่วยมาเรียกเราเข้าไปคุยกะหมอ
ภาพที่เห็นตอนนั้นคือหมอกำลังบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปาก แล้วบอกว่าน้องเค้าตายแล้วนะ ตอนนั้นเราช้อกมากกกกกกก แบบไม่คิดเลยเพาะปกติมันร่าเริงมาก
เลยถามว่าทำไมมันตาย เค้าบอกว่าพอหมอแทงเข็ม ลิ้นเค้าก็ม่วง หมอเลยพยายาม"ผายปอดด้วยปาก" แล้วเข้าตู้ออกซิเจน แต่ก็ไม่ทันแล้ว
แล้วถามต่อว่าอยากเจาะเลือดไปตรวจอยู่ไหม เราด้วยความที่อยากรู้ ก็เลยบอกเจาะ ซึ่งตอนนั้นต้องเจาะจากหัวใจ พอแทงเข็มก็มีน้ำพุ่งออกมา
หมอก้บอกว่าคงช้อกจากน้ำท่วมปอด หมอสงสัยว่าจะเป็นFIP(มีน้ำอยู่ในช่องอก)อยากเอาน้ำนี้ไปตรวจไหม
เราก็ให้เค้าตรวจเพาะกลัวแมวที่เหลือในบ้านจะเสี่ยงติดไปด้วยถ้าเป็นจริงๆ
จากนั้นเค้าก็นำร่างไร้ชีวิตของแมวเราใส่ถุงดำให้พร้อมกับบิลค่าเปิดออกซิเจน300บาท และค่าตรวจPCR 1900บาท
พอกลับมาบ้าน...
พ่อตกใจมาก แต่ติดใจกับการตาย พอรู้ว่ามีหมอใหม่เลยโทรกลับไปถามว่าคนที่เจาะเลือดเป็นใคร
หมอเจ้าของโรงพยาบาลบอกผมเจาะเอง 2ครั้ง แมวดิ้นมากต้องใช้คนจับหลายคน
แล้วก้อธิบายต่อไปว่าช็อคเพราะน้ำท่วมปอด บรา บรา
พอวางสายพ่อเราก็เล่าที่หมอพูดให้ฟัง เราก็อ๋อขึ้นมาเลย
.....หมอไม่ตรวจร่างกายให้ละเอียดก่อนตัดสินใจทำอะไรลงไป แค่ฟังปอด เปิดเหงือก แค่นี้พอแล้วหรอ ทั้งๆที่แมวหายใจติดขัด ตรวจแบบลวกๆมาก
แมวเราตัวนี้ไปหาหมอที่ไรไม่เคยร้องเลย มาครั้งนี้ร้องหนักมากเพราะเวลาหมอเจาะเลือดต้องจับนอนตะแคง
ซึ่งมันคงหายใจลำบากมากกว่าเดิมเลยร้อง ไม่ยอม และดิ้น หมอก็ยังคงบังคับมันให้นอนตะแคงต่อไป มันก้ยิ่งดิ้นแรงขึ้น
หายใจมากขึ้น แต่มีน้ำในช่องอกมากก็เลยหายใจลำบาก ขาดอากาศหายใจ ลิ้นม่วง ช็อก ......
(ตอนที่เห็นร่างแมวเรา ที่ขาหลังมาเลือดออกเป็นจุดบริเวณเส้นเลือดที่เข็มแทงเข้าไป แต่สิ่งที่เห็นก็เอะใจ
เพราะมีประมาณ2รู ทั้งขาด้านนอกและขาด้านในของอีกข้าง คงเจาะกันมันเลยสิท่า)
ที่มันตายส่วนหนึ่งเพราะมันมีน้ำในช่องอกทำให้หายใจลำบาก
แต่ความที่คุณเป็นหมอการตัดสินใจทำอะไรมันต้องใช้เหตุผลหลายอย่าง
ไม่ใช่แค่เปิดเหงือก ฟังปอด แล้วพอมันดิ้นคุณก็บังคับมัน กะจะทำให้เสร็จๆไปเพราะมีเคสอื่นนั่งรออยู่
การมอนิเตอร์สัตว์ห่วยแตก อีกอย่างไม่มีความเป็นมืออาชีพที่ผายปอดด้วยปาก(คงตกใจมาก)
อุปกรณ์สอดท่งสอดท่อไม่มีหรือยังไง โรงพยาบาลใหญ่ราคาแสนแพงแบบนี้
****สิ่งที่เด็ดอยู่ตรงนี้ *****
แมวเราตายเมื่อวานนี้ พอเช้าวันนี้มี เมจเสจส่งเข้ามือถือเราว่า " 'ชื่อแมวที่ตาย' มีนัดฉีดวัคซีนพรุ่งนี้นะค่ะ"
เราแบบอึ้งมาก แสดงถึงความไม่ใส่ใจสุดๆ เป็นคุณจะรู้สึกยังไง
อยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์กับคนที่เลี้ยงน้องหมาน้องแมวแล้วคิดจะพามารักษาที่โรงพยาบาลนี้นะค่ะ
ป.ล. ถ้าแมวเราเป็นFIPจริงๆ โรคนี้สุดท้ายก็ต้องตาย แต่เราก็จะช่วยประคับประคองมันให้ได้มากที่สุด
มันไม่ควรมาจากเราไปเร็วขนาดนี้ แมวเราป่วยก็จริงแต่ยังเดินได้แค่มีอาการหายใจติดขัดและกินอาหารได้น้อยลง
หากแมวเราโดนรถชน โดนหมากัด หรือประสบอุบัติเหตุ แล้วไปตายในมือหมอเรารับได้...แต่นี่เรารับไม่ได้
[CR] อุทาหรณ์ พาแมวไปตาย!!!!!ที่โรงพยาบาลสัตว์ย่านมหาสิน
พอไปถึงตอนนั้นไม่มีเคส หมอผู้ชาย(เจ้าของโรงพยาบาล)ว่างอยู่ และมีหมอใหม่(ผู้หญิง)อีกคน ซึ่งแมวเราได้ตรวจกับหมอใหม่
เริ่มต้นด้วยวัดไข้ปกติดี หมอใหม่ก้เปิดเหงือกแล้วบอกว่าเหงือกซีดมาก หลังจากนั้นก้ไปนำสเตปมาฟังปอด ฟังอยู่นานพอสมควร
แล้วบ่นพึมพำกับตัวเองว่างุ้งงิ้งประมาณว่าฟังไม่ออกว่ามันเปนเสียงpurringของแมว หรือเสียงหายใจ (โคตรไม่มืออาชีพมาบ่นให้เจ้าของฟังจะรักษาต่อไปก็หวั่นๆหละ)
หมอใหม่เลยไปเรียกหมอผู้ชายเจ้าของโรงพยาบาลมาฟัง
ได้คำตอบว่า ปอดไม่ดีเลยนะ ต่อมาก็เปิดเหงือกดูบอกว่าเหงือกซีด แล้วบอกต่อว่า งั้นเจาะเลือดไปตรวจนะ หมอผู้ชาย
เค้าก้ถามว่าเราสะดวกนำมันมาดมยาไหม หมอคิดว่ามันน่าจะเป็นหวัดเรื้อรังไม่หาย ถ้าไม่สะดวกเอายาไปทานก่อนก็ได้
ระหว่างนั้นหมอใหม่เตรียมตัวจะเจาะเลือด หมอใหม่บอกให้เราออกไปรอข้างนอกก่อน เพราะแมวจะร้องเสียงดังถ้าเจ้าของอยู่ด้วย
เราก็เดินออกไปรอข้างนอก ระหว่างนั้นเราก็ได้ยินเสียงแมวเราร้องตลอดเวลา เราก้พยายามไม่คิดอะไรมาก สักพักก็มีผู้ช่วยมาเรียกเราเข้าไปคุยกะหมอ
ภาพที่เห็นตอนนั้นคือหมอกำลังบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปาก แล้วบอกว่าน้องเค้าตายแล้วนะ ตอนนั้นเราช้อกมากกกกกกก แบบไม่คิดเลยเพาะปกติมันร่าเริงมาก
เลยถามว่าทำไมมันตาย เค้าบอกว่าพอหมอแทงเข็ม ลิ้นเค้าก็ม่วง หมอเลยพยายาม"ผายปอดด้วยปาก" แล้วเข้าตู้ออกซิเจน แต่ก็ไม่ทันแล้ว
แล้วถามต่อว่าอยากเจาะเลือดไปตรวจอยู่ไหม เราด้วยความที่อยากรู้ ก็เลยบอกเจาะ ซึ่งตอนนั้นต้องเจาะจากหัวใจ พอแทงเข็มก็มีน้ำพุ่งออกมา
หมอก้บอกว่าคงช้อกจากน้ำท่วมปอด หมอสงสัยว่าจะเป็นFIP(มีน้ำอยู่ในช่องอก)อยากเอาน้ำนี้ไปตรวจไหม
เราก็ให้เค้าตรวจเพาะกลัวแมวที่เหลือในบ้านจะเสี่ยงติดไปด้วยถ้าเป็นจริงๆ
จากนั้นเค้าก็นำร่างไร้ชีวิตของแมวเราใส่ถุงดำให้พร้อมกับบิลค่าเปิดออกซิเจน300บาท และค่าตรวจPCR 1900บาท
พอกลับมาบ้าน...
พ่อตกใจมาก แต่ติดใจกับการตาย พอรู้ว่ามีหมอใหม่เลยโทรกลับไปถามว่าคนที่เจาะเลือดเป็นใคร
หมอเจ้าของโรงพยาบาลบอกผมเจาะเอง 2ครั้ง แมวดิ้นมากต้องใช้คนจับหลายคน
แล้วก้อธิบายต่อไปว่าช็อคเพราะน้ำท่วมปอด บรา บรา
พอวางสายพ่อเราก็เล่าที่หมอพูดให้ฟัง เราก็อ๋อขึ้นมาเลย
.....หมอไม่ตรวจร่างกายให้ละเอียดก่อนตัดสินใจทำอะไรลงไป แค่ฟังปอด เปิดเหงือก แค่นี้พอแล้วหรอ ทั้งๆที่แมวหายใจติดขัด ตรวจแบบลวกๆมาก
แมวเราตัวนี้ไปหาหมอที่ไรไม่เคยร้องเลย มาครั้งนี้ร้องหนักมากเพราะเวลาหมอเจาะเลือดต้องจับนอนตะแคง
ซึ่งมันคงหายใจลำบากมากกว่าเดิมเลยร้อง ไม่ยอม และดิ้น หมอก็ยังคงบังคับมันให้นอนตะแคงต่อไป มันก้ยิ่งดิ้นแรงขึ้น
หายใจมากขึ้น แต่มีน้ำในช่องอกมากก็เลยหายใจลำบาก ขาดอากาศหายใจ ลิ้นม่วง ช็อก ......
(ตอนที่เห็นร่างแมวเรา ที่ขาหลังมาเลือดออกเป็นจุดบริเวณเส้นเลือดที่เข็มแทงเข้าไป แต่สิ่งที่เห็นก็เอะใจ
เพราะมีประมาณ2รู ทั้งขาด้านนอกและขาด้านในของอีกข้าง คงเจาะกันมันเลยสิท่า)
ที่มันตายส่วนหนึ่งเพราะมันมีน้ำในช่องอกทำให้หายใจลำบาก
แต่ความที่คุณเป็นหมอการตัดสินใจทำอะไรมันต้องใช้เหตุผลหลายอย่าง
ไม่ใช่แค่เปิดเหงือก ฟังปอด แล้วพอมันดิ้นคุณก็บังคับมัน กะจะทำให้เสร็จๆไปเพราะมีเคสอื่นนั่งรออยู่
การมอนิเตอร์สัตว์ห่วยแตก อีกอย่างไม่มีความเป็นมืออาชีพที่ผายปอดด้วยปาก(คงตกใจมาก)
อุปกรณ์สอดท่งสอดท่อไม่มีหรือยังไง โรงพยาบาลใหญ่ราคาแสนแพงแบบนี้
****สิ่งที่เด็ดอยู่ตรงนี้ *****
แมวเราตายเมื่อวานนี้ พอเช้าวันนี้มี เมจเสจส่งเข้ามือถือเราว่า " 'ชื่อแมวที่ตาย' มีนัดฉีดวัคซีนพรุ่งนี้นะค่ะ"
เราแบบอึ้งมาก แสดงถึงความไม่ใส่ใจสุดๆ เป็นคุณจะรู้สึกยังไง
อยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์กับคนที่เลี้ยงน้องหมาน้องแมวแล้วคิดจะพามารักษาที่โรงพยาบาลนี้นะค่ะ
ป.ล. ถ้าแมวเราเป็นFIPจริงๆ โรคนี้สุดท้ายก็ต้องตาย แต่เราก็จะช่วยประคับประคองมันให้ได้มากที่สุด
มันไม่ควรมาจากเราไปเร็วขนาดนี้ แมวเราป่วยก็จริงแต่ยังเดินได้แค่มีอาการหายใจติดขัดและกินอาหารได้น้อยลง
หากแมวเราโดนรถชน โดนหมากัด หรือประสบอุบัติเหตุ แล้วไปตายในมือหมอเรารับได้...แต่นี่เรารับไม่ได้