ต่อยอดจากกระทู้
http://ppantip.com/topic/32136697 นะครับ เรื่อง ถ้า A380-800 ทำที่นั่งมาแค่ชั้นประหยัด???
ความเดิมตอนที่แล้ว
สอบถามความเห็นจากคนที่เคยบิน/ทำการบิน/ทำงานเกี่ยวกับการบิน/ฯลฯ นะครับ
ถ้า "สมมติ" ว่าถ้ามีสายการบินไหนสักสายการบินหนึ่ง จัดที่นั่งเครื่องบินรุ่น A380-800 ให้มีแต่ชั้นประหยัด ซึ่งหมายความว่า จะมีที่นั่งทั้งหมดบนเครื่องบินกว่า 800 ที่นั่ง มันจะคุ้มต้นทุนสายการบินหรือเปล่า
เพราะคหสต. ผมคิดว่า อาจจะคุ้มในระดับหนึ่ง (มั้ง) เพราะชั้นประหยัด ใครๆก็มีเงินจ่ายค่าโดยสารได้ ไม่เหมือนชั้นธุรกิจ หรือชั้นหนึ่ง ซึ่งราคามันแพงแสนแพง ชนิดที่ว่ามีผู้คนจำนวนไม่มากที่จะมีเงินเหลือมากพอที่จะซื้อชั้นโดยสารที่ว่านี้
ผมเคยลองเช็คดูในเว็บของสายการบินหนึ่งของประเทศไทย พบว่าชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจมีที่นั่งว่างเกือบตลอด มีเต็มบ้างในบางไฟลท์ช่วงไฮซีซั่นบ้านเรา(หน้าหนาวบ้านเรา) แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นแต่ชั้นประหยัด เครื่องอาจจะเต็มได้ตลอดเพราะมีคนซื้อได้ตลอด ชิมิครับ
ลองถามความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไปจากหลายๆคนดูนะครับ
________________________________
ต่อจากนี้ผมคิดประมาณการมาต่อยอดนะครับ
อ่ะ โอเค ผมคำนวณมาละ ทั้งน้ำหนักเครื่องบินและค่าโดยสาร
บอกก่อนว่าผมไม่ใช่ช่างเทคนิคหรือจบคำนวณมานะครับ ดังนั้นตัวเลขทั้งหมดจึงเป็นแค่ตัวเลขคร่าวๆ โดยประมาณการ ว่างั้นแหละครับ เพียงแค่ผมหยิบมาอ้างอิงนิดหน่อยนะครับ
อัตราค่าโดยสาร อ้างอิงจากราคาของ Emirates Airlines
อ้างอิงรูทบิน BKK-HKG (กรุงเทพฯ - ฮ่องกง) โดยเครื่องบินรุ่น A380-800
ค่าโดยสารช่วงเดือนกรกฎาคม (เป็นเที่ยวเดียวทั้งหมดนะครับ จะได้คิดง่ายๆ และค่าเงินที่จะยกตัวอย่างใช้สกุลไทยบาท (THB) )
ชั้นประหยัด (Y) ประมาณที่นั่งละ 7,995
ชั้นธุรกิจ (J) ประมาณที่นั่งละ 14,575
ชั้นหนึ่ง (F) ประมาณที่นั่งละ 22,770
สมมติว่ามีคนซื้อเต็มทุกที่นั่ง
CLASS Y 399 SEATS x 7,995 = 3,190,005
CLASS J 76 SEATS x 14,575 = 1,107,700
CLASS F 14 SEATS x 22,770 = 318,780
TTL FARE ค่าโดยสารทั้งหมดจากทุกที่นั่งของเที่ยวบินนี้ = 4,616,485
แต่ถ้าสมมติให้มีแต่ชั้นประหยัดทั้งลำ แบบที่ AIR AUSTRAL เคยวางแผนจะทำ คือมีทั้งหมด 840 ที่นั่ง ชั้นประหยัดล้วน
CLASS Y 840 SEATS x 7,995 = 6,715,800
เห็นชัดๆเลยว่าถ้ามีแต่ชั้นประหยัดและขายตั๋วได้หมดเหมือนกัน ชั้นประหยัด 840 ที่นั่ง จะได้เงินค่าโดยสารมากกว่า 2 ล้านบาท
เอิ่ม.... แต่ถ้าขายตั๋วไม่หมดมันก็อีกเรื่องนะครับ ผมบอกแล้วว่า "ประมาณการคร่าวๆ"
*****************************************
ต่อไปเป็นเรื่องการระวางน้ำหนักบรรทุกนะครับ
น้ำหนักเครื่องบิน อ้างอิงจาก wikipedia นะครับ และหน่วยของน้ำหนักเป็นกิโลกรัมทั้งหมด
ข้อมูลจำเพาะเรื่องน้ำหนักของเครื่องบิน รุ่น A380-800
น้ำหนักบรรทุกเปล่า(เครื่องบินเปล่าๆ ไม่มีเชื้อเพลิงและผู้โดยสาร) 276,800
น้ำหนักบรรทุก(ผู้โดยสาร/ลูกเรือ/อาหาร/น้ำ)โดยไม่บรรจุเชื้อเพลิง รับได้สูงสุด 369,000
น้ำหนักบรรทุกทั้งหมดรวมเชื้อเพลิง รับได้สูงสุด 577,000
สมมติให้ผู้โดยสารเป็นผู้ชายทั้งลำละกัน จะได้คิดง่ายๆ
น้ำหนักที่สายการบินคำนวณเผื่อไว้สำหรับผู้ชายคือ 75 กิโลกรัม
ให้ผู้โดยสารทุกคนมีกระเป๋าโหลดใต้เครื่องคนละไม่เกิน 20 กก.
จะได้ 840 คน คนละ 75 กก. = 63,000
กระเป๋าของผู้โดยสาร สมมติว่าคนละ 20 กก. = 16,800
น้ำหนักผู้โดยสารและกระเป๋าทั้งหมด 79,800
เมื่อนำน้ำหนักผู้โดยสารและกระเป๋ารวมเข้ากับน้ำหนักบรรทุกเปล่า จะได้ 356,600
บวกอาหารเข้าไปอีก ผมให้เต็มที่ 2,000 ก็น่าจะพอ
จะเป็น 358,600 ซึ่งก็ยังน้อยกว่าน้ำหนักบรรทุกทั้งหมดสูงสุดกว่าสองร้อยตันเลยทีเดียว
ในตอนนี้จะลองสมมติให้ใส่เชื้อเพลิงไปเต็มที่เลย 100,000 กก. เผื่อบินวนหลายรอบ ไหนจะน้ำหนักผู้โดยสารเต็มพิกัดอีก เดี๋ยวไม่พอตอนเทคออฟ
จะกลายเป็นว่าน้ำหนักจะเท่ากับ 458,600 แล้ว นำไปลบกับน้ำหนักบรรทุกสูงสุด ก็ยังเหลือให้ใส่คาร์โก้ได้อีกตั้ง 118,400 เชียวแน่ะ!!!
แหม่ 118 ตันนี่ไม่ใช่น้ำหนักน้อยๆนะครับ เอารถสิบล้อบรรทุกไปได้ตั้งเกือบสิบคันแน่ะ
แล้วลองคิดดูว่าการขนส่งทางอากาศนั้น สายการบินไม่ได้คิดค่าส่งพัสดุทางอากาศแค่กิโลกรัมละบาทสองบาทแน่นอน กิโลกรัมหนึ่งคิดหลายพันบาท แล้วนี่ 118,400 กิโลกรัม จะเป็นเงินเท่าไหร่ลองกดเครื่องคิดเลขดูครับ สมมติให้กิโลกรัมละ 1,500 บาทละกัน คุ้นๆว่าสายการบินป้าม่วงคิดเท่านี้ เอาไปต่อยอดกันเอง อิอิ
ถ้าสายการบินคิดน้ำหนักเพื่อเอากำไรก็น่าจะประมาณนี้มั้งครับ อันนี้จากที่ได้ยินพวกช่างและคนจัดระวางน้ำหนักและเจ้าหน้าที่สายการบินเขาคุยกันนะครับ
[ต่อยอดจากกระทู้] ถ้า A380-800 ทำที่นั่งมาแค่ชั้นประหยัด???
ความเดิมตอนที่แล้ว
สอบถามความเห็นจากคนที่เคยบิน/ทำการบิน/ทำงานเกี่ยวกับการบิน/ฯลฯ นะครับ
ถ้า "สมมติ" ว่าถ้ามีสายการบินไหนสักสายการบินหนึ่ง จัดที่นั่งเครื่องบินรุ่น A380-800 ให้มีแต่ชั้นประหยัด ซึ่งหมายความว่า จะมีที่นั่งทั้งหมดบนเครื่องบินกว่า 800 ที่นั่ง มันจะคุ้มต้นทุนสายการบินหรือเปล่า
เพราะคหสต. ผมคิดว่า อาจจะคุ้มในระดับหนึ่ง (มั้ง) เพราะชั้นประหยัด ใครๆก็มีเงินจ่ายค่าโดยสารได้ ไม่เหมือนชั้นธุรกิจ หรือชั้นหนึ่ง ซึ่งราคามันแพงแสนแพง ชนิดที่ว่ามีผู้คนจำนวนไม่มากที่จะมีเงินเหลือมากพอที่จะซื้อชั้นโดยสารที่ว่านี้
ผมเคยลองเช็คดูในเว็บของสายการบินหนึ่งของประเทศไทย พบว่าชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจมีที่นั่งว่างเกือบตลอด มีเต็มบ้างในบางไฟลท์ช่วงไฮซีซั่นบ้านเรา(หน้าหนาวบ้านเรา) แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นแต่ชั้นประหยัด เครื่องอาจจะเต็มได้ตลอดเพราะมีคนซื้อได้ตลอด ชิมิครับ
ลองถามความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไปจากหลายๆคนดูนะครับ
________________________________
ต่อจากนี้ผมคิดประมาณการมาต่อยอดนะครับ
อ่ะ โอเค ผมคำนวณมาละ ทั้งน้ำหนักเครื่องบินและค่าโดยสาร
บอกก่อนว่าผมไม่ใช่ช่างเทคนิคหรือจบคำนวณมานะครับ ดังนั้นตัวเลขทั้งหมดจึงเป็นแค่ตัวเลขคร่าวๆ โดยประมาณการ ว่างั้นแหละครับ เพียงแค่ผมหยิบมาอ้างอิงนิดหน่อยนะครับ
อัตราค่าโดยสาร อ้างอิงจากราคาของ Emirates Airlines
อ้างอิงรูทบิน BKK-HKG (กรุงเทพฯ - ฮ่องกง) โดยเครื่องบินรุ่น A380-800
ค่าโดยสารช่วงเดือนกรกฎาคม (เป็นเที่ยวเดียวทั้งหมดนะครับ จะได้คิดง่ายๆ และค่าเงินที่จะยกตัวอย่างใช้สกุลไทยบาท (THB) )
ชั้นประหยัด (Y) ประมาณที่นั่งละ 7,995
ชั้นธุรกิจ (J) ประมาณที่นั่งละ 14,575
ชั้นหนึ่ง (F) ประมาณที่นั่งละ 22,770
สมมติว่ามีคนซื้อเต็มทุกที่นั่ง
CLASS Y 399 SEATS x 7,995 = 3,190,005
CLASS J 76 SEATS x 14,575 = 1,107,700
CLASS F 14 SEATS x 22,770 = 318,780
TTL FARE ค่าโดยสารทั้งหมดจากทุกที่นั่งของเที่ยวบินนี้ = 4,616,485
แต่ถ้าสมมติให้มีแต่ชั้นประหยัดทั้งลำ แบบที่ AIR AUSTRAL เคยวางแผนจะทำ คือมีทั้งหมด 840 ที่นั่ง ชั้นประหยัดล้วน
CLASS Y 840 SEATS x 7,995 = 6,715,800
เห็นชัดๆเลยว่าถ้ามีแต่ชั้นประหยัดและขายตั๋วได้หมดเหมือนกัน ชั้นประหยัด 840 ที่นั่ง จะได้เงินค่าโดยสารมากกว่า 2 ล้านบาท
เอิ่ม.... แต่ถ้าขายตั๋วไม่หมดมันก็อีกเรื่องนะครับ ผมบอกแล้วว่า "ประมาณการคร่าวๆ"
*****************************************
ต่อไปเป็นเรื่องการระวางน้ำหนักบรรทุกนะครับ
น้ำหนักเครื่องบิน อ้างอิงจาก wikipedia นะครับ และหน่วยของน้ำหนักเป็นกิโลกรัมทั้งหมด
ข้อมูลจำเพาะเรื่องน้ำหนักของเครื่องบิน รุ่น A380-800
น้ำหนักบรรทุกเปล่า(เครื่องบินเปล่าๆ ไม่มีเชื้อเพลิงและผู้โดยสาร) 276,800
น้ำหนักบรรทุก(ผู้โดยสาร/ลูกเรือ/อาหาร/น้ำ)โดยไม่บรรจุเชื้อเพลิง รับได้สูงสุด 369,000
น้ำหนักบรรทุกทั้งหมดรวมเชื้อเพลิง รับได้สูงสุด 577,000
สมมติให้ผู้โดยสารเป็นผู้ชายทั้งลำละกัน จะได้คิดง่ายๆ
น้ำหนักที่สายการบินคำนวณเผื่อไว้สำหรับผู้ชายคือ 75 กิโลกรัม
ให้ผู้โดยสารทุกคนมีกระเป๋าโหลดใต้เครื่องคนละไม่เกิน 20 กก.
จะได้ 840 คน คนละ 75 กก. = 63,000
กระเป๋าของผู้โดยสาร สมมติว่าคนละ 20 กก. = 16,800
น้ำหนักผู้โดยสารและกระเป๋าทั้งหมด 79,800
เมื่อนำน้ำหนักผู้โดยสารและกระเป๋ารวมเข้ากับน้ำหนักบรรทุกเปล่า จะได้ 356,600
บวกอาหารเข้าไปอีก ผมให้เต็มที่ 2,000 ก็น่าจะพอ
จะเป็น 358,600 ซึ่งก็ยังน้อยกว่าน้ำหนักบรรทุกทั้งหมดสูงสุดกว่าสองร้อยตันเลยทีเดียว
ในตอนนี้จะลองสมมติให้ใส่เชื้อเพลิงไปเต็มที่เลย 100,000 กก. เผื่อบินวนหลายรอบ ไหนจะน้ำหนักผู้โดยสารเต็มพิกัดอีก เดี๋ยวไม่พอตอนเทคออฟ
จะกลายเป็นว่าน้ำหนักจะเท่ากับ 458,600 แล้ว นำไปลบกับน้ำหนักบรรทุกสูงสุด ก็ยังเหลือให้ใส่คาร์โก้ได้อีกตั้ง 118,400 เชียวแน่ะ!!!
แหม่ 118 ตันนี่ไม่ใช่น้ำหนักน้อยๆนะครับ เอารถสิบล้อบรรทุกไปได้ตั้งเกือบสิบคันแน่ะ
แล้วลองคิดดูว่าการขนส่งทางอากาศนั้น สายการบินไม่ได้คิดค่าส่งพัสดุทางอากาศแค่กิโลกรัมละบาทสองบาทแน่นอน กิโลกรัมหนึ่งคิดหลายพันบาท แล้วนี่ 118,400 กิโลกรัม จะเป็นเงินเท่าไหร่ลองกดเครื่องคิดเลขดูครับ สมมติให้กิโลกรัมละ 1,500 บาทละกัน คุ้นๆว่าสายการบินป้าม่วงคิดเท่านี้ เอาไปต่อยอดกันเอง อิอิ
ถ้าสายการบินคิดน้ำหนักเพื่อเอากำไรก็น่าจะประมาณนี้มั้งครับ อันนี้จากที่ได้ยินพวกช่างและคนจัดระวางน้ำหนักและเจ้าหน้าที่สายการบินเขาคุยกันนะครับ